คงจะศึกษาประวัติศาสตร์น้อยเกินไปครับอาจารย์

เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ใส่ใจประวัติศาสตร์มากนัก เลยไม่รู้ถึงที่มาที่ไป แถมยุคนี้ยุคสิทธิส่วนบุคคลเลยยุ่งกันเข้าไปใหญ่อีก

เราควรเรียนรู้ประวัติศาสตร์ให้เข้าใจ เพื่อจะได้ไม่ทำผิดซ้ำอย่างในอดีตและนำบทเรียนที่ผ่านมาพัฒนาอนาคตให้ดีขึ้น

กระทู้ข่าวในพันทิป มีคนมาแสดงความคิดต่างๆ กันไป

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11125289/K11125289.html

เมื่อตอนที่ผมอ่านประวัติของฮิตเลอร์เป็นครั้งแรกน่าจะยังเด็กกว่านักเรียนพวกนั้นด้วยซ้ำ  ด้วยความรู้ทางศาสนาพี้นๆ ก็รู้แล้วว่าการสังหารหมู่ชาวยิวเป็นล้านๆ ยังไงๆ ก็เป็นบาปทั้งในพุทธศาสนาและทุกศาสนา  อาจจะไม่ถึงกับเกลียดชังฮิตเลอร์เข้ากระดูกดำและยังนิยมชมชอบอะไรหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับทหารเยอรมัน-กองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2   แต่ไม่เคยคิดว่าคนอย่างฮิตเลอร์จะเป็นวีรบุรุษหรือแบบอย่างที่ดีได้เลย  มาถึงยุคนี้คนบางจำพวกคงจะมีความคิดพื้นฐานคนละอย่างกันแล้ว  อย่าว่าแต่เรื่องฮิตเลอร์หรือความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาเลยครับ  ความเชื่อประหลาดๆ ประเภทบูชาชูชก  เอาพระราหูมาขี่ครุฑ ขอฤกษ์ขอยามกันทางเว็บบอร์ด  ส่งสแปมโฆษณาทั้งทางอีเมล์และเว็บบอร์ดกันให้ว่อน ฯลฯ ยังปรากฏให้เห็นกันอย่างน่าอนาถเหลือเกิน

ข่าวความคืบหน้าวันนี้

รร.ขอโทษ-แต่ง"นาซี"รู้เท่าไม่ถึงการณ์

"เป้"เผยวงสเลอ ก็เคยถูกฝรั่งโวย

ร.ร.พระหฤทัย เชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ขอโทษที่นักเรียนแต่งฮิตเลอร์-นาซีในขบวนพาเหรดงานกีฬาสี จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก องค์กรสิทธิมนุษยชนยิวในสหรัฐ แถลงเรียกร้องผู้นำคริสเตียนในไทยประณามการกระทำดังกล่าว เพราะทำให้คนที่ได้รับผลกระทบจากนาซีเจ็บปวดมาก "เป้-อารักษ์" เผยความรู้สึกหลังสมาชิกในวงเคยแต่งนาซีในมิวสิคเพลง "ฮิด เหรอ" แล้วถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก

จากกรณีสื่อต่างประเทศประโคมข่าวไปทั่วโลก เรื่องนักเรียนโรงเรียนพระหฤทัย จ.เชียง ใหม่ แต่งแฟนซี "ฮิตเลอร์-นาซี" ในขบวนพาเหรดงานกีฬาสี โดยไม่รู้ถึงความหมายทางลบของจอมเผด็จการหมายเลข 1 ของโลก ท่าม กลางความตื่นตะลึงของครูชาวต่างประเทศและผู้คนที่อยู่ในงาน กระทั่งกงสุลหลายประเทศบุกประท้วงถึงโรงเรียน เรียกร้องให้สอนประวัติ ศาสตร์โลกสมัยใหม่ บรรจุเรื่องฮิตเลอร์สั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2 ในหลักสูตรด้วย ขณะที่ ผอ.โรงเรียนอ้างเด็กไม่มีเจตนาร้าย เพียงแค่ต้องการสร้างเซอร์ไพรส์ ตามข่าวที่ "ข่าวสด" นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ซีมอน วีเซนธาล องค์กรปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวยิว ออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ของศูนย์ www.wiesenthal. com เรียกร้องให้ผู้นำกลุ่มคริสเตียนในประเทศไทยประณามการเดินขบวนพาเหรดกีฬาสีของโรงเรียนพระหฤทัย จ.เชียงใหม่ ซึ่งแต่งชุดเลียนแบบจอมเผด็จการนาซี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และหน่วยเอสเอส พร้อมกับทำท่าให้ความเคารพฮิตเลอร์ โดยขบวนพาเหรดเริ่มเดินออกจากโรง เรียนออกไปถนนด้านนอกโรงเรียนด้วย

แรบไบอับราฮัม คูเปอร์ ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ซีมอน วีเซนธาล ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า มีกลุ่มผู้ปกครองที่รับไม่ได้และรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเดินพาเหรดกีฬาสีของโรงเรียนพระหฤทัยมายังศูนย์ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากปี 2550 ที่มีการเดินขบวนพาเหรดของนักเรียนไทยแสดงความเลื่อมใสในลัทธินาซี

แรบไบคูเปอร์ระบุต่อว่า ผู้รอดชีวิตและญาติพี่น้องของเหยื่อสังหารโดยลัทธินาซีจำนวนมากยังคงเจ็บปวดจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ซึ่งเป็นอาชญากรรมเลวร้ายที่สุดในประ วัติศาสตร์ และนาซีซึ่งมีอำนาจในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 2 มีคตินิยมการเหยียดเชื้อชาติที่ทำให้ชนชาติอื่นเกิดความรู้สึกว่าเป็นปมด้อย รวมถึงชาวเอเชียด้วย จากเหตุการณ์ดังที่ปรากฏเห็นได้ชัดว่าการเฉลิมฉลองนาซีไม่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยปราศจากความรู้และความร่วมมือจากฝ่ายบริหารของโรงเรียน

ศูนย์ซีมอน วีเซนธาล เรียกร้องให้โรงเรียนพระหฤทัยในฐานะที่เป็นโรงเรียนคริสเตียนแสดงความรับผิดชอบให้ถึงที่สุดต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และการที่คณะครูอาจารย์ตัดสินใจว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผิดหรือถูกก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากฝ่ายบริหารโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับการสอนจริยธรรมและประวัติศาสตร์ ทางศูนย์จะเตรียมข้อมูลเพื่อการศึกษาให้กับนักเรียนเกี่ยวกับการที่นาซีสัง หารหมู่ชาวยิว 6 ล้านคน รวมทั้งเด็ก ชาวยิปซี และเหยื่อผู้บริสุทธิ์ 1.5 ล้านคนด้วย

นอกจากนี้ แรบไบคูเปอร์ซึ่งเดินทางมาทำกิจกรรมสิทธิมนุษยชนในเอเชียบ่อยครั้ง ยังกล่าวถึงขบวนพาเหรดนาซีของนักเรียนโรงเรียนทิวไผ่งาม 200 คน เมื่อปี 2550 และระบุด้วยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ วงดนตรี "สเลอ" ของไทยก็สวมชุดนาซี และติดเครื่องหมายสวัสดิกะแสดงในมิวสิควิดีโอเพลง "ฮิตเหรอ" อีกด้วย

สำหรับศูนย์ซีมอน วีเซนธาล เป็นองค์กรเอ็นจีโอดำเนินงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนชาวยิวทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่ในลอสแองเจลิส สห รัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 2520 เพื่อให้การศึกษา กับสังคมเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามโดยพวกนาซีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

วันเดียวกัน น.ส.ดรุณี ศรีประมงค์ ผอ. โรงเรียนพระหฤทัย จ.เชียงใหม่ ออกแถลง การณ์เรื่อง "โรงเรียนพระหฤทัย ขออภัยสืบเนื่องจากกีฬาสีของโรงเรียน (Deeply Apolo gies)" เนื้อหาระบุว่า "กราบขออภัย ทุกท่านที่เคารพ เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2554 ทางโรงเรียนพระหฤทัย จ.เชียงใหม่ ได้จัดการแข่งขันกีฬาสีภายในโรงเรียนขึ้น และมีการแบ่งสีเป็น 7 สี และหนึ่งในจำนวนนั้นคือสีแดง ได้จัดฉากเครื่องหมาย และแต่งกายในรูปแบบคล้ายกับเครื่องหมายนาซี ซึ่งเป็นการแสดงที่ผู้แสดงตั้งใจจะสื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน และเป็นสัญ ลักษณ์ของสีแดง อันเป็นสีที่นักเรียนสังกัดกลุ่มนี้อยู่ การแสดงครั้งนี้นักเรียนมิได้มีเจตนาจะกล่าวถึงการทำลาย และการฆ่าล้างเผ่าหรืออื่นๆ นอกเหนือไปจากนี้เลย ทางโรงเรียนพระหฤทัยรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในครั้งนี้ และขออภัยต่อการไม่ได้ติดตามการเตรียมการของนักเรียนก่อนที่จะจัดกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันทางโรงเรียนขอขอบ พระคุณท่านที่ได้กรุณาท้วงติง และชี้แจงตักเตือนถึงการกระ ทำดังกล่าว และกราบขออภัยเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ รวมทั้งตั้งใจจะให้ การศึกษาอบรมกับนักเรียนในเรื่องดังกล่าวให้มากขึ้น จะเข้มงวดกวดขันในการแสดงต่อสาธารณชนยิ่งขึ้น และขอสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป"

ขณะที่ศิลปินขวัญใจเด็กแนวอย่าง "วง สเลอ" ของค่ายเพลงสมอลล์รูม ที่มีสมาชิกประกอบด้วย เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ, จักรพันธ์ บุณยะมัต, ธนันต์ บุญญธนาภิวัฒน์ และธิติพันธุ์ อนะวัชพงษ์ ที่ถูกพาดพิงเนื่องจากมิวสิควิดีโอเพลง "ฮิตเหรอ (Hitler)" อัลบั้ม "บุ้ง" (Boong) ซึ่งทั้ง 4 สมาชิกวงสเลอแต่งตัวเลียนแบบฮิตเลอร์-นาซี จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์ใหญ่โตนั้น "เป้"อารักษ์ หนึ่งในสมาชิกวงสเลอ ให้สัม ภาษณ์ว่า ยอมรับว่ารู้สึกแย่ เพราะตอนที่ตนและสมาชิกทำมิวสิควิดีโอเพลงนี้ออกมาไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี แค่ต้องการนำมาล้อเล่นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตและรุนแรงตามมาแต่อย่างใด

"เป้"อารักษ์ กล่าวอีกว่า พวกเราไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นหนังฝรั่งหลายเรื่องนำเรื่องพวกนี้มาล้อเลียนหรือมานำเสนอไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งโดยเนื้อหาของเพลงไม่ได้เกี่ยวข้องกับฮิตเลอร์ แต่เนื้อหาเพลงจะพูดถึงวัยรุ่นที่มีความมั่นใจตัวเองสูง แต่งตัวทุกอย่างที่คิดว่าอินเทรนด์ ซื้อเสื้อผ้าค้นหาแฟชั่นตามสถานที่ซื้อแล้วว่าเป็นที่รวมแฟชั่นฮิต ต้องมีของอินเทรนด์ ซึ่งตนก็แค่แต่งกายเลียนแบบเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในมิวสิควิดีโอเท่านั้นเอง

"เป้"อารักษ์ กล่าวต่อว่า ถ้าถามว่าเป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร และไม่ควรนำมาล้อเลียนแบบนี้ อีกอย่างมิวสิควิดีโอเพลงนี้ออกฉายมาเป็นปีแล้ว ในส่วนของกระแสวิจารณ์ยอมรับว่ามีเข้ามาเรื่อยๆ อย่างเช่นมีฝรั่งคนหนึ่งเห็นมิวสิควิดีโอเพลงนี้ในห้างสรรพสินค้าก็ออกอาการโวยวายทันที แต่ถ้าถามว่าตนรู้สึกผิดกับเรื่องนี้หรือไม่ แน่นอนว่าตนและสมาชิกทุกคนในวงรู้สึกผิดกันหมด และอยากขอโทษกับสิ่งที่ได้ทำลงไป อยากขอย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ ทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่เด็กนักเรียนใน จ.เชียงใหม่ แต่งกายเลียนแบบฮิตเลอร์-นาซี นักร้องหนุ่มกล่าวว่า พวกเด็กๆ คงไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เพียงแต่ต้องการทำเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรในเมื่อเด็กๆ ทำไปแล้วก็ควรมีครูหรือผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำ หรือไม่ก็คอยชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าสิ่งที่เด็กๆ ทำไปนั้นถูกผิดอย่างไร

ต่อข้อถามว่าทราบข่าวนี้แล้วรู้สึกอย่างไร นักร้องหนุ่มตอบว่า ตกใจแค่ตอนแรกๆ มากกว่า เพราะที่ผ่านมาก็เจอกระแสแบบนี้มาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้รุนแรงขนาดนี้ ตนและสมาชิกในวงคงไม่สามารถกลับไปแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ หรือทำอะไรได้ดีไปกว่ากล่าวคำว่าขอโทษ เพราะตอนที่ทำงานนี้ออกมาไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น และไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรือรุนแรงอย่างที่หลายๆ คนมอง ซึ่งตนไม่ได้ภูมิใจกับมิวสิควิดีโอเพลงนี้สักเท่าไหร่ และไม่อยากให้เด็กๆแต่งตัวตามหรือล้อเลียนฮิตเลอร์อีก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายอิตชาก โชแฮม เอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า สถานทูตอิสราเอลได้รับจดหมายแสดงความขอโทษจากโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ตนเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความไม่รู้ ไม่ ใช่เพราะเจตนาร้ายแต่อย่างใด คนเอเชียจำนวนมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในยุโรปจากน้ำมือของนาซี หลายคนยังคิดว่าฮิตเลอร์เป็นวีรบุรุษ ไม่ใช่ปีศาจร้ายอย่างที่เป็น จึงคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องให้ความรู้และการศึกษากับประชาชนในเรื่องนี้

ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว. ศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ แต่ยิ่งเป็นเรื่องที่กระทบความรู้สึกของคนมากเท่าไหร่ ตนยิ่งไม่อยากให้ขยายผลออกไปมากเท่านั้น เบื้องต้นจะพยายามดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก

ด้านนายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ โฆษก ศธ. กล่าวว่า ได้รับรายงานว่า ทางโรงเรียนทำหนังสือชี้แจงกรณีดังกล่าวไปยังสถานทูตอังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และฝรั่งเศสแล้ว เนื่อง จากเป็นเรื่องที่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กนักเรียน ซึ่งคณะครูชี้แจงว่าไม่ทราบมาก่อน เพราะเป็นชุดการแสดงที่ไม่ได้แจ้งครูทราบล่วงหน้า คณะนักเรียนและครูจึงรู้สึกเสียใจมาก เพราะชุดการแสดงดังกล่าวมีผลกระทบทางด้านจิตใจกับคนหมู่มาก จึงกราบขอโทษมา ณ ที่นี้ ซึ่งทางสถานทูตทั้ง 4 ประเทศ ก็รับทราบและเข้าใจในเรื่องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้โรงเรียนทุกโรงทั่วประเทศ จะต้องสอนเด็กนักเรียนรู้จักคิดรู้จักวิเคราะห์ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องละเอียดอ่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

ขณะที่นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) กล่าวว่า อันที่จริงในหลักสูตรของสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนมีการสอนประวัติศาสตร์ไทย เอเชีย ยุโรป อยู่แล้ว เพียงแต่เนื้อหาที่แต่ละโรงเรียนสอนอาจแตกต่างกันตรงผลวิเคราะห์ หรือบทสรุปที่ได้จากประวัติศาสตร์นั้นๆ เพื่อให้เด็กนักเรียนเกิดการเรียนรู้ในข้อดีข้อเสีย ฉะนั้นต่อไปนี้การที่จะหยิบยกเรื่องราวประวัติศาสตร์มาแสดงเชิงสัญลักษณ์ต้องดูเรื่องความเหมาะสมด้วย ซึ่งได้กำชับให้เน้นพูดถึงผลกระทบหลังการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ด้วย เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจส่งผลเสียลักษณะนี้ได้

ส่วนนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ให้สัม ภาษณ์ว่า ประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศ มีความละเอียดอ่อนอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชาติพันธุ์ การเมือง การปกครอง ฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงกำชับผู้บริหารโรงเรียนส่งเสริมให้เด็กนักเรียนเรียนรู้ที่มาของประวัติศาสตร์นั้นๆ โดยเฉพาะเรื่องชาติพันธุ์ อย่างกรณีประวัติข้อขัดแย้งของนาซี หรือตัวผู้นำอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ก็ต้องอธิบายถึงข้อดีข้อเสียด้วย โดยต่อไปนี้การแสดงออกของนักเรียน จะต้องอยู่ในความดูแลของครูด้วย เพราะเด็กอาจมองแค่เปลือกนอก หรือมองเป็นแฟชั่น ไม่ได้มองว่าสิ่งที่แสดงออกไปนั้นกระทบความรู้สึกของใครบ้าง ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนให้โรงเรียนทั่วประเทศได้กำชับกวดขับมากยิ่งขึ้น เพราะยิ่งใกล้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนมากเท่าไหร่ เรายิ่งต้องรู้ประ วัติศาสตร์ของประเทศเพื่อนบ้านให้มากเท่านั้นหรือยิ่งขึ้นไปอีก ที่สำคัญต้องรู้ด้วยว่าทุกเรื่องราวมีทั้งข้อดีข้อเสีย การแสดงออกอะไรต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม

ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdPREk1TURrMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdPUzB5T1E9PQ==

สำหรับผมเรื่องนี้ก็แค่ ขายข่าวครับ เป็นอาชีพหนึ่งของนักข่าวที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก คนที่เสพข่าว ต้องเป็นตัวของตัวเองครับ

ถึงแม้ฝรั่งบางหนึ่งจะเป็นนีโอนาซีมากน้อยเท่าไหร่ไม่ทราบ  แต่โดยทางการหลายประเทศเขายังรังเกียจการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นาซีเคยกระทำไว้  ใน Facebook มีท่านหนึ่งวิจารณ์ประมาณว่า  ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้  เราจะอยู่ร่วมกับชาวโลกเขาลำบากครับ  ผมขอลองเปรียบเทียบในทางกลับกันว่าถ้าคนต่างชาติไม่ยอมเข้าใจว่าเรานับถือสถาบันหลักๆ หรือยึดถือประเพณีไทยอย่างไรแล้วมาทำอะไรขัดหูขัดตาเข้า  เราก็รังเกียจเขาในแบบเดียวกันครับ

ขอเพิ่มเติมอีกหน่อยว่าเคยเช็คข่าวเก่าๆ เจอว่ามีสื่องี่เง่าบางรายไปเรียกนักกีฬา/ทีมกีฬาของเยอรมันว่า "นาซี" เข้าเหมือนกัน  เคราะห์ดีที่ยังไม่มีฝรั่งที่อ่านภาษาไทยออกโวยวายขึ้นมา  ไม่งั้นจะเอาอะไรมาแก้ตัว

บ่งบอกให้ทราบถึงระดับมาตรฐานการศึกษาของครูใน รร.ว่ามีมากน้อยแค่ไหน

ผมคิดว่าเด็กนักเรียนหญิงเหล่านี้คงไม่ได้ฝักใฝ่หรือศรัทธาในลัทธินาซีและตัวของฮิตเลอร์หรอกครับ  พวกเธอคงเพียงแค่ชอบใจในความสง่างามของเครื่องแบบทหารเยอรมันและหน่วย SS ในสงครามโลกแล้วก็นำมาดัดแปลงแต่งตัวและขบวนพาเหรดเพื่อล้อเลียนกันสนุก ๆ เท่านั้นเอง 

อันที่จริง ปฏิกิริยาของชาวโลกต่อการกระทำของพวกเธอและบรรดาครูในโรงเรียนก็มากไปสำหรับการกระทำที่ทั้งไร้เดียงสา และไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมแบบนี้  เพียงแค่การบอกให้ทางโรงเรียนรับทราบและเข้าใจต่อความรู้สึกของคนต่างชาติก็พอแล้วครับ

สำหรับประเด็นประวัติศาสตร์สงครามโลกนั้น คงไม่ต้องปฏิเสธหรอกดรับว่า  เด็กไทยและคนไทยเราได้รับการกรอกหูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจากทุก ๆ สื่อว่า ฝ่ายพันธมิตรโดยมะกันเป็นพระเอกและธรรมะในทุก ๆ ด้าน และนาซีเยอรมันก็คือผู้ร้ายที่ไม่ใช่มนุษย์ปกติไปตลอดกาล คงไม่มีทางที่คนไทยเราจะหลงเชื่อหรือนิยมนาซีจนเอามาสร้างเป็นแนวคิดชาตินิยมสุดโต่งครับ (ยกเว้นคนบางกลุ่มครับที่เอาประเด็นนี้มาโวยวาย แต่ไม่มีใครสนใจจนต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปแล้ว)

ขอมองต่างมุมหน่อยเดียวครับว่า "เครื่องแบบ" เท่าที่เห็นจากในภาพข่าวนั้น    ไม่ได้แสดงฝีมือในการที่จะทำให้เหมือนเครื่องแบบนาซีจริงๆในประวัติศาสตร์สักเท่าไหร่  เหมือนเป็นแค่เอาชุดที่พอดูเป็นทหารมาติดเครื่องหมายสวัสดิกะมากกว่าครับ  แล้วก็มีการอัญเชิญธงสวัสดิกะผืนเบ้อเริ่มเลย  ประเด็นอื่นผมคงกล่าวมามากพอแล้ว

ผมว่าที่คนไทยบางคนไม่ได้คิดอะไรมาก ก็คงจะเป็นเพราะ เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องมากนักกับเยอรมันในตอนสงครามโลก 

ลองคิดดูนะครับชาวบ้านทั่วไปจะไปสนใจทำไมกับเผด็จการที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโล คนไทยส่วนใหญ่เกลียดญี่ปุ่นมากกว่าครับ

ฮิตเลอร์ถ้าไปถามเด็กผู้หญิงก็จะได้คำตอบประมาณ "ใครอะ ดาราดาวรุ่งหรอ"

ถ้าเด็กชายก็จะประมาณ "ท่านผู้นำ ของเรา"(ผมเคยมีเพื่อนบ้านาซีคนหนึ่งตอนอยู่ ป.2)

นี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ คือ เราไม่ได้ืรับความโหดร้ายจากสิ่งที่ฮิตเลอร์ทำ เราจึงไม่ได้รู้สึกอะไรแม้ว่าเราจะเรียนประวัติศาสตร์ก็เถอะ

ถ้าเทียบกับฝรั่ง  ปู่ ย่า ตา ยาย ประมาณเกือบ 80 % มีเอี่ยวกับสงครามโลกครับ

อีกอย่างนะครับ ผมคิดว่าวิชาประวัติศาสตร์ใน รร (ที่ผมเรียนอยู่) มีสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง เนื้อหาก็จะเป็นแบบว่าคร่าวๆให้เห็นถึงจุดเด่นๆของช่วง

นั้นๆครับ

555555

ขอบพระคุณที่ทนอ่านนะครับ

เรียนประวัติศาสตร์กันสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง  แล้วไม่ทราบที่เหลือเขาเรียนอะไรกันครับ  ถ้าใจรักจริงๆ แล้ววิชาไหนก็หาอ่านนอกเวลาได้

อันที่จริงไม่ว่าลัทธินาซี ลัทธิทุนนิยม ลัทธิคอมมิวนิสต์ หรือลัทธิอะไร มันก็แค่เครื่องมือที่มหาอำนาจจะใช้เอาเปรียบคนอื่นอยู่นั่นเอง  หลายๆ คนดูเหมือนฉลาดพอจะรู้เท่าทันทุนนิยมอเมริกา  แต่กลับไปขุดเอาฆาตกรนับล้านๆศพมายกย่องเอามาสงสารอ้างซ้ำซากว่าเป็นผู้แพ้ที่ถุกซ้ำเติม  แทนที่จะมองหาประวัติศาสตร์ยุคอื่นสมัยอื่นหรือกลับไปหาภูมิปัญญาดั้งเดิมของเราเอง