dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



คนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว - ยิงปืนใหญ่ให้ได้ก่อน

 

๗. ยิงปืนใหญ่ให้ได้ก่อน

 . . .ให้รวมกำลังอันมากเข้า ณ ที่ที่เหมาะ ในเวลาที่เหมาะ . . . ?        

          การวางกำลังของฝ่าย ทชล.๒ และ ทสพ. ในทุ่งไหหิน  จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะ  ยึดที่สูง  เป็นสำคัญ  น่าจะเป็นเพราะ เข้าใจว่าเป็นที่สูงข่ม  แต่ไม่ทราบว่า ผู้บังคับบัญชาที่ตกลงใจเช่นนั้น ท่านได้คำนึงถึงหลักการสงครามในเรื่อง การดำเนินกลยุทธ - Manouver   ว่าหน่วยต่างๆ สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้หรือไม่ เพียงใด      มีเพียงปืนใหญ่บางที่ตั้งยิงเท่านั้นที่สามารถยิงสนับสนุนกันได้       ครับ    แต่ในเวลานั้น  ฝ่ายเสนาธิการที่มีหน้าที่พิจารณา ให้ข้อเสนอ  และ   ผู้บังคับบัญชาที่ตกลงใจ  ท่านคงพิจารณาว่า   ดีที่สุดแล้ว    สำหรับพวกเรา . . . นั้น . . . 

          พวกเราทหารปืนใหญ่นั้น  เมื่อเข้าที่ตั้งแล้ว มีงานที่ต้องดำเนินการตามลำดับความเร่งด่วน  คือ 

          ขั้นแรก      ยิงปืนใหญ่ให้ได้ก่อน 

 

 

<  ปืนใหญ่ขนาด ๑๕๕ มม.

ปืนใหญ่ขนาด ๑๐๕ มม  >.

(ภาพจากสมรภูมิอื่น)

 

 

 

              ขั้นต่อมา     สร้างเครื่องป้องกัน    ให้อยู่และปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย คือที่มุง ที่บัง ให้แข็งแรงมั่นคงปลอดภัยจากปืนใหญ่ของข้าศึก  พวกเราทหารปืนใหญ่คุ้นเคยกับเสียงยิงปืนใหญ่ (ของเรา) ที่ยิงออกไป - Outgoing    ไม่คุ้นกับเสียงระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ (ข้าศึก) ยิงเข้ามา - Incoming  หรอกครับ      เมื่อเห็นว่ามั่นคงแข็งแรงดีพอทนกระสุนปืนใหญ่ข้าศึกได้แล้ว  ก็  . . .  ปรับปรุงต่อไป

 

          บนหลังคาศูนย์อำนวยการยิง "ไลอ้อน" ซึ่งใช้ซุงไม้สนขนาด ๖ นิ้ว  ปูด้วยกระสอบทราย ๒ ชั้น  ผ้าใบปูทับเพื่อกันฝน   กระสอบทรายที่เห็นวางระเกะระกะอยู่นี้ เพื่อกันลมไม่ให้พัดผ้าใบปลิว

        

 

 

          ขั้นต่อไป   เป็นการสร้าง - เสริมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  เพราะต้องอยู่ในที่ตั้งยิงแต่ละแห่งเป็นเวลานานๆ  

 

 

         

 เมื่อปลอดภัยแล้ว ก็ให้สะดวกสบาย   

    

ซ้าย  ทางเดินที่ลาดขึ้นเนินก็ทำเป็นขั้นบันได  เอาถังโลหะใส่ดินส่งกระสุนปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕ มม. มาบรรจุดิน ฝังเรียงกันดินเป็นขอบทางเดิน

  ขวา  ในห้องอาหารเมื่อครั้งยังหรูหราในทุ่งไหหิน  จากซ้าย  ภูแสน  ภูน้อย  ภูสิน 

 

 

 

ผนัง,โต๊ะ,เก้าอี้  - จากไม้ลังกระสุนปืนใหญ่ขนาด ๑๐๕ มม. 

ผ้าม่าน,ผ้าปูโต๊ะอาหาร  - จากร่มที่ใช้ส่งของทางอากาศ ซึ่งชำรุดใช้งานอีกไม่ได้ 

โคมไฟ  - จากฝาครอบดินระเบิด 

ไฟฟ้า  - จากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก  

ส่วนภารกิจการรบ     แต่ละส่วนก็ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน  เช่น

          เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการยิง    ต้องเตรียมบัญชีเป้าหมาย  ซึ่งหน่วยเหนือจัดส่งมาให้  และจากหน่วยรับการสนับสนุน หรือจากการแลกเปลี่ยนข่าวสารของหน่วยทหารปืนใหญ่ด้วยกัน    โดยเฉพาะ  บัญชีเป้าหมายประเภท ที่ตั้งปืนใหญ่ของข้าศึก ต้องสนใจเป็นพิเศษ ทำหลักฐานยิงเตรียมเอาไว้เลย   แต่ปืนใหญ่เรายิงเองไม่ได้นะครับ   ต้องมีคำขอยิง จึงจะจัดการให้ได้   

          ส่วนยิง คือ หมู่ปืน   ก็ทำความสะอาดปืนและเตรียมกระสุนไว้ให้หยิบฉวยมาให้ได้ทันท่วงที   

         

 

 


 

 

<  ปืนใหญ่ ขนาด ๑๐๕ มม.

กระสุนครบนัด  >

 

 

 

 

 


 

 ปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕ มม. 

 

 

 

ค. ๔.๒ นิ้ว  ขณะทำการยิง  (ภาพจากสงครามเกาหลี)

 

          ส่วนที่ งานในหน้าที่น้อยกว่าเพื่อน น่าจะเป็นส่วนที่ทำงานลาดตระเวนและแผนที่  ก็มาช่วยงานใน ศอย. บ้าง เป็นพนักงานวิทยุบ้าง  ได้ทำงานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนักหรอกครับ   อ้อ!  ส่วนนี้มีงานที่พิเศษและเสี่ยงมากงานหนึ่ง คือ  การวิเคราะห์หลุมระเบิด    งานนี้ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่เมื่อมีกระสุน ปืนใหญ่ หรือ เครื่องยิงลูกระเบิดตกในหรือใกล้ๆ ที่ตั้งยิง   ส่วนนี้จะต้องออกไปที่หลุมระเบิด ใช้เข็มทิศวัดว่ายิงมาจากทิศใด โดยพิจารณาจากรูปหลุมระเบิดที่พื้นดิน   และวัดมุมตกกระทบ ว่าเท่าใด  หากพบชนวนก็พิจารณาว่าเป็นอาวุธชนิดใดได้  แล้วก็รายงานไปที่ ศอย.  ซึ่งจะต้องวัดมุมย้อนกลับไปในแผนที่   พิจารณาว่าน่าจะเป็นบริเวณใด  หากมีอยู่ในบัญชีเป้าหมายก็ว่ากันตามโผ ที่ทำไว้แล้ว     หากเป็นที่ใหม่ ก็หาหลักฐานยิงกันใหม่ ไม่ยาก แล้วก็ยิงกลับไปบ้าง แต่ยิงไม่มากเพราะไม่มีผู้ตรวจการณ์ให้   เขาก็มักจะหยุดยิง   แต่การหยุดยิงนั้น  อาจจะเป็นเพราะเรายิงถูก หรือ เพราะเขาหยุดของเขาเอง (เรายิงไม่ถูก) ก็ได้

          ส่วนที่ต้องแยกจากหน่วยไป ก็มีครับ  คือ ผู้ตรวจการณ์หน้า (ผตน.) และ นายทหารติดต่อ (นตต.)    เช่น  ภูแก้ว ที่ถ่ายภาพทุ่งไหหินนั่นแหละครับ   เป็นนายทหารติดต่อของ ร้อย.ค.     ภูมิ่ง  รอง ผบ.พัน.บีเอ ๖๓๖ ให้ไปเป็น นตต.  ประจำ บีซี ๖๐๓   ที่บ้านโตน ใกล้ฐานมัสแตง   จึงมีโอกาสเดินในทุ่งไหหินมากกว่าผมซึ่งมักต้องอยู่ประจำใน ศอย.  หรือ อยู่ภายในที่ตั้งยิง    แต่ก็เคยเดินทางไปประสานงานและแลกเปลี่ยนข่าวสารกับ ฐานมัสแตง และหน่วยในพื้นที่ บ้านโตน และ ลาดห่วง  แต่ไม่เคยเห็นไหหิน ครับ   เสียท่าว่ามาอยู่ทุ่งไหหินตั้งหลายเดือน นะครับ

 

ที่ปรึกษาทางทหาร

          นอกจากกำลังพลของหน่วยเราเองแล้ว  ยังมีเจ้าหน้าที่ติดต่อ หรือที่ปรึกษาทางทหารประจำ ทชล.๒  มาเยี่ยมเยียนเราทุกวัน  และจะเดินทางไปยังที่ตั้งยิงปืนใหญ่ต่างๆ   เพื่อรวบรวมข้อมูลไปราบงานศูนย์ปฏิบัติการร่วม - Joint Operation Center  JOC  ทุกวัน   มีอยู่ ๒ คน ผลัดเปลียนกันมา  คนที่คุ้นเคยกับพวกเรา ใช้ชื่อรหัสว่า Mine 2 B   อีกคน ชื่อ  Fritz

          ในช่วงที่มาสร้างที่ตั้งยิงใหม่ๆ เมื่อเขาถามถึงข้อขัดข้อง ผมบอกว่าเราต้องการกระสุนปืนใหญ่เพิ่มเติม เพราะที่มีอยู่นี้ไม่ถึงสองร้อยนัด   เขาก็รับว่าจะจัดการให้  อีกสักสัปดาห์หนึ่ง ก็ไม่เป็นผล  กระสุนของเราไม่ได้เพิ่มขึ้น  เขานำมาให้ในจำนวนเท่าๆ กับที่เรายิงออกไป    จำนวนที่มีอยู่ในแต่ละวัน แทบไม่เปลี่ยนแปลง    ผมก็เรียนให้ ภูเวียง ผบ.ร้อย.ป.  ทราบและ แจ้งให้ที่ปรึกษาคู่นี้ทราบอีก  ก็ได้ผล  .  .  .  เช่นเดิมอีก   ต้องอาศัยฝีปาก ภูมิ่ง   รอง ผบ.บีเอ  ๖๓๖   ยอดกระสุนเราก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง       แต่ . . .  ไม่เป็นไร มีภารกิจเราก็ยิงไปตามความเหมาะสม    ยิงกันไป ยิงกันมา   น่าเสียดายไม่มีใครได้ถ่ายภาพการปฏิบัติงานในที่ตั้งยิงไลอ้อน เอาไว้เลย  มีแต่ภาพราวกับไม่ได้ไปรบ ยังงั้นแหละครับ

 

หรือว่า  .  .  .  เขาปรับการยิง

          เรื่องข้าศึกยิงปืนใหญ่เข้ามาครั้งละ ๒ - ๓ นัดนี่ เราเคยคุยกันว่า   เขาน่าจะ ปรับการยิง คือยังไม่หวังผลในการทำลายนัก ยิงเพื่อเตรียมหาหลักฐานยิงเก็บเอาไว้ก่อน    เมื่อได้หลักฐานยิงที่ยิงถูก แล้ว  ถึง วันจริง จะได้ยิงเราไม่ผิดพลาด  หรือ ยิงให้ถูกได้เร็วขึ้น  

 

Raven 20

          ที่เรายิงเขานั้นก็มีมากอยู่  เป็นไปตามคำขอยิงของทหารราบ คือ บีซี ต่างๆ บ้าง  หน่วยของ ทชล. ๒ บ้าง     มีอยู่ ครั้งหนึ่ง  

          เมื่อวันที่  ๕ ตุลาคม   เป็นคำขอยิงจาก ผู้ตรวจการณ์ทางอากาศ  ใช้ชื่อว่า Raven 20   ขอยิงเป้าหมาย อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ"ไลอ้อน"  ระยะประมาณ ๑๓ กม.  บอกลักษณะเป้าหมายว่าเป็นบังเกอร์   เรายิงเป้าหมายนี้อยู่นานสักชั่วโมงเศษๆ  จึงจบภารกิจ  เขาได้แต่บอกว่า ถูกเป้าหมายดีมาก เท่านั้นเอง

          ในวันรุ่งขึ้น Mine 2 B  มาถึงแต่เช้า  (ประมาณ เกือบ  ๑๐ นาฬิกา)  หัวร่อร่าเข้ามาหาพวกเรา ในห้องอาหาร  (เพราะยังไม่มีภารกิจยิง  และยังไม่ถูกเขายิง)  บอกว่า   ภารกิจยิงของ Raven 20  เมื่อวานนี้  สามารถตรวจการณ์เห็นข้าศึกเสียชีวิต ๑๒    และคาดว่าจะมีข้าศึกเสียชีวิตที่ไม่สามารถตรวจการณ์เห็นอีกเป็นจำนวนมาก     (ขนาดตรวจการณ์ไม่เห็นนะครับ  ยังว่ามีอีกเป็นจำนวนมาก)     กับทั้งยังสามารถทำลายบังเกอร์ และคลังสิ่งอุปกรณ์ของข้าศึกให้เสียหายพังพินาศเป็นจำนวนมาก  (อีกแล้ว) 

          ดูเหมือนจะเป็นภารกิจที่ได้รับทราบผล อย่างชัดเจน  . . .  แต่ไม่มีภาพให้ชมอย่างชัดเจนนะครับ

 


 

เครื่องบินตรวจการณ์ แอล - ๑๙    ที่ใช้ตรวจการณ์ทางอากาศด้วย

 

 

 

 

 

ทุ่งไหหิน 

  ที่ตั้งยิง   LION  อยู่ที่วง (ค่อนข้างกลม) สีน้ำเงิน    เป้าหมายที่   Raven 20 ขอให้ยิง  คือ  กากบาทสีแดง  ๓ เป้าหมาย  ทางขวาเกือบสุดแผนที่

 แผนที่มาตราส่วน  ๑ : ๒๕๐,๐๐๐   ๑ ช่องตาราง  เท่ากับ  ๑๐ กิโลเมตร

 

 

            ครับ . . .  ว่ากันแต่เรื่องในสนามรบกันมานาน ถึงแม้ว่ายังไม่รบกันดุเดือดสาหัสสากรรจ์ก็ตาม  เรามาเปลี่ยนบรรยากาศคุยกันเรื่องทั่วๆ ไปเสียบ้าง   แต่ก็ยังคงอยู่ในเรื่องของกิจกรรมทางการทหารนะครับ   ครับ . . .  กิจกรรมทางทหาร   ท่านว่ามี  ๓ ประการ คือ  การรบ  การสนับสนุนการรบ  และการสนับสนุนทางการช่วยรบ          หน่วยที่ทำการรบ ได้แก่ หน่วยทหารราบ และหน่วยทหารม้า ซึ่งเป็นหน่วยดำเนินกลยุทธ   แต่บางตำรานับรวมเอาหน่วยทหารปืนใหญ่เข้าเป็นหน่วยรบด้วย  โดยอ้างเหตุผลว่า  ทหารปืนใหญ่ ต้องสนับสนุนหน่วยดำเนินกลยุทธอย่างใกล้ชิด และมีส่วนที่ต้องปฏิบัติการร่วมอยู่กับหน่วยดำเนินกลยุทธ  เช่น ผู้ตรวจการณ์หน้า และนายทหารติดต่อ  เป็นต้น    แต่ผมว่า . . . จะนับหน่วยทหารปืนใหญ่เป็นหน่วยรบหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ  สำคัญที่ยิงสนับสนุนหน่วยดำเนินกลยุทธให้ แม่นยำ และ ทันเวลา       จริงไหม ครับ   ท่าน       

 

สนับสนุนการรบ - สนับสนุนทางการช่วยรบ

           เมื่อตอนที่แล้ว ได้กล่าวถึงเหล่าทหารต่างๆ และการสนับสนุนการรบ  และสนับสนุนทางการช่วยรบไว้บ้างแล้วลองมาดูเหล่าต่างๆ กันต่อนะครับ

 

ท ห า ร ช่ า ง

          ในสนามรบ   เป็นทั้งหน่วยรบ  คือรบอย่างทหารราบได้     เป็นหน่วยสนับสนุนการรบ คือ สนับสนุนทางการช่าง อันได้แก่  การก่อสร้าง ถนน สะพาน ให้ฝ่ายเราเคลื่อนที่ได้สะดวก     เมื่อฝ่ายเราจะทำการรุก หรือเข้าตี  ก็ต้องกวาดล้างทุ่นระเบิด กับระเบิด ทำลายเครื่องกีดขวางของข้าศึกที่วางไว้ เพื่อให้ทหารฝ่ายเราเคลื่อนที่เข้าหาข้าศึก หรือเข้าตีได้สะดวก   หรือไปทำลายเส้นทางการถอยหรือถอนตัวของข้าศึก เพื่อไม่ให้ถอยหนีรอดไป ก็ได้     เมื่อฝ่ายเราตั้งรับ หรือจะร่นถอย ทหารช่างก็ต้องวางทุ่นระเบิด กับระเบิด และเครื่องกีดขวางต่างๆ เพื่อขัดขวางการเคลื่อนที่ของข้าศึกไม่ให้ติดตามฝ่ายเราได้   และเป็นหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบ  คือ ทำหน้าที่ส่งกำลังบำรุง  เช่น แจกจ่ายวัสดุป้อมสนาม  ได้แก่ กระสอบทราย ลวดหนาม  ทุ่นระเบิด กับระเบิด  (ให้หน่วยไปวางเอง)  ฯลฯ  ผลิตน้ำ  และตั้งตำบลจ่ายน้ำ   ทหารช่างที่ปฏิบัติการในสนามรบนี้เราเรียก  ทหารช่างสนาม  Field Engineer

          ในที่ตั้งปรกติ หรือ ในค่าย   ทหารช่างจะมีหน้าที่ดูแล เรื่องสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา ถนนหนทาง การกำจัดขยะมูลฝอย และสิ่งปฏิกูล  การรักษาความสะอาด  การก่อสร้าง ซ่อมแซมบูรณะอาคาร  การรถไฟทหาร   เราเรียกทหารช่างพวกนี้ว่า  ช่างโยธา  Post Engineer

           ทหารช่างมีงานมากมายไม่ได้หยุดหย่อนทั้งกลางวันกลางคืน   มีข้อควมที่จะทำให้เห็นภาพของทหารช่างว่าทำงานหนักเพียงใดได้ชัดเจนคือ  ทูเดย์ - เทดิน    ทูไนท์ - ไถดิน    มอร์โรว์ - โม่หิน

          ทหารช่างไทย ในกองทัพสมัยใหม่มีส่วนสร้างความเจริญให้บ้านเมืองเป็นอันมาก   เช่น การสร้างถนนหนทาง   ในอดีต โครงการใหญ่มากของชาติ  ซึ่งถ้าเป็นสมัยปัจจุบันก็เรียกว่าเป็น Mega Project    เช่น  การสร้างทางรถไฟ  และกิจการรถไฟ   การสร้างสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ ฯลฯ   ก็ทหารช่างนี่แหละครับดำเนินการหรือไม่ก็เป็นผู้อำนวยการสร้าง    

 

 

 

การก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือ 

อุโมงค์ขุนตาน  >

 

 

ขวา    เสด็จในกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินทรงตรวจการก่อสร้าง

 


 

 

 

  สะพานพระราม ๖  

 

 

 

 
 

สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์

 

 

ครับ . . . ทหารช่างไทยที่ปรีชาสามารถ วางรากฐาน และสร้างความเจริญรุดหน้าทั้งในกิจการทางทหาร และพลเรือนหลายๆ ด้าน  ตราบเท่าทุกวันนี้ และ จะก้าวหน้าต่อไปได้ไม่หยุดยั้ง เป็นที่ยกย่องเทอดทูนของทหารไทยและวงการต่างๆ อย่างกว้างขวาง    คือ . . .

 

 


 

พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร  กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน

 

E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E   E

 

ท ห า ร สื่ อ ส า ร   

          เป็นเหล่าใหม่ แยกออกจากเหล่าทหารช่าง   เป็นหน่วยสนับสนุนการรบ เมื่อจัดการให้หน่วยในสนามรบติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เรียกว่าการสื่อสารทางยุทธวิธี     เป็นหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบ เมื่อทำหน้าที่ส่งกำลังบำรุง เช่น การส่งกำลังชิ้นส่วนซ่อม การซ่อมบำรุงเครื่องมือสื่อสาร   

          การสื่อสารมีหลายวิธี และเครื่องมือมากมาย เช่น การนำสาร วิทยุ ทางสาย โทรศัพท์ โทรเลข โทรสาร ฯลฯ  ยิ่งในสมัยปัจจุบัน มีวิธี และ เครื่องมือที่พัฒนาไปตามเทคโนโลยีอีกหลากหลาย เรายิ่งเห็นความสำคัญของการติดต่อสื่อสารมากยิ่งขึ้น   และพวกเราทุกคนต้องเคยสื่อสารมาแล้วไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง และต้องใช้เครื่องมือชนิดใด ชนิดหนึ่ง      ครับ  . . .  การที่ท่านได้อ่านข้อความของผมนี้ ก็เป็นการติดต่อสื่อสารกันด้วย  นะครับ . . .  

เหล่าทหารสื่อสารมีความภาคภูมิเหล่าว่า 
. . . 

สื่อสาร  คือ  เสียงของผู้บังคับบัญชา      Voice  of  Commander 

   รวดเร็ว     แน่นอน     ปลอดภัย

เทอดทูนเสด็จในกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นองค์บิดาเหล่าทหารสื่อสาร

 

 

 

พระอนุสาวรีย์ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร  กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน

ประดิษฐาน ณ กรมทหารสื่อสารที่ ๑   ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน   กระทุ่มแบน  สมุทรสาคร

 

S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S   S

         

          วันนี้ว่ากันอีก ๒ เหล่าก่อน นะครับ   และค่อยๆ คุยกันไปตามแต่จะนึกได้     ไปดูชีวิตหรือกิจวัตรในทุ่งไหหินกันหน่อยนะครับ

 

ชีวิตทหารปืนใหญ่ในสนามรบ          

          วันหนึ่งๆ  ก็ได้ยินแต่เสียงยิงปืนใหญ่  บางวันถูกยิงจึงได้ยินเสียงระเบิดบ้าง   แต่กระสุนมักจะตกห่างจากที่ตั้งยิงของเรา ราวๆ  ๒๐๐ เมตร  ไม่เคยตกในขอบเขตที่ตั้งยิงเลย     ชุดวิเคราะห์หลุมระเบิดจึงไม่ได้ออกไปตรวจวิเคราะห์หลุมระเบิดอย่างที่ว่า   ได้แต่มาพิจารณาร่วมกันในแผนที่ ว่าน่าจะมาจากกลุ่มเป้าหมายใดในบัญชีเป้าหมาย แล้วก็ ยิงกลับไปบ้าง        หากว่างจากภารกิจยิงก็พิจารณาภูมิประเทศจากแผนที่  จนเคยมีพรรคพวกถามว่า ดูเส้นทางโตน (หนี-ถอนตัว) หรือไง  

          นอกจากงานในหน้าที่แล้ว การใช้ชีวิต กิน อยู่ หลับ นอน ก็คล้ายๆ กับชีวิตประจำวันทั่วไป  ระหว่างที่ยังไม่รบกับหนักนี้   ก็มีเรื่องที่พอจะจำได้มาเล่าบ้างครับ  

 

. . . สนุก . . . ราวกับตลาดนัด

          เรื่องอาหารการกิน วงรอบส่งอาหารสดทุกสามวัน  เมื่อถึงวงรอบอาหาร  เจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งกำลับำรุงของกองพัน/กองร้อย ก็นำอาหารสดบรรจุเข่ง นำไปรอ ฮ. ที่สนาม ฮ ซึ่งอยู่ในสนามบินล่องแจ้ง  คอยยกแผ่นป้ายบอกชื่อ Chopper Pad  ของฐานที่เราต้องการให้เขาเอาไปส่ง   เมื่อ ฮ. ลงจอด   ก็ยกของขึ้นให้เรียบร้อย     ต่อจากนั้นนักบินเขาจัดการ (ไม่ต้องจัดคนไปด้วย)     เมื่อใกล้จะถึง   นักบินจะวิทยุเรียกฐาน (Chopper Pad)  นั้น    ฐานก็จัดเจ้าหน้าที่มารับ    เมื่อรับแล้วก็แจกจ่ายต่อไปถึงระดับหมู่   ไปประกอบอาหารกันเอง  เพื่อให้ถูกปากถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด    สูทกรรมหุงข้าวให้เป็นส่วนรวม   และปรุงอาหารให้บรรดา หัวหน้า เท่านั้น    ทั้งนี้ เพื่อให้หัวหน้าทั้งหลายจะได้ตั้งหน้าตั้งตารบเพียงอย่างเดียวไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน   คือ ถ้าเขาไม่ทำให้กิน ก็ . . . อด       ไอ้ตอนที่ แจกจ่ายต่อไปนี่ซีครับ . . . สนุก . . .  ราวกับตลาดนัด   เพราะตามปรกติ  ทุกคนจะอยู่ที่ส่วนของตัว  หากจะไปพบปะพูดคุยกันก็ไม่เป็นกลุมใหญ่  แต่ตอนที่มา รับอาหาร นี่แต่ละส่วน ส่งคนมา ๒ - ๓ คน ช่วยกันขนกลับไป ก็เป็นที่พบปะพูดคุยกันมากหน้าหลายตาหน่อย         

          นอกจากอาหารแล้ว  ฮ.เที่ยวนี้จะมีสิ่งที่ทุกคนในสนามอยากได้มากที่สุด  ครับ . . . จ ด ห ม า ย   เพราะเป็นวิธีการสื่อสารชนิดเดียวที่เป็นเครื่องยืนยันว่าเรายังสามารถติดต่อกับทางบ้านได้  หรือติดต่อกับใครๆ ก็ได้   และเขา (ไม่รู้ใคร) กำหนดให้ ตรวจจดหมายทุกฉบับทั้งที่ส่งเข้ามา และส่งออกไปจากหน่วย  ที่ไลอ้อนนี้ ภูเวียง  ผบ.ร้อย.ป.๑๕๕  มอบให้ ภูน้อย ผู้บังคับหมวดระวังป้องกัน ทำหน้าที่นี้

 

ฉันละปวดกระบาลฉิบหายเลย

          วันหนึ่ง ในเวลาอาหารเย็น ภูน้อย เดินเข้ามาในที่รับประทานอาหาร ทักทายจ่ากองร้อยซึ่งคอยดูแลห้องอาหารแบบอารมณ์ดี ว่า  "จ่าเนกพล   ฉันละปวดกระบาลฉิบหายเลย"      ทำเอาจ่ากองร้อยคนขยันงงว่าไปทำอะไรให้ภูน้อย  จนปวดกระบาล

          มันก็มาจากการตรวจจดหมายนั่นแหละครับ    

          เรื่องมันมีอยู่ว่า   "เจ้าเบียบ"พลปืนเล็กในหมวดระวังป้องกันของภูน้อยนั่นแหละ   เคยส่งเบี้ยเลี้ยงส่วนหนึ่งไปให้แม่ ที่จังหวัดหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งจ่ากองร้อยก็ดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของ"เจ้าเบียบ"มาหลายเดือนแล้ว  อยู่มา "เจ้าเบียบ" ต้องการให้จ่ากองร้อยส่งเบี้ยเลี้ยงส่วนที่เคยให้แม่   เปลี่ยนไปให้ภรรยา ซึ่งก็อยู่ในอำเภอเดียวกันนั่นแหละครับ  ไม่ทราบว่าจ่ากองร้อยผิดพลาดอย่างไร ยังคงส่งไปให้แม่เช่นเดิม   ภรรยา "เจ้าเบียบ" ก็คงจะเขียนจดหมายมาต่อว่า     "เจ้าเบียบ"  ก็เขียนไปบอกภรรยาว่า ฉันก็บอกจ่ากองร้อยแกแล้วว่าให้ส่งมาให้เอ็ง ไม่รู้ว่าทำไมแกยังส่งไปให้แม่อีก ฉั น ล ะ ป ว ด ก ร ะ บ า ล ฉิ บ ห า ย  เ ล ย       ภูน้อยเล่า   พวกเราจึงได้ทราบที่มา และเป็นวลีติดปากกันจนจะถือเป็น วาทะแห่งไลอ้อน ก็ยังได้

 

อาหารเช้าสำคัญที่สุด

         โดยปรกติพวกเรามักจะนอนกันดึกๆ และตื่นช้าหน่อย เพราะอากาศหนาว  แต่ผมตื่นเช้าเป็นปรกติอยู่แล้ว ผมว่าอากาศเช้าๆ สดชื่นดี   อาหารเช้านั้นไม่ค่อยสนใจกัน แต่มื้อกลางวันเร็วหน่อย  ไปยึดยาวกันตอนมื้อเย็น      ประมาณ  ปลายเดือนตุลาคม    ฝ่ายเราต้องการสร้างที่ยิงใหม่ ให้สนับสนุน ฝ่ายเราที่บริเวณภูเก็ง และ ที่ตั้งยิงคิงคอง ได้   จากการพิจารณาบนแผนที่แล้ว คณะผู้บังคับบัญชาก็เลือกภูแท่น เป็นที่ตั้งยิงใหม่ที่ว่านี้  ใหม่แต่ที่ตั้งยิงนะครับ  แต่ไม่มีปืนใหญ่มาเพิ่มเติมใหม่  ก็ต้องถอนปืนใหญ่ ขนาด  ๑๕๕ มม. ไปจาก"ไลอ้อน"  ๒ กระบอก    เมื่อเลือกแล้วก็ต้องไปตรวจภูมิประเทศจริง      วันหนึ่ง Mine 2 B  ก็มาชวนภูเวียง  ผบ.ร้อย.ป.๑๕๕  ไปร่วมตรวจภูมิประเทศ    ภูเวียง ไว้วางใจผมมาก เลยให้ผมไปแทน    เราเดินทางจากไลอ้อนด้วยเฮลิคอปเตอร์   สิบเอ็ดนาฬิกา กว่าๆ ซึ่งคาดว่าจะกลับมารับประทานอาหารกลางวันได้ทัน  หรือหากล่าช้าไปบ้าง เขาก็จะแบ่งเก็บเอาไว้ให้

          การตรวจภูมิประเทศเสร็จตามคาด   Mine 2 B  ได้รับคำสั่งให้กลับล่องแจ้งโดยด่วน  บอกผมว่าเขาต้องรีบไป  ให้ ฮ. ส่งผมที่ฐานทหาร ทชล.๒ แห่งหนึ่ง   และสั่งให้ ฮ.ลำอื่นมารับผมไปส่งที่"ไลอ้อน"อีกที   เขาส่งผมไว้ ประมาณ เที่ยงครึ่ง  ผมรอสักครึ่งชั่วโมง  ทหารแม้วก็ชวนกินข้าวด้วย   ปรกติผมเป็นคนกินง่าย นอนง่าย อยู่แล้ว    แต่วันนั้น พอได้กลิ่นอาหารเพื่อนนักรบด้วยกันแล้ว  ยอมทนหิวต่อไปดีกว่า  กินแต่น้ำในกระติกที่ติดตัวมาเท่านั้นเอง    กว่า ฮ.จะมารับผมก็ประมาณ ๑๔๓๐   กลับ  ถึง"ไลอ้อน" เกือบบ่าย ๓ โมง   ได้รับประทานอาหารเช้า เอาบ่าย ๓ โมง

          นับแต่นั้นมา ผมเลยต้องรับประทานอาหารเช้าให้อิ่มไว้ก่อน  เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะทำให้พลาดมื้อกลางวันไปก็จะได้ไม่เป็นไร  เพราะได้ตุนมื้อเช้าไว้มากแล้ว   . . .  นี่แหละครับ ผมจึงว่า  . . .  อาหารเช้าสำคัญที่สุด . . .     

 

ภูแท่น    Panther

          ในเดือนพฤศจิกายน  บก.สิงหะ ก็สั่งให้   บีซี ๖๑๐ ยึดภูแท่น    บีเอ ๖๓๖ จัด ร้อย.ค.๔.๒ ไปสร้างที่ตั้งยิงใหม่ ชื่อ  Panther   มี ปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕ มม. และ ๑๐๕ มม. อย่างละ ๒ กระบอก  กับ ค.๔.๒ นิ้ว อีก ๔ กระบอก  นับเป็นที่ตั้งยิงที่มีอำนาจการยิงมากโขอยู่    เมื่อ ร้อย.ค.๔.๒  ซึ่งเป็นทหารราบได้รับอาวุธปืนใหญ่มากเช่นนี้    บีเอ ๖๓๖  จึงต้องจัดกำลังพลที่คุ้นเคยกับปืนใหญ่จากกองร้อยกองบังคับการและบริการ  ให้ช่วยราชการในร้อย.ค.๔.๒  เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

          เมื่อ บีซี ๖๑๐  ยึดที่มั่นได้เรียบร้อย ก็ถึงคราวของ บีเอ ๖๓๖ บ้าง  

         

 

 

 

 

 

 

 

 ซ้าย    เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง ชีนุค  CH 47   ใช้เคลื่อนย้ายปืนใหญ่ทางอากาศ   สามารถเคลื่อนย้าย      ป.ขนาด ๑๕๕ มม.ได้ครั้งละ ๑ กระบอก  ป.ขนาด ๑๐๕ มม.ได้ครั้งละ ๒ กระบอก     

ขวา    ฮล.๔๗ กำลังเคลื่อนย้าย  ปืนใหญ่ขนาด ๑๕๕ มม.  เอ็ม ๑๙๘

 

 

การเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ในพื้นที่ ทชล.๒  ต้องใช้การเคลื่อนย้ายทางอากาศเป็นส่วนมาก  เฮลิคอปเตอร์ที่สามารถ ยกหิ้ว ปืนใหญ่ได้  และเคยเห็นในทุ่งไหหิน มี ๒ แบบคือ  Chinook  CH - 47 และ เจ้ายักษ์เขียว  Jolly Green Giant  ดังภาพล่างนี้

 

 

 

         ครับ . . . กว่าจะเคลื่อนย้ายได้เรียบร้อยก็ตกราวๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน หรือต้นเดือนธันวาคม  ตามแผนของบก.สิงหะสั่งการให้แพนเธอร์เปิดภารกิจยิงให้ได้ราวๆ ปลายเดือนธันวาคม  คงจะเป็นเพราะ ทาง "สิงหะ" ต้องการรักษาความลับ ไม่ให้ฝ่ายข้าศึกทราบว่ามีปืนใหญ่ที่ ภูแท่นอีกแห่งก็เป็นได้

 

          การวางกำลังของฝ่ายเราในทุ่งไหหิน ใน ธันวาคม  ๒๕๑๔    จึงเป็นดังนี้

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ซ้าย - บริเวณ ภูเก็ง - สนามบินเมืองพั้น ("คิงคอง"และ"แพนเธอร์")                                           ขวา - บริเวณ บ้านโตน - ภูเทิง ("มัสแตง"และ"ไลอ้อน")

 

 

 

          ครับ . . . ที่มั่นทั้งหลายเหล่านี้คงทำให้ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการจาก "สิงหะ" มั่นใจว่า   ฝ่ายเราจะสามารถรักษาทุ่งไหหินไว้ได้ตลอด ฤดูหนาว  ๒๕๑๔   ตลอดถึง  ฤดูร้อน  ๒๕๑๕   ตามนโยบายของหน่วยเหนือ  

          โดยปรกติแล้ว "สิงหะ" จะจัดให้มีการประชุมผู้บังคับกองพัน เป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ ผบ.ฉก.วีพี. ฝ่ายอำนวยการ และผู้บังคับกองพันในสนาม จะได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนข่าวสาร ความคิดเห็น และปราสานงาน ซึ่งกันและกัน  และ   ผบ.ฉก.วีพี.สั่งการหรือให้แนวทางในการปฏิบัติ  ตามที่ได้รับคำสั่ง หรือ แนวทางจากหน่วยเหนืออีกทอดหนึ่ง

          ในเดือนพฤศจิกายน  ผบ.ฉก.วีพี.มีดำริว่า หากจัดการประชุมขึ้นที่หน่วยในพื้นที่  จะทำให้ฝ่ายอำนวยการ ของ"สิงหะ" ได้เห็นภูมิประเทศจริง    และประสานแผนหรือประสานการปฏิบัติกับหน่วยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ได้รับทราบปัญหาข้อขัดข้องที่แท้จริงของหน่วยเพื่อนำไปพิจารณาแก้ปัญหาให้ต่อไป   ทั้งยังเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทหารเสือพรานทั่วไปอีกโสดหนึ่งด้วย 

          จึงได้จัดให้ประชุม ประจำ พฤศจิกายน ขึ้นที่ฐานมัสแตง    และภูมิ่ง  รอง ผบ.พัน บีเอ ๖๓๖ ซึ่งต้องไปประชุมแทนภูมั่น - ผบ.พัน  (ซึ่งนำกองร้อยปืนใหญ่ขนาด ๑๐๕ มม. ไปปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้ - ปากเซ)  ได้ให้ผมร่วมเดินทางไปประชุมที่"มัสแตง"ด้วย 

          ในที่ประชุม แสน  ผบ.ฉก.วีพี. ได้สั่งการในที่ประชุมว่าการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธันวาคม ๒๕๑๔  จะไปประชุมกันที่ "คิงคอง" ในปลายเดือน แต่ผมจำวันที่แน่นอนไม่ได้  คลับคล้ายคลับคลาว่าจะไปส่งท้ายปีเก่ากันที่ภูเก็ง ประมาณนี้นะครับ      ก็ให้รู้สึกดีใจอยู่ครามครันว่าจะได้ไปศึกษาภูมิประเทศที่ภูเก็ง           และคืนนี้ผมค้างที่"มัสแตง" กับฟื้น เพื่อนรักมากตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนฯ มาเป็นผู้บังคับหมวดระวังป้องกัน บีเอ ๖๓๕ อยู่ที่"มัสแตง"นี้  กับภูแก้ว นายทหารติดต่อ บีเอ ๖๓๖ ซึ่งมาปฏิบัติภารกิจที่ บีซี ๖๐๓  และนัดกันว่า   เดือนหน้าจะไปประชุมที่ภูเก็งด้วยกันอีก

 

 

 

 

เหตุการณ์ต่อไป   . . . ลาแล้ว . . . ทุ่งไหหิน

เหตุการณ์ต่อไป   . . . ลาแล้ว . . . ทุ่งไหหิน

เหตุการณ์ต่อไป   . . . ลาแล้ว . . . ทุ่งไหหิน

 

 

 

 ครับ . . . รอ . . .

 

ป ร ะ ชุ ม ส่ ง ท้ า ย ปี เ ก่ า  ๒ ๕ ๑ ๔  กั น ที่ "คิ ง ค อ ง" ภู เ ก็ ง

 

เชิญท่านที่ติดตามอ่าน ไปพบกันที่ภูเก็งเดือนหน้า นะ ครับ ท่าน




ประวัติศาสตร์สงคราม กรีก โดย สัมพันธ์

อเล็กซานเดอร์มหาราช : สู่ตะวันออก
อเล็กซานเดอร์มหาราช : เริ่มลมเหนือ
สงคราม กรีก - กรีก
สงคราม กรีก - เปอร์เซีย



1

ความคิดเห็นที่ 1 (504)
avatar
หน่อง
จากแผนที่ข้างบน ช่วยบอกได้ไหม ว่าทุ่งไหหินอยู่ส่วนไหนของแผนที่ เพราะเพิ่งกลับมาจากทุ่งไหหิน
ผู้แสดงความคิดเห็น หน่อง (neenawat-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-07 21:30:26 IP : 114.128.18.67


ความคิดเห็นที่ 2 (505)
avatar
สัมพันธ์

คุณหน่องครับ

             ภาพในตอนนี้เป็นการวางกำลังของหน่วยทหารเสือพราน บริเวณ ภูเก็ง - สนามบินเมืองพั้น  และ บริเวณ บ้านโตน - ภูเทิง   ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทุ่งไหหินครับ

          หากจะดูทุ่งไหหิน  เชิญดูในตอน  . . . ผ ม ยั ง จำ ค ว า ม รู้ สึ ก นั้ น ไ ด้ จ น ทุ ก วั น นี้ . . .  ซึ่งเหมือนกับจะเป็นการโหมโรงของตับ  "คนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว"     จะแสดง ที่ตั้งของทุ่งไหหิน  ในลาวภาคเหนือ  

          ในตอน   สู่ ล่องแจ้ง เขาสูง    แสดงแขวงเชียงขวางในพระราชอาณาจักรลาว

          ส่วนตอน ถึงแล้ว . . . ทุ่งไหหิน   แสดงทุ่งไหหินเป็นภาพกว้าง  และแสดงที่ตั้ง  เมือง  ตำบล  ภู  และลำน้ำ ต่างๆ  ค่อนข้างมาก

          เชิญลองดูนะครับ   และ ถ้าอ่านทั้ง "ตับ" จะมีรสชาดกว่า       ขอบคุณ และสวัสดีครับ

                                                                                                                                                     ภูสิน

                                                                                                            

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สัมพันธ์ วันที่ตอบ 2010-03-08 16:03:30 IP : 125.25.149.251


ความคิดเห็นที่ 3 (563)
avatar
คนภูเก้า(โนนสัง)
ผมสนใจเรื่องราวของสงครามในลาวมาโดยตลอดติดตามจากสารคดี หนังสือพ็อกเก็ตบุค ตั้งแต่สมัยสยุมภู ทศพลเนื่องจากเป็นเหตุการณ์ร่วมยุคสมัย ของคนวัยห้าสิบกว่าที่ได้เห็นและได้เกี่ยวข้องกับทั้งตัวบุคคลและสถานที่ต่างๆในสงครามในลาว เห็นภาพของทหารพรานที่ผมยามและหน้าตา***มเกรียมดุดัน และสว่นใหญ่จะเป็นคนหนุ่มฉกรรจ์ในหมู่บ้านที่มีประวัติค่อนข้างโชกโชน ได้อ่านเรื่องราวในเว็บไซต์นี้แล้ว รู้สึกชอบมาก อ่านไม่เคยเบื่อเลย เพราะเป็นเรื่องจริงที่ผู้เล่า ได้ถ่ายทอดออกมา เป็นเสมือนอยู่ในช่วงเหตุการณ์ของสงครามในช่วงนั้น มีทั้งตื่นเต้น และได้รับความรู้ประสบการณ์ของทหารหาญของไทยที่เสียสละความทุกข์ยากทุกอย่างเพื่อ ความมั่นคงของชาติด้วย
ผู้แสดงความคิดเห็น คนภูเก้า(โนนสัง) (k-dot-apirat-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-08 16:27:30 IP : 125.26.94.244


ความคิดเห็นที่ 4 (564)
avatar
samphan

          ขอบคุณครับ

          ตับนี้ส่วนใหญ่เขียนจากความจำ  ที่ได้อยู่ในเหตุการณ์  และบันทึกส่วนตัว    ส่วนที่ไม่ได้เกิดกับตัวเอง  อ่านดูก็ทราบครับ เพราะผมจะบอกไว้ 

          เรื่องการรบในสมรภูมินี้ปัจจุบันมีหลายท่านได้เขียน  และดูจะเปิดเผยกันมากขึ้น  แต่ผมคงยืนยันว่า  ไม่มีกองทหารไทยในพระราชอาณาจักรลาว  มีแต่คนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว 

          ได้อ่านความคิดเห็น ของคุณคนภูเก้าแล้ว  เลยถือโอกาสลงแผนที่บริเวณทุ่งไหหินเสีบเลย  ขอบคุณอีกครัง  คงได้คุยกันอีกนะครับ

 

                                                                                                                                  ภูสิน

ผู้แสดงความคิดเห็น samphan (samphan_chaeng-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-06-08 17:07:06 IP : 124.121.35.49


ความคิดเห็นที่ 5 (567)
avatar
นักรบรับจ้าง

คุณภูเก้า โนนสัง หนองบัวลำภู

     อ่านทุกตับแล้วจะเข้าใจอะไรๆดีขึ้น  จริงอยู่เสือพรานมาจากหลายกลุ่ม  หลายคณะ   ในสายตาของชาวบ้าน(สมัยนั้น)

มองพวกเราเหมือนพวกเดนมนุษย์  อันธพาล  ไม่เว้นแม้กระทั้ง สารวัตรทหาร  ตำรวจ  ไปที่ไหนมองพวกเราด้วยสายตา

ดูหมิ่นดูแคลน  ยิ่งช่วงปลายปี 2514 - ต้นปี2515  ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเราถอยร่น(ส่วนมากจะเรียกว่าแตก)มาจากทุ่งไหหิน

และได้มาพักผ่อนที่เมืองไทยคนละ 10 วัน  สายตามองพวกเราเหมือนตัวอะไรชนิดหนึ่ง  บางคนไม่ยอมให้ลูกสาวที่เป็นแฟนเรา

คบหาพูดคุยด้วย  ยิ่งเห็นพวกเราเดินเข้าตลาดเป็นกลุ่ม(ประมาณ 7-8 คน) ร้านค้าและซ่องโสเภณีรีบปิดทันที  เห็นแล้วก็เกิดโทสะ

อยากจะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ  แต่...ก็ยับยั้งใจได้   ขอบคุณมากที่คุณภูเก้าสนใจเรื่องราวของพวกเรา  โทรคุยกันก็ได้นะครับ  ไม่ใกล้

ไม่ไกล  แถวกุดฉิม  หนองแวง  กุดคอเมย  ผมรู้จักหลายคน  ช่วงกลางคืน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.00 - 21.00 น. และ เสาร์ - อาทิตย์

เวลา 10.00 - 12.00 น. พูดคุยฟังเพลงกับผมได้ที่ F.M.91.00 Mhz และ F.M.97.50 Mhz(กุดน้ำใสRadio) สองคลื่นพร้อมๆกัน

โทร.สถานี 043 -373452 มือถือ 081- 0589497  อย่าลืมโทร.มาคุยกันได้โดยเฉพาะเรื่องราวในสมรภูมิลาวและหรือชายแดน จ.น่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น นักรบรับจ้าง (weerapol_p-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-10 11:05:55 IP : 125.26.148.9



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker