
โดย countryboy (fromcountryboy@yahoo.com)
หนังเรื่องนี้ เป็นหนังเก่าประมาณ 40 ปีมาแล้ว เมื่อสมัยเด็ก ๆ ยังจำได้ถึงความมัน ความตื่นเต้นที่ได้รับในตอนนั้น มาได้ดูอีกทีก็ตอนวัยทำงานจาก VDO และล่าสุด เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ก็ได้หนังเรื่องนี้ในแบบของ VCD มาดูอีกครั้ง เพื่อระลึกถึง JOHN WAYNE คาวบอยเฒ่าที่รักของผมที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว เหลือไว้แต่เพียงผลงานที่ยิ่งใหญ่ในแผ่นฟิล์มหลายร้อยเรื่องด้วยกัน
The Alamo เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งในสมัยยุคบุกเบิกของอเมริกันชน ที่ต้องการรวมรัฐอิสระต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ภายใต้ธงผืนเดียวกัน คือธง…Stars and Stripes ในปัจจุบัน เรื่องราวเกิดขึ้นประมาณปี คศ. 1836 ซึ่ง เท็กซัส ในยุคนั้น ยังถูกปกครองโดยระบบเผด็จการของนายพล Santa Anna แห่งเม็กซิโก ชาวพื้นเมืองและผู้อพยพผิวขาว ได้พยายามรวบรวมกำลังกันต่อต้านการปกครองและพยายามที่จะแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระในนาม มลรัฐเท็กซัส ภายใต้การนำของ นายพล Sam Huston และนักการเมืองนาม Steve Austin
ที่ป้อม Alamo ซึ่งเดิมทีเป็นโบสถ์เก่าของพวกสเปน นายพล ฮูสตัน (แสดงโดย Richard Boone) ได้มอบหมายให้ผู้พัน Travis (แสดงโดย Laurence Harvey) ที่มีกำลังพลประจำการเพียงหยิบมือเดียว ทำหน้าที่ถ่วงเวลาการเคลื่อนกำลังพล 7,000 คนของ ซานตา แอนนา ที่จะเข้าบดขยี้ เท็กซัส โดยให้ทำอย่างไรก็ได้ ในการถ่วงเวลาให้นานที่สุดเพื่อที่นายพล ฮูสตัน จะสามารถรวบรวมกำลังเป็นกองทัพใหญ่เพื่อสู้ทัพของ ซานตา แอนนาได้ โดยได้รับความร่วมมือจากทหารอาสาภายใต้การนำของเจ้าของตำนานมีดพกแบบ โบว์วี่ ที่ยังยืนยงมาถึงปัจจุบัน Jim Bowie (แสดงโดย Richard Widmark) และเหล่าทหารเสือพรานของอดีตสมาชิกรัฐสภา ยอดเสือพรานเจ้าของตำนานนักล่าหมีจากรัฐเท็นเน็สซี Davy Crockett (แสดงโดย John Wayne) ซึ่งต้องใช้แผน “ลูกผู้ชาย..ฆ่าได้..หยามไม่ได้” สร้างกำลังใจให้เพื่อนเสือพรานของเขาร่วมมือในการต่อต้าน ซานตา แอนนา โดยทั้งหมด มีกำลังรวมกันกับอาสาสมัครชาวพื้นเมืองที่รักสันติภาพเพียง 185 คนเท่านั้นเอง
เรื่องราวภายในป้อมนั้นหลากหลาย ความขัดแย้งระหว่าง เทรวิส กับ โบว์วี่ ในเรื่องการต่อสู้ ที่ เทรวิส ต้องการตั้งรับอยู่ที่ป้อม และปกปิดจำนวนกำลังรบของ ซานตา แอนนา ไม่ให้ทหารรู้เพื่อไม่ให้เสียขวัญ แต่ โบว์วี่ ต้องการออกไปรบก่อกวนแบบกองโจร ความขัดแย้งถึงขนาดที่ต้องท้าดวลปืนกันในแบบสุภาพบุรุษ หรือเรื่องราวของการสูญเสียภรรยาชาวเม็กซิกันของ โบว์วี่ ที่ เทรวิส เข้าใจผิดในระหว่างการสื่อสาร แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษนายทหารนักสู้อย่างแท้จริง เทรวิส ยินยอมกล่าวคำขอโทษแก่ โบว์วี่

และเมื่อกองกำลังส่วนหน้าของ ซานตา แอนนา มาถึง การรบครั้งแรกก็ได้เกิดขึ้น ในหนัง ได้แสดงความป่าเถื่อนของกองทัพ ซานตา แอนนา มากเกินไปหน่อย ยกกำลังมาเป็นร้อย ธงทิวพริ้วสะบัดไปหมด แต่กลับขาดแคลนธงสีขาวเพียงผืนเดียว ที่จะใช้ในการนำขบวนทหารเข้าไปเจรจาให้ฝ่ายต่อต้านยอมจำนน ถึงกลับต้องใช้วิธีกระชากเสื้อเชิ๊ร์ตจากชาวพื้นเมืองมาทำธง โถ…ทำเข้าไปได้
เมื่อการต่อสู้ดำเนินไป และ เทรวิส รู้แน่นอนแล้วว่าจะไม่มีกองกำลังเสริมมาช่วยได้อย่างแน่นอน เขาจึงยอมประกาศต่อหน้ากองกำลังทั้งหมดถึงความจริงที่เกิดขึ้น และประกาศที่จะอยู่สู้ตายคาป้อมกับทหารของเขาเท่านั้น ทหารอาสา หรือ ใครก็ตาม สามารถที่จะหลบออกไปจากป้อมได้ตามต้องการ น้ำใจของลูกผู้ชายชาตินักสู้ได้แสดงให้เห็นในฉากนี้ จิม โบว์วี่ และทหารอาสาสมัครของเขายอมลงจากหลังม้าเพื่อร่วมศึกครั้งนี้ ทั้ง ๆ ที่เตรียมตัวจะอพยพออกจากป้อมไปแล้ว รวมทั้งเหล่าเสือพรานจากเทนเนสซี ที่ทุกคนพร้อมใจกันลงมายืนเคียงข้างกันสู้ศึก สู้…ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เป็นการรบ…ที่ไม่มีวันชนะ
ในที่สุด เพียงเวลา 13 วันในการรวมกำลังกันต่อต้าน เหล่านักสู้ผู้กล้าทั้ง 185 คน ก็ต้องพ่ายต่อกองกำลังอันมากมายของ ซานตา แอนนา ทุกคน…ตายหมด เหลือไว้แต่เพียงเรื่องเล่า เป็นตำนานการต่อสู้อันกล้าหาญของพวกเค้า ที่เล่าขานสืบต่อกันมา และยังคงเล่าขาน….สืบต่อกันไป
จากเกร็ดประวัติศาสตร์เล็ก ๆ ของช่วงเวลา 13 วันของการต่อต้าน ถูกนำมาบรรจุลงบนแผ่นฟิล์ม (ขอใช้คำว่าแผ่นฟิล์มแทนแผ่น VCD หรือ DVD นะครับ ผมว่า…มันขลังกว่ากันมากเลย) ที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากการสร้างและกำกับโดย John Wayne เราจะเห็น หรือ ได้ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์บ้างเล็กน้อย และได้เห็นปืนไรเฟิลหลายลำกล้องของ จิม โบว์วี่ ที่ผมจำได้ว่า ปืนคาบศิลาหลายลำกล้องแบบนี้ เคยเห็นตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งใดแห่งหนึ่งในเมืองไทยนี่แหละครับ ดูเหมือนจะเรียกว่า ปืนหลังช้าง หรือไงนี่แหละ ผมจำไม่ได้จริง ๆ ครับว่าตั้งแสดงอยู่ที่ไหน (ถ้าท่านผู้อ่านท่านใดทราบ กรุณาบอกผ่านมาทางบอร์ดนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม) หรือได้เห็นการประดับตกแต่งปืนไรเฟิลเทนเนสซี ที่เค้าว่ากันว่า เป็นปืนคาบศิลาที่งดงามมากที่สุดในยุคนั้น และอีกอย่างที่ผมชอบคือ การเต้นแบบ Mexican Tap Dance ที่ไม่ได้ดูจากหนังเรื่องอื่น ๆ นานมากแล้วครับ

หลายท่าน อาจบอกว่า เหมือนกันกับ “ศึกบางระจัน” ในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งสุดท้ายของบ้านเราแฮะ ใช่ครับเหมือนกันเลย แต่ของเค้าเกิดทีหลังเราครับ เพราะ ศึกอลาโม เกิดปี พ.ศ. 2379 ในสมัยรัตนโกสินทร์ ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ตอนนั้น เราเป็นเอกราชแล้ว พวกอเมริกันชน ยังทำศึกเย้ว ๆ กันอยู่เลย แต่ไหงเปลี่ยนไป เค้ากลับเจริญก้าวหน้ากว่าเรามากมายก็ไม่รู้ซีครับ
เมื่อพูดถึง “บางระจัน” ผมไม่เข้าใจนะครับ ว่าทำไม ตำนานคนกล้าของบ้านเรา ถึงไม่ได้แพร่หลายเป็นที่รู้จักไปยังสากล ทั้งที่เป็นการต่อสู้ที่กล้าหาญเหมือนกัน ยังมีหลักฐานต่าง ๆ ปรากฏคงอยู่ไว้ให้ลูกหลานไทยเรา หรือใคร ๆ ได้ไปเห็นอยู่เช่นกัน อืม….อย่าว่าแต่ให้แพร่หลายไปยังสากลเลยครับ เด็ก ๆ บ้านเรา ผมเคยคุยกับลูกหลานหลาย ๆ คน ยังคุยเรื่อง ศึกบางระจัน ไม่รู้เรื่องเลยครับ
ผมเคยคุย ๆ กันกับเพื่อน ๆ นะครับ ถ้าผมเป็นใหญ่เป็นโต…ผมจะพาพวกลักลอบนำเข้าแรงงานต่างชาติ และพวกเรา..คนไทย..ที่ชอบจ้างแรงงานต่างด้าวแถว ๆ …(ขอสงวนชื่อนะครับ Web Master จะได้ไม่เดือดร้อน) ผมจะพาพวกนี้ไปดูกรุงเก่า…ที่เหลือแต่ซาก ไปดูป้อมค่ายบางระจัน แล้วจะถามพวกเค้าว่า…รู้ไหม…ว่าเกิดอะไรขึ้น …กับบรรพบุรุษของเรา…ที่นี่
กลับมาที่หนังขอเราต่อนะครับ The Alamo ยังมีเพลงประกอบที่ผมชื่นชอบอยู่อีก 2 เพลงครับ ซึ่งท่านที่เป็นนักฟังเพลงในแนว COUNTRY & WESTERN น่าจะรู้จักกันดี THE GREEN LEAVES OF SUMMER และ THE BALLAD OF THE ALAMO ที่ให้รายละเอียดของเรื่องราวของการศึกครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์ตามเนื้อเรื่อง(ยกเว้นจำนวนพลของ ซานตา แอนนาครับ) รวมทั้งเพลงมาร์ชในขณะที่กองทัพ ซานตา แอนนา กำลังแปรขบวนเข้าสู่แนวรบ เป็นเพลงที่ฟังแล้วฮึกเหิมมากเลย
คำคมของลูกผู้ชาย “ต่อให้ผมตายในวันนี้ ผมก็ภูมิใจ จะมีลูกผู้ชายสักกี่คน ที่ได้มีที่ตายแบบนี้” เป็นคำพูดของเหล่าเสือพรานจากเทนเน็สซี ที่ได้พูดคุยกันหลังจากเสร็จศึกครั้งหนึ่งในช่วงของ 13 วันของการต่อต้าน
อีกอย่างนะครับ ท่านอาจจะเคยชม The Alamo ที่สร้างขึ้นมาใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่นำแสดงโดย Billy Bob Thornton มาแล้ว การดำเนินเรื่องไม่เหมือนกันนะครับ และผมเองก็ไม่ชอบด้วย แม้ว่าจะเคยประทับใจกับ Billy Bob Thornton ในบทบาทของ Dan Truman จาก Armageddon มาแล้วก็ตามครับผม

สุดท้าย ผมได้ฝากไฟล์เพลงเป็น MP 3 คือเพลง THE GREEN LEAVES OF SUMMER และ THE BALLAD OF THE ALAMO มาไว้กับ Web Master ด้วยครับ รวมทั้งเนื้อเพลง THE BALLAD OF THE ALAMO ด้วย ไม่ทราบว่าสามารถที่จะลงไว้ในบอร์ดเพื่อให้เพื่อน ๆ มาโหลดไว้ฟังได้หรือเปล่า สำหรับเพลงนั้น เป็นเวอร์ชั่นที่ขับร้องโดย Marty Robbins นักร้องเพลง Country ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ไม่ใช่คณะนักร้องประสานเสียงที่ใช้ประกอบในหนังนะครับ อยากให้ลองฟังดู ตามประสาคนคอเดียวกัน ถ้ายังไง…ไม่สามารถที่จะโหลดได้จากบอร์ดนี้…ท่านที่สนใจก็เมล์มาคุยกันได้นะครับ…จัดให้…ครับผม
To the thirteen days of glory. At the siege of Alamo…
Ballad Of The Alamo : Marty Robbins
In the southern part of Texas . In the town of San Antone. (San Antoneo)
There's a fortress all in ruins that the weeds have overgrown.
You may look in vain for crosses and you'll never see a - one.
But sometimes between the setting and the rising of the sun.
You can hear a ghostly bugle. As the men go marching by.
You can hear them as they answer. To that roll call in the sky.
Colonel Travis, Davy Crockett, and a hundred eighty more.
Captain Dickinson, Jim Bowie. Present and accounted for.
Back in 1836, Houston said to Travis
"Get some volunteers and go fortify the Alamo."
Well the men came from Texas. And from old Tennessee.
And they joined up with Travis. Just to fight for the right to be free.
Indian scouts with squirrel guns. Men with muzzle – loaders.
Stood together, heel and toe to defend the Alamo.
"You may never see your loved ones” Travis told them that day.
"Those who want to can leave now. Those who fight to the death let 'em stay."
In the sand he drew a line with his army sabre.
Out of a hundred eighty five not a soldier crossed the line.
With his banners a dancin' in the dawn's golden light.
Santa Anna came prancing. On a horse that was black as the night.
Sent an officer to tell Travis to surrender.
Travis answered with a shell and a rousing rebel yell.
Santa Anna turned scarlet "Play deguello!" he roared.
"I will show them no quarter. Every one will be put to the sword!"
One hundred and eighty five holding back five thousand.
Five days, six days, eight days, ten Travis held and held again.
Then he sent for replacements. For his wounded and lame.
But the troops that were coming. Never came, never came, never came...
Twice he charged and blew recall. On the fatal third time.
Santa Anna breached the wall. And he killed 'em, one and all.
Now the bugles are silent. And there's rust on each sword.
And the small band of soldiers...Lie asleep in the arms of the Lord...
In the southern part of Texas. Near the town of San Antone.
Like a statue on his pinto rides a cowboy all alone.
And he sees the cattle grazing where a century before.
Santa Anna's guns were blazing and the cannons used to roar.
And his eyes turn sorta misty. And his heart begins to glow.
And he takes his hat off slowly...
To the men of Alamo.
To the thirteen days of glory
At the siege of Alamo..
หมายเหตุเพิ่มเติมจาก Webmaster
- การศึกครั้งนี้ เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1836 (พ.ศ. 2379) ถึงวันที่ 6 มีนาคม ปีเดียวกัน ในวิกิพีเดียระบุชัดว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างกองทัพสาธารณรัฐเม็กซิโกกับกองกำลังกบฏชาวเท็กซัส คือยอมรับตามตรงว่าเวลานั้นเท็กซัสเป็นของเม็กซิโก
- หนังในชื่อเดียวกันนี้ ปรากฏว่าสร้างถึง 4 ครั้งแล้ว คือ ปี 1936 (พ.ศ.2479) ปี 1960 (พ.ศ.2503 เวอร์ชันในบทความนี้) ปี 1987(พ.ศ.2530 ชื่อเต็มว่า The Alamo: Thirteen Days to Glory เราคงไม่ค่อยคุ้นเพราะเป็นภาพยนตร์ทางทีวีฝรั่งเขา) และ ปี 2004 (พ.ศ.2547)
- ใน วิกิพีเดีย ภาษาอังกฤษมีพูดถึงความคลาดเคลื่อนทางประวัติศาสตร์ของหนังเรื่องนี้ไว้บ้างเหมือนกัน ขอยกตัวอย่างสักสองสามประเด็นก็แล้วกันครับ ที่เหลือให้ผู้ที่ภาษาอังกฤษแข็งแรงตามไปอ่านตามลิงค์ข้างท้ายนะครับ คือ กรณีของ จิม โบวี่ นั้น ตามประวัติภรรยาของเขาตายไปตั้งนานก่อนจะเกิดศึกครั้งนี้ และตัวเขาเองป่วยอยู่หลายโรคแล้ว จนได้สิ้นใจไปก่อนที่ป้อมจะแตก และเวลาที่ป้อมแตกจริงๆ นั้น เป็นเวลาเช้ามืดก่อนสว่างครับ
- แม้ตอนต้นๆ เรื่อง จะ "ด่า" ซานตาอานนา เรื่องความเป็นเผด็จการอยู่พอหอมปากหอมคอ พอถึงตอนจะเริ่มทำศึกกันจริงๆ กองทัพเม็กซิโกได้ประกาศให้ผู้หญิงและเด็กอพยพออกมาจากเมืองก่อน ถือว่าผู้สร้างยังให้เกียรติทางฝ่ายเม็กซิอย่างมากๆ ผิดกับในเวอร์ชัน ปี 2004 ซึ่งถ้ามีโอกาสจะพูดถึงโดยละเอียดในอีกบทความหนึ่ง
- ความเป็น "บางระจันฝรั่ง" ของอลาโมนั้น ที่จริงชาวบางระจันของเราเป็นชาวบ้านแท้ๆ ส่วนชาวอลาโมนั้นส่วนใหญ่เป็นทหารอาสา (Militia) จะนับเป็นชาวบ้านหรือเป็นทหารได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่ทราบ และของเรามีคนมากกว่า ป้อมค่ายดูดีกว่า และรบชนะตั้งหลายครั้งยันข้าศึกได้เป็นเดือน แต่ที่เหมือนกันแน่ๆ คือการต้องเผชิญข้าศึกตามลำพังโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกจนวาระสุดท้ายได้สู้จนตัวตายกันหมด
- กรณีเพลง MP3 นั้น ผมไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องลิขสิทธิ์ครับ การเผยแพร่ทางเว็บไซต์โดยตรงคงไม่เหมาะสม แถมขนาดไฟล์ก็ไม่ใช่เล็กๆ สำหรับอินเตอร์เน็ต จึงอยากให้ลอง Search จาก Google ดูก่อน ถ้าหาดาวน์โหลดจากที่อื่นไม่ได้จริงๆ ค่อยติดต่อทางส่วนตัวที่คุณ countryboy (fromcountryboy@yahoo.com) หรือผม (webmaster@iseehistory.com) ครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : The Alamo
ชื่อภาษาไทย : ศึกอลาโม
ผู้กำกำกับ : John Wayne
ผู้สร้าง : John Wayne
ผู้เขียนบท : James Edward Grant
ผู้แสดง :
John Wayne as Davy Crockett, Richard Widmark as Jim Bowie and Laurence Harvey as William B. Travis, Frankie Avalon, Chill Wills, Patrick Wayne, Linda Cristal, Joseph Calleia as Juan Seguin, Ruben Padilla as Santa Anna, Richard Boone as Sam Houston, Ken Curtis, Hank Worden, and Denver Pyle.
ควรอ่านเพิ่มเติม
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์