วันที่ 20 พฤศจิกายน 2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ กองทัพเรือจึงยึดถือวันนี้เป็น "วันกองทัพเรือ" เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการก่อตั้งสถาบันหลักของกองทัพเรือ อันถือเป็นรากฐานของการพัฒนากิจการทหารเรือให้มีความทันสมัยทัดเทียมกับชาติตะวันตก
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บรรพชนทหารเรือได้เสียสละและอุทิศตนอย่างเข้มแข็ง กล้าหาญ ในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งในภาวะสงครามและยามสงบ สร้างความรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้าให้แก่กองทัพเรือจนมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน
พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาเนื่องในวันกองทัพเรือ มีใจความบางตอนว่า
"...ขอขอบคุณที่พวกท่านทุกคนได้เสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความซื่อสัตย์สามัคคี พร้อมกับธำรงไว้ซึ่งเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของทหารเรือให้เป็นที่ศรัทธายอมรับของพี่น้องประชาชน ควบคู่ไปกับการพัฒนาไปสู่การเป็นกองทัพเรือที่มีความทันสมัย พร้อมที่จะก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558..."
สำหรับกำลังพลของกองทัพเรือทั้งหญิงและชาย ซึ่งมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนภารกิจของกองทัพเรือด้วยบทบาทที่หลากหลาย ล้วนแล้วแต่มีความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติในฐานะทหารเรือแห่งราชนาวีไทย
ลูกนาวีบางคนอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญจนได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง อาทิ ร.ท.สงกาณ กุดวงศ์แก้ว นายทหารนาวิกโยธิน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในจังหวัดนราธิวาสแม้จะถูกกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ เมื่อเดือนตุลาคม 2553 แต่หลังจากรักษาตัวหายดีแล้วได้อาสากลับไปปฏิบัติงานในพื้นที่เดิมและปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบที่เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการบ้านส้มป่อย เมื่อเดือนมีนาคม 2555 จนได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่สอง แต่ยังคงสมัครใจปฏิบัติงานในพื้นที่เดิมจนถึงปัจจุบัน
"ในฐานะทหารนาวิกโยธินของกองทัพเรือ ผมถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องปกป้องชาติดูแลประชาชนตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ" ร.ท.สงกาณกล่าว
เช่นเดียวกับ พ.จ.อ.วัฒนา จิรานุกรม ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้และได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ สูญเสียดวงตาข้างซ้าย แต่ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น จึงได้อาสาที่จะกลับไปปฏิบัติงานในพื้นที่เดิมอีกครั้ง
"ใจจริงผมยังอยากปฏิบัติงานด้านยุทธการทั้งการลาดตระเวนเส้นทาง คุ้มครองครู และตั้งด่านตรวจค้น เหมือนที่เคยทำก่อนบาดเจ็บ แต่ปัญหาเรื่องดวงตา หน้าที่ของผมจึงเปลี่ยนไป ทำได้เพียงประจำอยู่ใน บก.ไม่สามารถออกไปตรากตรำ เสี่ยงอันตรายได้เหมือนเพื่อนทหารคนอื่นๆ" พ.จ.อ.วัฒนากล่าว
ส่วนนายทหารอย่าง น.ต.กาญจน์ กุลศรีสมบัติ สังกัดกรมยุทธการทหารเรือ ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในกองเรือเฉพาะกิจผสมอ่าวเอเดนเพื่อคุ้มครองเรือสินค้าของไทยและนานาชาติ กล่าวว่า "การแสดงบทบาทอย่างทหารเรือมืออาชีพบนเวทีโลก นับเป็นเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของราชนาวีไทย ผมภูมิใจที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่นี้"
น.ต.ปรเมศ ชอนตะวัน นักบินซีฮอว์ก กองการบินทหารเรือ กล่าวถึงงานของเขาว่า "กองทัพเรืออาจจะมีอากาศยานไม่มากนักเมื่อเทียบกับกองทัพอากาศ แต่ในยามสงบ กำลังอากาศนาวีของกองทัพเรือ เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเมื่อมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น เราพร้อมเสมอสำหรับภารกิจนี้
รวมทั้งสมาชิกของกองทัพเรือชั้นผู้น้อยหลายคนก็มีความรู้สึกที่ดีต่อหน้าที่ของตัวเอง อาทิ จ.ต.รุ่งเรือง ชมสุขประกิต เจ้าหน้าที่การพิมพ์ แผนกการพิมพ์ กองโรงพิมพ์ กรมสารบรรณทหารเรือ บอกถึงความรู้สึกว่า กองทัพเรือ รับใช้ประชาชน และสนองงานใต้เบื้องพระยุคลบาท แม้งานของผมจะดูเล็กน้อย แต่ก็ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของผมทุกวันนี้ผมมีความสุขครับที่ได้มาเป็น "ทหารเรือ"
จ.ต.หญิง กรองกาญจน์ สมศรี หมวดหัสดนตรี กองดุริยางค์ทหารเรือ บอกว่า ภูมิใจในความเป็นทหารเรือหญิงค่ะ เวลามีคนถามว่าเป็นนักดนตรีจากที่ไหน พอตอบว่าจากกองดุริยางค์ทหารเรือ คนเหล่านั้นจะแสดงความชื่นชม ทำให้รู้ว่านักดนตรีรุ่นก่อนๆ ของกองดุริยางค์ทหารเรือสร้างชื่อเสียงไว้มาก ทั้งในเรื่องระเบียบวินัยและฝีมือการเล่นดนตรี
ส่วนลูกผู้ชายตัวจริงอย่าง พลทหาร ศุกร์สฤกษฎิ์ สร้อยศรี พลช่างกล เรือหลวงจักรีนฤเบศร กล่าวว่า ไม่คาดคิดว่าจะได้รับความไว้วางใจให้มาปฏิบัติหน้าที่ตรงจุดนี้ มีทั้งความท้าทายและตื่นเต้น ผมดีใจที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถให้เกิดประโยชน์ในขณะรับราชการ การเป็นทหารเกณฑ์กองทัพเรือของผมเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุ้มค่ามากครับ
นี่เป็นเพียงบางส่วนของเหล่าทหารเรือ แม้พวกเขาจะแตกต่างกันด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบ แต่สิ่งหนึ่งที่เสมอเหมือนกันก็คือ จิตวิญญาณ ความผูกพัน และหัวใจที่สำนึกถึงความเป็นทหารเรือแห่งราชนาวีไทยไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
--------------------
ชมคลิป ชีวิต ชาติ ราชนาวี.. ผลิตขึ้นเพื่อกิจกรรมเนื่องในวันกองทัพเรือประจำปี 2555 ถ่ายทำที่พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง ป้อมพระจุลจอมเกล้า โดยมีเรือตรีสันติ ลุนเผ่ และ โป่ง หิน เหล็ก ไฟ
http://www.youtube.com/watch?v=RTDcLh5YM3E
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353397094&grpid=01&catid=&subcatid=
|