1.คนละหน่วยครับ  แต่อยู่ในสังกัดของฮิมม์เลอร์เหมือนกัน  เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาซ้อนองค์กรเดิมเหมือนกัน  สรุปง่ายๆ สั้นๆ ว่า เอสเอสคือทหารการเมือง  เกสตาโปคือตำรวจการเมือง

2.ถ้าจำไม่ผิด ไอน์สไตน์ไม่ได้เป็นคนคิดค้นระเบิดโดยตรง  แต่มีการนำเอาทฤษฎีสัมพัทธภาพไปต่อยอดจนเกิดระเบิด  แม้กระนั้นไอน์สไตน์ก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง  ส่วนทางฝ่ายนาซีที่ทำให้ไอน์สไตน์ต้องหนีออกนอกประเทศก็พยายามคิดระเบิดลักษณะเดียวกันแต่ไม่สำเร็จ

3.ไม่ได้ดูรายการดังกล่าว  และไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าว

มีเรื่องนอกประเด็นคำถามแต่ขอเล่าประกอบให้ทราบว่า  เมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมามีบทความวิเคราะห์ว่า ณ เวลานั้นยังไงญี่ปุ่นก็หมดทางสู้และจะต้องยอมแพ้วันยังค่ำแต่อาจจะใช้เวลาหน่อย  การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองทั้งสองนั้น  ประเด็นที่แท้จริงคือต้องการเร่งให้ญี่ปุ่นยอมแพ้ก่อนที่รัสเซียจะเข้ามายุ่มย่ามทางเอเชียแปซิฟิกมากเกินไป ดูที่ Atom Bombs on Japan – A Necessary Evil?

4.ช่วยอ่านเอาเองที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Atomic_bombings_of_Hiroshima_and_Nagasaki และ http://th.wikipedia.org/wiki/การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มฮิโระชิมะและนะงะซะกิ แต่ภาษาไทยจะไม่ละเอียดเท่าภาษาอังกฤษ 

ข้อ 3.

    จากที่ศึกษามาจากหลาย ๆ ที่ พี่กันเค้าก็มีเมืองที่ต้องการทิ้งนิวเคลียร์ในดวงใจเอาไว้หลายเมือง โตเกียวก็มีอยู่ในลิส แต่เห็นเป็นเมืองที่เก่าแก่ทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมเลยละเอาไว้(บางที่ก็มีเหตุผลอื่นร่วม) แล้วการเลือกเป้าหมายนั้นต้องก่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุด ให้ตกอยู่ในสภาพอกสั่นขวัญแขวนและยอมแพ้ให้ได้ เนื่องจากคนญี่ปุ่นนั้นสู้ตายถวายหัว ยังไง๊พี่แกก็ไม่ยอมแพ้...Japan wouldn"t ever "surrendered". การที่เลือกฮิโรชิมาและนางาซากินั้น อย่างแรกเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญเป็นคลังและแหล่งอุตสาหกรรมอาวุธสงครามกองทัพทหาร มีท่าเรือที่สำคัญ ดังนั้นการถล่ม 2 เมืองนี้จะทำให้พี่ยุ่นแกเป็นอัมพาต และความเสียหายก็จะกระจายได้อย่างกว้างขวาง พลเรือนไม่รู้อีโหน่อีเหน่เลยตายกันเป็นเบือ เจ็บอีกหลาย เป็นที่ถกกันจนถึงปัจจุบันถึงความอยุติธรรมที่พี่กันทำกับยุ่นโดยการฆ่าพลเรือนบริสุทธิ์ ต่างจากการที่ญี่ปุ่นถล่มเพิร์ล ฮาร์เบอร์ เพื่อทำลายกองทัพสหรัฐฯ (เพราะพี่กันแกปิดทางไม่ให้ขนส่งน้ำมันไปให้ญี่ปุ่นเพื่อรบกับจีน ซึ่งตอนนั้นอเมริกายังเป็นกลาง หลังจากนั้นก็เลยประกาศสงครามเต็มตัว เข้าทางพี่แกเลยทีเดียว )

    ถึงกระนั้น ยุ่นชายชาติทหารก็ไม่ยอมแพ้ เสนอต่อองค์จักพรรดิว่าถ้าสละอีก 20 ล้านชีวิต (แม่เจ้า) ก็จะสามารถชนะสงครามได้ แต่พระองค์ไม่เห็นด้วย ทรงทนเห็นประชาชนตาดำ ๆ ต้องมารับเคราะห์กรรม เพียงเพื่อต้องการ(อาจจะ)ชนะัสงครามไม่ได้ (ยอม ๆ ไปเหอะ ชีวิตคนมันมีค่ามากกว่าศักดิ์ศรี) หลังจากที่ประชุมกันระยะหนึ่ง ญี่ปุ่นก็ออกมายกธงขาวแต่โดยดี

    มีบทความหนึ่งบอกว่า การที่ไม่ถล่มโตเกียวเพราะว่าโตเกียวนั้นก็โดนระเบิดถล่มเป็นระลอกอยู่แล้ว กล่าวคือในเมืองมีความเสียหายอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าทิ้งนิวเคลียร์ที่นั้น  ผลของการทิ้งระเบิดมันจะออกมาไม่ชัดเจน เลยต้องเอาเมืองใหญ่ ๆ ซิง ๆ เปิดฉาก แล้วก็สำเร็จ ญี่ปุ่นเสียขวัญอย่างแฮง.....

   ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะยอมแพ้หรือไม่ ไม่สำคัญ เห็นชัด ๆ ว่าได้แพ้ไปแล้ว แต่เป็นโอกาสที่ดีที่อเมริกาจะแสดงอำนาจความยิ่งใหญ่ของตนเองให้ชาวโลกได้รับรู้ว่าข้าแหละมีอาวุธร้ายแรงที่สุด ใครจะแหยม? (อันนี้มีหลายคำวิจารย์ที่หลายคนต่างวิเคราะห์กันไป)