สำหรับผู้สนใจภาพสงครามต่างๆ จากนิตยสาร LIFE

เชิญชมได้ตามลิงก์เลยครับ

http://www.life.com/topic/war

ที่จริงแล้ว ศิลปะการพูด ก็เหมือนกับศาสตร์และศิลป์อื่นๆ  คือโดยตัวของมันเองไม่ได้มีโทษอะไร  อยู่ที่ตัวคนจะนำมันไปใช้ด้วยเจตนาอะไร

ใช่ครับอาโรจน์ พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วพาอัปราชัยจริงแท้และแน่นอนครับ

ปกติเวลาฝึกพูด เขาจะให้ผึกพูดต่อหน้ากระจก คือ ให้ผู้พูดได้ดูบุคลิกของตัวเองด้วยหนะครับ

สมัยใหม่นี่ บางที่ก็เปลี่ยนมาใช่การพูดหน้ากล้อง ถ่ายเอาไว้แล้วมาเปิดดูทีหลังแทน

ถ้าเป็นระดับผู้นำหรือบุคคลสำคัย บางทีก็มีนักพัฒนาบุคลิกภาพมาให้คำแนะนำด้วยว่า ที่พูดไปเมื่อครู่นี้ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

อันนี้ ถ้าเป็นของจริง ผมก็เดาๆว่า คงเป็นการฝึกอย่างที่ว่านี่แหละครับ

หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง นายพทย์ประจำตัวของ ฮิตเลอร์ ได้ออกมาสาธยายถึงอาการของโรคประหลาด ที่มีอยู่ในตัวของท่านเฟอเร่อผู้นี้ว่า ครั้งหนึ่ง ท่านเฟอเร่อ มาพบกับเขาพร้อมกับเล่าถึงอาการบางอย่างของตนเอง ซึ่งอาการที่ว่านี้คือ ตัวของฮิตเล่อร์ทุกครั้งที่เขาปราศัยต่อหน้าฝูงชนนับร้อยนับพัน คณะที่เขากำลังพูด ตัวของเขาจะมีอาการถึงจุดสุดยอดเสมอ(จุดสุดยอดที่ว่านี้เป็นแบบเดียวกับการร่วมเพศ) ยิ่งเขาใช้พลังและลีลาท่าทางมากเพียงไรในขณะที่พูด เขาก็จะมีความสุขซ่านเสียวแบบนี้เสมอ