dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



All Quiet on the Western Front แนวรบตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
วันที่ 19/05/2013   18:31:54

(เผยแพร่ครั้งแรกที่ rojn.blogth.com/HistoryMovies/  Fri-15-Sep-2006) 

คอลัมน์ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ คราวนี้ ขอเปลี่ยนบรรยากาศจาก สงครามโลกครั้งที่สอง ตามแนวถนัด มาเป็นเรื่อง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง บ้าง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ในยุทธการสำคัญครั้งใดครั้งหนึ่ง แต่เป็นอมตะนิยาย ของ Erich Maria Remarque  เรื่อง All Quiet on the Western Front หรือที่เคยแปลเป็นภาษาไทยว่า "แนวรบตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง" โดย ม.จ. ขจรจบกิตติคุณ กิติยากร ภาพยนตร์เรื่อง All Quiet on the Western Front  ในเวอร์ชันนี้ สร้างในปี 1979 (พ.ศ.2522) ผมเคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่านที่ไหนว่าเป็นการนำนวนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นครั้งที่ 6 แต่จากข้อมูลใน Wikipedia บอกเพียงว่าก่อนหน้านี้เคยมีแต่เวอร์ชันที่สร้างในปี 1930 เท่านั้น และผมก็พึ่งทราบว่าเดิมฝรั่งเขาสร้างเวอร์ชันนี้เป็นภาพยนตร์ทางโทรทัศน์

(บน) Himmelstoss ครูฝึกจอมเฮี้ยบ (ล่าง) การฝึกไร้สาระในสนามโคลน

 

นิยายและภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการรบใน สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่อาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธวิธีไม่ได้มีความก้าวหน้าอะไรนัก ทำให้การรบเอาแพ้เอาชนะกันไม่ได้ กลายเป็นภาวะชงักงันของสงครามที่ทหารต้องขุดสนามเพลาะเป็นแนวยาว แล้วก็ยกทัพตีโต้กันไปโต้กันมา เหมือนจะหาจุดจบไม่ได้ พระเอกของเรื่องเป็นเด็กหนุ่มชาวเยอรมันที่ช่างฝัน อาสามารบในสงครามเพราะการปลุกเร้าของอาจารย์ในวันที่เรียนจบ ทำให้ต้องผจญชะตากรรมตั้งแต่โรงฝึกทหารยันสนามรบ ค่อยๆ สูญเสียเพื่อนไปจนกระทั่งตนเองตายไปในตอนใกล้จะจบสงคราม

(บน) แคทพลทหารพี่เลี้ยงผู้มีพรสวรรค์ในการหาเสบียง (ล่าง) ทำสงครามกับหนูในสนามเพลาะ

เนื้อเรื่องในภาพยนตร์นับว่ารักษาความใกล้เคียงกับต้นฉบับเดิมในหนังสือได้ค่อนข้างดี ตอนต้นเรื่องมีการเล่าย้อนไปย้อนมาระหว่างฉากในสนามรบกับช่วงก่อนออกสงครามบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้งง โดยส่วนตัวก็ยังข้องใจอยู่บ้างในเรื่องบทบาทของ แคท หรือ Stanislaus Katczinsky ที่มีบทบาทมากจนเหมือนจะเกินเลยการเป็นพลทหารพี่เลี้ยงของทหารใหม่ เนื่องจากไม่มีตัวละครที่เป็นผู้บังคับบัญชาเข้ามาแทรกบ้าง ฉากหนึ่งที่หรูหราแต่น่าฉงน คือฉากที่พระจักรพรรดิ์เยอรมันเสด็จมาทำพิธีมอบเหรียญให้กับทหาร ซึ่งน่าแปลกที่ Himelstoss อดีตครูฝึกตัวร้ายในเรื่อง ได้รับเหรียญกับเขาด้วย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นในเรื่องมีฉากที่ Himelstoss กลัวการสู้รบแทบตาย และเรื่องเดิมในหนังสือไม่เคยได้กล่าวถึงพระจักรพรรดิ์เลยด้วยซ้ำ

(บน) พอลกับหทารฝรั่งเศสที่เขาจำเป็นต้องแทงเพื่อป้องกันตัวในหลุมระเบิดแห่งหนึ่ง
(ล่าง) พระจักรพรรดิ์ทรงกล่าวปราศรัยหลังมอบเหรียญกล้าหาญ

และแม้ว่าจะต้องการสื่อความโหดร้ายของสงคราม แต่ฉากการรบก็ไม่ถึงขั้นสยดสยองเลือดสาด พอจะดูกันได้เพลินๆ เหมาะกับการดูเพื่อปลงในความเลวร้ายและน่าเบื่อของสงครามมากกว่าที่จะดูเอามันหรือเพื่อเรียนรู้ยุทธการครั้งสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ครับ

พอลขณะสเก็ตซ์ภาพนกก่อนถูกยิงเสียชีวิต

เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด  หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย

ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : All Quiet on the Western Front

ชื่อภาษาไทย :  แนวรบ(ด้าน)ตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

เรื่องเดิม :  All Quiet on the Western Front by  Erich Maria Remarque

ผู้กำกำกับ : Delbert Mann

ผู้แสดง :  Richard Thomas, Ernest Borgnine

บทความควรอ่าน

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

  • (ยังไม่มี)

 
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ

หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ

 

Bookmark and Share

ภาพยนตร์ตัวอย่างจาก www.youtube.com ฉากพระจักรพรรดิ์เยอรมันเสด็จมาประดับเหรียญกล้าหาญ

 ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์

 



สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

ม้าศึกจารึกโลก (War Horse) ชะตากรรมของม้าในสงครามของคน วันที่ 19/05/2013   18:20:34
Aces High ตายเพราะเอาอย่างฮีโร่ วันที่ 19/05/2013   18:21:48
The Lost Battalion เนื้อแท้ของความกล้า วันที่ 19/05/2013   18:22:55
A Dangerous Man: Lawrence After Arabia ศึกทางการทูตของ ลอว์เรนซ์แห่งอาระเบีย วันที่ 19/05/2013   18:23:50
Lawrence of Arabia การสดุดีหรือบิดเบือนวีรบุรุษ? วันที่ 19/05/2013   18:24:46
สารคดี Lawrence of Arabia: โลกลึกลับของวีรบุรุษผู้ขมขื่น วันที่ 19/05/2013   18:26:14
All Quiet on the Western Front (1930) ขาวดำก็มีดี วันที่ 19/05/2013   18:27:11
In Love and War รักยามสงครามของ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ วันที่ 19/05/2013   18:28:11
Flyboys ศึกเวหาที่ยังคลาดเคลื่อน วันที่ 19/05/2013   18:29:07
Rasputin: Dark Servant of Destiny รัสปูติน ในอีกมุมมองหนึ่ง วันที่ 19/05/2013   18:29:47
ซาร์(จักรพรรดิ)องค์สุดท้ายของ รัสเซีย (Russia's last Tsar) วันที่ 19/05/2013   18:30:46
The LightHorseMen: วีรกรรมของคนกับม้า และปัญหาศัพท์ ทหารม้า-ทหารราบขี่ม้า วันที่ 19/05/2013   18:32:45



1

ความคิดเห็นที่ 1 (98914)
avatar
Nuntoro

ผมชอบภาพยต์เรื่องี้เป็นการส่วนตัวพอสมควรอะนะครับ เพราะส่วนใหญ่มักจะมีแต่หนังที่สร้างขึ้นมาโดยเข้าข้างหรอว่าบอกเล่าเรื่องราวของฝ่ายที่ชนะซึ่งไม่ค่อยมีใครทำหนังที่บอกเล่าถึงความเป็นไปของฝ่ายที่แพ้บ้างเลย ซึ่งพวกเขาก็เป็นคนเหมือนๆกัน  แต่ก็ยังสงสัยเหมือนกันว่า จักรพรรดิ์มาแนวหน้าเพื่อมอบเหรียญกล้าหาญให้ด้วยตัวเองเลยหรอ? แล้วก็ดันมอบให้คนที่ไม่น่าจะได้ แทนที่ทหารหาญที่สู้จริงๆกลับไม่ได้ อันนี้ผมว่าคนเขียนบทเขาคงคล้ายกะบอกเป็นนัยๆ ว่าระบบเส้นสายในเยอรมันสมัยนั้นมันรุนแรงหรือเปล่านะ  แบบว่าใครไม่ใช่พวกของตัวก็ไม่มีวันได้ดี ส่วนใครมีพวกดีก็ก้าวหน้า กันเป็นแถวๆ  อันนี้ผมก็งงเหมือกัน แต่ที่ผมสังเกตอีกอย่างคือ หมวกของทหารเยอรมันนะครับ ตอนแรกๆนี่ทำออกมามียอดแหลมๆบนหัวด้วย ไปๆมากๆท้ายๆเรื่องกลับกลายเป็นแบบทหารเยอรมันใน WWIIซะง้าน แต่ผมว่ามันจะต้องมีเหตุผลแน่ๆเลยที่เป็นไปเป็นแบบนั้นน่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น Nuntoro (nuntoro-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-10-30 18:35:45


ความคิดเห็นที่ 2 (98918)
avatar
โรจน์ (Webmaster)

เรื่องการเสด็จมาแนวหน้าของจักรพรรดิ์เยอรมันนั้นไม่มีในหนังสือครับ  ผู้สร้างแต่งเติมขึ้นมาคงจะด้วยเหตุทำนองเดียวกับที่คุณสันนิษฐาน

ส่วนการเปลี่ยนหมวกทหารของกองทัพเยอรมันนั้นเป็นตามความจริงในประวัติศาสตร์ครับ  แต่ผมยังไม่มีเวลาได้ค้นคว้าหาเหตุผลชัดๆ  จำได้เพียงคร่าวๆ ว่าทหารแทบจะทุกชาติได้เปลี่ยนหมวกจากหมวกผ้าธรรมดา หรือหมวกโลหะที่อาจจะเน้นแต่ความสวยงาม มาเป็นหมวกเหล็กที่จะสามารถป้องกันศีรษะจากสะเก็ดระเบิด  โดยเฉพาะลูกปืนใหญ่ชนิดที่มันแตกสะเก็ดกลางอากาศครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (Webmaster) (webmaster-at-iseehistory-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-10-30 20:10:10


ความคิดเห็นที่ 3 (101580)
avatar
รอมเมล

 เคยอ่านบทความหลายอย่างของหนังเรื่องนี้ แนะนำการดูเรื่องนี้ว่าอย่าดูเป็นหนังสงคราม จะทำให้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้แต่งผิด ได้มีการจัดให้เป็นหนังต่อต้านสงครามมากกว่า  เพราะผู้ที่ได้อ่านหนังสือจบแล้วถึงกลับน้ำตาหนองหน้า รังเกียจสงครามไปเลย เพราะการดำเนินเรื่อง คือ ชีวิตเด้กที่เพิ่งจะวัยรุ่น แล้วโดนดึงให้ไปอยู่ในสงครามที่พวกเขาไม่มีวันเข้าใจ จนไม่อยากเข้าใจอีกแล้ว พวกเขาสูญเสียทุกอย่าง ยิ่งตอนที่พอลได้กลับบ้าน พอลรู้สึกบ้านไม่ช่ายบ้านที่เขาจะอาศัยอยู่ได้แล้ว พอลได้แต่ทำเป็นยิ้ม เพราะดีใจได้กลับบ้านเท่านั้นเอง นอกนั้นเขาไม่อยากตอบอะไรเลย เพราะไม่รู้จะอธิบาย หรืออยากจะรับรู้อะไรแล้ว ยิ่งตอนที่นั่งร่วมโต๊ะกับคนแก่ที่เรียกเขาเหมือนวีรบุรุษพูดคุย เรื่องที่คนแก่เหล่านั้นไม่รุ้เลยว่าแนวหน้ามันบ้าบอสิ้นดี หนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีนายทหารอะไรหรอก เพราะหนังเน้นที่ความรู้สึกของคนระดับล่างที่ต้องไปรบ เป็นแค่ชีวิตมดที่ออกไปตาย ใครเล่าจะเข้าใจ มีเพียงคนที่ร่วมรบเท่านั้นที่เข้าใจ จึงมีฉากที่พอลได้กลับไปในสนามเพลาะ แล้วดีใจที่เจอแคท แต่แคทกลับบอว่ากลับมาทำไม (แคทพูดไม่ตรงกับใจ)

หนังเรื่องนี้ได้ดุครั้งแรก ช่อง7 ตอนนั้นเด็กมาก เลยไม่เข้าใจ พอได้อ่านบทความว่า เป็นหนังต่อต้านสงคราม เลยกลับมาทำความเข้าใจหนังเรื่องนี้ใหม่ แถมในประวัติศาสตร์โจเซฟ เกบเบิลส์ เจ้ากรมโฆษณาชวนเชื่อได้สั่งให้เผาทำลาย สั่งห้ามพิมพ์ ห้ามประชาชนอ่าน เพราะเยอรมันกำลังจะเริ่มแผนทำสงครามแล้ว หนังสือเรื่องนี้ ทำให้คนสลดใจ เกลียดสงคราม เป็นภัยต่อรัฐบาลนาซี

ดังนั้นการดำเนินเรื่อง จึงมุ่งเน้นไปที่ชีวิตพลทหาร ที่ต้องใช้ชีวิตในแนวหน้า นายทหารไม่ต้องมาก็ได้ เพราะเขาบรรยายว่า เราทำการรบกันเอง เขามาตีเรา พอเขาเสียท่าเราก็ตามตี ถ้าเราเสียท่าเขาก็รุกไล่เราคืน พอไม่รบก็นั่งหลบปืนใหญ่ ฉากที่ทำให้ผมรู้สึกจำไปจนตาย น้ำตาซึมเลย คือตอนที่พอลและเพื่อนเขาได้รับบาดเจ็บแล้วแคทพยายามลากสองคนนั้นหาที่ปลอดภัย โดยคนทั้ง2กอดแคทแน่น มือดึงเสื้อแคทกำจนแน่น สีหน้าเหมือนลูกที่กำลังหวาดกลัวแล้วกอดพ่ออย่างไม่ยอมปล่อย แคทเองพยายามลากไปอย่างม่รู้เลยว่า2คนนั้นหนักขนาดไหน ใครเล่าจะเข้าใจความรู้สึก เพราะมันบรรยายให้เข้าใจไม่ได้

ผมเลยมาเข้าใจหนังเรื่องนี้มากสุดตอนที่ไปเข้าร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล ต้องนอนบนถนน ร้อน ยุงกัด ไม่ได้อาบน้ำหลายวัน ถึงผมจะเป็นการ์ดอาสา แต่ไม่ได้ไปลุยไหน เวลามีเรื่องพวกหนุ่ม ผุ้ใหญ่ๆไปลุยกัน เพราะคนที่เป็นการ์ดจริงๆขอไว้ว่า ไม่ควรออกจากที่ตั้ง ในที่ตั้งมีแต่ผุ้หญิง คนแก่ ถ้าทหารมาสลาย คงไม่มีคนสกัดไว้ แล้วกลับกลายเป็นว่าการ์ดอาสาที่เหลืออยุ่กลับเป็นเด็กไร้ประสบการณื เกิดเรื่องอะไรมองซ้ายขวา ตัดสินใจไม่ได้ ตัวซ่าอ้างคนของแกนนำ ก็มาออกคำสังทับกันไปมา เอาเข้าจริงเดินหนีปัญหา สุดท้ายการ์ดเด็กต้องตัดสินใจกันเอาเอง มาเพราะอุดมการณ์ แต่ก็มาเจอเรื่องงี่เง่า ผมเองกลับต้องมาทำอาหารช่วยหิ้วน้ำให้แม่ครัวทำอาหารแจก เจอน้าคนนึงที่มาร่วม กลางวันทำงานบิรษัทหัวค่ำพวกลุกน้องที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาช่วยทำอาหาร ออกเงินซื้อของอีกต่างหาก เขาถามผมว่า "ถ้าวันนี้เราชนะ แกนนำจะจำเราไหมว่ามีเราช่วยพวกเขา ถ้าเราแพ้โดนจับ แกนนำจะมาช่วยเราไหม พวกเราจะได้อะไรจากผลครั้งนี้ สุดท้ายพวกแกนนำหรือรัฐบาลก้ได้ดีไป" ผมตอบเขาไม่ได้ แต่ในใจก็อยากถามเขาว่าแล้วน้าคิดยังไงกับคำถามที่ถามผม ทุกววันนี้ผมเกลียดรัฐบาล และแกนนำตัวปลอม ที่หวังผลจากการชุมนุม โดยตัวเองอยู่สบาย ได้หน้าไป ถ้าชนะก็จะได้กลับมาเป็น สส.ฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง เห็นแล้วเซ็ง

ซึ่งก้เหมือนกับหนังเรื่องนี้ทำไปได้อะไร จักรพรรดิ์มาแนวหน้าเพื่อมอบเหรียญกล้าหาญให้Himmelstoss ครูฝึก ที่แท้คือจอมขี้ขลาด เพียงเพราะเขาได้รู้จักคนใหญ่คนโต ไอพวกเราก็แค่พลทหารทำดี ใครจะเห็นนอกจากพลทหารที่ร่วมรบมาเท่านัน้  พอบาดเจ็บก้คิดง่ายนะตัดขาทิ้ง ไม่รักษา  อีกคนยังไม่ตาย แค่คนเหมือนใกล้จะตาย กลับพาเขาออกไปทำเหมือนเขาตายแล้ว  นี่เหรอการตอบแทนของผู้เสียสละเพื่อชาติ ดูหนังแล้วหดหุ่ใจชมัด เข้าใจหนังเรื่องนี้เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น รอมเมล (goh_17-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-25 05:32:32



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker