กรณี " Angles and Demons " นี่ไม่ทราบจริงๆ ครับ

ส่วนกรณีพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ กับลอว์เรนซ์นั้น จากภาพยนตร์ที่นำมาวิจารณ์นั้น ขอใช้คำว่า "มีความเป็นไปได้สูง" ก็แล้วกันครับ คือเขาประเมินจากหลักฐานแวดล้อมต่างๆ เท่าที่ยังหลงเหลือมา

ส่วนความผิดถูกก็แล้วแต่ท้องถิ่นและยุคสมัย กรณีอเล็กซานเดอร์นั้น เขาว่าในสมัยกรีกไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ชายจะมีคนรักทั้งชายและหญิง และในภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับอเล็กซานเดอร์และลอว์เรนซ์ในเวอร์ชันแรกก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้เลย น่าจะเป็นเพราะค่านิยมชายจริงหญิงแท้ แต่ต่อมาโลกเริ่มยอมรับเรื่องพรรค์นี้มากขึ้น อเล็กซานเดอร์เวอร์ชันของโอลิเวอร์สโตนจึงปรากฏเรื่องนี้อย่างชัดเจน

ขอบคุณ คุณโรจน์นะครับ

ผมก็เห็นด้วยกับคำตอบที่ได้ตอบมานะครับ

มีหลักฐานที่หลงเหลือมาด้วยเหรอครับ?แต่ก็อาจจจะจริงสำหรับที่บอกว่า ในฉบับแรกๆ ของการสร้าง อาจจะยังไม่มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ เพราะมิได้มีการยอมรับ หรือมีการตีแผ่เรื่องแบบนี้มากนัก แต่ในปัจจุบันเรื่องนี้มีการยอมรับกันมากขึ้น และก็มีการหยิบยกมานำเสนอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางการค้า คือการนำเสนอ เรื่องราวในรายละเอียดของบุคคลเฉพาะกลุ่ม ก็ย่อมได้รับความสนใจของคนกลุ่มนั่นๆ เป็นการเพิ่มยอดขาย และช่องทางการตลาดมากขึ้นอีกต่างหาก

แต่ก็นั่นหล่ะ ทำให้ผม คิดไปได้อีกว่า เพราะช่องทาง ทางการตลาดหรือไม่? จึงทำให้ผู้สร้างหยิบยก เรื่องเหล่านี้มาสอดแทรกในภาพยนต์ โดยใช้หลักการตลาดมากกว่าที่จะหยิบยก เรื่องจริง ถ่องแท้ ที่มีการแปดเปื้อนเพียงนิด ของบุคคลเหล่านี้ มาตีแผ่ซะดูเป็นเรื่องปรกติ

ฝากคำถามเหล่านี้อีกรอบนะครับ

ทีแรกผมคิดแต่ว่าเป็นการใส่เข้ามาเพราะสังคมยอมรับคนประเภทนี้มากขึ้น ถ้าจะถามว่าเป็นเรื่องทางการค้าหรือเปล่า อาจจะตอบยากหน่อย นึกถึงทีวีไทยช่วงหนึ่ง เคยมีคนบ่นว่าทำไมถึงมีตัวละครที่เป็นตุ๊ดโผล่ทางหน้าจอบ่อยเหลือเกิน หลังๆ ก็เงียบกันไป ไม่แน่ใจว่าลงเอยอย่างไร แต่คิดว่าเรื่องอเล็กซานเดอร์ยังนำเสนอได้แนบเนียนกว่าละครไทยช่วงนั้นเป็นไหนๆ

หรือลองเปรียบเทียบกับอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เคยเป็นข่าวเมื่อราวๆ ปีก่อน ที่ว่ามีบาร์หรือผับในโรงแรมแห่งหนึ่งปฏิเสธที่จะให้บริการแก่สาวประเภทสอง ถ้าเราเป็นเจ้าของบาร์หรือโรงแรมแห่งนั้น เราจะตัดสินใจอย่างไร? ถ้าเรายินดีรับ "เธอ" เข้ามาเป็นลูกค้าใช้บริการ แปลว่าเราเป็นคนใจกว้างประมาณว่าเห็นคนประเภทนี้เป็นคนเหมือนกัน อยากให้เข้ามาอยู่ร่วมกันในสังคมกับชายจริงหญิงแท้อย่างเท่าเทียม หรือเพียงแค่ว่าเราอยากได้เงินของ "เธอ" หรือว่ามันก็ทั้งสองเหตุผลประกอบกันในอัตราส่วนเท่าไหร่ก็ไม่รู้?

ตามความรู้สึกผมแล้ว การค้าหรือการตลาดไม่ใช่สิ่งไม่ดีเสมอไป เรื่องเพศที่สามแต่ก่อนก็อคติพอๆ กับหลายๆ ท่าน แต่พออายุมากเข้าก็ต้องยอมรับกันมากขึ้นครับ ไม่ใช่ว่าใครเป็นอย่างนี้แล้วจะไม่ดีเสมอไปครับ

ขอบคุณสำหรับ คำตอบขอบคุณโรจน์อีกครั้งครับ

ก็เห็นด้วยเช่นเดิม แต่อยากจะเพิ่มเติมนิดหน่อยนะครับ

สำหรับเรื่อง Alexander เอง ก็ถือได้ว่า เสนอได้อย่างแนบเนีย แบบศิลปะบนแผ่นฟิล์ม สามารถแบ่งแยกตัวละคร ประเภทที่เราได้กล่าวมา โดยที่ผู้ชม มิได้รู้สึกว่าตัวละครเหล่านั่น แตกต่างกับตัวละครอื่นๆ ที่กระเด้ง กระโดด อยู่ในภาพยนตร์ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย อย่างในละคนไทย

หากกลับทำได้แนบเนียน ว่าเขา หรือ เธอ เป็นเพียงตัวละคนที่ดำเนินเรื่องตัวนึงเท่านั่น (มิได้เป็นตัวละครที่น่ารักเกียจ หรือ เป็นตัวละครที่มาทำให้ ตัวละครอื่นๆ แปดเปื่อน)

แต่อีกในแง่มุมหนึ่ง ตัวละคนเหล่านั่นเองต่างหาก กลับมีความโดดเด่น ในแง่ของการแสดงอารมณ์ แสดงความโหยหา โดยที่ผู้สร้าง และผู้เขียนบท จงใจให้มันเป็นเช่นนั่น เพื่อดึงดูด และกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมบางกลุ่ม ที่สามารถรับรู้ได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ของภาวะเหล่านี้ในภาพยนตร์ อย่างเช่น คำกล่าวหนึ่งที่ผมใช้กับเพื่อนๆ หลายๆ คนเวลาไปดูภาพยนต์ว่า "หลายคนอาจจะรู้สึก ไม่เหมือนกัน ในฉากๆ เดียวกัน ฉะนั่น อย่าเถียงกันเลยว่า จะตีความฉากเหล่านั่นว่าเป็นอย่างไร" ไม่มีใครผิด หรือถูกจริงๆ หรอก

และอีกเรื่องที่จะต้องขอกล่าวยกย่อง ก็คือ ผู้ที่ได้แสดงบทเหล่านั่น อย่างเช่น "Jared Leto" ผู้แสดงบท Hephaestion ได้อย่างที่มิมีใครจะรู้สึกเลยว่า จริงๆ แล้ว นักรบที่แกร่งกล้า เคียงบ้า กับ Alexander ในสนามรบผู้นี้ จะเป็นผู้ที่กุมหัวใจของ Alexander มากกว่าครึ่งหนึ่ง ที่ Alexander มีให้กับผู้อื่น และอีกตัวละครหนึ่งในเรื่อง ซึ่งผมไม่สามารถ หาข้อมูลของเขาได้เลย คือ "นางระบำ" ในร่างชาย สะโอดสะอง ที่ร่ายรำ เต้นระบำ เสียจนทำให้ Alexander เอง หลงลืม Hephaestion ได้ชั่วระยะหนึ่ง

เขียนมาถึงตอนนี้ผมก็ได้รู้สึกตัวเองอีกครั้งนึงว่า "ทำไมผมถึงสนใจเรื่องเหล่านี้ ในภาพยนต์ได้มากมายนัก?" ผมสนใจเรื่องเหล่านี้ พอๆกับ เนื้อเรื่องหลักๆ ที่ผู้สร้างภาพยนต์จงใจจะถ่ายทอดให้ผู้ชมรับรู้ เลยนะครับ

ผมมีความเห็นว่า ผู้สร้างภาพยนต์และผู้เขียนบท บางท่าน จงใจที่จะสอดแทรก ตัวละคนที่เราได้กล่าวมาในตอนต้น ให้อยู่ในภาพยนต์หลายๆเรื่อง โดยมิมีข้อสรุปได้ว่า จริงๆแล้วเป็นอย่างไรกัน (ไอ้เรื่องที่ ไม่มีข้อสรุป แบบจริง ไม่จริง เนี่ยหล่ะมันทำให้ผมสะกิดใจได้ทุกที)

ผมไม่รู้น่ะว่า "Star Gate" จะถือว่าเป็นภาพยนต์ที่ใช้อิงทางประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แต่สำหรับผม มันไม่ใช่ภาพยนต์แนวแฟนตาซี วิทยาศาสตร์ เพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นประวัติศาสตร์ ทางด้านมวลมนุษย์ ประวัติศาสตร์กำเนิดศาสนาเล็กๆ ด้วยซ้ำไป ในภาพยนต์ "Star Gate" ก็มีการสอดแทรกตัวละคนเหล่านั่นด้วย น่ะครับ

ถ้าคุณโรจน์เคยได้ชม ลองคิดดูสิครับว่าเป็นตัวละคร ตัวไหน อย่างไร ลองดูนะครับ?

ขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณโรจน์นะครับ ดีใจที่ได้เจอเว็ปนี้จังครับ

รอคอยมาหลายวัน

ไม่มีใครตอบกระทู้เลยเหรอครับ

ต้องขออภัยว่าพอโพสคำตอบล่าสุดก็ไปเขียนบทความเรื่องใหม่จนเสร็จในคืนวันอาทิตย์ พอจันทร์อังคารเริ่มทำงานจนลืมไปว่ายังมีประเด็นหนังเรื่องสตาร์เกทค้างอยู่ หนังเรื่องนี้เคยดูนานแล้วครับ ประเด็นที่พอนึกออกก็คล้ายๆ อย่างที่คุณว่ามา แต่เรื่องจะขยายความหรือนึกประเด็นอื่นนี่ยังไม่มีไอเดียจริงๆ ครับ

ครับผม ขอบคุณในคำตอบครับ

งั้นไว้รอคุณโรจน์ว่างๆ แล้วค่อยคุยกัน