(เผยแพร่ครั้งแรกที่ rojn.blogth.com/HistoryMovies/ Fri-8-Sep-2006 )
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image01.jpg)
ร็อด สไตเกอร์ ในบทมุสโสลินี กำลังมอบหมายให้นายพลกราเซียนี่ ไปปราบ โอมาร์ มุกตาร์ ที่ลิเบีย
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image02.jpg)
แอนโทนี่ ควิน ในบท โอมาร์ มุกตาร์
เมื่อเอ่ยถึงคำว่า "เผด็จการ" โดยเฉพาะเผด็จการอันเลวร้ายในยุโรปที่ก่อให้เกิด สงครามโลกครั้งที่สอง แล้วเรามักจะนึกถึง ฮิตเลอร์ และพรรคนาซีเยอรมัน เป็นอันดับแรก จนบางทีเราอาจลืมไปว่าในอิตาลีนั้น มีจอมเผด็จการมุสโสลินี (Benito Mussolini) ก้าวขึ้นสู่อำนาจตั้งแต่ปีค.ศ.1922 (พ.ศ.2465) ก่อนที่ฮิตเลอร์จะมีอำนาจในเยอรมันโดยสมบูรณ์ถึง 11 ปีด้วยกัน แต่ความที่กองทัพฟาสซิสต์อิตาลีใน สงครามโลกครั้งที่สอง มักจะขี้แพ้ รบที่ไหนไม่ค่อยชนะ จึงทำให้เราไม่ค่อยนึกถึง ทั้งที่มีความเลวร้ายอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
"เหยื่อ" รายสำคัญของเผด็จการจักรวรรดิ์นิยมฟาสซิสต์อิตาลีในภาพยนตร์เรื่อง "Lion of the Desert" หรือชื่อภาษาไทยว่า "จอมจักรพรรดิ โอมาร์ มุกตาร์" ที่จะคุยกันในวันนี้ คือ ประเทศลิเบีย ที่มุสโสลินีอ้างว่าเป็นอาณานิคมมาตั้งแต่สมัยโรมัน และอันที่จริงอิตาลีได้รุกรานลิเบียมาตั้งแต่ค.ศ.1911 (พ.ศ.2454) ก่อนมุสโสลินีจะมีอำนาจร่วมสิบกว่าปีด้วยซ้ำ ปัญหาที่อิตาลีเผชิญในลิเบียคือสงครามกองโจรกับพวกเบดูอิน ชนพื้นเมืองซึ่งมีผู้นำเป็นครูสอนศาสนาที่มีนามว่า โอมาร์ มุกตาร์ (Omar Mukhtar) ซึ่งสามารถต้านทานกองทัพอิตาลีได้เป็นปีๆ จนมุสโสลินีต้องส่งแม่ทัพเอกจอมโหดมาปราบ คือ นายพลกราเซียนี (Rodolfo Graziani)
ตอนจบของเรื่องนั้นคงเดาได้ไม่ยากว่า ในที่สุด กองโจรพื้นเมืองก็ต้องพ่ายแพ้ต่อแสนยานุภาพของอิตาลีไปในที่สุด แต่กว่าจะถึงตอนจบน่ะซีครับ กลับดูเหมือนว่าโอมาร์ มุกตาร์ และนายพลกราเซียนี จะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันคนละแบบ ต้องชิงไหวชิงพริบกันตลอด เป็นเวลาถึง 8 ปี หรือเวลาในภาพยนตร์ถึง 3 ชั่วโมง สังเวยชีวิตนักรบทั้งสองฝ่าย รวมถึงชีวิตชนพื้นเมืองผู้บริสุทธิ์ที่กองทัพฟาสต์ซิสต์สังหารไปอีกไม่น้อย
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image03.jpg)
ทหารอิตาลีกำลังกระทำทารุณชาวบ้านที่ให้การสนับสนุนโอมาร์ มุกตาร์
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image06.jpg)
กองทหารม้าของโอมาร์ มุกตาร์
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image12.jpg)
แสนยานุภาพของกองทัพอิตาลี
ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างพิถีพิถันกับฉาก การแต่งกาย และอาวุธยุทโธปกรณ์ ในเรื่องที่ดูน่าจะใกล้เคียงกับในประวัติศาสตร์จริงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรถถังและยานยนต์ต่างๆ ของกองทัพอิตาลีนั้น ไม่มีการนำของสมัยใหม่มา "ติ๊งต่าง" อย่างในหนังสงครามโลกรุ่นเก่าของฮอลลีวู้ด โดยเฉพาะเจ้ารถถังคันกะเปี๊ยกติดปืนกลของกองทัพอิตาลี ที่อาจดูเหมือนจะกิ๊กก๊อกเมื่อเทียบกับรถถังสมัยใหม่ที่เราคุ้นเคย หรือแม้กระทั่งรถถังร่วมสมัยของชาติอื่นก็ตาม แต่สำหรับนักรบเบดูอินของ โอมาร์ มุกตาร์ แล้ว การยิงสู้กับมันซึ่งๆ หน้าก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายเลย
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image13.jpg)
รถถังอิตาลีกำลังสังหารทหารม้าอาหรับ (โอมาร์ มุกตาร์ ไม่ได้ร่วมรบในครั้งนี้)
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image17.jpg)
ค่ายกักกันชาวพื้นเมืองที่อิตาลีสร้างขึ้น
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image18.jpg)
การสังหารนักโทษในค่ายกักกัน
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image20.jpg)
ทหารอิตาลีกำลังใช้แก๊สพิษในการปราบกองโจรของโอมาร์ มุกตาร์
ในตอนท้ายเรื่องได้กล่าวถึง นายพลกราเซียนี แต่เพียงว่าหลังจากมุสโสลินีถูกโค่นล้ม เขาได้ถูกจับขังคุกและตายในปี 1955 (พ.ศ.2498) เท่าที่ผมพอจะทราบ ก่อนจะถึงเวลานั้นเขายังได้มีบทบาทในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอยู่ไม่น้อย กล่าวคือ กราเซียนี่ ซึ่งขณะนั้นเป็นจอมพลแล้ว ได้พยายามนำกองทัพอิตาลีรุกรานอิยิปต์ซึ่งอังกฤษปกครองอยู่ แต่ก็แพ้อย่างไม่เป็นท่าจนเกือบจะเสียลิเบียด้วยซ้ำ เป็นเหตุให้ ฮิตเลอร์ ต้องส่ง รอมเมล มากู้หน้ามุสโสลินี ทำให้ รอมเมล แจ้งเกิดจนได้ทั้งยศจอมพลและสมญานาม "จิ้งจอกทะเลทราย" ไปครอง ขณะที่ "จอมพลกราเซียนี" และกองทัพอิตาลีกลับกลายเป็นเพียงลูกไล่ของกองทัพอาฟริกาเยอรมันไป ส่วนชะตากรรมของกราเซียนีหลังสงครามโลกนั้น น่าจะถือว่าโชคร้ายน้อยกว่าบรรดาสมุนฮิตเลอร์อยู่สักหน่อย ตรงที่ไม่มีการตั้งศาลอาชญากรสงครามในอิตาลีเหมือนในเยอรมัน ไม่เช่นนั้นกราเซียนีต้องติดอันดับอาชญากรสงครามด้วยแน่ๆ ลองชมภาพยนตร์เรื่องนี้ให้จบแล้วท่านน่าจะเห็นด้วยกับผม
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image21.jpg)
ขบวนรถเกราะและทหารราบอิตาลีกำลังถูกซุ่มโจมตี
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image23.jpg)
อีกฉากรบที่น่าศึกษาในด้านยุทธวิธี
กองกำลังยานเกราะอิตาลีกำลังถูกล่อเข้าสู่พื้นที่สังหาร
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image25.jpg)
รั้วลวดหนามที่กราเซียนี่สั่งให้สร้างขึ้นตามชายแดนลิเบียเพื่อตัดการส่งกำลังบำรุงของฝ่ายโอมาร์ มุกตาร์
ในปัจจุบัน แม้ลัทธิเผด็จการฟาสซิสต์-นาซีจะหมดสิ้นไปแล้ว แต่จักรวรรดินิยมก็ยังแฝงอยู่ในประเทศที่อ้างตัวเป็นผู้นำโลกเสรี ทำให้โลกอาหรับยังคงเป็นจุดเปราะของสันติภาพในโลกดังเช่นทุกวันนี้ ในยุคสงครามก่อการร้ายนี้ อเมริกันและอิสราเอลจะยังสนใจหนังเรื่องนี้เพียงใดก็ไม่ทราบ แต่บินลาเดนกับพรรคพวกอาจกำลังดูหนังเรื่องนี้อยู่ที่ไหนสักแห่งก็เป็นได้
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image28.jpg)
โอมาร์ มุกตาร์ ถูกจับได้
![](http://www.iseehistory.com/images/1167569669/Image29.jpg)
เผชิญหน้านายพลกราเซียนี่ก่อนถูกศาลทหารอิตาลีพิพากษาประหารชีวิต
คำคมชวนคิด
- "ผมไม่ได้เป็นทหารเพื่อมาแขวนคอผู้หญิง" นายร้อยอิตาลีที่ โอมาร์ มุกตาร์ เคยไว้ชีวิตในการรบครั้งหนึ่ง กล่าวกับผู้บังคับบัญชา เมื่อเห็นผู้หญิงชาวพื้นเมืองถูกแขวนคอในข้อหาให้เสบียงกับกองโจรของ โอมาร์ มุกตาร์
- "เราเกิดมาบนผืนดินนี้ด้วยพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่คุณ" โอมาร์ มุกตาร์ พูดกับผู้แทนการเจรจาของอิตาลี
- "ในฐานะข้าศึก เขาควรถูกลงโทษ แต่ในฐานะนักสู้ เขาควรได้รับเกียรติมากกว่านี้" นายพลอิตาลีผู้หนึ่งกล่าวกับทหารที่นำตัว โอมาร์ มุกตาร์ มาขัง
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : Lion of the Desert
ชื่อภาษาไทย : จอมจักรพรรดิ โอมาร์ มุกตาร์
ผู้สร้าง : Moustapha Akkad
ผู้กำกำกับ : Moustapha Akkad
ผู้เขียนบท : H.A.L. Craig
ผู้แสดง :
- Anthony Quinn ... Omar Mukhtar
- Oliver Reed ... Gen. Rodolfo Graziani
- Irene Papas ... Mabrouka
- Raf Vallone ... Colonel Diodiece
- Rod Steiger ... Benito Mussolini
- John Gielgud ... Sharif El Gariani
- Andrew Keir ... Salem
- Gastone Moschin ... Major Tomelli
- Stefano Patrizi ... Lt. Sandrini
- Adolfo Lastretti ... Colonel Sarsani
- Sky Dumont ... Prince Amadeo
- Takis Emmanuel ... Bu-Matari
- Rodolfo Bigotti ... Ismail
- Robert Brown ... Al Fadeel
- Eleonora Stathopoulou ... Ali's Mother
บทความจาก Wikipedia
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์