***ละโว้***
avatar
ปติตันขุนทด


 

***ละโว้***

พระราชพงศาวดารเหนือ     กล่าวว่า.......

"จุลศักราช  ๒๑๕  (พ.ศ.   ๑๓๙๖)   พระเจ้าจันทโชติ   กับเจ้าฟ้าปฏิมาสุดาดวงจันทร์  ขึ้นไปครองเมืองละโว้   ทั้งพระพี่นางซื่อเจ้าฟ้าขึ้นไปด้วย   (เสด็จไปจากอโยธยา)   เสวยราชสมบัติได้  ๕   ปี  สร้างวัดกุฏีทองถวายพระอาจารย์   พระมเหสีสร้างวัดคงคาวิหาร

"แล้วพระนารายณ  (พระโอรสพระเจ้าจันทโชติ)   ไปสร้างพระปรางค์เมืองละโว้    ขนานนามเมืองใหม่ชื่อว่า  เมืองลพบุรี  แต่นั้นมาเป็นเมืองลูกหลวง   พระนารายณ์ทรงประชวรลงมา ครั้นถึงพระราชวัง   ๓  วัน  สวรรคต   ถวายพระเพลิงที่วัดพระองค์สร้าง  ให้ชื่อวัดนารายณ์อิศรา   แต่นั้นมาเมืองว่างเปล่าอยู่   อำมาตย์  ๙  คน  รบฆ่าฟ้นชิงราชสมบัติกัน   โลหิตในเมืองนั้น  ประดุจหนึ่งท่วมท้องช้าง   แต่ทำศึกศิ้น  ๒  ปี  ศักราชได้  ๓๑๑  ปีมะเส็งเอกศก   พระเจ้าหลวงได้ราชสมบัติเก้าปี  จึงกำหนดตั้งพิกันอากรขนอนตลาดไว้ทุกตำบล   จึงสั่งให้ยกวังเป็นวัด   เรียกว่าวัดเดิมแต่นั้นมา"

*************************************************************************************

 

เมืองละโว้นั้น   พระยากาฬวรรณดิส   กษัตริย์เมืองตากเป็นผู้สร้าง   แล้วเสร็จ  เมื่อ  พ.ศ.๑๐๑๑  ในปีที่สวรรคต  พ.ศ.๑๐๔๓  นั้น  ได้ให้พระยาพาลีราชขึ้น  ไปครองเมืองสุโขทัย

พ.ศ.   ๑๒๐๐   พระเจ้ากรุงละโว้  ทรงส่งนางจามเทวีวงค์   ราชธิดาให้ขึ้นไปครองเมืองหริภุญไชย  เมืองหริภุญไชยได้เป็นเมืองใหญ่   ปกครองเมืองเหนือแทนเมืองสุโขทัย   เพราะเวลานั้นทั้งเมืองสุโขทัย และเมืองชะเลียง   ได้ถูกยุทธภัยกล๋อม   กลายสภาพเป็นเมืองร้างลง   ส่วนพระสวามีของพระนางจามเทวีวงศ์  ก็ให้ออกไปครองเมืองรามบุรี  เมืองท่าเรือของเมืองเหนือ  และด่านทางสำคัญด้วย

ใกล้พุทธศตวรรษที่  ๑๔  เมืองละโว้ต้องเป็นเมืองขึ้นเขมร   เขมรตั้งเป็นเมืองลูกหลวง   ดูแลเขตในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและบ้านเมืองทางตะวันตก

ต่อมากษัตริย์มอญได้ครองเมืองลพบุรี   และได้เมืองสุวรรณภูมิ(ใหม่)

ระหว่างพุทธศตวรรษตที่  ๑๕  ต่อ  ๑๖    เขมรตีเอาเมืองลพบุรีคืนได้จากมอญ   ได้ครองเมืองลพบุรี  แล้วขับไล่มอญออกจากแว่นแคว้นสุวรรณภูมิไป   พลเมืองจึงรับนับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน  ตามอย่างเขมรปะปนกับลัทธิหินยาน  ซึ่งนับถืออยู่ก่อน

ราว  พ.ศ.   ๑๕๗๒   พระเจ้าจันทโชติกับนางปฏิมาสุดาดวง  ถวายนางแก้วประพาฬ  เชษฐภคินีของพระมเหสี  แก่พระเจ้าอนุรุทธ์  สมัครสมานเป็นทางไมตรีกับเมืองละโว้   จึงตกอยู่ในฐานเป็นเมืองออกพม่า  รวมกับแว่นแคว้นอื่น ๆ  ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงลุ่มแม่น้ำปิง  ในอาณาจักรโยนกเชียงแสน แล้วรับใชจุลศักราชของพม่ามาแต่นั้น

ราว  พ.ศ. ๑๕๗๖  พระเจ้าอนุรุทธ์  (พม่า)  ได้เมืองละโว้  เมืองละโว้เป็นเมืองขึ้นพม่าอยู่ถึง  พ.ศ.  ๑๖๑๒  ก็เป็นอิสระภาพ

เมืองละโว้  ต้องเป็นเมืองขึ้นของพม่า  อยู่จนถึง  พ.ศ.  ๑๖๑๒  พระนารายณ์  ราชโอรสพระเจ้าจันทโชติ  จึงทำสงครามยุทธหัตถี  ชนะเจ้าสอลู  หรือเจ้าจอลู   หรือที่เรียกว่า  นเรศวร  กษัตริย์พม่า  ตั้งแต่นั้นเมืองละโว้ก็เป็นอิสรภาพขึ้นได้   พม่ามีอำนาจเหนือเมือละโว้อยู่ราว   ๓๖  ปี

เมื่อพระนารายณ์ลงมาครองเมืองอโยธยาแล้ว   ได้เปลี่ยนชื่อเมืองละโว้ว่า  เมืองลพบุรี  เมื่อราว  พ.ศ.๑๖๓๐

ภายหลัง  พ.ศ.๑๖๔๙  พระเจ้าไกรสรราช   ราชโอรสพระเจ้าพรหม   เสด็จลงมาครองเมืองลพบุรี

แล้วเขมรจึงรื้อฟื้นอำนาจเข้าปกครองเมืองลพบุรี  เมื่อใกล้พุทธศตวรรษที่ ๑๗  ได้อีกครั้งหนึ่ง   แต่เห็นจะอยู่ในอำนาจไม่ได้นาน

พ.ศ.  ๑๘๒๖  แล้วมา   กษัตริย์เมืองแพรกศรีราชา  ได้เสด็จลงมาครองเมืองลพบุรี   ครั้นแล้วแว่นแคว้นละโว้เข้ารรวมในอาณาจักรสุโขทัย

ราว  พ.ศ.  ๑๘๖๒  กษัตริย์เมืองลพบุรี  ได้สวรรคตลง  แว่นแคว้นละโว้จึงรวมกับแว่นแคว้นนครศรีธรรมราช

 (น   ณ  ปากน้ำ    ศิลปกรรม   แห่งอาณาจักรศรีอยุธยา   ต้นอ้อ  แกรมมี  ๒ค๔๐)

(พงศาวดารชาติไทย  เล่ม  ๑   ฉบับโรงพิมพ์ประจักษ์)

จากเรื่อง  ละโว้นี้   จะเห็นว่าไทยเป็นคู่สงครามกับพม่ากันมาตั้งแต่สมัยละโว้   และอโยธยา ก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาแล้ว   และจองเวรกันมาเรื่อย  ๆ  จนไทยเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่าในปี  พ.ศ.  ๒๓๑๐  (ปติ   ตันขุนทด  -คอมเมนต์)



ผู้ตั้งกระทู้ ปติตันขุนทด (suchati2495-at-yahoo-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-28 16:37:26 IP : 113.53.47.228


1

ความคิดเห็นที่ 1 (2977222)
avatar
soda

ทำไมไม่ให้ก๊อปอ่ะอดทำรายงานเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น soda (ingfa-bule-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-07-04 10:43:20 IP : 115.87.28.90


ความคิดเห็นที่ 2 (2977282)
avatar
คนน่ารัก 5 555

 ขอข้อมูลเยอะกว่านี้นิสนึง ก็น่าจะดีนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนน่ารัก 5 555 วันที่ตอบ 2010-07-29 19:35:17 IP : 58.9.86.121


ความคิดเห็นที่ 3 (2977283)
avatar
ดวงดาว

 อ่าว!!!!! ก็อปไม่ได้อ๋อ          

ผู้แสดงความคิดเห็น ดวงดาว วันที่ตอบ 2010-07-29 19:39:00 IP : 58.9.86.121


ความคิดเห็นที่ 4 (2977284)
avatar
โรจน์ (Webmaster)

เรื่อง "พงศาวดารเหนือ" มีข้อมูลอยู่ที่ http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/พงศาวดารเหนือ น่าจะเป็นฉบับเต็ม  ส่วนเรื่องเมืองละโว้จากแหล่งอื่นคงต้องรบกวนค้นหากันเองไปก่อนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (Webmaster) (webmaster-at-iseehistory-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-07-29 19:44:27 IP : 110.168.92.135


ความคิดเห็นที่ 5 (2977293)
avatar
คนน่ารัก

เอากระจ่างกว่านี้ได้ไหมคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนน่ารัก วันที่ตอบ 2010-08-01 16:41:47 IP : 119.31.126.81


ความคิดเห็นที่ 6 (2977319)
avatar
maynaruk

อือ  ก็อปไม่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น maynaruk (may_naruk-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-07 18:59:52 IP : 111.84.114.166


ความคิดเห็นที่ 7 (2977320)
avatar
โรจน์ (Webmaster)

ต้องขอชี้แจงเรื่องการ Copy Protection สักนิดนึงว่า  เนื่องจากมี Blogger และนักโพสต์เว็บบอร์ดไร้สมองหลายรายได้ copy เอาบทความของที่นี่ไปโพสต์ตาม Blog และเว็บบอร์ดต่างๆ   โดยบางรายก็ไม่ได้ทำลิงก์หรือให้เครดิตอะไรกับทางเว็บ  แถมยังก่อให้เกิดความเข้าใจผิดบางอย่าง  จึงจำเป็นต้องป้องกันการ Copy เอาไว้  โดยที่จริงก็ยอมรับว่าอาจจะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด  และไม่ได้เจตนาจะให้รวมถึงการป้องกัน Copy ในเว็บบอร์ดนี้ด้วย  แต่ระบบมันครอบคลุมทั้งเว็บแยกส่วนไม่ได้ ซึ่งอนาคตอาจมีการทบทวนยกเลิกมาตรการนี้ก็ได้ครับ  ย้ำอีกทีว่าใครต้องการ copy เรื่องละโว้ในพงศาวดารเหนือ  หรือจะเอาพงศาวดารเหนือทั้งหมด ให้ไปที่นี่ครับ http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/พงศาวดารเหนือ

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  ขอฝากอุทาหรณ์ไว้ว่า  ในสมัยผมยังเรียนประถม-มัธยมนั้น  ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้กันเกร่ออย่างเดี๋ยวนี้  ความที่ผมเรียนอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้โดยเฉพาะพวกเรียงความ ทำให้บางทีเพื่อนฝูงก็มาลอกการบ้านผมแบบที่ผมก็ไม่ค่อยเต็มใจนัก  และเคยด่ามันอยู่ในใจว่าไอ้พวกนี้ช่างไม่มีสมองเอาซะเลย  แต่อย่างน้อยเพื่อนผมพวกนั้นมันก็ลอกโดยการเขียนด้วยมือลงสมุด  ใช้เครื่องพิมพ์ดีดก็ไม่ได้  ไม่มีตัวช่วยในการ Copy แล้ว Paste อย่างในคอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้แน่นอน  เรียงความที่ลอกไปนั้น   บางทีก็ยาวไม่น้อยไปกว่าข้อความในกระทู้นี้ที่บางท่านอยาก Copy กันนักหนา

และหากจะดูกันถึงเจตนารมย์ของผู้ตั้งกระทู้แล้ว  เข้าใจว่าท่านอยากให้ผู้อ่านได้ฉุกคิดอะไรบางอย่างแล้วค้นคว้าต่อยอดกันต่อไป  ไม่ใช่เอาความรู้มาแจกกันแบบเอื้ออาทรเป็นแน่

หากผู้อ่านบางท่านมีความคิดกันแค่ Copy&Paste แล้ว  คงต้องขอปิดกระทู้แต่เพียงเท่านี้

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (Webmaster) (webmaster-at-iseehistory-dot-com)ตอบโดยเว็บมาสเตอร์วันที่ตอบ 2010-08-08 00:26:25 IP : 124.122.78.181



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.