ทุกวันนี้สิงคโปร์มีประชากรอยู่เกือบ 5 ล้านคน ถือเป็นเมืองสมัยใหม่ที่มีบทบาทสำคัญทั้งทางด้านการค้าและการเงินระหว่างประเทศ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปีที่แล้ว คนสิงคโปร์ต้องเผชิญกับความโหดร้ายและขมขื่นของสงครามโลกครั้งที่ 2 การพ่ายแพ้ของสิงคโปร์ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1942

ต้นศตวรรษที่ 20 ท่าเรือพาณิชย์ที่คับคั่งของสิงคโปร์ และคาบสมุทรมาเลย์ คือ อัญมณียอดมงกุฎแห่งอาณานิคมในเอเชียตะวันออกของอังกฤษ การดำรงอยู่ของสิงคโปร์ตอกย้ำอำนาจของจักรวรรดิ

สถานที่ซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงในปี ค.ศ. 1820 แต่เมื่อถึงปี ค.ศ. 1920 มันคือเมืองพาณิชย์ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นจุดชำระบัญชีสำหรับสินค้าจากทั่วฝั่งตะวันออก ซึ่งจะมุ่งหน้ากลับไปสู่ยุโรป มันเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ด้านการพาณิชย์ เพื่อจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาณานิคม คนอังกฤษได้นำคนงานชาวจีนและอินเดียเข้ามาสู่ชุมชนที่ประกอบด้วยชาวมาเลย์เป็นส่วนใหญ่ และก่อให้เกิดความตึงเครียดทางชาติพันธุ์ เหมือนกับคลื่นใต้น้ำ ทั้งชาวจีนและชาวอินเดียได้รวมกันเป็นกลุ่มเชื้อชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และคนมาเลย์ก็ไม่ค่อยพอใจเรื่องนี้

แต่ชนชั้นปกครองของอาณานิคมอังกฤษโดยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกถึงความตึงเครียดที่อยู่รอบตัว เพราะพวกเขามัวเพลิดเพลินอยู่กับเกียรติยศและอภิสิทธิ์ของจักรวรรดิ อังกฤษไม่ใช่เจ้าอาณานิคมรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และอเมริกาก็มาปล้นความอุดมสมบูรณ์ของประเทศแถบตะวันออกเช่นกัน แต่มีประเทศเอเชียประเทศหนึ่งซึ่งมีความทะเยอทะยานที่จะสร้างจักรวรรดิของตัวเอง และมองว่าตัวเองเป็นคู่แข่งโดยตรงของชาติตะวันตก นั่นคือญี่ปุ่น

ปี ค.ศ. 1931 ญี่ปุ่นเริ่มขยับตัว เนื่องจากขาดวัตถุดิบ พวกเขาจึงบุกแมนจูเรีย ชาวจีนที่ยุทโธปกรณ์อ่อนด้อยและมีผู้นำที่ย่ำแย่ ไม่ใช่คู่ต่อกรของกองทัพญี่ปุ่นที่ทันสมัยและทรงพลัง ในที่สุดสามารถยึดครองจีนได้เกือบหนึ่งในสาม ในปี ค.ศ. 1936 ญี่ปุ่นขยับเข้าใกล้สงครามเต็มรูปแบบ เมื่อพวกเขาลงนามเป็นพันธมิตรกับนาซีเยอรมนี พวกเขาส่งนายพลโทโมยูกิ ยามาชิตะ ไปพบกับคณะผู้นำของจักรวรรดิไรช์ที่สาม เพื่อรับทราบแผนการทำสงครามของเยอรมนี 3 ปีต่อมาแผนการเหล่านั้นก็ปรากฏชัดเจนและ***ม
เกรียมขึ้น

1 กันยายน ค.ศ.1939 นาซีเยอรมนีบุกโปแลนด์ และทั้งโลกก็ถูกผลักเข้าสู่สงคราม เมื่อสงครามขยายวงออกไป ประเทศต่าง ๆ ในเครือจักรภพอังกฤษก็ระดมพลเพื่อปกป้องแผ่นดินแม่ อังกฤษกลัวว่าถ้าญี่ปุ่นเข้าร่วมสงครามโดยอยู่ฝ่ายเยอรมนี พวกเขาจะโจมตีสิงคโปร์ เพื่อขัดขวางญี่ปุ่น เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ส่งกองกำลังผสมนานาชาติที่ประกอบด้วยกองทหารอังกฤษและอินเดีย มาเสริมแนวรับของเกาะนี้

ทหารหน่วยกอร์ดอนไฮแลนเดอร์ส หน่วยอาร์ไกล์ และหน่วยซัทเธอร์แลนด์ไฮแลนเดอร์ส คือกองกำลังอังกฤษกลุ่มแรก ๆ ที่เดินทางมาถึง  หน่วยอาร์ไกล์เป็นทหารรุ่นถัดมาจากทหารสวมกระโปรงแบบชาวสก๊อตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นทหารที่ร้ายกาจจนพวกเยอรมันตั้งฉายาให้ว่า “สตรีนรก” ผู้บังคับบัญชาของพวกเขาคือ พันโทเอียน สจวร์ต

เดือนกันยายน ค.ศ.1940 ขณะที่ยุทธการบริเตนกำลังดุเดือด ญี่ปุ่นก็ยกทัพเข้าสู่อินโดจีนของฝรั่งเศส ซึ่งอยู่เหนือมาลายาไม่ไกล ฝรั่งเศสยอมแพ้โดยไม่ต่อสู้ โดมิโนอาณานิคมตัวแรกล้มลงแล้ว ป้อมปราการสิงคโปร์จำเป็นต้องได้รับกำลังเสริม พฤษภาคม ค.ศ. 1941 ฝ่ายอังกฤษได้ส่งพลโทอาร์เธอร์ เพอร์ซิวาล มายังสิงคโปร์ เพื่อบัญชาการการจัดทัพกองกำลังผสมนานาชาติของจักรวรรดิ

ขณะที่เพอร์ซิวาล กำลังหาทางรับมือกับภารกิจการป้องกันมาลายาและสิงคโปร์ คู่ต่อกรของอังกฤษคือพลโทโมยูกิ ยามาชิตะ เขาเชี่ยวชาญการรบและกรำศึกมามาก เขาอยู่ที่ภาคใต้ของจีน เขียนแผนการรบเพื่อจะบุกอาณานิคมของอังกฤษ และเมื่อเริ่มปฏิบัติการไม่นานเขาก็สามารถยึดโกตาบารูสำเร็จ

หลังโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์ 3ชั่วโมงต่อมาฝูงบินทิ้ง ระเบิดระลอก          ที่สองก็มุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ที่ไม่ทันระวังตัว ไม่มีการสั่งดับไฟ และถนนหนทางก็เปิดไฟสว่างไสว ทำให้นักบินญี่ปุ่นหาเป้าหมายของพวกเขาได้โดยง่าย การทิ้งระเบิดโจมตีสิงคโปร์เป็นการส่งสารที่น่าตกใจไปยังพลเมืองของเกาะนี้ว่า เจ้าอาณานิคมของพวกเขาไม่สามารถปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยได้ เมื่อกองเรือสหรัฐถูกตัดกำลังที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ เรือรบฝ่ายสัมพันธมิตรที่อยู่ในภูมิภาคนี้จึงมีเพียงเรือปรินซ์ออฟเวลส์และเรือรีพัลส์ในฐานทัพเรือสิงคโปร์ แต่กองเรือที่ไม่มีเครื่องบินคุ้มกันนี้ก็ถูกโจมตีได้โดยง่าย ทหารกว่า 1,000 นายต้องจบชีวิตลง

ขณะที่กองทัพญี่ปุ่นพยายามบุกลึกเข้าไปในมาลายา ชาวพื้นเมืองมาเลย์หมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่า ก็ต้อนรับพวกเขาในฐานะผู้ปลดปล่อย พวกเขารู้สึกว่าตัวเองถูกรุกรานโดยชาวจีนและชาวอินเดียจำนวนมากซึ่งคนอังกฤษนำเข้ามา และมองว่าการบุกของญี่ปุ่นคือโอกาสที่พวกเขาจะได้กลับมาปกครองประเทศของตนอีกครั้ง

การโจมตีอย่างมีแผนการและต่อเนื่อง เพียง 55 วันกองทัพพระจักรพรรดิญี่ปุ่นได้ผลักดันกองกำลังจักรวรรดิอังกฤษลงไปทางใต้ของคาบสมุทรมาเลย์ได้มากกว่า 960 กิโลเมตร พวกเขาสังหารหรือจับกุมทหารจักรวรรดิไปมากกว่า 20,000 นาย และอยู่ในระยะทางที่สามารถโจมตีสิงคโปร์ได้

ในที่สุดสิงคโปร์ปราการสำคัญของจักรวรรดิอังกฤษในภูมิภาคนี้พ่ายแพ้ต่อกองทัพญี่ปุ่นภายในเวลาเพียง 70 วัน มันเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าอดสูที่สุดของอังกฤษในสงครามโลกครั้งที่ 2 ความพ่ายแพ้ของสิงคโปร์เปลี่ยนโฉมหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปตลอดกาล ประเทศต่าง ๆ ประกาศเป็นเอกราช และเป็นการสิ้นสุดจักรวรรดิอังกฤษ

http://www.dailynews.co.th/world/9778