หลักการ "สานเสวนา" ที่อาจนำมาประยุกต์ใช้ในเว็บบอร์ด
avatar
โรจน์ (Webmaster)


user image

นำภาพข้อความเกี่ยวกับหลักการของการสานเสวนาจากเว็บของ สำนักสันติวิธีและธรรมมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า มาฝากกันครับ  เผื่อจะเป็นแง่คิดมาประยุกต์ใช้ในการแลกเปลี่ยนความเห็นในเว็บบอร์ดแห่งนี้ได้

นอกจากนี้ ตัวผมซึ่งมีความสนใจเรื่องการเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอยู่บ้าง ขอนำหลักเบื้องต้นที่เก็บตกจากการอ่านการฟังบ้าง นึกเองจากประสบการณ์ตรงบ้าง  มาขอทดลองเสนอเพิ่มเติม ดังนี้ครับ

1. งดใช้ความรุนแรงทางวาจาทุกรูปแบบ ทั้งทางน้ำเสียง คำหยาบคาย การประชดประชันกระแนะกระแหน ฯลฯ ในเว็บบอร์ดคงขึ้นเสียงกันไม่ได้  แต่คำในภาษาฝรั่งถ้าใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ล้วนๆ เขาถือว่าเป็นการตะโกนหรือตะคอกขึ้นเสียง (SHOUT!) ครับ

2. เอาข้อเท็จจริงเป็นพื้นฐาน ไม่มีการกุเรื่อง คิดเอาเอง กล่าวหาเลื่อนลอย ฯลฯ ถ้าเป็นเรื่องที่รับฟังมาจากคนอื่นหรือแหล่งอื่น  ต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มานั้นให้ชัดเจน

3. อย่าถกเถียงกันอกประเด็น ขัดแย้งกันเรื่องไหนก็เรื่องนั้น  อย่านอกประเด็นหรือออกทะเล  ขุดเอาเรื่องเก่าที่ควรจบแล้วมาพูดอีก  ฯลฯ ถ้ามีเรื่องต้องถกกันหลายเรื่องหลายประเด็นจริงๆ ต้องมีการลำดับความสำคัญก่อนหลังของแต่ละประเด็นให้ชัดเจน

ฝากให้ช่วยกันพิจารณาประยุกต์ใช้ครับ



ผู้ตั้งกระทู้ โรจน์ (Webmaster) (webmaster-at-iseehistory-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-03 09:50:56 IP : 203.114.104.114


1

ความคิดเห็นที่ 1 (2980627)
avatar
คนเล่าเรื่อง

หลักการสานเสวนาของสถาบันพระปกเกล้านี่ก็ดีอย่างยิ่งแบบในอุดมคตินั่นแหละครับ แต่การนำมาใช้ในสังคมมนุษย์เดินดิน อุจจาระเหม็น ที่ยังอุดมไปด้วยมายาคติในเวลานี้  คงไม่มีมนุษย์รายใดคิดใส่ใจนำมาใช้อย่างแน่นอนครับ

อันที่จริง ตัวสถาบันนี่เอง ก็ทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้น่าสงสัยว่ามีการฝักใฝ่ข้างใดข้างหนึ่งแล้ว  อย่างกรณีทุจริตคอรับชั่นก็เลือกศึกษาแต่กรณีของฝ่ายหนึ่งที่อาจจะยังไม่แน่ใจหรือไม่ชัดแต่มีเหตุอันเชื่อได้ว่า... ในขณะที่หลีกเลี่ยงการศึกษาวิจัยในอีกฝ่ายที่มีการคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นจริงและมีหลักฐานแบบจะ ๆ อย่าง ลูกโป่งราคา 300 ล้านที่หมดฤทธิ์ลอยไม่ได้  ไม้ชี้ศพอันละล้านที่ต้องใช้ทั้งหลักวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ในการทำงาน  แล้วนี่ยังไม่รวมกล้องล่องหนอีกครับ

หลักการที่อาจารย์โรจน์นำเสนอเพิ่มเติมนี้ก็ดีและถูกต้องสำหรับสังคมที่มีวุฒิภาวะ  อุดมด้วยสติปัญญาเหตุผล รู้รับผิดชอบกับมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลาครับ แต่ในปัจจุบัน กับกระแสของความเชื่อ การโอ้อวด โวยวาย ตลอดจนความเพ้อฝันจากมายาคติเก่า ๆ หลักการนี้ก็ได้แต่หวังว่าจะทำให้คนในสังคมเริ่มมาฉุกคิดและเริ่มเปลี่ยนแปลงกันแล้วละครับ

ตอนนี้ ผมเห็นว่าไม่มีบทความภาพยนตร์ประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นเลย  ไม่ว่าจากใครก็ตาม  กลายเป็นว่า เว็บนี้ในส่วนของหนังประวัติศาสตร์เริ่มตายแล้ว  ส่วนตัวผมเอง มีปัญหาเรื่องงานกับสุขภาพเลยไม่ได้มีโอกาสเขียนเรื่องใหม่ ๆ สักที  แต่ตั้งใจและตั้งความหวังว่าจะเขียนเรื่อง the lady ให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้ครับ

อ้อ ทีแรก ผมกะจะนัดพบอาจารย์โรจน์อีกครั้งช่วงงานหนังสือเดือนตุลาคม แต่ภาระการงานไม่เอื้อ เลยคิดว่าจะขอนัดพบในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้  แล้วจะลองพิจารณาอีกทีนะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเล่าเรื่อง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-27 15:48:09 IP : 202.28.78.24


ความคิดเห็นที่ 2 (2980629)
avatar
โรจน์ (Webmaster)

เรื่องที่ว่าเว็บเริ่ม "ตาย" นั้นฟังดูน่าตกใจ  แต่ก็ยอมรับว่าช่วงตั้งแต่ประมาณกลางปีนี้มาผมเจอปัญหาทางบ้านอย่างหนักอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งทุกวันนี้ยังปรับตัวได้บ้างไม่ได้บ้าง  ถ้าเอามาพูดในรายละเอียดอาจจะยิ่งบานปลาย แถมยังนึกถึงคำพูดของนายพลไมเคิล สโตน หรือ มิคกี้ มาร์คัส ในเรื่อง Cast A Giant Shadow ที่ว่า "ไม่มีใครรบชนะด้วยคำแก้ตัวหรือขออภัย"  แล้วคงไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้  เอาเป็นว่าสองเดือนสุดท้ายของปีนี้จะพยายามเขียนให้ได้สักเดือนละเรื่องก็แล้วกันครับ  โดยเฉพาะ War Horse นี่เขียนเรื่องย่อค้างไว้เกือบจบแล้ว  ขาดแต่บทวิเคราะห์กับภาพประกอบ

วกกลับมาเรื่อง "สานเสวนา" ตามหัวข้อกระทู้นั้น  ยังยืนยันว่าขอฝากให้ทุกๆท่านช่วยกันพิจารณาไปปรับใช้กันต่อไปครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (Webmaster) (webmaster-at-iseehistory-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-28 20:43:57 IP : 124.120.55.87



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.