เรื่องกำลังทหารเราคงไม่มีปัญหา แต่ด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศเกรงจะแพ้ทั้งคู่

เคยเข้าใจว่าเราเสียสถานที่นั้นไปตามคำตัดสินของศาลโลกไปตั้งนานแล้ว พอมาเกิดเรื่องในระยะหลังๆ มีความสงสัยว่าในทางปฏิบัติเราทำตามที่ศาลโลกตัดสินแค่ไหนหรือไม่? แล้วสุดท้ายจะตกลงกันยังไงถึงจะทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจ? คงต้องขอตัวไปหาหนังสือที่เกี่ยวข้องมาอ่านซะทีครับ

ไม่มีใครเกลียดสงครามเท่ากับทหารหรอกครับ

มีกองทัพที่เข้มแข็ง  การฝึกดี   ทหารมีวินัยสูง

อาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย        เศรษฐกิจดี

เพื่อให้ศัตรูยำเกรง   ไม่กล้าทำสงคราม

มีกองทัพไว้เพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม

ประเทศจนๆสองประเทศไม่มีใครอยากทำสงครามหรอกครับ

ฮุนเซนกร้าว! ประกาศท้ารบกับไทย แล้วจะเป็นยังไงต่อครับ ถ้าเจรจาไม่ได้ผล

 เด๋วรบกันไปพักนึงสหประชาชาติก็ต้องมาบังคับให้ตั้งโต๊ะเจรจาครับ ไม่ว่าฝ่ายใดจะสูญเสียมากหรือสูญเสียน้อยแต่สุดท้ายชีวิตทหารที่เสียไปของทั้งสองฝ่ายคงไม่ได้คืน แล้วจะรบทำไมกันนะ(แต่ผมว่าฝ่ายไทยได้เปรียบนะทั้งด้านกำลังทางทหาร อาวุธและยุทธวิธี แต่ถ้าจะรบกันจริงๆก็ต้องรีบรบให้เสร็จโดยเร็วเอาอาวุธหนักยิงถล่มปูพรมลดการสูญเสียของฝ่ายเรายึดครองทรัพยากรข้าวของมีค่ากลับประเทศอะไรยึดไม่ได้ก็ทำลายให้หมดเอาให้ตั้งตัวไม่ได้เลยกว่าสหประชาชาติมาเจรจาก็...) สรุปอย่ารบกันเลยครับ??? สับสนตัวเองน่าดูเลยผมนี่ ขออภัยครับส่วนตัวมากไปหน่อย

ผมคนหนึ่งละที่ไม่เห็นด้วยกับการรบกันไม่ว่าจะเป็นในระดับไหนก็ตาม  เรื่องเขาพระวิหารนั่นคือกับดักทื่พวกฝรั่งมันวางเอาไว้ให้ชาติต่าง ๆ ที่มันเคยครอบครองต้องพพาทกันเพื่อมันจะได้แทรกแซงเอาผลประโยชน์ได้  ไม่ต่างจาก กรณีแคว้นกษมีระที่ชายแดนของอินเดียกับปากีสถาน

ผมคิดว่า  เราต้องพยายามทำทุกวิถีทางให้เกิดบรรยากาศของสันติภาพแบบไม่ต้องเสียศักดิ์ศรี  และการสร้างประเด็นความร่วมมือแบบวิน-วินก่อนที่จะเริ่มการเจรจาใด ๆ ให้ได้ก่อนครับ

ว่าแต่งานมหาหินแบบนี้ในเวลานี้  ใครล่ะครับที่จะอาสาไปทำครับ

ต้องลองหาประวัติศาสตร์มาอ่านคะ ลองอ่านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมัยเก่าแบบสมัยยุคจารีต ของ ดี จี เอส ฮอล หรือของ อาจารย์ ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม หรือตามห้องสมุดที่มีหนังสือพวกนี้อยู่มีอยู่พอสมควร เราจะเข้าใจได้ว่าเพราะอะไร และทำไม คนสมัยนี้ความเป็นอดีตมักจะลืมไปหมดแล้ว ก่อนที่เราจะตอบว่าทำสงครามหรือไม่ทำสงคราม ควรหาประวิศาสตร์มาอ่านสักนิดแล้วจะเข้าใจ  มันเป็นเรื่องของคนในอดีตที่คนยุคปัจจุบันต้องมาถกเถียงกันเพื่อผลประโยน์ของใคร ?บรรพบุรุษคงไม่อยากเห็นลูกหลานมาคิดกันแบบนี้หรอกว่าไหม?