THE DAY AFTER

นิวเคลียร์ล้างโลก

เรื่องราวอิงสถานการณ์สงครามเย็นยุคนั้น (หนังออกฉายปี 1983 ซึ่งสงครามเย็นกำลังถึงจุดตรึงเครียดสูงสุด อาวุธนิวเคลียร์ได้รับการพัฒนาถึงที่สุด เป็นยุคของประธานาธิบดีการ์บาชอฟและเรแกน ก่อนจะเข้ายุคเจรจาลดอาวุธหลังจากอเมริกาจะดำเนินการโครงการสตาร์วอร์ จนรัสเซียเรียกว่าขอยอมแพ้เพราะตามเทคโนโลยี่อเมริกาไม่ทัน และจบลงด้วยการล่มสลายของสหภาพโซเวียต)โดยสมมติเหตุการถ้าเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นจริงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

หนังเริ่มเรื่องจาก ฉายให้เห็นชีวิตของผู้คนเมือง ลอเรนซ์ แคนซัส (เมืองที่มีฐานยิงขีปนาวุธจำนวนมากเมืองหนึ่ง) คุณหมอและครอบครัว นายทหารประจำขีปนาวุธ ครอบครัวชาวไร่ และคู่หนุ่มสาวที่กำลังจะแต่งงาน ฯ ต่อมาเกิดความตรึงเครียดในเยอรมันตะวันตกและตะวันออก จนลามถึงเกิดสงคราม รัสเซียและอเมริกาเข้าร่วมด้วย รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ผู้คนเตรียมตัวรับภัยจากนิวเคลียร์ ผู้คนเเย่งกันกักตุนอาหาร บางบ้านทำหลุมหลบภัยเอง และแล้วสงครามนิวเคลียร์ก็เกิดขึ้นจริง รัสเซียยิงนิวเคลียร์ใส่อเมริกาและอเมริกายิงตอบโต้เช่นกัน ช่วงปล่อยขีปนาวุธ ผู้คนออกมามุ่งดู บางคนยังคิดว่าเป็นแค่การซ้อมรบ

นิวเคลียร์ยิงใส่เมืองลอเรนซ์ สองลูก เพราะมีฐานขีปนาวุธหลายแห่ง ผู้คนขับรถหนีออกนอกเมือง บ้างก่อการจลาจลปล้นเสบียง บ้างบ้านเตรียมการมาดีก็ลงหลุมหลบภัยที่สร้างไว้ เมื่อนิวเคลียร์ระเบิดอานุภาพร้ายแรงกว่าที่ญี่ปุ่นหลายเท่า ผู้คนหายไปในพริบตา บ้านเมืองเหลือแต่ซาก สาธารณูปโภคทุกอย่างใช้การไม่ได้

หลังจากนั้นหนังจะฉายให้เห็นถึงผลของนิวเคลียร์ ผู้คนที่เหลือรอดต่างต้องถูกพิษของกัมตรังสี ทุกคนมุ่งไปที่ รพ. ซึ่งไม่สามารถรองรับการรักษาได้ การผ่าตัดต้องใช้ไฟฉายส่องเอา ส่วนคนที่อยู่ในหลุมหลบภัย เมื่อกัมตรังสีลดลงไม่เป็นอันตราย ออกมาก็ต้องพบกับความว่างเปล่า สัตว์เลี้ยง พืชตายหมด ผืนดินใช้เพาะปลุกไม่ได้ บ้านเมืองไร้ขือไร้แป คนที่มีปืนก็เอาตัวรอดได้ ทางการพยายามส่งอาหารและเสบียงเข้าช่วยเหลือแต่ไม่เพียงพอ

ฉากที่ผมสะเทือนใจคือฉากบาดหลวงเทศนากลางซากโบส์ถ เหมือนบาดหลวงจะรู้สึกเองว่าพระเจ้าทำไมไม่ช่วยเขาเลยหรือพระเจ้าตั้งใจให้เป็นแบบนี้

ฉากสุดท้ายก็สะเทือนใจเช่นกัน คุณหมอกลับไปดูบ้านที่เหลือแต่กองซากปูน มีคนเร่ร่อนมากางเต้นท์อยู่ หมอพยายามขับไล่คนเหล่านั้นออกไป แต่คนเร่รอ่นที่ร่างขาวซีดราวซากศพเพราะพิษกัมตรังสีกลับยื่นเศษอาหารเท่าที่มีให้คุณหมอ สุดท้ายทั้งคู่กอดกันและร้องไห้ด้วยความเห็นใจในชะตากรรมที่ทุกคนได้รับ

เรื่องนี้ออกฉายแต่ปี 1983 ผมดูในโรงแต่สมัยนร. กำลังนึกอยากดูอีก สองสามวันต่อมาเห็นดีวีดีออกวางจำหน่าย ดีใจมากเลยครับรีบซื้อไว้เลย

เฮ้อ พอนึกถึงหนังเรื่องไหนก็ได้ดู แต่พอนึกถึงเงินไม่มาสักที

หนังเก่าเกือบยี่สิบปี เทคนิค สเปซเชี่ยลเอฟแฟค อาจสู้สมัยนี้ไม่ได้ แต่ดูแล้วก็ยังน่ากลัว โชคดีครับที่สมัยนี้สงครามเย็นจบลงไปแล้ว ภัยจากนิวเคลียร์น้อยลงแต่ใช่ว่าจะหมดไปเลย ช่วงที่หนังออกฉาย จำข่าวได้ว่า คู่รักอเมริกามีสถิติแต่งงานเพิ่มขึ้นเท่าตัว

ดีวีดีหาชมกันได้ครับ

ชมคลิปตัวอย่างภาพยนตร์ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=gIk6aBLCoHg&feature=related