2.  จากเรื่อง Blackhawk Down
     http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538682282&Ntype=3
     ที่ผมถามถึงเรื่องเครื่องหมายที่เป็นรูปธงชาติที่ไหล่ของทหารสหรัฐฯครับ
     รบกวนเพื่อน ๆ สมาชิกกรุณาให้ความกระจ่างแก่ผมด้วยนะครับ
     ขอบคุณมากครับ

หลักการของลูก ค.คือใส่ลูกลงในกระบอก เข็มแทงชนวนจะกระแทกกับลูกปืน เกิดแรงอัดส่งกระสุนออกจากลำกล้อง กระทบแตก  เมื่อไม่มีกระบอกปืน ใช้มือกระแทกลูก ค.แรงๆ เข็มแทงชะนวนจะทำงาน ขว้างได้ในระยะไกล้ แต่ตั้งระยะ มุมยิง ไม่ได้

สรุปทำได้จริงๆครับ

ธงชาติสหรัฐอเมริกานั้น มีแถบสีน้ำเงินประดับดาวที่มุมธง มองด้านขวามุมธงจะอยู่ซ้าย มองด้านซ้ายมุมธงจะอยู่ขวาครับ กลับข้างกัน ในรูปที่เห็นน่าจะผิดข้าง หรือรูปกลับข้างดูแปลกๆ ธงไทยนั้นไม่มีมุมธง ดูซ้ายหรือขวาจะเหมือนกันทั้งสองข้าง ดูของเขาเลยแปลก ธงอเมริกานั้นเป็นแถบริ้วขาวแดง มุมธงสีน้ำเงินสี่เหลี่ยม มีดาวเท่ากับจำนวนรัฐในสหรัฐอเมริกา ธรรมเนียมติดธงที่เครื่องแบบสหรัฐใช้มาแต่คราวบุกนอร์มังดี และแต่นั้นมาสหรัฐส่งทหารไหรบทั่วโลกจึงติดธง ไทยเราเวลาไปราชการสงครามนอกประเทศในนามสหประชาชาติก็ติดธงบนเครื่องแบบเหมือนกัน

ขอขอบคุณท่าน จ่ากองร้อย ครับผมที่ยืนยันว่าทำได้  แต่ที่ผมยังสงสัยก็คือ  ชนวนของหัวรบนั้นอยู่ที่ส่วนปลายของลูก ค. 60 ไม่ใช่หรือครับ  แต่ที่ส่วนท้ายนั้นน่าจะเป็นส่วนของชนวนดินขับ  ซึ่งถ้าจะใช้ขว้างแทนการใช้ดินขับนั้น  ไม่น่าที่จะต้องกระแทกส่วนท้ายของกระสุนลงไป  นี่คือส่วนที่ผมสงสัยครับผม

ท่าน สมอเหล็ก ครับ

รูปที่ผมนำมาลงประกอบนั้น  ไม่กลับข้างแน่นอนครับ  เป็นรูปของนายทหารที่มาให้คำปรึกษาในหนังเรื่องนี้  ไม่ใช่ดาราที่แสดงในหนังครับ  และดาราที่แสดงในหนังนั้น  ก็จะมีการติดธงชาติในลักษณะนี้ทุกคนครับ

ที่ผมสงสัยก็คือ  จากในหนังที่กล่าวถึงในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น  จะติดธงคนละแบบกับที่เห็นตามรูปประกอบนี้ครับ  ผมเลยสงสัยว่า  เค้าเปลี่ยนรูปแบบการติดธงกันตอนไหนครับผม

ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ

สวัสดี คุณ Countryboy และทุกท่าน

ก่อนจะเข้าเรื่องในกระทู้นี้   ขออนุญาต Countryboy

ประเด็นที่ ๑.
จาก Saving Private Ryan
 

ค.60  คือ ปืนยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้อง 60 มิลลิเมตร

 สร้างขึ้นจากแนวความคิดของเครื่องยิงหิน  วัตถุประสงค์เริ่มแรกยิงข้ามกำแพงเมืองเข้าไปทำลายอาคาร  ขวัญ  และสังหารคนในเมือง 

ซึ่งต่างจากปืนใหญ่วิถีราบ  ที่จะใช้ยิงพังกำแพง  ประตูเมือง  หรือสังหารโดยตรง

ลูกกระสุนปืน ค.60 แบบ ต่างๆ

โดยมาตราฐานรวมจะเป็นแบบกระทบแตกแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน

ส่วนหัว  ชุดจุดระเบิด  โดยการกระทบจุดชนวนระเบิดทำงาน

ส่วนกลาง บรรจุดินระเบิดหลัก

และ ส่วนท้าย  มีเชื้อประทุจุดระเบิดนำส่ง  ลูกกระสุนให้ลอยโด่งขึ้นไปตามองศาที่ตั้งเล็ง

เหมือนจรวดหรือบั๊งไฟ เมื่อสุดกำลังส่งจะตกลง
โดยมีครีบท้ายทำหน้าที่ประคองให้ลูกกระสุนตกลงมาในลักษณะปักหัวเสมอ

ถึงจะปักหัวลงทุกครั้ง  แต่ชนวนไม่ทำงานก็มีไม่น้อย

หนึ่งต้นเหตุของการบาดเจ็บ  พิการ  และเสียชีวิต

ของผู้คนชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังบาดหมางกับเรา

โครงสร้างภายใน  ที่ผมขอให้ทำความเข้าใจเอง  เพราะชัดเจนด้วยภาพแล้ว

อุปกรณ์ชุดการทำงานขั้นที่สอง

รายละเอียดการทำงานขั้นสุดท้าย

ก็คงชัดเจนกันแล้วนะครับ

ลองคิดตามพ่อมดฮอลีวู๊ดดูซิครับว่า
เขาคิดอะไร  ยังไง  ถึงได้มีคัตนี้ออกมาให้ฮือฮากันไปทั่วโลก

ท่านใดยังมีข้อสงสัย  ขอให้คุณโรจน์เป็นผู้ตอบ  ผมขอละไวในประเด็นนี้แล้ว

แต่ผมมีบางอย่างอยากจะถามพวกท่านทุกคนที่เข้ามาร่วมสนทนากันในกระทู้นี้

ถ้าพวกเราอยู่ในกองร้อยเดียวกันทั้งหมด  ผบ.ร้อย
มอบหมายให้ท่านประจำชุดยิง  ค.60  ท่านจะแบกอะไร

ค.60  มีอุปกรณ์สำคัญ ๓ ส่วน

๑ ฐานรองยิง

๒. ขาตั้ง

๓. ลำกล้อง

หนักไม่เท่ากันเลยนะครับ

สองอย่างผมแบกไปได้ในระยะทางพอสมควร  แต่เจ้าตัวนี้ทำเอาระยะหายไปเยอะเลย
ลองดูในรูป  แล้วคิดเล่นสนุกๆครับ

ประเด็นที่ ๒
จาก Blackhawk Down

ไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็น แรงเจอร์ ในหนังเรื่องก็ใช้

 เดลต้า ก็ใช้

และนี่คือ ปฎิบัติการจริงในอิรัก 2005

Countryboy  คุณช่างสังเกตุดี  และไม่มีอะไรน่าแปลกใจ

เพราะแม้แต่อเมริกันชนยังมีคนสงสัยไม่น้อยเหมือนกัน

ถ้าถามเกี่ยวกับหนัง  หนังจะตอบได้

ถ้าถามความจริง  หนังอาจยิ้ม  แต่ไม่มีคำตอบ

หลักฐาน คือสิ่งที่ให้คำตอบแท้จริงกับทุกคนได้

Staff Sergent สมาชิก 101st Aiborne
ที่กำลังรอคิวโดดลงจากเครื่อง

ทหารหน่วยนี้ถ่ายรูปครั้งใดหันอาร์มให้กล้องด้วยความภาคภูมิใจต่อหน่วยเสมอ
จนหารูปด้านไหล่ขวาที่ชัดเจนและเป็นรูปเก่าในเหตุการณ์ได้ยากจริงๆ 

นี่ลูกน้องผู้กองมิลเลอร์  บน โอมาฮ่า

นี่ทหารอังกฤษที่เดินขึ้นหาดโกล์ดอย่างสบายไร้การต่อต้าน

 นาวิกโยธินอเมริกัน  กำลังเข้าทำลายรังปืนกลของทหารญี่ปุ่น

แอฟริกันอเมริกันในแปซิฟิควอร์

อเมริกันกับสงครามเกาหลี

ลำเลียงทหารอเมริกันที่ได้รับบาดเจ็บเพราะอาวุธทหารจีน

และนี่คือ  เวียตนาม

สมรภูมิที่สอนบทเรียนให้พี่ใหญ่รู้จักคำว่า

"พ่ายแพ้"

ขอบคุณท่านอีเกิลเรื่องเครื่องยิงลูกระเบิด

ชัดเจนครับผม

เอาไปเอามาผมเองเลยต้อง "งง"ไปด้วยเรื่องธง  ยิ่งค้นคว้าจากภาพถ่ายสงครามเดี๋ยวนี้ เห็นที่ท่านสงสัยจริงๆครับ  ขอบคุณท่านEgelที่ว่าอเมริกันชนเองยัง "งง"เหมือนกัน  ต้องลองค้นคว้าต่อเสียแล้วครับ  ได้ความอย่างไรจะแจ้งครับ

สวัสดีครับทั้งสองท่าน  พอดีผมพักไปทานข้าว  กับทำเรื่องบางอย่าง  

กำลังจะกลับมาต่อเพื่อเข้าประเด็น  ยินดีที่ได้สนทนาด้วยครับ

คำถามของคุณ countryboy

"ที่ผมสงสัยก็คือ  จากในหนังที่กล่าวถึงในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น  จะติดธงคนละแบบกับที่เห็นตามรูปประกอบนี้ครับ  ผมเลยสงสัยว่า  เค้าเปลี่ยนรูปแบบการติดธงกันตอนไหนครับผม"

ผมเห็นในหนังบางเรื่องเป็นดังที่คุณว่า  เป็นธงขนาดใหญ่ลักษณะตามภาพข้างบน 

ให้สังเกตุแสงเงา   องค์ประกอบ   คุณภาพของรูป
ประกอบการโพสตท่า  และสภาพแวดล้อมทั้งหมด  ให้ดีครับ

นี่อีกภาพ

แสงสวย  คอมโพสตดี  คุณภาพของภาพทันสมัย

พื้นถนน  สิ่งปลูกสร้าง อาวุธประจำกายที่ทหารทุกนายทราบดีว่า
มันคืออวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่ขาดไม่ได้  พิการไปสามนาย กับธงสองผืน

กับภาพนี้  ประชุมสรุปผลการรบและวางแผนรุกต่อไป

รวมพลรับบรีฟจาก ผบ. รูปนี้เห็นเครื่องแต่งกายชัดเจนมากมาย

 

และภาพนี้คือ คำตอบ

ในอเมริกาและยุโรปมีกลุ่มคนมากมายที่ยังหลงไหลในสงครามโลกครั้งที่ ๒
 
พวกเขาจะรวมตัวเพื่อทำกิจกรรม  ตามความชื่นชอบของพวกเขาเป็นระยะ

ภาพนี้ผมเพิ่งจับมาจากแบนด์ ออฟ  บาร์เดอร์

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม หนังระดับมาสเตอร์พีซ ของยอดผู้กำกับอย่าง Steven Spielberg

ไม่มีธงแบบนี้โผล่มาที่ไหล่ทหารนายไหนเลยสักคน

ถ้าถามผมว่าแล้วธงแบบนี้มีในสงครามโลกครั้งที่ ๒ จริงไหม

ผมตอบว่า เป็นไปได้ อาจมี ผบ.กองร้อย  หรือกองพันใด
มีกุศโลบายต้องการปลุกขวัญ  เสริมความกล้าหาญให้ทหารในบังคับบัญชาของตน
เลยทำธงแบบนี้มาติดให้  แนวเดียวทางกับผ้ายันต์ของทหารไทย

แต่ไม่ใช่ระเบียบปฏิบัติของกองทัพแน่นอน  ไม่งั้นเราคงเห็นกันทุกรูปแล้ว

ก่อนจะถึงประเด็นว่า  แล้วมาติดเมื่อไหร่  ติดทำไม
ขอเข้าประเด็นว่า  มันผิดปกติไหมเสียก่อน

"ไม่"

เป็นปกติของทุกคนที่ติดป้ายชื่อ  ติดไว้ให้ใครดู  ใครอ่าน

หนึ่งมิติทางขวา

กับหนึ่งมิติทางซ้าย

ถ้าแปลกกว่าน่าจะเป็นสิ่งนี้

เครื่องหมายแสดงยศนายพันเอกแห่งกองทัพบกสหรัฐอเมริกา

แล้วก็มาถึงปัญหาสำคัญว่า  ติดทำไม  เมื่อก่อนไม่เห็นต้องติด

ขอบพระคุณท่าน Eagle มากครับ

คอยคำตอบเรื่องธงที่เหลืออยู่นะครับ

มาต่อแล้วครับ คุณ countryboy

ปัญหาว่า   เริ่มติดเมื่อไร   ติดเพื่ออะไร

ตามประวัติศาสตร์   จนจบสงครามเวีตยนามในปี 1975  ก็ยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน

ผมฃอเริ่มจาก  ติดเพื่ออะไร  จะง่ายและสั้นกว่านะครับ 

ส่วนเริ่มเมื่อไหร่  เดี๋ยวมาไล่กันตามปฏิบัติการเลยแล้วกัน

เมื่อก่อนไม่ต้องติด  และติดเพื่ออะไร

ตามความคิดและแนวทางของผม  ในประวัติศาสตร์การสงครามที่ผ่านมา

เหล่านักรบผู้กล้าในอดีต

ผมเชื่อว่าพวกเรามองแวบเดียวก็สามารถจำแนกได้ทันทีว่าเป็นทหารของชาติใด

ซึ่งไม่ต่างจากทหารที่กำลังรบกันอยู่ในสมรภูมิ  
แม้ทัศวิสัยไม่แจ่มชัด  ระยะทางไกล  แสงสว่างน้อย
 เขายังสามารถแยกเพื่อนหรือศัตรูได้