(เผยแพร่ครั้งแรกที่ rojn.blogth.com/HistoryMovies/ Sat-27-May-2006 )
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/1167403729iseehistorycom1.jpg)
หลังจาก การยกพลขึ้นบก ที่ ชายหาดนอร์มังดี ในวันที่ 6 มิถุนายน ปี 1944 (พ.ศ.2487) ดูเหมือนฝ่ายสัมพันธมิตรจะได้รับชัยชนะต่อฝ่ายเยอรมันเกือบตลอด (ยกเว้นยุทธการ Market Garden เพื่อยึดสะพานอาร์เฮมในฮอลแลนด์หรือที่สร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อว่า A Bridge too far ซึ่งจะนำมาเล่าในโอกาสต่อไป) ฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มตายใจว่าตนเองกำลังจะชนะสงครามโดยง่ายดาย และเหล่าทหารหาญกำลังจะได้กลับบ้าน แท้จริงแล้ว กองทัพเยอรมันกำลังเตรียมการรุกโต้กลับครั้งใหญ่ครั้งสุดท้าย โดยยอมลงทุนถึงขนาดถอนกำลังด้านรัสเซียมาหลายกองพลเพื่อการนี้ โดยเลือกโจมตีที่แนวป่าอาร์เดนส์ รอยต่อระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับลักเซมเบอร์กและเบลเยี่ยม ในทำนองเดียวกับที่เคยใช้ในการบุกฝรั่งเศสในตอนต้นสงคราม ทางเยอรมันเรียกปฏิบัติการครั้งนี้ว่า Wacht am Rhein หรือการเฝ้าระวังแม่น้ำไรน์ เพื่อเป็นการลวงไม่ให้ทราบล่วงหน้าว่าเป็นการบุก ต่อมา ประวัติศาสตร์เรียกการรบครั้งนี้ว่า The Battle of the Bulge (16 December 1944 – 25 January 1945)
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/bulge_map.jpg)
แผนที่การรบจริงของ Battle of the Bulge ในประวัติศาสตร์
ภาพจาก http://www.cimmerians.org/OP__CHROME_SPIKE.html
สำหรับภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์ครั้งนี้ในชื่อ The Battle of the Bulge ในปีค.ศ.1965 (พ.ศ.2508) ไม่ได้เน้นที่ความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มากนัก แต่จับจุดเพียงแค่การรบกันระหว่างกองทัพรถถังสองฝ่าย คือ ฝ่ายเยอรมัน ซึ่งเป็นฝ่ายบุกและมีรถถังที่มีประสิทธิภาพดีกว่า แต่มีความเสียเปรียบทางด้านการสนับสนุนทางอากาศ และการขาดแคลนน้ำมัน และฝ่ายอเมริกันที่เป็นฝ่ายรับ จุดขายของหนังเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องของการที่นำรถถังจำนวนมากมาเข้าฉากได้เป็นจำนวนมากมาย แม้จะมีข้อด้อยอยู่บ้างตรงที่ไม่สามารถหารถถังที่ใช้จริงในสมัยนั้น หรือแม้แต่จะตบแต่งให้ดูเหมือน โดยต้องมา "ติ๊งต่าง" ว่า รถถัง M47 Patton เป็นรถถัง Tiger ของฝ่ายเยอรมัน และรถถัง M24 Chaffee เป็นรถถัง Sheman ของอเมริกัน ก็คงต้องเห็นใจฮอลลีวู้ดในยุคนั้นว่าทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/king_tiger.jpg)
ภาพหุ่นจำลองรถถัง King Tiger กำลังหลักของเยอรมันใน Battle of the Bulge
ภาพจาก www.tamiya.com
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/sherman.jpg)
ภาพหุ่นจำลองรถถัง Sherman กำลังหลักของทบ.สหรัฐฯ ในยุคนั้น
ภาพจาก www.tamiya.com เช่นกัน
เมื่อไปเน้นที่การรบของกองทัพรถถัง วีรบุรุษสงครามตัวจริงก็เลยไม่ได้ปรากฏชื่อในหนัง บุคคลแรกที่ควรกล่าวถึง ท่านแรก คือ นายพล McAuliffe รักษาการผู้บัญชาการกองพลพลร่มที่ 101 ซึ่งป้องกันเมือง Bastogne อยู่ ในหนังไม่ได้เอ่ยชื่อท่าน แต่พูดถึงเหตุการณ์ที่ฝ่ายเยอรมันพยายามส่งสาส์นมาบอกให้ท่านยอมแพ้ คำตอบของท่านมีเพียงคำเดียวสั้นๆ ว่า NUTS! ซึ่งในบทภาษาไทยใช้ว่า "บ้า" จริงๆ จะมีความหมายอะไรอย่างอื่นหรือไม่วานผู้ที่ภาษาอังกฤษแข็งแรงกว่าผมช่วยบอกด้วย หรือถ้าเกิดเป็นคำหยาบคายอะไรขึ้นมา ก็ขออภัยด้วย แต่คำตอบของท่านนายพลนี้ ก็เป็นทำนองว่าไม่ยอมนั่นเอง (27 พ.ค. 2550 ลองไปค้นในวิกิพีเดีย เขาให้ความหมายคำนี้ไว้ว่า "British and American slang for insane" - http://en.wikipedia.org/wiki/Nuts) วีรบุรุษอีกท่านที่พอเอ่ยถึงหลายท่านคงร้องอ๋อ! คือ นายพล จอร์จ แพตตัน นั่นเอง ซึ่งเป็นผู้นำกำลังกองทัพที่ 3 จากทางใต้ตีตลุยขึ้นมาช่วยรบชนิดที่ไม่เป็นอันหลับอันนอนเลย
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/Attacking.jpg)
เยอรมันบุก!
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/BattleMap.jpg)
แม้หนังเรื่องนี้จะอ่อนเรื่องประวัติศาสตร์ที่คลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงดังที่กล่าว แต่ "จุดแข็ง" ของหนังเรื่องนี้นอกเหนือจาก "จุดขาย" ในการนำกองทัพรถถังมายิงกันเล่นอย่างมโหฬารแล้ว คือ การชี้ประเด็นเรื่องข่าวกรอง หรือ ข้อมูลสารสนเทศ ในการรบ ซึ่งเรื่องบางอย่างดูเหมือนไม่สำคัญ แต่หากตึความให้ดีๆ จะเห็นข้อมูลที่อยู่เบื้องหลัง ได้แก่
- ตอนเริ่มเรื่องที่พระเอก คือ คายลี่ (แสดงโดย เฮนรี่ ฟอนด้า) นำเครื่องบินลาดตระเวนถ่ายภาพนายทหารเยอรมันได้ ซึ่งต่อมาทราบว่า คือ ผู้การเฮสเลอร์ (แสดงโดย โรเบิร์ต ชอว์) ซึ่งต่อมาจะเป็นผู้นำกองทัพรถถังเยอรมันมาเปิดศึกครั้งนี้
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/Toys.jpg)
ผู้การเฮสเลอร์ขณะชมหุ่นจำลองอาวุธใหม่ๆ ของเยอรมัน
- เมื่อคายลี่กลับมากองบัญชาการก็เกิดการโต้เถียงกับผู้บังคับบัญชาในเรื่องการตีความข่าวที่ว่า ทางเยอรมันกำลังระดมทหารที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งคนอื่นไม่เห็นความสำคัญอะไร แต่คายลี่คาดการว่า เป็นการเตรียมตัวเพื่อปลอมเป็นทหารอเมริกันมาก่อกวนในแนวหลัง
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/GermanInUsUniform.jpg)
ทหารเยอรมันในชุดทหารอเมริกันเตรียมส่งไปก่อกวนแนวหลัง
- เมื่อมีการออกลาดตระเวณหาข่าวเพิ่มเติม ทหารที่จับได้ล้วนเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อย ซึ่งทางผู้บัญชาการเห็นว่าเยอรมันไม่มีศักยภาพที่จะบุกแล้ว แต่คายลี่เห็นว่าอาจเป็นการลวง และมีข้อสังเกตด้วยว่าทหารเหล่านี้มีสายยางติดตัวอยู่ด้วย
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/Prisoners.jpg)
คายลี่นำเชลยมาให้ผบ.ตรวจสอบ สายยางที่เอวทหารคนที่สามจากซ้ายเป็นของที่ยึดได้จากเชลยศึกเยอรมัน
- เมื่อเยอรมันเริ่มบุก คายลี่ได้แอบมาหาข่าวที่สะพานข้ามแม่น้ำ และลองยิงปืนไปที่รถขนน้ำมันของฝ่ายเยอรมัน ปรากฏว่าถังน้ำมันที่หล่นลงไปในแม่น้ำนั้นลอยน้ำได้ แสดงว่าถังว่างเปล่า ภายหลังเมื่อคายลี่กับผู้บัญชาการเห็นทหารรถถังอเมริกันคนหนึ่งใช้สายยางเติมน้ำมันจากถังไปยังรถถัง จึงตีความเรื่องสายยางของเชลยเยอรมันและเรื่องถังน้ำมันนี้ได้ว่า เยอรมันขาดแคลนน้ำมัน ในที่สุดจึงสามารถคำนวณเวลาในการนำทัพรถถังอเมริกันมารบล่อหลอกให้ฝ่ายเยอรมันสูญเสียน้ำมันจนหมดสิ้น
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/GuffyFuel.jpg)
เทลลี่ ซาวาลาส ในบท จ่ากัฟฟี่ ขณะเตรียมใช้สายยางถ่ายน้ำมัน
- ในระหว่างการรบที่เมืองเอ็มเบลฟ ผู้พันเฮสเลอร์นำขนมเค้กช็อคโกแลตที่ยึดได้จากเชลยอเมริกันมาให้ผู้บัญชาการของตนดู เพื่อแสดงให้เห็นว่าฝ่ายอเมริกันยังมีเชื้อเพลิงเหลือเฟือพอที่จะนำขนมเค้กจากบอสตันมาบำรุงขวัญทหารได้ การตีเมืองเอ็มเบลฟจึงมีความจำเป็นในแง่การทำลายขวัญทหารอเมริกัน
การใช้และตีความข้อมูลเหล่านี้ เรียกแบบพิชัยสงครามจีนก็ต้องว่ารบแบบรู้เขารู้เรา ดูไปดูมา รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะมีประโยชน์กับทุกศาสตร์ที่ต้องอาศัยการตีความข้อมูลเลยนะครับ
![](http://www.iseehistory.com/images/1167403663/LastBattle.jpg)
ฉากกองทัพรถถังรบกันในตอนท้ายๆ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : Battle of the Bulge
ชื่อภาษาไทย : รถถังปะรจัญบาน
ผู้สร้าง : Sidney Harmon, Milton Sperling, Philip Yordan
ผู้กำกำกับ : Ken Annakin
ผู้เขียนบท : Bernard Gordon, John Melson, Milton Sperling, Philip Yordan
ผู้แสดง : Henry Fonda, Robert Shaw, Telly Savalas, Robert Ryan, Dana Andrews and Charles Bronson etc.
บทความควรอ่านเพิ่มเติมที่ Wikipedia
เนื้อเพลงประกอบภาพยนตร์ : http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=408863&Ntype=9
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ภาพยนตร์ตัวอย่าง จาก www.youtube.com
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์