Countryboy
11 พ.ค.2550
จากเสี้ยวหนึ่งของเหตุการณ์จริงที่มีบันทึกไว้ว่า กองทัพสหรัฐ ฯ ต้องสูญเสียกำลังพลที่เป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกันไปพร้อม ๆ กัน 3 หรือ 5 คนนี่แหละครับ ผมเองก็จำไม่ได้แล้ว หนังสือที่จะอ้างอิงก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน ทำให้มีระเบียบในกองทัพขึ้นมาว่า ไม่ให้มีญาติพี่น้องตระกูลเดียวกันประจำการอยู่ด้วยกัน เพื่อลดการสูญเสียขวัญและกำลังใจของครอบครัว ถ้ามีการสูญเสียแบบตายหมู่เกิดขึ้น
ไม่แน่ใจนะครับ ว่าอีตา Steven Spielberg แกจะเอามุขนี้หรือเปล่ามาเป็นพล๊อตเรื่องหนังของแก ที่เมื่อหนังออกฉายก็ได้รับความนิยมอย่างสูงมากทีเดียว ใช่ครับ เรื่องราวของเจ้าหนู Ryan ที่ต้องทำให้นักรบหลายคนต้องตายไปเพื่อเอาตัวเค้ากลับบ้าน เนื่องจากพี่ชายทั้ง 3 คน ต้องเสียชีวิตในเวลาไล่เรี่ยกัน ทางกองทัพจึงต้องการให้ลูกคนสุดท้องของครอบครัวกลับบ้านเพื่อเป็นการสร้างขวัญให้กับแม่คนเดียวของเค้า
หนังเริ่มต้นด้วยปู่ Ryan ของหลาน ๆ มาเยี่ยมสุสานทหารกล้าที่เสียชีวิตไปในสงคราม และต้องการมาเคารพหลุมฝังศพของ ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์ โดยเฉพาะ เพราะผู้กองมิลเลอร์คือผู้ที่เป็นหัวหน้าทีมที่พยายามเข้าไปเอาตัวเขาออกมาจากสนามรบเพื่อส่งกลับบ้าน คุณปู่แกยืนรำลึกถึงความหลังเพื่อเล่าให้พวกเราฟังนานตั้งเกือบ 3 ชั่วโมงแน่ะครับ
ผู้เฒ่า ไรอัน พร้อมครอบครัวในวันมาเยี่ยมหลุมศพของผู้กองมิลเลอร์ และเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้นให้พวกเราฟัง
6 มิถุนายน 1944 (พ.ศ.2487) คือวัน ดี - เดย์ วันที่ประวัติศาสตร์การรบบันทึกไว้ว่าเป็นวันยกพลขึ้นบกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ณ บริเวณที่ถูกกำหนดระหัสไว้ว่า Dog Green Sector ของหาด Omaha ชายฝั่ง Normandy เป็นการเปิดตัวหน่วยรบ "Ranger" ที่มี Capt. John Miller (แสดงโดย Tom Hank) เป็นผู้บังคับหน่วย ที่ต้องพากำลังพลเข้ายึดหัวหาดให้ได้ท่ามกลางห่ากระสุนปืนของพวกเยอรมันที่พยายามป้องกันชายฝั่งอย่างสุดชีวิต ฉากนี้ฉากเดียวนะครับ กระหึ่มไปด้วยเสียงระเบิดจากอาวุธต่าง ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างประเคนเข้าใส่กัน ผมประทับใจตรงมุมกล้องและซาวด์เอฟเฟ็คมากครับ เริ่มจากบู๊ทจีไอแตะน้ำและถูกห่ากระสุนถล่มใส่ บางคนตกลงไปในน้ำยังมีลูกหลงของกระสุนวิ่งตามลงไปคร่าชีวิตพวกเค้าอีก มุมกล้องก็มีการทำผลุบ ๆ โผล่ ๆ ในน้ำเหมือนกับอยู่ในเหตุการณ์จริง ซาวด์เอฟเฟ็คเยี่ยมมาก เสียงระเบิดกระหึ่มเร้าใจ เสียงปืนยิงกันน่าสยองขวัญ เก็บรายละเอียดได้หมดแม้กระทั่งเสียง "ปิ๊ง" ของคลิปกระสุนปืนที่ถูกยิงออกไปหมดแล้วกระเด็นออกมาจากช่องคายปลอก ปิดบ้านสนิท ๆ นะครับ เร่งวอลลุ่มของเครื่องเสียงขึ้นมาซักครึ่งนึง เร่งซับ - วูฟเฟอร์ ขึ้นมาอีกหน่อย...โห....มันครับ
ผู้กอง มิลเลอร์
3 วันหลังจากยึดหัวหาดได้ หน่วยเหนือได้เรียกผู้กองมิลเลอร์เข้าพบเพื่อมอบหมายภารกิจพิเศษให้ นั่นคือการติดตามตัวพลทหาร ไรอัน ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวกลับบ้าน เนื่องจากพี่ชายของเค้าทั้ง 3 คนต้องเสียชีวิตจากการรบในเวลาไล่เรี่ยกัน กองทัพ ต้องการตอบแทนคุณแม่ไรอันด้วยการส่งลูกชายคนสุดท้องคืนสู่อ้อมอก เพื่อชดเชยการที่ต้องสูญเสียลูกชายพร้อมกันถึง 3 คน
วางแผนการค้นหา
ข้อมูลที่หน่วยเหนือให้มาเพียงแค่บอกว่า ไรอัน สังกัดกองพลพลร่ม 101 อันลือชื่อ โดดร่มลงหลังแนวข้าศึก ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง คำสั่งคือ ค้นหา และ นำตัวกลับมาโดยปลอดภัย ผู้กองมิลเลอร์พร้อมด้วย จ่าฮาเวิร์ท (แสดงโดย Tom Sizemore) จ่าคู่ใจที่ผ่านการรบมาหลายสมรภูมิ ขนาดกระป๋องใส่ดินในแต่ละสมรภูทิที่จ่าแกย่ำเท้าลงไปนั้นเต็มเป้หลังแกเลย ทั้งสองได้คัดกำลังพลที่เคยร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันมาร่วมเดินทางไปด้วยกันอีก 5 คน และไปได้นายสิบฝ่ายข่าวชื่อ Upham (แสดงโดย Jeremy Davies)มาเป็นล่ามร่วมด้วยอีก 1 คนรวมทีมค้นหาทั้งสิ้น 8 คน เพื่อออกตามหาเจ้าหนูไรอัน
คาปาร์โซ ตายอย่างไม่น่าตาย
ระหว่างเดินทาง ทีมต้องสูญเสีย Caparso (แสดงโดย Vin Diesel น่าเสียดายนะครับ รับบทนิดเดียวสำหรับดาราคนนี้) ไปอย่างไม่น่าที่จะเสียเพียงแค่เพราะสงสารเด็กชาวบ้านในเมืองหนึ่งเท่านั้นเองจากฝีมือของพลซุ่มยิงของเจอรี่ แต่ก็ได้รับการแก้คืนจากฝีมือของ Jackson (รับบทโดย Barry Pepper) ซึ่งเป็นสไนเปอร์(Sniper - พลแม่นปืน) ของทีมค้นหา ฉากนี้ก็ดีนะครับ กระสุนของ แจ๊คสัน เข้าแจ๊คพ็อตทะลุผ่านกล้องเล็งของเจอรี่เข้าเบ้าตาพอดี....อะไรจะฟลุ๊คขนาดนั้น
เมื่อต้องเสีย เวด หมอประจำทีม
คนต่อมาของทีมที่ต้องตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่เห็นแม้แต่รอยบู๊ทของเจ้าหนูไรอันคือ Wade ซึ่งเป็นหมอประจำทีม หมอนี่ตายเพราะ ผู้กองมิลเลอร์ ที่สั่งลูกทีมเข้าทำลายรังปืนกลของเยอรมันที่มีพลประจำเพียงแค่ 4 คน โดยปฏิบัติการครั้งนี้อยู่นอกเหนือจากคำสั่งของหน่วยเหนือ ซึ่งลูกทีมทุกคนต่างไม่ต้องการทำและคัดค้านต่อคำสั่ง แต่เมื่อผู้กองมิลเลอร์ยืนยันว่าต้องทำ คำสั่งก็คือคำสั่งครับ ทุกคนต้องปฏิบัติตาม โดยต้องแลกกับการสูญเสีย เวด ไปจากทีมด้วยภารกิจนี้ ซึ่งสร้างความแค้นเคืองให้กับทีมเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับว่าจะยิงทิ้งพลปืนกลของเยอรมันที่รอดชีวิตมาเพียงคนเดียว แต่ผู้กองมิลเลอร์ไม่ยอม กลับปล่อยเชลยที่ว่านี้ไป ฉากนี้ กินใจในคำพูดของมิลเลอร์นิดหน่อยถึงเหตุผลที่ต้องปล่อยไป แต่ก็สร้างความขัดแย้งในทีมถึงขนาด Reiben (รับบทโดย Edward Burn) หนุ่มพลปืน BAR (Browning Automatic Rifle) เจ้าของคำถาม "ทำไม คน 8 คน ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อคน ๆ เดียว" ต้องการจะแยกตัวไปจากทีม แต่ด้วยความเข้าใจในตัวผู้กองของเค้า จึงกลับเข้าร่วมทีมอีกครั้งหนึ่ง
ในที่สุด ทีมค้นหาที่เหลืออยู่เพียง 6 คนก็ได้เบาะแสของเจ้าหนูไรอันจากมิลเลอร์เองที่ถูกกดดันจิตใจอย่างหนัก จนออกไปยืนตะโกนถามหาในกลุ่มของทหารที่บาดเจ็บ และก็ไปเจอเอาทหารคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนไรอันเข้าพอดี ถึงได้รู้ว่า ไรอัน อยู่ที่ไหน เพื่อนของไรอันคนนี้ คงไม่มีเวลาล้างปากล้างฟันเลยครับ เพราะที่ผมนั่งดูอยู่ ตอนที่มิลเลอร์เรียก อัพฮัม ให้เข้ามาเขียนหนังสือเพื่อสื่อสารกับเจ้าหมอนี่เพราะพอดีว่าหมอเกิดหูตึงขึ้นมาเพราะเสียงระเบิด อัพฮัม ล่ามประจำทีมถึงกับต้องเบือนหน้าหนีเวลาหมอนี่ตอบคำถามแต่ละที สงสัย เหม็นขี้ฟันอย่างมากเลย ลองสังเกตดูซีครับ
เจ้าหนูไรอัน ขณะฮึกเหิม (ซ้าย) กับตอนกลัวจนสติแตก (ขวา)
เอาล่ะครับ เมื่อเจอตัวเจ้าหนู Ryan (แสดงโดย Matt Damon) แล้วพาตัวกลับบ้านเลยก็ไม่มันซีครับ ต้องมีอะไรต่อให้มัน ๆ และประทับใจอีก เจ้าหนูไม่ยอมกลับบ้านครับ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า พี่ ๆ ทุกคนตายหมดแล้ว ไม่ว่าผู้กองมิลเลอร์จะอ้างถึงคำสั่งของกองทัพหรือบอกให้คิดถึงแม่ก็ตาม หมอยืนยันอย่างเดียวว่า จะสู้อยู่กับเหล่าเพื่อน ๆ พลร่มกองพัน 101 ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน เพื่อรักษาสะพานไว้ตามคำสั่งที่ได้รับ โถ...ทำเป็นกล้าหาญชาญชัย ตอนใกล้จบเห็นนั่งแหกปากร้องสติแตกอยู่คนเดียว เรื่องของเรื่องก็มาเข้าทางผู้กองมิลเลอร์ซีครับคราวนี้ เพราะผมดูเหมือนกับว่าผู้กองแกอยากรบนะครับ ตั้งแต่เมื่อตอนที่สั่งทำลายรังปืนกลจนต้องเสีย เวด ไปแล้ว
แจ๊คสัน พลสไนเปอร์ฝีมือเยี่ยม
แผนการรบถูกกำหนดขึ้น รวมทั้งการวางกับดักต่าง ๆ เพื่อขัดขวางไม่ให้เยอรมันเข้ายึดสะพานได้ ฉากรบฉากนี้ก็มันมากครับ มีการตั้งชื่อจุดรวมพลที่เมื่อไม่สามารถจะต้านเยอรมันได้ว่า อลาโม ซะด้วย เพื่อน ๆ สมาชิกบางท่านที่อาจจะยังไม่ทราบว่า อลาโม คืออะไรก็ติดตามค้นหาจากในบอร์ดของเราได้นะครับ เข้ามาที่เรื่องของไรอันต่อ การต้านทานเยอรมันของผู้กองมิลเลอร์ไม่ประสพผลสำเร็จครับ พลร่มของกองพัน 101 ทุกคนยกเว้นเจ้าหนูไรอันตายหมด ทีมของมิลเลอร์เองก็ต้องตายไปทีละคน เริ่มจาก แจ๊คสัน พลสไนเปอร์ที่ยิงไปสวดไปจนกระทั่งถูกปืนรถถังถล่มเอา (หมอนี่ตายแล้วเกิดใหม่ด้วยนะครับ เพราะพอตายจากศึกครั้งนั้น หมอก็มาเกิดใหม่ในยุคเวียตนาม จากเคยใช้สไนเปอร์ไรเฟิลติดกล้องเล็ง หมอมาเกิดใหม่เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ยิงกล้องถ่ายรูปแทนชื่อ Joe Galloway ในหนังเรื่อง We Were Soldies ที่นำแสดงโดย Mel Gibson ครับผม)
เมลลิซ (ซ้าย) ตายเพราะความกลัวของ อัพฮัม (ขวา)
คนต่อมาคือ Mellish หนุ่มยิวที่ต้องตายเพราะความสติแตกของ อัพฮัม ที่ไม่ยอมขึ้นไปช่วยพวก อัพฮัม แกไม่ใช่หน่วยรบโดยตรงน่ะครับ พอเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าถึงได้สั่นอย่างนั้น และอีกคนที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับภารกิจตามไรอันกลับบ้านคือ จ่าฮาเวิร์ท จ่าคู่ใจของผู้กองมิลเลอร์ ที่รบอย่างกล้าหาญเลยครับ ไม่รู้ว่ามีใครเก็บกระป๋องบรรจุดินในแต่ละสมรภูมิที่จ่าแกเหยียบไปทั่วส่งกลับบ้านให้หรือเปล่าในระหว่างรบนะครับ จะเห็นว่าเจ้าหนูไรอันนั่งแหกปากร้องสติแตกด้วยความกลัวอยู่ตอนท้าย ๆ เรื่อง มีแต่ ไรเบน จิ๊กโก๋หนุ่มจากย่าน บรู๊คลีน ที่ต่อสู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้กองมิลเลอร์ของเค้าจนวาระสุดท้าย
จ่า ฮาเวิร์ท ผู้ที่รบอย่างกล้าหาญ
การตายของผู้กองมิลเลอร์นะครับ เข้ากับสุภาษิตไทยเป๊ะเลย เรื่อง ชาวนากับงูเห่าไงครับ เพราะผู้ที่ลั่นกระสุนสังหารมิลเลอร์ก็คือพลปืนกลหนักของเยอรมันที่มิลเลอร์ปล่อยตัวไปนั่นเอง แต่หมอก็ต้องมาตายเพราะ อัพฮัม ผู้ซึ่งเป็นผู้ที่พยายามช่วยชีวิตไว้ตั้งแต่ตอนโดนจับครั้งแรก อัพฮัมคงแค้นมากน่ะครับ
ไรเบน พลปืนกล บาร์ ที่รบเคียงข้างผู้กองที่เขานับถือจนวาระสุดท้าย
สุดท้าย ก่อนที่ทั้งหมดที่เหลืออยู่จะต้องละลายหมดทั้งหน่วย กำลังเสริมก็เข้ามาช่วยครับ แต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อผู้กองมิลเลอร์ต้องตายลง ทั้งทีมจึงเหลือแต่ ไรเบน และ อัพฮัม สองคนเท่านั้นเอง ที่จะเป็นผู้ที่พาตัวไรอันกลับบ้านได้ตามคำสั่งที่ได้รับมาแต่แรก ... 6 คนครับ ที่ต้องตาย เพื่อคนคนเดียว
หนังเรื่องนี้ผมเจออะไร ๆ ที่น่าเอามาคุยกัน 2 - 3 เรื่องนะครับ อันแรกเลยคือเรื่องของการตายหมู่ของพี่น้องท้องเดียวกันที่ทำให้เกิดคำสั่งที่ว่า ห้ามพี่น้องตระกูลเดียวกันสังกัดอยู่หน่วยรบเดียวกันขึ้นมา หนังสือที่ผมมีอยู่หาไม่เจอครับ พอดีว่า บก. เอ๊ย เว็บมาสเตอร์ ได้แนะนำ link เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่น่าสนใจไว้ให้ ผมเลยฝากให้เพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านตาม link นี้ไปสืบเสาะหลักฐานต่อกันเลยนะครับ แบบว่า ภาษาอังกฤษของผมไม่แข็งน่ะครับ แล้วค่อยเอามาคุยกันที่ "คุยกันหลังฉาก" นะครับ
เรื่องต่อมาคือเรื่องที่ไม่น่าพลาดในการตัดต่อภาพเลยนะครับ เป็นเรื่องที่ผมเคยทิ้งท้ายไว้ว่า หนังเรื่องนี้ มีอะไรที่ผิดพลาดตรงไหน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับโดยการติดต่อถามกลับมาจากเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านเว็บนี้....ตั้ง 2 ท่าน แน่ะครับ....โห...มากมายซะ
ทีมค้นหาก่อน คาปาร์โซ ตาย (ซ้าย) และเมื่อ คาปาร์โซ ตายแล้ว (ขวา)
บังเอิญว่า หนังที่ผมมีอยู่เป็น vcd นะครับ เลยขออ้างอิงตามนี้ จากแผ่นแรกของสามแผ่นนะครับ ประมาณนาทีที่ 45 ทีมค้นหายังมีกันอยู่ครบ 8 คนนะครับ ยังเดินกันอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่สวยงามที่มีฝูงแกะเดินตัดหน้าขบวนด้วย เห็นแล้วใช่ไหมครับ จากนั้น ประมาณนาทีที่ 55 คาปาร์โซ จะถูกยิงด้วยพลสไนเปอร์ของเจอรี่ ตายไปหนึ่งนะครับใช่ไหม พอขึ้นแผ่นสอง ประมาณนาทีที่ 17 ครับ ลองเปิดดูตามเลยนะ หลังจากที่ได้เบาะแสของไรอันจากเพื่อนปากเหม็นของเค้าแล้ว ทีมก็เริ่มเดินทางไปยังจุดหมายในแผนที่ที่กำหนดไว้ ดูดี ๆ ซีครับ ทีมยังเดินกันอยู่ครบ 8 คนเลย สงสัย...ผีของคาปาร์โซจะเป็นห่วงเพื่อนน่ะครับ เลยเดินตามมาด้วย....เห็นไหมครับ นี่คือเฉลยที่ผมเคยอุบเพื่อน ๆ ไว้ครับ ฝากตอบเพื่อน ๆ ทั้ง 2 ท่านที่คุยถามมาเลยนะครับ
ต่อไปก็เป็นเรื่องตลกทางภาษาน่าจะได้นะครับ ตอนที่ผู้กองมิลเลอร์เดินทางมาพบทหารหน่วยแรก และถามหาพลทหารไรอัน ซึ่งปรากฏว่ามีทหารชื่อนี้อยู่พอดี และเมื่อได้เจอตัว มิลเลอร์ได้บอกกับพลทหารคนนั้นว่า "Your brothers are dead" ซึ่งในซับไทยเขียนไว้ว่า "พี่นายตายหมดแล้ว" แต่เจ้าหมอนั่นมีแต่น้องชายที่ยังเรียนหนังสือชั้นประถมอยู่เลย brothers นี่มันได้ทั้งพี่ทั้งน้องเลยใช่ไหมครับ ไม่เหมือนภาษาไทยเราพี่ก็พี่ น้องก็น้อง บอกตรงตัวเลย ไม่ต้องมาร้องไห้เสียใจไปซะก่อนที่จะรู้ความจริง ไม่รู้ว่า ในพากษ์ไทย เค้าพากษ์ว่าไงนะครับ เพราะถ้าพากษ์ว่า พี่นายตายหมดแล้ว ตามซับไตเติล เจ้าหมอไรอันที่ชื่อซ้ำกันก็ไม่น่าร้องไห้ เพียงแค่แย้งว่า ผมไม่มีพี่ ผมมีแต่น้อง เท่านั้นก็จบ ทั้งตลกและทั้งน่าชื่นชมภาษาไทยเรานะครับ ที่ไม่ต้องมาตีความกันผิด ๆ กันอย่างนี้
เนี่ยครับที่สงสัย….ใครช่วยตอบทีครับ
และสุดท้ายของเรื่องนี้ที่ผมอยากจะฝากเรียนถามท่านผู้ที่เข้ามาอ่านถึงเรื่องเกี่ยวกับอาวุธครับผม คือในตอนที่ทำการต้านทานการบุกของเยอรมันที่สะพานก่อนจะจบนะครับ ระเบิดหมด ไรอันได้บอกผู้กองมิลเลอร์ว่า ให้ใช้ลูกปืน ค. 60 แทนลูกระเบิดขว้างได้ โดยการกระแทกท้ายลูกกระสุนปืน ค. 60 ที่ว่าลงกับฐานรองปืน แล้วขว้างออกไป ตรงนี้ ผมพอทราบอยู่ว่า กระสุน ค.60 เป็นกระสุนแบบกระทบแตก คือที่ส่วนหัวจะมีชนวนแบบกระทบแตกติดไว้ เมื่อกระสุนตกสู่พื้นโดยการเอาหัวกระสุนทิ่มลง จะไปจุดชนวนเพื่อไปทำการจุดดินระเบิดที่บรรจุอยู่ในตัวกระสุนอีกทีหนึ่งเพื่อให้เกิดผลการทำลาย ผมทราบมาแค่นี้ครับ กับทราบว่า การจุดชนวนที่ท้ายลูกกระสุนด้วยการหย่อนกระสุนทั้งนัดลงในท่อยิงนั้น เป็นการจุดระเบิดดินขับ เพื่อส่งกระสุนออกไปจากท่อยิง โดยดินขับในตัวของมันเองหรือกับดินขับที่เป็นส่วนบรรจุเพิ่มเพื่อขยายระยะยิงครับ หรือผมเข้าใจผิดหว่า แต่ที่สงสัยคือ จริง ๆ แล้ว สามารถทำอย่างที่ในหนังทำได้หรือเปล่า ขอฝากเรียนถามท่านสมาชิกหรือท่านที่ผ่านมาอ่านเจอเข้า และมีความรู้ด้านอาวุธศึกษาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ผมว่าไม่น่าจะถึงขั้นเปิดเผยความลับของทางราชการนะ ขอขอบคุณมาล่วงหน้าครับผม
รวมเวลาในหนังทั้ง 3 แผ่นที่ให้ความสนุกกับเราเท่ากับ 162 นาทีครับ ถ้าเอาเวลาจริงตามเนื้อเรื่องก็แค่ 8 วันเอง คือเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน อันเป็นวัน ดี - เดย์ ไปเสร็จสิ้นภารกิจในวันที่ 13 มิถุนายน ปีเดียวกันคือปี 1944 ซึ่งจะครบรอบ 63 ปีของวันนี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้วครับผม
อยากคุยกับท่านผู้อ่านเป็นท่านที่ 3 และท่านต่อ ๆ ไปบ้างครับ...โห...เขียนมาตั้งหลายเรื่อง มีเพื่อน ๆ เข้ามาคุยด้วยแค่ 2 คนเอง เหงานะครับ
หมายเหตุเพิ่มเติมจาก Webmaster@iseehistory.com
- กรณีพี่น้องที่ไปตายในสงครามพร้อมกันได้แก่ กรณีพี่น้องตระกูล Sullivan ที่ตายในเรือลำเดียวพร้อมกัน 5 คน อีกครอบครัวหนึ่งคือตระกูล Niland ซึ่งแยกย้ายกันไปรบตามหน่วยต่างๆ เรื่องของเจ้าหนูไรอัน (ขณะนั้นนะครับ ตอนนี้เป็นคุณปู่คุณทวดไปแล้ว) อิงกับเรื่องของตระกูล Niland ครับ แต่เรื่องจริงไม่ได้ถึงขั้นมีทีมค้นหาอย่างในหนัง
- ที่ว่า อัพฮัมแค้นอีตาเยอรมันที่ทีมค้นหาปล่อยตัวไปแล้วกลับมายิงผู้กองมิลเลอร์นั้น เพราะอัพฮัมก็เป็นชาวนา เอ๊ย! เป็นคนหนึ่งที่พยายามช่วยชีวิตทหารเยอรมันคนนี้ไว้ เช่น สอนให้ตะแกพูดว่า "I love American."
- กรณีการขว้างกระสุนปืนครกแทนระเบิดมือนั้น คงต้องยืมคำพูดของวงการทีวีไทยสมัยนี้ว่า "เป็นความสามารถเฉพาะตัว ห้ามเลียนแบบ" ละมังครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : Saving Private Ryan
ชื่อภาษาไทย : เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก
ชนิดของภาพยนตร์ที่ใช้เขียน : VCD Sound Track จำนวน 3 แผ่น ความยาว 162 นาที
ผู้สร้าง/ผู้กำกับ : Steven Spielberg
ผู้เขียนบท : Robert Rodat
ผู้แสดง : Tom Hank , Matt Damon , Tom Sizemore , Vin Deisel , Barry Pepper, Jeremy Davies ฯลฯ
ควรอ่านเพิ่มเติม :
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์