Hitler"s War กำเนิด จุดจบ และโศกนาฏกรรมของฮิตเลอร์
avatar
หมาป่าดำ


user image

 Hitler"s War กำเนิด จุดบ และโศกนาฏกรรมของฮิตเลอร์

ผู้เขียน นฤนารท พระปัญญา

สนพ.ศยาม พิมพ์ครั้งแรก 2556 520 หน้า

มี 67 บท แต่ละบทจะสั้นๆประมาณ 5 หน้า เป็นเรื่องราวสรุปชีวิตของฮิตเลอร์ตั้งแต่เกิด จนถึงวาระสุดท้าย พร้อมสอดแทรกประวัติของบางคน สถานที่และเหตุการณ์ที่สำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต่างจากหนังสืออื่นคือผู้เขียนเล่าประสบการณ์การเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ในปัจจุบัน ที่เคยเป็นเหตุการณ์สำคัญในช่วงสงครามโลกด้วย มีการเปรียบเทียบยุคสมัยเหตุการณ์ต่างๆ ว่าตรงกับของไทยช่วงใด ศัพท์เฉพาะในภาษาต่างๆ เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย มีการใส่วงเล็บคำภาษานั้นไว้ด้วย มีบทวิเคราะห์ด้านการเมืองการทหารประกอบ และยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทั้งที่เกียวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 และประวัติศาสตร์อื่นที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามาอีกด้วย เช่น เรื่องราวของนายพุ่มสกี้และกูเกิล เหมาะสำหรับผู้เริ่มศึกษาประวัติของฮิตเลอร์และสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนผู้ที่ศึกษามามากแล้วจะได้ทราบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเพิ่มขึ้นมากทีเดียว

ถ้อยคำประทับใจจากหนังสือ

 

ทฤษฎี Totall war มนุษย์เพียงเดินทางจากสงครามหนึ่งสู่สงครามหนึ่ง (16)

หรือจริงแล้วสงครามจะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ (16)

เขาได้ชื่อว่าเป็นทหารที่เกิดมาพร้อมกับโชค หลายครั้งจุดที่เขาลุกขึ้นเดินพ้นออกไปไม่กี่วินาทีจุดนั้นกลายเป็นตำบลกระสุนตก (44)

ทีแรกฮิตเลอร์ตั้งชื่อหนังสืออัตชีวประวัติของเขาเสียยาวว่า “Four and a Half Years of Sturggle Against Lies, Stupidity and Cowardice” หรือ “สี่ปีครึ่งของการต่อสู้การโกหกพกลม ความโง่เขลาเบาปัญญาหรือความงี่เง่า” (69)

โจเซฟ เกิบเบลล์ “การโฆษณาชวนเชื่อคือสิ่งที่เราต้องการให้คนอื่นเชื่อ ไม่มีความเกี่ยวพันกับความจริงแม้แต่น้อย” (79)

ประเทศเยอรมันเข้าสู่ยุค “หนึ่งประชา หนึ่งชาติ หนึ่งผู้นำ” “Ein Volk,Ein Reich, Ein Fuhrer” (89)

เชอร์ชิลล์สารภาพว่า เรือดำน้ำเยอรมันเป็นอาวุธชนิดเดียวที่ทำให้ท่านฝันร้าย (99)

เคยถามคนนำทางออสเตรียว่า “เป็นสาวเป็นนางหน้าตาก็ดี ทำไมไม่ยิ้ม “ กลับได้รับคำตอบว่า “ยิ้มทำไมไม่มีเหตุผล” (102)

ฮิตเลอร์ “จากวันนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าเป็นทหารคนที่หนึ่งแห่งเยอรมันไรซ์ ข้าพเจ้ากำลังสวมใส่เครื่องแบบ และจะไม่ถอดมันจนกว่าเราได้รับชัยชนะ” (155)

ฮิตเลอร์ “วันใดที่เราเปิดปฏิบัติการบาร์บารอสซา เราแค่เตะประตูเมืองทุกอย่างก็จะพังโครมลงมา” (213)

“Never eat Leningrad meat-ball” (224)

รบเพือแผ่นดินแม่ รบเพื่อสตาลิน (238)

นายพลเพาลุสเหมือนกับนายพลรอมเมล ทั้งคู่ไม่เคยปฏิบัติต่อเชลยศึกอย่างไร้มนุษยธรรม (247)

นิกสัน “สงครามเย็นระหว่างสองขั้วมหาอำนาจเกิดขึ้นก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงเสียอีก” (267)

เชอร์ชิลล์ “สิ่งเดียวในสงครามโลกครั้งที่สองข้าพเจ้ากลัวที่สุดคือ อันตรายจากเรือดำน้ำเยอรมัน” (306)

สมเด็จพระสันตปาปาปิอุสที่ 12 ถูกกล่าวหาว่า “เงียบงันต่อชะตากรรมของชาวยิว ขณที่ถูกนาซีเยอรมันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” (355)

ฮิตเลอร์แถลงต่อหน้าพระคาร์ดินัลอิตาลีและเยอรมันว่า “ในปัญหาชาวยิวนั้น ข้าพเจ้าทำเพียงสืบทอดสิ่งที่ศาสนาจักรโรมันคาทอลิกได้ทำมาตลอดหนึ่งพันห้าร้อยปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าไม่เคยให้ความสำคัญต่อปัญหาชาติพันธุ์ เหนือความเชื่อทางศาสนา เพียงแต่ข้าพเจ้ามองเห็นปัญหาที่เกิดจากผู้แนของชาติพันธุ์(ยิว)ดังกล่าว” (355)

ข้าพเจ้าเป็นคาทอลิมาแต่ในอดีต และจเป็นคาทอลิกตลอดไป สิ่งที่ข้าพเจ้าปฏิบัตินั้นถือเป็นการรับใช้คริสตจักร” (336)

ไมเคลิ บริน “นโยบายต่อต้านยิวแม้จะไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรก็ยังดำรงอยู่อย่างเหนียวแน่น”  (362)

บริน มีความเชื่อว่า ความรู้เป็นสิ่งประเสริฐแน่นอนว่ามันดีกว่าความไม่รู้ และทุกคนควรจะมีความเท่าเทียมกันในโอกาสสืบค้นหาความรู้” (363)

มีนักการทหารท่านหนึ่งกล่าวว่า “ในสงครามนั้นการส่งกำลังบำรุง ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เมือใดที่ขาดการส่งกำลังบำรุง ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลายเป็นศูนย์ทันที” (374)

นโปเลียน “ สงครามหาเลี้ยงสงคราม” “War feeding War” (375)

นายพลซูคอฟ สังเกตเห็นความบกพร่องของขนาดรองเท้าของเชลยศึก  รวมทั้งเครื่องแต่งกายที่ไม่ได้ใช้ขนสัตว์ เขารู้ทันทีว่า ฮิตเลอร์ทำสงครามด้วยความประมาท (378)

กล่าวโดยสรุป ความบกพร่องด้านโลจิสติกส์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทัพเยอรมันต้องประสบความปราชัยย่อยยับในสมรภูมิโซเวียต (379)

สตาลินเกรงว่าหากการลอบสังหารฮิตเลอร์ได้สำเร็จนายทหารเยอรมันฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับฮิตเลอร์จะขึ้นมามีอำนาจจะเปิดการเจรจาสงบศึกกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ก่อนที่กองทัพแดงจะมีโอกาสเข้ายึดครองยุโรปตะวันออกและกรุงเบอร์ลินในที่สุด (399)

กอดดาร์ด “มีการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ความฝันของวันวาน เป็นความหวังของวันนี้ และความหวังของวันนี้จะเป็นความจริงในวันพรุ่งนี้” (423)

ฮิตเลอร์ “ในชีวิตนี้ขอจงอย่าให้อภัยความอ่อนแอ่” “สิ่งที่เรียกว่ามนุษยธรรมนั้นเป็นเพียงคำกล่าวอ้างแสดงเมตตาธรรมของพวกนักบวช ทั้งที่ความเมตตาต่อคนอ่อนแอเป็นการทรยศต่อกฎธรรมชาติ” “ข้าฯ ไม่เคยปล่อยให้ความเมตตาเข้าครอบงำในการบดขยี้พวกต่อต้านและพวกเผ่าพันธุ์ศัตรู” (472)

มีคนตั้งข้อสังเกตว่ากระจังหน้าของรถยนต์ BMW เหมือนกับหนวดของฮิตเลอร์ (487)

วันนี้พรรคนาซีใหม่เป็นปีศาจโฉมงามหน้าเหมือนคนธรรมดาสามัญ (515)

 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ หมาป่าดำ (mist-dot-river-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2014-12-01 15:03:32 IP : 49.48.240.80


Copyright © 2010 All Rights Reserved.