คร่าว ๆ นะครับ

     1.  กระสุนแบบแตกอากาศไม่ว่าจะเป็นแบบไหน  ใช้ชนวนแบบถ่วงเวลาครับ  ซึ่งการใช้ชนวนก็มีอีกหลายแบบด้วยกัน

     2.  ปืนสเตน  กระสุนขนาด 9 มม.พาราเบลลั่ม  เป็นปืนกลมือที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการผลิต  การทำงานทำงานด้วยระบบโบล์วแบ๊ค  ทำการยิงที่ตำแหน่งหน้าลูกเลื่อนเปิด  การถอดประกอบเพื่อทำความสะอาดทำได้ง่าย  เหมาะสำหรับใช้ในสนามรบครับ  รวมทั้งจากขนาดและน้ำหนักที่กระทัดรัดของมันเองอีกด้วยครับ

http://images.google.co.th/images?hl=en&q=sten&um=1&ie=UTF-8&sa=X&oi=image_result_group&resnum=1&ct=title

ปืนกลมือสเตนมีชื่อเรียกว่า พาราเบลลั่ม ซึ่งคำนี้เป็นภาษากรีก แปลว่า พร้อมทำสงคราม หรือ เตรียมทำสงคราม คำว่า พารา แปลว่าเตรียมพร้อม หรือ พร้อมส่วนคำว่า เบลลั่ม หรือ เบลลา แปลว่าสงคราม

สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนต่อสู้อากาศยานทั้งของพันธมิตร และ อักษะ จะมีลักษณะที่เหมือนกัน คือ ยิงขึ้นไปแตกบนอากาศพร้อมกับสาดสะก็ดระเบิดใกล้กับเครื่องบิน ทั้งนี้จะมีการตั้งชนวนถ่วงเวลาเอาไว้ ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของเครื่องบิน โอกาสที่กระสุนจะยิงโดนเครื่องแบบจะๆค่อนข้างมีน้อย แต่การยิงแบบนี้จะเป็นการบีบให้เครื่องบินต้องเพิ่มความสูงเพื่อหลบให้พ้นสะเก็ดระเบิด เพราะว่าสมัยนั้น ยิ่งเครื่องบิน บินสูงเท่าไหร่ โอกาสที่จะทิ้งระเบิดพลาดเป้าก็จะมากขึ้นเท่านั้นการทิ้งระเบิดสมัยนั้น ความแม่นยำค่อนข้างน้อยมาก เพราะฉะนั้นเราถึงได้เห็นว่าทำไมเป้าหมายอย่างแค่โรงงานผลิตอาวุธ หรือ เป้าทางยุทธศาตร์อื่นๆ ทำไมต้องต้องใช้เครื่องบินเป็นสิบเป็นร้อยลำ เพื่อทำลายเป้าแค่เป้าเดียว มันไม่เหมือนสมัยนี้ที่ใช้แค่ F16 ลำเดียวกับสมาร์ทบอมแค่ลูกเดียวก็เรียบร้อย

ขอเพิ่มเติมอีกนิดนะครับ
คำว่าพาราเบลลั่ม (Parabellum)  เป็นชื่อเรียกกระสุน ขนาด 9mm และ 7mm ที่ผลิตโดยเยอรมันช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1
โดยมีหลา่ยขนาด ทั้ง 7.65x22mm และ 9x19mm ทำขึ้นเพื่อมาใช้กับปืน Luger P08 (กระสุนพวกนี้จึงมีชื่อเล่นว่า 9mm Luger)
โดยคำว่าพาราเบลลั่มจากภาษาลาตินนะครับ  ที่เขียนไว้ว่า  Si vis pacem, para bellum (If you wish peace, prepare for war)
ถ้าเอาเฉพาะ para-bellum ก็จะแปลออกมาได้ดังที่ท่านข้างบนได้ว่าไว้แหละครับ

แถม
ปืน Sten จริงๆแล้วเป็นปืนที่ค่อนข้างมีปัญหา เนื่องจากการเน้นความง่ายในการผลิตและราคาถูก  หลักๆก็คล้ายกับปืนที่ผลิตเน้นจำนวนอย่าง MP40 ของเยอรมัน คือมีปัญหาในเรื่องของความปลอดภัย  และปัญหาการป้อนกระสุน(Misfeed)ครับ

Flak ตระกูล 88 อันโด่งดัง  ส่วนใหญ่ที่จะเห็นกันมากคือรุ่น Flak 36 ครับ  การทำงานก็เหมือนท่านบนๆว่าเอาไว้แหละครับ
ถ้าใช้ยิงเครื่องบินจะใช้พวกหัวระเบิดหรือ HE (High Explosive) ส่วนยิงยานพาหนะจะใช้พวกกระสุน AP (Armour Piercing)
ตามความคิดผม ผมว่า ปืนพวก AAA เริ่มล้าสมัยแล้วในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเครื่องบิน บินได้เร็วขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ การยิงด้วยปืนที่ใหญ่ขนาดนี้ทำได้ยาก ต้องเสียเวลาในการหมุนตามเป้าหมาย แถมมีการ reload ที่ช้า  ใช้พวก AA ขนาดเล็กลง อย่างพวก auto-cannon น่าจะง่ายกว่า

 

ขอทราบวิธีการถอดปืน browning 9 มม. made in hungary ด้วยขอบคุณครับ /และอยากทราบว่าไกปืนแข็งมากแก้ไขอย่างไร