(เผยแพร่ครั้งแรกที่ rojn.blogth.com/HistoryMovies/ Wed-1-Nov-2006 )

ในตอนมาเปิด Blog ที่นี่ (www.blogth.com) ใหม่ๆ ได้เห็นอีก Blog หนึ่งเขาแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้แล้ว รู้สึกสนใจอยู่บ้าง แต่ความที่ชอบแต่ สงครามโลกครั้งที่สอง ด้านยุโรป ก็เลยผัดผ่อนตัวเองมาเรื่อย จนกระทั่งเมื่อดูหนังเรื่องอื่นจนแทบไม่เหลือแล้ว จึงพึ่งจะได้สนใจดู แล้วก็ไม่ผิดหว้งครับ เสียดายอยู่บ้างที่ไม่รีบดูทันทีที่เขาแนะนำ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับปฏิบัติการช่วยเหลือเชลยศึกอเมริกันจากทหารญี่ปุ่นในค่าย Cabanatuan ในวันที่ 30 มกราคม 1945 (พ.ศ.2488) สาเหตุเป็นไปตามภาพยนตร์ตอนต้นเรื่องที่ท้าวความว่า ตอนต้น สงครามโลกครั้งที่สอง ในปี 1939 (พ.ศ.2482) อเมริกาวางตัวเป็นกลางอยู่ดีๆ ก็ถูกกองทัพเรือญี่ปุ่นถล่มเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941 (พ.ศ.2484) ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์ อาณานิคมของสหรัฐฯ ในเวลานั้น ก็ถูกกองทัพญี่ปุ่นโจมตีพร้อมกับประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียอาคเนย์ ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องประกาศสงครามกับฝ่ายอักษะ และเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่ปัญหาก็คือแทนที่เข้าสงครามแล้วจะได้ซัดกับญี่ปุ่นให้เต็มที่ การเมืองระหว่างประเทศกลับทำให้กองทัพสหรัฐฯ ต้องทุ่มกำลังไปช่วยการรบในยุโรปก่อน ทหารอเมริกันในฟิลิปปินส์ที่ต้องยอมจำนนต่อกองทัพญี่ปุ่น ต้องกลายเป็นเชลยศึก ถูกใช้แรงงานและทนทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยต่างๆ ในค่ายเชลยศึกนับเป็นปีๆ จนกระทั่ง นายพลแมคอาเธอร์ สามารถนำกองกำลังกลับมายึดฟิลลิปปินส์คืน ญี่ปุ่นเมื่อเห็นท่าว่าจะสู้ไม่ได้ก็เริ่มตัดปัญหาด้วยการหาทางกำจัดเชลยศึกอเมริกันทิ้ง โดยเริ่มจากการหลอกให้เชลยในค่าปาลาวันลงไปในหลุมหลบภัย แล้วราดน้ำมันจุดไฟเผา และกำลังจะทำอย่างเดียวกันที่ค่าย Cabanatuan

นี่จึงเป็นที่มาของปฏิบัติการช่วยเหลือเชลยศึกที่ค่ายแห่งนี้ โดยหน่วยรบพิเศษ (Rangers) จำนวน 121 นาย ไปสมทบกับหน่วยทหารกองโจรฟิลิปปินส์ 200 คน เพื่อช่วยเหลือเชลยศึกประมาณ 500 คน ออกจากค่ายที่มีทหารญี่ปุ่นที่คุมอยู่ในค่ายราว 700 คน อยู่บริเวณสะพานนอกค่ายราวพันกว่าคน และที่อยู่ไม่ห่างกันนักอีกนับเป็นหมื่น

การดำเนินเรื่องถัดจากแบ็คกราวด์ของปฏิบัติการก็เป็นวันแรกของการวางแผนและออกเดินทางของทหารแรงเยอร์สหรัฐฯ ในวันที่ 27 มกราคม 1945 ไปเป็นลำดับจนเสร็จภารกิจ โดยมีการเล่าเรื่องสลับไปยังเชลยศึกในค่าย และหน่วยใต้ดินฟิลิปปินส์ในกรุงมนิลาที่แอบให้ความช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์แก่เชลยศึก โดยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายทหารที่เป็นหัวหน้าเชลยกับนาง Margaret Utinsky หัวหน้าหน่วยใต้ดิน ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นแค่น้ำจิ้มที่ผู้เขียนบทใส่เข้ามาให้มีสีสันเท่านั้น แต่ก็ทำให้ได้รับความรู้ว่า ในฟิลลิปปินส์ก็มีขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นเช่นเดียวกับขบวนการใต้ดินอื่นๆ ในประเทศที่ถูกกองกำลังอักษะยึดครองอยู่

แต่ประเด็นหลักของเรื่องอยู่ที่ปฏิบัติการช่วยเชลยศึกดังกล่าว ถ้าใครคิดจะดูฉากยิงกันเพื่อเอามันคงแทบผิดหวังเพราะไปยิงกันเอาตอนสุดท้ายจริงๆ แต่หากจะดูเพื่อศึกษาเรื่องการวางแผนการรบแล้ว น่าสนใจมาก ทั้งในเรื่องการลาดตระเวณสำรวจภูมิประเทศ และหาข่าวเพิ่มเติมและปรับแผนไปเรื่อยๆ ก่อนลงมือปฏิบัติ การแบ่งหน้าที่กันในระหว่างทหารแต่ละหน่วย การประสานงานภายนอกโดยให้เครื่องบินมาเบนความสนใจของทหารยามข้าศึกขณะคืบคลานผ่านทุ่งโล่ง

ก่อนจะลงมือขั้นสุดท้ายก็อุตส่ามีเรื่องให้ลุ้น เมื่อหัวหน้ากลุ่มแรงเยอร์ที่ได้รับมอบหมายให้เริ่มเปิดฉากการยิงเกิดเกี่ยงให้ลูกน้องสำรวจให้ทั่วก่อนว่าทุกคนในทีมประจำตำแหน่งแล้วหรือยัง ทำเอาล่าช้ากว่ากำหนดไปหลายนาที พอลงมือแล้วอุตส่าฆ่าทหารญี่ปุ่นตายไปเป็นเบือ ก็ยังมีเรื่องให้ลุ้นอีกเมื่อนายทหารญี่ปุ่นตัวหัวหน้าในค่ายพยายามแผลงฤทธิ์ขัดขวางทหารและเชลยที่กำลังจะออกประตูอยู่หลายนาที เหตุการณ์โดยละเอียดติดตามจากภาพยนตร์เอาเองนะครับ

สรุปว่าในที่สุดปฏิบัติการนี้ก็ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม คือทหารสหรัฐเสียชีวิตเพียง 2 คน ทหารฟิลิปปินส์ตายและบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ทหารญี่ปุ่นตายไปนับร้อย สามารถช่วยเชลยศึกออกมาได้ทั้งหมด มีแต่พระเอกคนหนึ่งเท่านั้น คือ ผู้พัน Gibson (รับบทโดย Joseph Fiennes) หัวหน้าเชลยศึกคนที่ว่าเป็นกิ๊กกับ Margaret Utinsky นั่นแหละครับ ที่เสียชีวิตจากไข้มาเลเรียที่เป็นหนักอยู่ก่อนแล้ว

สงครามโลกครั้งที่สอง ยังมีอะไรให้ศึกษาอีกมาก ทั้งในด้าน ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี การเมืองการทูต ฯลฯ ได้มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ไว้มากมาย จะได้ทยอยนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : The Great Raid 121
ชื่อภาษาไทย : ตะลุยนรกมฤตยู
ผู้สร้าง : Lawrence Bender, Marty Katz
ผู้กำกำกับ : John Dahl
ผู้เขียนบท : Carlo Bernard, Doug Miro
ผู้แสดง :
- Benjamin Bratt as Lt. Colonel Mucci
- James Franco as Captain Prince
- Robert Mammone as Captain Fisher
- Max Martini as 1st Sgt. Sid "Top" Wojo
- Joseph Fiennes as Major Gibson
- Cesar Montano as Juan Pajota
- Marton Csokas as Captain Redding
- Natalie Mendoza as Mina
- Dale Dye as General Walter Krueger
- Clayne Crawford as PFC Aldrige
- Connie Nielsen as Margaret Utinsky
ควรอ่านเพิ่มเติมที่ Wikipedia
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์