ในความเป็นจริงการยิงปืนใหญ่ให้โดนเป้าหมายในการยิงชุดแรกเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็เป็นไปได้ เพราะผู้ตรวจการหน้า หรือ ทหารที่รบในแนวหน้าบางคนที่กรำศึกมานาน จะมีความสามารถในการบอกพิกัดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ในการยิงอาวุธหนักแบบนี้เคยมีทหารบางคนที่ผ่านการรบที่ช่องบก เคยเล่าให้ฟังว่า ปืน ค เวลายิง ไม่จำเป็นต้องเอากล้องเล็งไป เอาแต่ตัวปืนมันไป เวลายิงก็ใช้สายตากะเอา เขาคุยว่าระยะ 200 เมตรนี่ ถ้าเอาถัง 200 ลิตรไปวาง เขาสามารถกะให้กระสุนยิงลงเข้าไปในถัง 200 ลิตรยังได้แม่นมาก แต่จะว่าไปแล้วปืนใหญ่ มันเป็นอาวุธที่ต้องลองผิดลองถูก เมื่อยิงออกไปแล้ว ต้องมีการปรับพิกัด ลด หรือ เพิ่ม เพื่อให้โดนเป้าหมาย มันก็เป็นสิ่งที่คนบอกพิกัด และคนยิงต้องประสานงานกัน

ทหารพลร่มทั้งของอังกฤษและอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไม่ใช่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็มีอยู่บ้างเช่น กองพลทหารพลร่มที่ 17 ของอเมริกัน ซึ่งกองพลนี้และกองพลทหารพลร่มที่ 82 และ 101 ทั้ง 3 กองพลนี้จะประกอบกำลังกันเป็น กองทัพน้อยพลร่มที่ 18 ของอเมริกัน(U.S. XVIII Airborne Corps) แต่ในช่วงยุทธการ Market Garden กองพลทหารพลร่มที่ 17 ไม่ได้ถูกส่งไปร่วมในยุทธการ ซึ่งเป็นผลดีต่อกองกำลังพันธมิตรในการรุกโต้ตอบกองทัพเยอรมันที่ป่าอาเดนส์ เพราะทหารหน่วยนี้ถูกส่งไปเสริมกำลังในการรบที่ป่าอาเดนส์ และทหารกองพลทหารพลร่มที่ 17 นี้ เป็นทหารพลร่มหน่วยเดียวของอเมริกันที่ได้โดดร่มลงสู่ดินแดนเยอรมัน ในยุทธการ Varsity ซึ่งได้ร่วมกับทหารพลร่มของอังกฤษกองพลที่ 6 ในการโดดร่มลงสู่อาณาจักรไรซ์ที่ 3

เวลาทหารราบ ทหารม้า ออกแนวทำการรบ จะมีทหารปืนใหญ่(อัตราร้อยโท)ออกไปด้วย เพื่อเป็น ผตน.ผู้ตรวจการหน้า คนนี้แหละจะเป็นคนบอกพิกัดกระสุนตกแล้วปรับปืนใหญ่  เคยมีการฝึกให้ทหารราบ ทหารม้า ให้เป็น ผตน.ด้วย  ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีหรือเปล่า

สมัยผมเรียน รด. เมื่อหลายปีก่อน ก็ยังมีการฝึการสอนเรื่องการเป็นผตน.ให้ปืนใหญ่ปืนค.เลยครับ ตอนนั้นหน่วยที่รับผิดชอบคือ "กรมการรักษาดินแดน" และนักศึกษาวิชาหทารก็ต้องติดตัวย่อ "รด." กันจริงๆ ตอนนี้ไม่ทราบแล้วว่าหน่วยไหนรับผิดชอบ และน้องๆ หลานๆ ที่เรียนรด.หรือเป็นนักศึกษาวิชาทหารยุคนี้ยังได้เรียนการเป็นผตน.หรือเปล่า

เรื่องความแม่น แก้ได้ด้วย Creeping Barrage ครับ