dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



จงอางผยอง - กำลังภายในในหนังไทยที่ลงตัว
วันที่ 19/05/2013   19:35:48

webmaster@iseehistory.com

 

สองคู่พระคู่นางไทย-จีนที่แสดงนำ

 "จีนไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" คำขวัญที่กลับไม่ค่อยจะได้ยินกันแล้วในช่วงเวลาที่คนไทยกำลังเห่อตั้งชื่อลูกให้หมีแพนด้าที่เชียงใหม่ เพราะในความเป็นจริงคำขวัญนี้กลับไปฮิตในช่วงที่คนไทยทั่วไปยังรู้สึกแปลกแยกกับคนไทยเชื้อสายจีน เป็นที่ทราบกันดีว่าในอดีตมีคนจีนอพยพเข้ามาในเมืองไทยอยู่ไม่ขาดสาย และย่อมจะมีบทบาทในประวัติศาสตร์ไทยทั้งทางบวกและทางลบอยู่บ้างตามเหตุการณ์แต่ละยุคสมัย บทบาทของคนจีนในสังคมไทยหรือคนไทยเชื้อสายจีนด้านหนึ่งที่น่าจดจำกันคงไม่พ้น การกอบกู้ประเทศจากการเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่าเป็นครั้งที่สอง ที่สำเร็จลงได้ด้วยผู้นำคือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชผู้ทรงมีเชื้อสายจีน และทหารหาญชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนหนึ่ง และนี่คงเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งของการสร้างภาพยนตร์ร่วมกันระหว่างไทยกับฮ่องกงในเรื่อง "จงอางผยอง" ที่ออกฉายเมื่อ 23 มกราคม 2514

ชาวบ้านไทย-จีนฉลองตรุษจีนร่วมกัน

ฉากการปล้นหมู่บ้าน

ภาพยนตร์เริ่มเรื่องในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา (น่าจะเป็นพ.ศ.2295) ที่หมู่บ้านบางปลาสร้อยซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล ที่อยู่ของเด็กไทยจีน 4 คน คือ เพชร เจียงไฮ แข และหลินหลิน ขณะที่ชาวบ้านไทยจีนที่กำลังฉลองตรุษจีนร่วมกันอย่างสนุกสนาน ก็มีกลุ่มโจรนำโดย อิน เอิบ ดวง และ เอี้ยง เข้ามาปล้นหมู่บ้าน และได้เข่นฆ่าทำร้ายผู้ที่ต่อสู้ขัดขืนไปหลายราย รวมถึงบิดามารดาของเด็กทั้ง 4 ถูกสังหารหมด นอกจากแม่เจิดมารดาของแขที่ถูกฟันแขนขาด และเด็กทั้ง 4 ซึ่งรอดชีวิตมาได้ ต่างสาบานว่าอีก 15 ปีจะกลับมาล้างแค้น ก่อนที่เจียงไฮและหลินหลินจะตามก๋งไปฝึกวิชาการต่อสู้ที่เมืองจีน 

เจียงไฮและหลินหลินกลับมาพบแขตามที่สาบาน ยังขาดแต่เพชร

ค่ายขุนอินทเดชะ

สามสหายปลอมตัวเข้ามาในค่ายขุนอินทเดชะ

15 ปีผ่านไป ที่สำนักดาบโพธิ์ทองคำ แขซึ่งโตเป็นสาว ได้พยายามขอร้องไม่ให้แฟนหนุ่มชื่อเสือไปเป็นทหารที่คลองพลู ค่ายทหารของขุนอินทเดชะ แต่ไม่เป็นผล มิหนำซ้ำแขและแม่เจิดยังได้ทราบว่าแท้ที่จริง เขาเป็นลูกชายของเอิบน้องชายของขุนอินทเดชะหรืออินหัวหน้าโจรที่เข้าปล้นบ้านบางปลาสร้อยในครั้งนั้น โดยเอิบเป็นผู้ฟันแขนแม่เจิดขาดนั่นเอง  แม้ว่าสองแม่ลูกจะรู้สึกเคืองแค้น แต่ก็ไม่ได้บอกความจริงกับเสือ คงปล่อยให้แขไปพบกับเสือเพื่อร่ำลากัน แต่เมื่อแขกลับมาที่พักก็พบว่าแม่ถูกฆ่าตายโดยไม่ทราบชัดว่าใคร (แต่เชื่อว่าผู้ชมคงเดาได้) ขณะที่แขกำลังร่ำไห้ที่หลุมศพแม่ที่นำมาฝังเคียงข้างพ่อ ก็ได้พบกับเจียงไฮกับหลินที่พึ่งกลับจากเมืองจีนมาตามคำสาบาน แขเล่าให้เพื่อนจากเมืองจีนทราบว่าขณะนี้อินได้เป็นขุนอินทเดชะก่อนที่กรุงจะแตก และซ่องสุมผู้คนอยู่ที่คลองพลูอ้างว่าจะร่วมกู้ชาติกับพระยาตาก ทีแรกทั้งสามตั้งใจจะรอปรึกษาเพชรก่อน โดยไม่ทราบว่าเพชรได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ในค่ายคลองพลูในชื่อว่าเปลว เพื่อสืบข่าวให้กับพระยาตากอยู่ เมื่อทั้งสามรอเพชรไม่ไหว จึงปลอมตัวเป็นพ่อค้าเข้าไปหวังจะทำร้ายขุนอินกับพวก แต่ไม่สำเร็จเนื่องจาก "เปลว" และเสือเข้ามาขัดขวาง ทำให้แขกับหลินหลินถูกจับตัว เจียงไฮหนีรอดไปได้โดยเข้าใจว่าเพชรทรยศเพื่อน

ดาบไทยปะทะกระบี่จีนด้วยความไม่เข้าใจระหว่างเพื่อน


นอกจากบทบู๊แล้ว การแสดงแบบไทยๆ ก็มีให้ดู

ขุนอินออกเดินทางไปธุระอ้างว่าไปพบพระยาตาก อีกด้านหนึ่ง ทหารของขุนอินได้ตามจับและสังหารม้าด่วนของพระยาตาก ยึดสาส์นลับไว้ เจียงไฮเข้ามาพบและสังหารคนของขุนอิน แล้วเกิดการต่อสู้กับเพชรซึ่งยังเข้าใจผิดกันอยู่ แต่เมื่อเจียงไฮได้ดูสาส์นลับจึงทราบความจริงว่าเพชรจำต้องปลอมตัวเป็นสายให้พระยาตาก แล้วจึงนัดหมายกันที่จะหาทางช่วยเหลือแขกับหลินหลินออกมาจากที่คุมขัง เมื่อขุนอินกลับมายังค่าย เพชรถูกจับได้ขณะพยายามช่วยเพื่อนหญิงทั้งสองเพราะที่จริงคนของขุนอินที่ตามจับม้าเร็วของพระยาตากแล้วถูกเจียงไฮทำร้ายนั้น รอดชีวิตมาได้คนหนึ่งและได้ยินที่เพชรพูดกับเจียงไฮตลอด ขุนอินจับเพชรมัดไว้กับพื้นแล้วบอกความจริงว่าที่ไปธุระมานั้นคือไปพบโปสุพลา แม่ทัพพม่าเพื่อขนปืนใหญ่และกระสุนดินดำมาใช้โจมตีกองทัพของพระยาตากในวันที่จะยกทัพผ่านค่ายคลองพลู แล้วจึงให้ลูกน้องเอาด้ามดาบกระแทกมือเพชรเพื่อหวังให้เพชรหมดฤทธิ์

แถวหน้า เอิบ เอี้ยง และอินหรือขุนอินทเดชะ แถวหลัง เสือ กับดวง

คนไทยขายชาติกับปืนใหญ่ของพม่าดักรอโจมตีกองทัพพระยาตาก

 ส่วนหนึ่งของฉากรบอันดุเดือด

เจียงไฮได้ลอบเข้ามาช่วยเพื่อนทั้งสามออกมาจากค่ายคลองพลูได้ แขได้เสนอความเห็นว่าควรไปขอกำลังจากสำนักดาบโพธิ์ทองคำมาช่วยในการกำจัดขุนอิน แต่อาจารย์ของแขไม่เชื่อว่าขุนอินจะขายชาติจึงจับกุมทั้งสี่ไว้ กว่าท่านครูจะทราบความจริงจากชาวบ้านที่มาส่งข่าวคอนเฟิร์มให้ได้ ก็เล่นเอาคู่พระคู่นางทั้งสี่ของเราเหนื่อยไปตามๆ กัน เพชรต้องแก้ปัญหาเรื่องมือเจ็บโดยขอให้หลินหลินเอาผ้ามัดดาบไว้กับมือ แล้วทั้งสี่ก็นำท่านครูกับบรรดาศิษย์สำนักดาบโพธิ์ทองคำไปจัดการถล่มค่ายคลองพลูของขุนอิน โดยทั้งสี่สามารถสังหารผู้ที่ฆ่าพ่อแม่ของตนได้ แล้วจัดการทำลายค่ายคลองพลูตลอดจนปืนใหญ่ของขุนอินจนสิ้นซาก พระยาตากจึงสามารถเดินทัพผ่านคลองพลูมุ่งสู่จันทบุรีได้

เจียงไฮใช้ปืนใหญ่ทำลายค่ายขุนอิน แล้วทำลายปืนใหญ่ทิ้ง

ในด้านประวัติศาสตร์นั้น คงเอาอะไรมากไม่ได้กับภาพยนตร์ที่อิงประวัติศาสตร์จากจุดเล็กๆ ในประเด็นกลุ่มคนไทยเชื้อสายจีน กับการที่ "พระยาตาก" จะต้องเดินทัพผ่านระยองไปยังจันทบุรี ตรงนี้ผมมองว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการ "อิงประวัติศาสตร์" ที่ว่า หากจะเน้นความบันเทิงแล้ว ก็ควรจะแยกส่วนที่เป็นเรื่องสมมติออกมาชัดๆ และแตะต้องเหตุการณ์จริงหรือตัวละครจริงในประวัติศาสตร์เท่าที่จำเป็น ไม่ใช่ว่าเอาประวัติศาสตร์มาใส่สีใส่ไข่จนเละแล้วมาอ้างดื้อๆ ว่าทำเพื่อบันเทิงไม่ใช่สารคดี แต่ประเด็นด้านที่น่าคิดด้านความสมจริง คือการที่พม่าจะยอมลงทุนขนแต่ปืนใหญ่มาช่วยอินยิงสกัดกองทัพพระเจ้าตากโดยไม่กลัวว่าจะพลาดพลั้งเสียปืนเหล่านี้ไปเปล่าๆ หรือถูกฝ่ายใดนำกลับมาใช้เล่นงานฝ่ายตนดังที่ทางกรุงศรีอยุธยาเคยกลัวจนไม่ยอมให้ปืนใหญ่แก่ชาวบ้านบางระจันเชียวหรือ และเมื่อ "พระยาตาก" ทราบว่าสายสืบของตนไม่กลับมาแล้ว ยังจะยอมเดินทัพผ่านจุดอันตรายโดยไม่ได้ดำเนินการอย่างอื่นเพื่อระวังป้องกันเลยหรือ ฯลฯ


กองทัพพระยาตากที่เดินผ่านคลองพลูได้อย่างปลอดภัย

ด้านบทบู๊นั้น เรียกได้ว่าสามารถนำความโลดโผนแบบกำลังภายในมาผสมผสานกับการต่อสู้แบบไทยๆ รวมถึงวิชาคงกระพันได้อย่างลงตัว ไม่มีใครด้อยกว่ากัน แต่บางฉากก็ออกจะโหดไปสักนิดกับการตัดหัวตัดแขนตัวละคร จนต้องระวังกันหน่อยสำหรับเยาวชน

ด้านเครื่องแต่งกายนั้น ชุดของสมบัติเหมือนจะดัดแปลงมาจากหนังฝรั่งที่ไหนสักเรื่อง ชุดของพระเอกนางเอกฝ่ายจีนนั้น ทีแรกก็เหมือนชุดในหนังกำลังภายในทั่วไป แทนที่จะเป็นชุดยุคราชวงศ์ชิงที่ผู้ชายต้องไว้ผมเปีย พอตอนต่อๆ มา ชุดของเจียงไฮแทบจะเหมือนใส่เชิ้ตผูกไทแดงไปเลย ชุดของนางเอกทั้งสองตั้งแต่ตอนปลอมตัวเข้าไปในค่ายผู้ร้ายดูเหมือนจะไม่ใช่ชุดของคนในยุคนั้น แต่ถ้าแกล้งๆ ลืมก็พอผสมผเสไปกับเนื้อเรื่องได้เหมือนกัน

ด้านฉากและสถานที่นั้น แม้ว่าผู้สร้างจะได้พยายามลงทุนสร้างค่ายคลองพลู ให้ดูสมจริงสมจัง รวมถึงยอมระเบิดทิ้งจริงๆ ในตอนท้าย แต่ดูเหมือนว่าการใช้มุมกล้องหรือการดูจาก VCD จะไม่ค่อยทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นค่ายที่ใหญ่โตอะไรนัก ด้านจำนวนคนนั้น ได้มีความพยายามเกณฑ์กันมาเข้าฉาก ทั้งฝ่ายของขุนอิน ฝ่ายสำนักดาบ และกองทหารของพระยาตาก  แต่ในตอนท้ายบางช่วงก็เห็นได้ชัดว่าทางฝ่ายนักดาบของท่านครูต้องใช้ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่

Happy Ending กันตามระเบียบ

ในภาพรวมแล้ว ถือว่าเป็นหนังพอดูได้เพลินๆ สำหรับคนที่ชอบบทบู๊แบบไทยๆ และ/หรือแบบกำลังภายใน โดยไม่ต้องซีเรียสกับแบ็คกรานด์ทางประวัติศาสตร์มากนัก

เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด  หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย

ชื่อเรื่องภาษาไทย :  จงอางผยอง

เรื่องเดิม :  อรวรรณ

ผู้กำกำกับ : น้อย กมลวาทิน

ผู้สร้าง : สยามสโคป โดย วีระ พิทักษ์รัตนาชัย ร่วมกับ บริษัท คาเธ่ย์ แห่งฮ่องกง

ผู้เขียนบท :  พลังจิต/วีนัส

ผู้แสดง :

  • สมบัติ เมทะนี - เพชร/เปลว
  • ลี หลิน หลิน - หลินหลิน
  • เจียงไฮ - เจียงไฮ
  • สุทิศา พัฒนุช - แข
  • ประจวบ ฤกษ์ยามดี - อิน/ขุนอินทเดชะ
  • พฤหัส บุญ-หลง - ท่านครู
  • อดินันท์ สิงห์หิรัญ - ดวง
  • จุรี โอศิริ - เจิด
  • สังข์ทอง สีใส
  • พยงค์ มุกดาพันธ์
  • จิระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ - เสือ
  • พันคำ
  • อดุลย์ ดุลยรัตน์
  • วิไลวรรณ วัฒนพานิช
  • เสน่ห์ โกมารชุน
  • ฯลฯ

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

  • (ยังไม่มี) 

 
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ

หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ

Bookmark and Share

ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์

 



ประวัติศาสตร์ไทย

ซามูไรอโยธยา แฟนตาซีประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น วันที่ 19/05/2013   19:28:54
ขุนรองปลัดชู : การฟื้นฟูวีรกรรมสามัญชนที่ถูกลืม วันที่ 19/05/2013   19:29:37
ฟ้าใส ใจชื่นบาน : อุดมการณ์ตกยุค หรือ อารมณ์ขันที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด? วันที่ 19/05/2013   19:30:31
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง วันที่ 19/05/2013   19:31:32
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี : "ตำนาน" ที่คงต้องรอตอนจบกันอีกนาน วันที่ 19/05/2013   19:32:48
สามเสือสุพรรณ ดรีมทีมตำนานเสือ? วันที่ 19/05/2013   19:33:41
ทิพพ์ช้าง วีรกรรมท้องถิ่นที่ถูกส่วนกลางครอบงำ วันที่ 19/05/2013   19:34:33
มหาราชดำ วันที่ 19/05/2013   19:36:28
นรกตะรูเตา : ค่ายนรกแบบไทยๆ วันที่ 19/05/2013   19:38:23
เสือใบ : แบบฉบับของยุคหนังบู๊เฟื่องฟู วันที่ 19/05/2013   19:39:11
สุภาพบุรุษเสือใบ : วีรกรรมของโจรชาวบ้าน? วันที่ 19/05/2013   19:40:14
จอมโจรมเหศวร โรบินฮู้ดเมืองไทย? วันที่ 19/05/2013   19:41:12
บางระจัน อีกหนึ่งกรณีที่ต่างจากประวัติศาสตร์ วันที่ 19/05/2013   19:42:39
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ วันที่ 19/05/2013   19:45:12
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๑ องค์ประกันหงสา วันที่ 19/05/2013   19:46:02
สารคดี ตามรอย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช : การเติมเต็มความรู้ ประวัติศาสตร์ ใน ภาพยนตร์ วันที่ 19/05/2013   19:47:11
อารีดัง : ศึกรบศึกรัก ของ ทหารไทย ใน สงครามเกาหลี วันที่ 19/05/2013   19:48:00
สุริโยไท ฉบับสมบูรณ์ ๕ ชั่วโมง วันที่ 19/05/2013   19:48:56
เบื้องหลัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วันที่ 19/05/2013   19:49:39
พิชัยดาบหัก : ผู้สร้างน่าจะทำการบ้านมากกว่านี้ วันที่ 19/05/2013   19:50:22
เจ้าตาก : การไปตั้งหลักที่จันทบุรี แล้วน้องมิ้นเกี่ยวอะไรด้วย? วันที่ 19/05/2013   19:50:59
The King Maker เมื่อเราได้เห็นบทบาททหารต่างชาติสมัยอยุธยามากขึ้น วันที่ 19/05/2013   19:51:37
ยุวชนทหาร เปิดเทอมไปรบ (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   19:52:16 article
รักสยาม เท่าฟ้า (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   19:52:54 article



1

ความคิดเห็นที่ 1 (77254)
avatar
คนเล่าเรื่อง

เท่าที่อ่านดูแล้ว  หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในรูปแบบของการระเบิดภูเขา เผากระท่อม ที่กำลังเริ่มเกิดในวงการหนังไทยในยุคนั้นนะครับ

อันที่จริง  พล็อตของหนังเรื่องนี้ นับว่าเข้าท่าดีทีเดียว  เพราะเป็นการแต่งเติมเรื่องราวบางอย่างในประวัติศาสตร์ให้มีสีสัน สนุกสนาน และเกิดจินตนาการที่ลึกขึ้น  และฝรั่งกับฮ่องกงก็ทำหนังในแนวนี้มานานแล้วครับ

สิ่งที่หนังไทยในอดีตนั้นขาดอย่างมากก็คือ งานโปรดักชั่นที่ละเอียดและลึกซึ้ง  จึงทำให้ฉาก เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ในหนังออกมาแบบ "มั่ว" อย่างไร้หลักการ (อันที่จริง การสมมติฉากหรืออะไรที่เป็นจินตนาการทำได้ครับ แต่ต้องไม่มั่วจนกลายเป็นเละเทะ)

ผมคิดว่า หนังแนวนี้ในปัจจุบันคงได้รับความสนใจนำมาสร้างกันอีก  โดยบทที่พัฒนาขึ้น  งานโปรดักชั่นที่ละเอียดและทุ่มทุนสร้างอย่างจริงจัง  หนังแนวอิงประวัติศาสตร์ที่แต่งเติมเรื่องราวเหล่านี้  จะช่วยสร้างสีสันให้กับวงการหนังไทยไม่น้อยเลยละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเล่าเรื่อง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-06-26 22:45:50



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker