สมรภูมิรบสะท้านโลกของฮิตเลอร์

ผู้เขียน  พ.อ.ศนิโรจน์ ธรรมยศ

สนพ. Animate Group พิมพ์ครั้งแรก 2557  320 หน้า

สารบัญ

บทที่ 1 สมรภูมิฝรั่งเศส

บทที่่ 2 สมรภูมิ "เดมแยงส์"

บทที่ 3 สมรภูมิแอฟริกาเหนือ

บทที่ 4 สมรภูมิที่เมือง "คาร์คอฟ"

บทที่ 5 สมรภูมิที่เมืองเคริสค์

บทที่ 6 สมรภูมินอร์มังดี

เรื่องราวเกี่ยวสมรภูมิที่สำคัญของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 แสดงรายละเอียดที่มาที่ไปจนถึงบทสรุปของแต่ละสมรภูมิ ในแต่ละสมรภูมิยังแทรกด้วยประวัติหน่วยรบและนายทหารสำคัญของเยอรมันที่รบในสมรภูมินั้น รายละเอียดอาวุธหลักที่ใช้ซึ่งโดยมากจะเป็นรถถังเกือบทุกสมรภูมิ เรียกว่าทำให้เห็นพัฒนาการของแพนเซอร์แต่ละรุ่นเลย และยังมีรถถังของฝ่ายสัมพันธมิตรบางรุ่นอีกด้วย

อ่านแล้วได้ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับแต่ละสมรภูมิเพิ่มเติม

ถ้อยคำน่าสนใจจากหนังสือ

เขาคิดค้นยุทธวิธีที่ผสมผสานกำลังยานเกราะ ทหาราบ เครื่องบินและปืนใหญ่เข้าด้วยกันเพื่อทำการรุกที่รวดเร็ว จนได้รับการขนานนามว่าการรุกแบบ "สายฟ้าแลบ" (Blitzkrieg) (42)

ลักษณะเป็นแถบโลห์ขนาดเล็ก เรียกว่า "โลห์แห่งเดมแยงส์" ทำจากโลหะชนิดสังกะสีที่เป็นสีเงิน ซึ่งการประดับเครื่องหมายดังกล่าวจะประดับไว้ที่แขนเสื้อซ้ายท่อนบนเหนือข้อศอก เพื่อมอบให้แก่กำลังพลกว่า 100,000 นายทั้งสังกัดกองทัพบก หน่วยเอส เอส และกองทัพอากาศที่ผ่านการรบในสมรภูมิแห่งนี้ ไม่ว่าจะเสียชีวิตจากการต่อสู้ในวงล้อมหรือรอดชีวิตกลับมาได้ (71)

เรากำลังเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือและมีความเก่งกาจ และข้าพเจ้าขอขนานนามเขาว่า นายพลผู้ยิ่งใหญ่ (115)

"ก่อนพิชิตเอล อลาเมน เราไม่เคยได้รับชัยชนะ .. แต่หลังจากพิชิตเอล อลาเมนแล้ว เราจะไม่แพ้อีกต่อไป" (144)

อีกทั้งยังได้มีการจัดทำบทเรียนในการรบที่เมืองคาร์คอฟของกองพลดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นกรณีศึกษาโดยสถาบันทหารทั่วโลกในฐานะตัวอย่างของ "การรบในเมือง" (189)

ฮิตเลอร์ได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จของกองทัพน้อยยานเกราะเอส เอส ว่า "มีค่ามากกว่ากองพลของอิตาลีจำนวน 20 กองพลเสียอีก" (189)

ถ้าเราไม่สามารถรุกไล่ทหารอังกฤษกลับไปที่ทะเลได้ เราจะแพ้สงคราม (282)