ทรภ.2 จัดสร้างพระอนุสาวรีย์ “เสด็จเตี่ย” บนเกาะสมุย
avatar
หมาป่าดำ


 ทัพเรือภาคที่ 2 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จัดสร้างพระอนุสาวรีย์ และศาลพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ยซึ่งถือเป็นองค์ "บิดาของทหารเรือไทย" ประดิษฐาน ณ แหลมโจรคร่ำ สถานีเรือสมุย ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

การจัดสร้างพระอนุสาวรีย์ของเสด็จเตี่ย มีจุดประสงค์เพื่อเป็นที่สักการะของผู้มีจิตศรัทธา และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน รวมทั้งเป็นสิริมงคล และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานที่สถานีเรือสมุย โดยพระอนุสาวรีย์ออกแบบโดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ปั้นแบบพระรูปหล่อโดยช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร
        
                  พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า การสร้างพระอนุสาวรีย์ และศาลเสด็จเตี่ย เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณขององค์บิดาแห่งทหารเรือไทยที่มีต่อกองทัพเรือและประเทศชาติ จากการที่ทรงวางรากฐาน และพัฒนาการทหารเรือไทย ทำให้คนไทยมีความรู้ในการทหารเรือโดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างชาติ ก่อกำเนิดเป็นกองทัพเรือที่มั่นคงเข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน 
        
                  ดังนั้น ทัพเรือภาคที่ 2 จึงดำเนินการจัดสร้างพระอนุสาวรีย์ และศาลของพระองค์ท่านบนเกาะสมุย เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ และให้เป็นพระอนุสาวรีย์ที่ทหารเรือและชาวเรือตลอดจนประชาชนที่มีความเลื่อมใสศรัทธาได้สักการบูชา และเป็นที่พึ่งทางใจในการเดินเรือ และปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย
        
                  สำหรับภารกิจของทัพเรือภาคที่ 2 จะมีการวางกำลังหลักไว้ที่ฐานทัพเรือสงขลา โดยมีเรือหลวงออกปฏิบัติการในทะเลตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการจัดอากาศยานลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับศูนย์ควบคุม หรือศูนย์ปฏิบัติการของทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจตามแผนป้องกันภัยทางทะเล
        
                  ส่วนภัยคุกคามทางทะเลในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ประกอบด้วย 1.เรือประมงของประเทศเพื่อนบ้านรุกล้ำน่านน้ำเข้ามาทำประมง 2.การลักลอบขนยาเสพติด 3.การลักลอบขนสินค้าหนีภาษี โดยเฉพาะ "น้ำมันเถื่อน" 4.การเฝ้าระวังทางทะเลเพื่อป้องกันกลุ่มขบวนการที่จะขน "อาวุธสงคราม" สนับสนุนปฏิบัติการของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 5.การดูแลรักษาความปลอดภัยของ "ฐานขุดเจาะ" ซึ่งอาจจะมีแนวโน้มในการที่จะก่อ "วินาศกรรม" และ 6.การปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในทางทะเล 
        
                  ทั้งนี้ การปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือจะแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.ทัพเรือภาคที่ 1 ดูแลพื้นที่อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่ทางด้านเหนือเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา 2.ทัพเรือภาคที่ 2 จะรับผิดชอบตั้งแต่บริเวณเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ลงไปถึงด้านใต้ที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ส่วนด้านขวาจะติดกับประเทศเวียดนาม และ 3.ทัพเรือภาคที่ 3 จะรับผิดชอบในพื้นที่อันดามัน 
        
                  ด้าน พล.ร.ต.สมศักดิ์ วาณิชย์เจริญ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พระอนุสาวรีย์ดังกล่าวได้แบบมาจากแหลมสนอ่อน จ.สงขลา ซึ่งเป็นแบบที่ได้รับการอนุมัติ และได้รับความเห็นชอบจากนายช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ซึ่งเป็นแบบที่ดูแล้วมีความสง่างาม โดยพระองค์ท่านทรงชุดอุศเรน ประดับเครื่องพระราชอิสริยยศ และประดับยศพลเรือเอก ซึ่งเป็นเครื่องแบบที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว
        
                  “การที่มาตั้งประดิษฐานในพื้นที่ เราได้ดูจากทิศทางแล้วว่า หนึ่ง พระองค์ท่านจะต้องหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ และหันหน้าออกไปทางทะเล และเป็นตำบลที่ดีที่สุดแล้วในพื้นที่นี้ โดยสิ่งที่ทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องชาวเกาะสมุย รวมทั้งบริษัทห้างร้านที่ได้บริจาคเงิน รวมทั้งพระเกจิอาจารย์ใน อ.เกาะสุมย ที่ได้จัดทำวัตถุมงคลให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธามาเช่าเป็นรูปเหรียญรมดำ ทองแดง และองค์ลอย ขนาด 9 นิ้ว และ 19 นิ้ว ซึ่งขณะนี้ยอดในการเช่าบูชาอยู่ที่ประมาณ 10-15 ล้านบาท
        
                  พล.ร.ต.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณในการดำเนินการตามโครงการจัดสร้างจะใช้เงินประมาณ 23-27 ล้านบาท แต่มาดูสถานที่แล้วจะต้องมีการแก้ไข เนื่องจากเนื้อที่มีไม่เพียงพอ แต่ในส่วนของพระองค์ท่านไม่ได้ย่อแบบเลย โดยมีขนาด 3 เมตร 40 เซนติเมตร ทำเป็นรูปหล่อทองสัมฤทธิ์ งบประมาณ 3.1 ล้านบาท หากรวมแท่นด้วยแล้วอีกประมาณ 6 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนเฟสที่สองจะสร้างศาลพระองค์ท่าน และจะมีศาลาสำหรับแสดงสินค้าโอท็อป และมีสุขาบริการประชาชนที่มาท่องเที่ยว และสักการะพระองค์ท่านด้วย
        
                  พล.ร.ต.สมศักดิ์ กล่าวว่า บนเกาะสมุยยังมีฐานส่งกำลังบำรุงการปฏิบัติงานในทะเล และสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลด้วย โดยทัพเรือภาคที่ 2 รับผิดชอบพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จ.นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยต่อไปเรือที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ก็จะสามารถเข้ามาแวะรับส่งกำลังบำรุงบนเกาะสมุยได้
        
                  ส่วนพระอนุสาวรีย์ และศาลเสด็จเตี่ย หากเปิดเต็มรูปแบบแล้ว จะเปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. จึงขอเชิญชวนประชาชนมากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมทั้งรำลึกถึงคุณงามความดีที่พระองค์ท่านทรงสร้างไว้แก่ประเทศชาติ และราชนาวีไทย 
     
    ...........................
    
    (หมายเหตุ :ทรภ.2 รำลึกพระคุณ"เสด็จเตี่ย" สร้างพระอนุสาวรีย์บนเกาะสมุย : ตะลุยกองทัพโดยปัญญา ทิ้วสังวาลย์)

 

คมชัดลึก



ผู้ตั้งกระทู้ หมาป่าดำ (mistiest-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-24 03:20:23 IP : 171.4.141.91


Copyright © 2010 All Rights Reserved.