William Shakeseare"s Julius Caesar
avatar
หมาป่าดำ


user image

William Shakeseare"s Julius Caesar

จากวรรณกรรมของ "เช็คสเปียร์" สู่ บทภาพยนตร์

มีสองเวอร์ชั่นครับ คือปี 1953 และปี 1970 ที่นำมาออกดีวีดีใหม่

เรื่องราวในภาพยนตร์ จะกล่าวถึงช่วงที่ "ซีซาร์" กำลังประสบความสำเร็จสูงสุดของชีวิต ประชาชนพร้อมใจกันยกมงกุฏให้เพื่อเป็นจักรพรรดิ์โรมัน แต่มีสมาชิกสภาบางส่วนไม่เห็นด้วย โดยมี "บลูตัส" และ "แคลซซีส" เป็นแกนนำ ทำการรวบรวมพรรคพวกทำการลอบสังหาร "ซีซาร์" กลางสภา โดยช่วยกันรุมแทงจน "ซีซาร์" สิ้นใจ (บางคนทำเพราะกลัว "ซีซาร์" จะมีอำนาจมากเกินไปจนเป็นทรราช บางคนอิจฉาริษยา)

"มาร์ค แอนโทนี่" นายทหารคู่ใจ "ซีซาร์" ได้ทำการล้างแค้นให้ "ซีซาร์" จนเกิดสงครามขึ้นระหว่าง สองฝ่าย สุดท้ายเหล่าผู้ลอบสังหาร "ซีซาร์" ต้องพ่ายแพ้และพบกับจุดจบของชีวิตทั้งสิ้น

นำแสดงโดย Charlton Heston และ Jason Robaros

เรื่องนี้คงสำหรับแฟนหนังย้อนยุคนะครับ หรือผู้สนใจประวัติศาสตร์โรมัน ฉากรบท้ายเรื่องไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายเหมือนหนังสงครามโรมันเรื่องอื่น

จากที่ติดตามเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเมืองมาหลากหลาย สรุปแล้วผมว่าพอกันทุกที่ทั่วโลก ทำกันได้ทุกอย่างเพื่อ อำนาจผลประโยชน์ เรื่องราวของ "ซีซาร์" จะว่าไปก็คล้ายกรณีของไทยเราเหมือนกัน

ดีวีดีเพิ่งออกมาครับ หาชมกันได้



ผู้ตั้งกระทู้ หมาป่าดำ (mistiest-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-07-30 20:50:04 IP : 114.128.174.19


1

ความคิดเห็นที่ 1 (2977339)
avatar
Don

เลยขอโรมโบราณ และจักรวรรดิโรมัน และเข้าเรื่องของ จูเลียส ซีซ่าร์ครับ

ขอเกริ่นๆ ก่อนว่าอันโรมันนั้นผ่านมาแล้วทุกรูปแบบ เริ่มด้วยนครรัฐมีกษัตริย์ ต่อมาเป็นสาธารณรัฐ (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า รีพับริค) ต่อมาก็เป็นเผด็จการ และมีจักรพรรดิปกครองจักรวรรดิ ในที่สุดจักรวรรดิก็แบ่งแยก และล่มสลาย

ในยุคของ จูเลียส ซีซาร์ (๑๐๐ ปี ก่อน ค.ศ. ตาย ๔๔ ปี ก่อน ค.ศ.) นั้น เป็นระบบ รีพับริค ซึ่งมีหลายสภา แยกง่ายๆ ว่า สูงกับล่างแล้วกัน ที่จริงทั้งสองสภาก็เป็นชนชั้นปกครองทั้งนั้น แต่สภาล่างเป็นผู้นำท้องถิ่นมากกว่า ไม่ใช่ระบบสภาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย  สภาพวกนี้มีการเลือกผู้บริหารเป็น "กงสุล" ควบพร้อมกันสองคน และทำหน้าที่อนุมัติตั้งกองทัพ แต่งตั้งแม่ทัพ เจ้าครองแคว้น (มีอำนาจคุมทัพในแคว้นของตน) มีกฎระเบียบคอยคุมวาระ เช่น ผู้ใดเป็นกงสุลแล้วกี่ปีๆ ก็ต้องออกไปเป็นเจ้าแคว้นกี่ปีๆ เจ้าแคว้นห้ามนำทัพออกนอกแคว้น แม่ทัพแคว้นอื่นห้ามนำทัพเข้าอิตาลี ฯลฯ

สถานการณ์การเมืองตอนนั้นแตกแยก มีความขัดแย้งระหว่างผู้นำการเมืองกลุ่มที่ "อ้างว่า" ทำเพื่อนประชาชน กับกลุ่มที่ "อ้างว่า" ทำเพื่อแบบแผนีพับริคเดิม ที่จริงทั้งสองกลุ่มทำอะไรเพื่อนกลุ่มตนเองทั้งนั้น

ปอมเปย์ แก่กว่า ซีซ่าร์ เป็นแม่ทัพเก่า ไปรบปราบโจรสลัดในเมดิเตอร์เรเนียนได้ราบคาบ (สำคัญมากเพราะโรมต้องนำเข้าข้าวจากโพ้นทะเล) และไปรบชนะเมืองตะวันออกต่างๆ รวมทั้งดินแดนซีเรีย ปาเลสไตน์ ฯลฯ และทำสีญญากับเจ้าเมืองอื่นๆ

ปอมเปย์ เป็นพัทธมิตรกับซีซ่าร์ โดยซีซาร์ยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย ต่อมาเมียปอมเปย์นี้คลอดบุตรเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูก ควทฃามสัมพันธ์ส่วนตัวก็ลดลงไป รวมทั้งมีเรื่องการเมืองเข้ามาด้วย ทำให้ฟื้นความสัมพันธ์ไม่ได้ ซีซาร์เสนอยกลูกสาวอีกคนมห้เป็นเมียปอมเปย์ แต่ปอมเปย์ไม่รับ

ปอม์เปย์ไปรบทัพหลายปีกลับมาก็มีอำนาจมาก แต่ก็ยอมออกจากตำแหน่งแม่ทัพตามกฎหมายโรม แต่เสนอให้ออกกฎหมายจัดสรรที่ดินทำกินให้ทหารในกองทัพของตน และให้สภาลงสัตยาบัญในสัญญาที่ตนไปทำมาไว้กับเจ้าเมืองต่างชาติ การเมืองขั้วอื่นกลัวปอมเปย์มีบารมีมากขึ้นก็แกล้งยื้อไว้

ปอมเปย์ก็ไปทำความตกลงเป็นพันธมิตรการเมืองกับซีซ่าร์ โดย ซีซ่าร์ ได้รับเลือกเป็นกงสุลก็เพราะหัวคะแนนและม๊อบของปอมเปย์

ในการเลือกตั้งกงสุลก็ทั้งซื้อเสียง โกง และใช้ม๊อบกดกันกันอย่างหนัก ปอมเปย์ใช้ม๊อบทหารผ่านศึกของตนไล่ทุบตีสมาชิกสภาฝ่ายตรงข้าม ฯลฯ วุ่นวาย ในที่สุดก็ผลักดันให้ ซีซาร์เป็นกงสุลจนได้

เร่องทั้งหมดนี้ก่อนที่ ซีซ่าร์ พ้นตำแหน่งไปเรียกว่า โปรกงสุล (Proconsul) ซีซ่าร์วิ่งเต้นได้ไปคุมแคว้นกอล

ขอเกริ่นพอเรียกน้ำย่อยก่อนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-13 01:36:15 IP : 83.52.222.56


ความคิดเห็นที่ 2 (2977340)
avatar
Don

ปล.๑ ลืมบอกว่าเรื่องนี้ผมเขียนเองเล่นๆ ไว้แล้สให้เพื่อนกันเองอ่าน แต่ไม่เคยโพสบอร์ดสาธารณะใดครับ

ปล.๒ ชื่อ ซีซาร์ ซึ่งเป็นชื่อของบุคคลนี้แหละได้กลายเป็นชื่อแสดงตำแหน่งจักรพรรดิเหมือนกับคำว่า ฟาโรห์ และต่อมาได้แผลงไปเป็นชื่อตำแหน่งเจ้าในหลายภาษา เช่น ซาร์ ของรัสเซีย และ ไกเซอร์ ของเยอรมัน

ขอคุยเรื่องบุคคลสำคัญของยุคที่เกี่ยวข้องกับซีซ่าร์ก่อนแล้วกัน

ปอมเปย์ เดอะ เกรท ผู้อุปภัมถ์ให้ซีซาร์ยืมตังค์ (ฮ่า ฮ่า) พันธมิตรทางการเมือง ลูกเขย และในที่สุดกลายเป็นศัตรูนำทัพเข้าสู้กันในสงครามกลางเมืองโรมัน โรมันฆ่าโรมัน

ขอเชิญให้เสริชหารูป Pompey the great ดูครับ หน้าตายังงี้แหละเป็นแมทัพตั้งแต่หนุ่ม และมีความกะล่อน***มทางการเมืองอย่างสูง

ปอมเปย์ภูมิใจมากที่มีผมสลวย ชอบทำผมทรงหยิกปรกหน้าผากแบบอเล๊กซานเดอร์ เดอะ เกรท โดยแสดงตนว่าตูข้านั้นเป็นดังอเล๊กฯ ที่ไปพิชิตดินแดนทางตะวันออกมาได้

ปอมเปย์เกิดในตระกูลไฮโซ พ่อก็เคยเป็นกงสุล ครอบครัวมีที่ดินส่วนตัวมากที่สุดในคาบสมุทรอิตาลี ตอนหนุ่มปอมเปย์ไปเป็นทหารเอกของ ซุลลา แม่ทัพฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่กวาดล้างพวกประชานิยม (จอมปลอมทั้งสองฝ่าย) แต่แล้วปอมเปย์ก็เปลี่ยนข้างการเมืองทำตัวเป็นพวกประชานิยม

ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-13 01:41:08 IP : 83.52.222.56


ความคิดเห็นที่ 3 (2977341)
avatar
Don
เพื่อแสดงความกะล่อนของปอมเปยื ก็ต้องท้าวความเรื่องนายของปอมเปย์ ที่ปอมเปย์ไปรับใช้ในเหตุการณืเหล่านี้ก่อนครับ

บัดนั้น ๘๐ กว่าปี ก่อนพระเยซูเกิด ในท่ามกลางความขัดแย้งดังกล่าว โรมเกิดมีการศึกกับเจ้าเมืองตะวันออก ก็ต้องจัดทัพ ตั้งแม่ทัพไปสู้ ตอนแรกฝ่ายอนุรักษ์ ออกเสียงแต่งตั้ง ซุลลา ซึ่งเคยเป็นกงสุลเก่าให้เป็นแม่ทัพ แต่ฝ่ายประชานิยมคัดค้าน ต้องการตั้งแม่ทัพเก่าอีกคนแทน โผยังไม่ทันออก ซุลลา ก็ดวยว่า ถึงใครจะเป็นแมทัพ ก็ต้องให้สายทหารเก่าของข้าไปรบและรวบทรัพย์สมบัติที่รบชนะ (ปล้นได้) จากเมืองข้าศึก ยังทะเลาะกันอยู่ ซุลล่า ก็รวมรวบรวมทหารเก่าของตนยกกำลังเข้าโรมแล้วไล่ฆ่าขั้นการเมืองตรงข้ามที่ไม่สนัยสนุนการแต่งตั้นตน

ซุลล่า ก็ตั้งตนเป็นผู้เผด็จการโรมตามกฎหมายฉุกเฉิน (มีกฎหมายโรมันจริงๆ ครับ) คุมกรุงโรม และยกทัพไปตีเข้าเมืองตะวันออกดังกล่าว

ซุลล่า รบชนะได้ทีพย์กลับมามากมายจริงๆ ก็เข้ากรุงโรม ช่วงไม่อยู่ฝ่ายประชานิยมก็ตั้งกองกำลังรอตีกัน สมัยนั้นเล่นตรงไปตรงมา ซุลล่า ยกทัพกลับมาเลยรบกันจะๆ หน้ากรุงโรมเรียบร้อน ซุลล่า ชนะเข้าเมืองไล่ฆ่าฝ่ายตรงข้ามอีก

ซุลล่าก็ขยายอำนาจตนเอง ตั้งตำแหน่งสภาสูงเพิ่ม ตั้งเด็กๆ ไปลงที่ต่างๆ ฯลฯ พอรู้สึกว่ามั่นคงดีแล้วก็เกษียณอายุตัวเองไปนั่งกินนอนกินในบ้านชนบท

การเมืองโรมก็ตกเป้นของขั้งอนุรักษ์ต่อมาอีกสิบกว่าปี

ที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ ปอมเปย์ เป็นนายกองเด็กของ ซุลล่า อยู่นะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-13 01:41:51 IP : 83.52.222.56


ความคิดเห็นที่ 4 (2977342)
avatar
Don
ปอมเปย์หน้าตาเหมือนพ่อค้าร้านชำน้ำมันมะกอกนี้แหละ เป็นนายทหารแววดีตั้งแต่หนุ่ม ด้วยความที่พ่อใหญ่ เส้นดี นับใช้ ซุลล่าได้สมยานามว่า "นักฆ่าหน้าวัยรุ่น" มีความเป็นเลิศทางทหารด้วยอายุแค่ยี่สิบกว่าๆ ก็เป็นแมทัพไปรบในอัฟริกา  รบได้ชัยชนะมากมาย

ปอมเปย์ ก็ได้รับเลือกเป็นกงสุล พอพ้นตำแหน่งแล้วก็ยังหาทางดังไม่เลิก คือเกิดภัยโจรสลัดขึ้นมา โรมต้องตั้บงทัพไปปราบ ปอมเปย์ก็สมัครเป็นแมทัพ พร้อมกับเสนอแผนการตั้งกองทัพและปฏิบัติการไว้เลิศหรู คืต้องการตั้งทัพเรือตั้ง ๕๐๐ ลำ ทหาร ๑๒๐.๐๐๐ คน และขออนุมัติตำแหน่งบังคับบัญชา ๓ ปี

ฝ่านการเมืองก็ฮือฮากัน เอาขนาดนี้นี่จะเล่นเป็นท่านผู้นำเลยเหรอ? แต่ด้วยกลเม็ด กลไก ฯลฯ ปอมเปย์ โรมก็ยอมตั้งกองทัพและแต่งตั้ง ปอมเปย์ ตามข้อเสนอนั้น

ปอมเปย์ ก็แสดงฝีมือยิ่งกว่าที่โม้ครับ สามเดือนก็กวาดโจรสลัดราบคาบ ในช่วงสามปีที่ได้รับอนุมัติเป็นแมทัพกองทัพที่มีก็ยกไปตีเมืองทางตะวันออกของเมดิเตอร์เรเนียน ตะวันออกกลาง ฯลฯ ได้มากมายดังที่เกริ่นมาแล้ว ได้ทรัพย์ส่งมาโรมมากมาย ฯลฯ ทำตัวเจ๋งไม่ผิดอเล๊กซานเดอร์ เข้าของทรงผมที่ปอมเปย์เลียนแบบเลย กรุงโรมแผ่อำนาจโพ้นทะเลไปได้อีกอักโข โรมันมีหน้ามีตา และมีตังค์ขึ้นมาก

แต่ฝ่ายการเมืองร้อนๆ หนาวๆ ครับ ปอมเปย์ กลับโรม จะมาท่าไหน กำลังดังและคุมทัพใหญ่ ถ้าเล่นยกทัพเข้าโรมยึดอำนาจละก็ ตัวใครตัวมันละ

 
ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-13 01:43:14 IP : 83.52.222.56


ความคิดเห็นที่ 5 (2977343)
avatar
Don
พอหมดวาระ ปอมเปย์ ก็ยกทัพกลับ แต่ยังไม่ถึงขึ้นคิดการใหญ่อย่างที่คนอื่นกลัว ปอมเปย์ ยอม สลายกองทัพ ออกจากตำแหน่งแม่ทัพตามระเบียบ แต่ก็เรียกร้องให้สภาโรม ออกกฎหมานจัดสรรที่ทำกินให้ทหารผ่านศึกของตน และให้สัตญาบันในสนธิสัญญา และธุรกรรมต่างๆ ที่ปอมเปย์ไปทำไว้ในดินแดนตะวันออก

การเมืองขั้นตรงข้ามก็โล่งใจ เฮ้ย แม่ทัพนอกราชการแล้ว เราต้องถ่วงมันไว้ ถ้าช่วยทหารของมันๆ ก็จะมีบารมีเพิ่มขึ้น ไอ้ที่มันไปทำอะไรกับใครที่ไหนก็อย่าไปสนับสนุน ปล่อยโมฆะให้มันเป็นตัวตลกไปเลย

ปอมเปย์ ก็เคียดแค้น และมองหช่องทางอื่น ก่อนอื่นก็ต้องหาพวก มองไปมองมาเห็นนักการเมืองรุ่นน้องแววดีคนหนึ่งชื่อ ไกอุส จูลิอุส ซีซาร์


อัน ซีซ่าร์ นั้นก็เกิดในปี ๑๐๐ ก่อน ค.ศ. ตระกูลไฮโซโรมันเหมือนกัน ถึงไม่รวยมากแต่สายเลือดนั้นไฮโซโรมันสุดๆ คือต้นตระกูลอ้างว่าสืบเชื้อสายไปถึง เอนิแอส เจ้าชายกรุงทรอยที่หนีกรุงแตกมาตั้งกรุงโรมนั่นแน่ะ ซึ่งตามตำนาน เอนิแอส เป็นลูกของทเพวีนัสซะอีก โอ้ ไปกันใหญ่ครับ โคตรเหง้าขนาดนี้ ใครๆ ก็หรูสู้ไม่ได้ แถมตระกูลซีซ่าร์ก็ล้วยแต่แต่งงานเป็นเครือญาติกับแม่ทัพใหญ่ๆ ทั้งนั้น

ซีซ่าร์ มักชอบทำตัวเด่นในวงการเมืองเป็นประจำ และโฆษณาตัวเองเก่งมาก เวลาญาติโยมเสียชีวิตก็จัดพิธีซะเริ่ดสมเกียรติ หรือเกินไปด้วยซ้ำ เน้นย้ำว่าเป็นสายไฮโซโก้สุดๆ

ซีซ่าร์ เริ่มสร้างชื่อเสียงทั้งในวงการไฮโซและวงการชาวบ้าน โดยเข้าไปดำรงตำแหน่ง Aedile ของโรม คือตำแหน่งนี้เหมือนกับ รมต. วัฒธรรมและการบันเทิง มีหน้าที่รับผิดชอบจัดงานโชว์ต่างๆ

ตามแบบโรมัน จะจัดงานให้ยิ่งใหญ่ สะใจโก๋ มหาชนฮือฮาก็ต้องจัดโชว์ กลาดิเอเตอร์ ครับ สัตว์กินคน คนฆ่ากัน เลือกสาด เลือดนอง โรมันช๊อบชอบ

วีซ่าร์ ก็เลยหยิบยืมตังค์ชาวบ้านเป็นการใหญ่ จัดโชว์กลางดิเอเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนโรมันเคยเห็นมา สมัยนั้นใช้โคลีเซียมอื่น ไม่ใช่โคลีเซียมใหญ่ที่เราเห็นพังครึ่งหนึ่งในโรมนะครับ โคลีเซียมใหญ่นั้นที่จริงเรียกว่า ฟลาเวียน แอมฟีเธยเตอร์ คือสเตเดี้ยมของฟลาเวียน จักรพรรดิในยุคต่อมา

ซีซ่าร์จัดงานใหญ่หลายอาทิตย์ (นานแค่ไหนจำไม่ได้ต้องไปเปิดตำรา) เอากลาดิเอเตอร์เข้ามาโชว์ฆ่ากันมากซะจนสภาโรมตกใจกลัว ว่าจะซ้องสุมกำลังกลาดิเอเตอร์ไว้ยึดอำนาจเรอะไง? ถึงขั้นออกกฎหมายจำกัดจำนวนกลาดิเอเตอร์ที่บุคคลใดจะเอาเข้ามาในกรุงโรม

ถึงโดนจำกัดจำนวนนักแสดง แต่ซีซ่าร์ก็จัดงานได้ใหญ่มีหน้ามีตากับรากหญ้าไปมาก

ทั้งนี้เวลาจัดงานแบบนี้ ฆ่าคน ฆ่าสัตว์กัน ก็จะมีการแจกเนื้อสัตว์ที่ฆ่านั้นให้ชาวบ้านด้วยครับ เป็นช่องทางหาเสียงกับรากหญ้าแบบโรมันทางหนึ่ง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-13 01:45:15 IP : 83.52.222.56


ความคิดเห็นที่ 6 (2977344)
avatar
Don

ดูรูปสลักรูปปั้นไหนๆ แล้ว ซีซ่าร์ จะดูดี สุขุม เด็ดขาดกว่า ปอมเปย์ มาก ในความเป็นจริง เรื่อง***มนั้นไม่ต้องห่วง ส่วนบุคลิดอื่นนั้นก็ดี มีความเป็นผู้นำ แถมกันเองเจ๊าะแจ๊ะ โอบหลังลูบไหล่ ตีซี้ชี้นำคนได้อย่างเป็นเลิศ
 

ซีซาร์อยู่ในตำแหน่งเอนเทอเทนเนอร์นี้ก็เป็นหนี้ครับ...  จัดงานบันเทิงเริงรมณ์เข้าเนื้อมากไปก็แบบนี้ สมัยนั้นไม่ใช่ของบ ของบ ยิ่งจัดงานยิ่งรวบ ยิ่งรวบ ครับ ตำแหน่งเอนเทอเทนเนอร์โรมันต้องควักกระเป๋าเองเพื่อแสดงความเก๋า

ถึงเป็นหนี้แต่ซีซาร์หัวยังไม่โตเท่าไหร่เพราะมีชื่อเสียงและมีฐานเสียงพอตัวแล้ว เลยคิดหาเงิน ช่องทางแบบโรมันๆ ก็คือการไปกินเมือง...

ซีซ่าร์ เลยวิ่นเต้นไปเป็นเจ้าแคว้นปกครอง สเปนนอก คือสเปนส่วนที่ไกลจากโรม ฝั่งตะวันตก พอไปกินเมืองได้ก็เริ่มสะสมทรัพย์ เพราะทรัพย์นั้นงอกออกมาจากดิน แถม ซีซ่าร์โชว์ฝีมือการทหารไปทะเลอะเบอะแว้งกับชนพื้นเมืองเผ่าอื่นๆ อีก ได้ทรัพย์มามาก

พอหมดวาระผู้ครองแคว้น ซีซ่าร์ก็จะกลับไปใหญ่และมีชื่อเสียงขึ้นในโรม ส่งเรื่องเข้าส่วนกลางไปว่า อันตูข้านั้นได้พิชิตชนเผ่าหลายเผ่า กำชัยชนะในสเปน ดังนั้นขอให้รัฐบาลปิดถนนจัดพาเพรดฉลองชัยกลางกรุงเพื่อชื่อเสียงและเกียรติยศแห่งตูข้าด้วย นอกจากนี้ข้าจะกลับไปลงเลือกตั้งเป็น "กงสุล" ด้วยนะ

อันว่าวิกตอนี่พาเหรดนั้นเป็นเรื่องใหญ่ของชนโรมันครับ สุดยอดยังกับเอาถ้วยบอลโลกกลับบ้าน ขุนศึพระเอกโรมันกำชัยเข้ากรุงนี้จะเท่เป็นเสมือนพระเจ้ามีเดียว โบราณโรมันเขาก็กลัวว่าขุตศึกพระเอกจะหลงตัวเหลิงคิดการใหญ่ ถึงกับให่มีธรรมเนียมปฏิบัติว่าต้องมีทาสคนหนึ่งยืนข้างขุนศึกและคอยกระซิบว่า "คนเรานั้นต้องตายทุกคนๆ" เพื่อเตืนสติ

ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือก็เริ่มเต้น และเรียกนักกฎหมายมาหารือเป็นการใหญ่ หนอยเจ้าแคว้นหน้าตอบ อ้างว่าไปรบชนะยิ่งใหญ่จะขอจัดพาเหรด แถมจะลงเลือกตั้งเป็นกงสุลด้วยเชียวเรอะ เนติบริกรทั้งหลายดูซิดู มันสามารถทำอย่างนี้ได้หรือไม่?

หัวหอกแกนนำกลุ่มต่อต้ายซีซ่าร์นี้ชื่อ กาโต ครับ Cato แปลว่าแมวนั่นแหละ สมัยนี้ภาษาสเปน อิตาเลียนก็ยังแปลว่าแมว

นายกาโตเจอข้อกฎหมายว่า แนวทางปฏิบัตินั้นขัดกัน ฮ่า เพราะ

๑. ขุนศึกที่จะพาเหรดเข้าโรมนั้นห้ามเหยียบเท้าเข้ากรุงก่อนวันงาน

๒. ผู้จะลงสมัครเลือกตั้งเป็นกงสุลนั้น ต้องมารายงานลงสมัครด้วยตนเองที่สภา

ก๊าก ก๊าก ก๊าก จูเลียส ซีซาร์ เอ๋ย เจ้าจะทำตามใจชอบทุกอย่างไม่ได้ เลือกเอาเองแล้วกัน

ซีซ่าร์ก็ ฮึ่ม แค้น ติดช่องกฎหมาย (โรมันยังไม่ฉลาดใช้ระบบนอมินี่ หรือมอบอำนาจทนายทำแทนครับ ฮา) ข่าวไม่ได้บอกว่าซีวาร์เตะแมวตายไปกี่ตัว เพราะแค้นนายแมว

เอาไงดีๆ เลือกพาเหรดชัวร์ๆ หรือลงสมัครรับเลือกตั้งดีกว่า ลงไปก็ยังเสี่ยงจะได้ไม่ได้?

ตอนนี้เองที่ท่านอดีตแมทัพ ปอมเปย์ ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งกำลังเก็ยกดกับการที่สภาไม่ออกกฎหมายให้ตน กับ จูเลียส ซีซาร์ เจ้าแคว้นผู้มักใหญ่ใฝ่สูงเกิดการปิ๊งๆๆ กันขึ่น

โปรดติดตามตอนต่อไป จะดุเดือดและเลือดโชกขึ้นเรื่อยๆ ครับ
 

ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-13 01:50:57 IP : 83.52.222.56


ความคิดเห็นที่ 7 (2977355)
avatar
Don
อันว่ากรุงโรมยุคซีซ่าร์ หนึ่งศตวรรษก่อน ค.ศ. นั้น ใหญ่โตกว้างขวาง หนาแน่นอย่างไม่น่าเชื่อครับ มีประชากรถึงประมาณ ๑ ล้านคน มีโรงละคร สนามกีฬาแข่งรถม้า บ่อแข่งเรือสู้กัน แหล่งช้อปปิ้ง ซึ่งภาษาลาตินโรมันเรียกว่า เอมโพเรียม นี่แหละ โรงอาบน้ำไฮเทคผนังสองชั้นมีระบบน้ำอุ่นตามท่อ ขนถึงห้องสมุดสาธารณะให้ชาวบ้านยืมไปอ่านได้

สมัยนั้นต้องบอกว่ามากจริงๆ ครับ ใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตกจริงๆ หลังกรุงโรมล่มสลาย ต่มาเรื่อยๆ จนถึงยุคกลางก็ไม่มีเมืองใดในยุโรปใหญ่ขนาดนี้อีกเลย ในยุคกลางนั้นเมืองที่มีประชากร ๑-๒ แสนคนถือว่าใหญ่มากๆ แล้ว ส่วนมากมีประชากรไม่กี่หมื่น

จนมากระทั่งศตวรรษที่ ๑๙ เชียวครับ กว่า ลอนดอน และปารีส จะมีประชากรถึง ๑ ล้านคน ปลายศตวรรษที่ ๑๙ ลอนดอนก็มีประชากรแค่ ๒ ล้านกว่าคน

โรมยุครุ่นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น อยู่ได้เพราะระบบสาธารนูปโภคและระบบสาธารณสุขดีมากครับ หนังสือเชอร์ชิลเขียนเองยังบอกว่า ระบบสาธารณสุขของอังกฤาเองนั้นกว่าจะได้มาตรฐานโรมันก็ต้องศตวรรษที่ ๑๙

การที่ฝรั่งเรียกยุคหลังโรมล่มสลาย และยุคกลางตอนต้นๆ ว่ายุคมืดนั้นจึงมีนัยยะพอควรทีเดียว ทั้งทางทางเทคโนโลยี่ และระบบการปกครองรวมศูนย์ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-21 21:01:49 IP : 83.52.230.77


ความคิดเห็นที่ 8 (2977356)
avatar
Don

กลับเข้าเหตุการณ์ ซีซ่าร์คิดดูๆ คิดไปคิดมา ก็เห็ยว่าอย่าไปเก็บเกี่ยวชื่อเสียงอำนาจจากอดีตเลย เสี่ยงสร้างชื่อเสียงและอำนาจให้กับอนาคตดีกว่า (ประโยคนี้ซีซ่าร์ไม่ได้พูด ผมแต่งเองครับ ฮา)

ว่าแล้วซีซ่าร์ก็ไปทำความตกลงเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับปอมเปย์ว่าตนจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกงสุลละ ช่วยข้าเต็มที่เลย ได้เป็นแล้วจะช่วยผลักดันกฎหมายที่ปอมเปย์ต้องการให้ ฯลฯ

การเลือกตั้งกงสุลโรมันปี ๖๐ ก่อน ค.ศ. นั้นดุเดือดมาก กลเม็กซื้อขาย ข่มขู่ โกงกัน ถูกนำมาใช้ทุกท่า ปอมเปย์มีม๊อบทหารโรมันผ่านศึกของตนไล่ตีหัวคะแนนเสียง และพลพรรคของคู่แข่งอย่างเต็มที่ รวมทั้งป่วนเมืองตามที่ต่างๆ

ผลการเลือกตั้ง ซีซ่าร์ได้คะแนนนำคู่แข่งทุกคนท่วมท้น เป็นกงสุลโรมัน

แต่ตามที่กล่าวแล้วว่า โรมันมีกงสุลคานอำนาจพร้อมกันสองคน อีกคนที่ได้รับเลือกตั้งเป็นกงสุลด้วยคะแนนฉิวเฉียดนั้นมากจากกลุ่มการเมืองค่ายตรงข้าม ไม่ใช่ใครที่ไหน ลูกเขยของตาแมวกาโตนั่นเองครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-21 21:03:00 IP : 83.52.230.77


ความคิดเห็นที่ 9 (2977357)
avatar
Don
...ครวนี้คูหูคู่ฮา มาหาอำนาจซีซาร์และปอมเปย์ก็วาดลวดลายออกลีลาในสภาโรมอย่างสุดๆ ครับ

ซีซาร์มีม๊อบปอมเปย์หนุนหลัง รวมทั้งกลุ่มประชานิยมก็ออกอาการยึดเมืองทันที

ซีซ่าร์ส่งร่าง กม. จัดสรรที่ดินให้ลูกน้องของปอมเปย์เข้าสภา พร้อมกับเอาม๊อบมาเตรียมหน้าสภาไว้แล้ว

พออภิปรายกันถึงพริกถึงขิง ซีซ่าร์ในฐานะกงสุลเหนือกว่าสมาชิกสภาซีเนตโรมัน ก็ยัดข้อหาผิดระเบียบให้ซีเนตฝ่ายตรงกันข้าง สั่ง จนท. มาจับลากออกไปเข้ากรงไว้ก่อนทันที

พออภิปรายถึงหยวกถึงกล้วย ด่ากันชุลมุนซีซ่าร์ก็สั่งไอโฟน เอ๊ย ให้สัญญาณม๊อบบุกเข้าสภา ม๊อบเข้ากลุ้มรุมแบกตัวทั้งนายแมว และลูกเขยที่เป็นกงสุลร่มออกไปโยนบกข้างนอก ซีซ่าร์ ก็ฉวยร่างกฎหมาย เดินหน้าตาเฉยไปให้สภาล่าง ที่ส่วนมากเป็นพวกประชานิยมของตนอนุมัติผ่านร่างออกมาเป็นกฎหมายสมใจปอมเปย์

ยิ่งกว่านั้น ม๊อบของ ซีซาร์-ปอมเปย์ ยังได้เอาอุจจาระทั้งถังราดหัวลูกเขยนายแมว กงสุลร่วมซะอีก การเมืองปาอุจจาระนี่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน ค.ศ. แล้วครับ ไม่ใช่เพิ่งเกิดในศตวรรษที่ ๒๐-๒๑

หลังจากนั้นไม่ต้องห่วงครับ ซีซ่าร์ก็ยึดทั้งสองสภาสบายไป ม๊อบก็คอนคุกคามฝ่ายตรงกันข้ามไปเรื่อย โดยเพาะพวกนายแมว ลูกเขยนายแมวที่เป็นกงสุลร่วมนั้นถึงขั้นไม่ค่อยกล้าออกจากบ้าน ขากประชุมสภาอยู่บ่อยๆ

ตอนนี้นายแมวก็นอนกัดฟันไปพลางๆ ก่อน หนอย ซีซ่าร์ ทำบ้าๆ เล่นการเมืองผิดขั้นตอน ผิดกฎหมายหลายข้อ เดี๋ยวพอแกหมดอำนาจวาระแล้วข้าจะแจ้งฟ้องเอาให้ตายไปเลย...
ผู้แสดงความคิดเห็น Don วันที่ตอบ 2010-08-21 21:05:07 IP : 83.52.230.77


ความคิดเห็นที่ 10 (2977684)
avatar
masked v

อ้าว จบแค่นี้เหรอครับ อารมณ์ค้างเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น masked v วันที่ตอบ 2010-11-24 22:28:46 IP : 58.9.5.227



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.