dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



ฟอร์เรสต์ กัมป์ ยำใหญ่ประวัติศาสตร์อเมริกาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
วันที่ 19/05/2013   20:43:50

โดย "คนเล่าเรื่อง"

เรื่องเริ่มต้นที่ตัวเอกมานั่งรอรถเมล์ที่ป้าย แล้วพยายามเอ่ยปากชวนคนที่นั่งใกล้ๆ พูดคุยอย่างเรื่อยเจื้อย แล้วจึงเริ่มเล่าเรื่องชีวิตตนเองตั้งแต่วัยเด็ก เกิดและเติบโตที่รัฐอาลาบามา ได้ชื่อฟอเรสต์ กัมป์ที่พ้องกันกับชื่อของนายพลนาทาน ฟอเรสต์สมาชิกคลูคลักแคลน การเป็นเด็กขาพิการต้องดามเหล็กไว้ เกือบไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะไอคิวต่ำ ถูกรังแกจากเพื่อนๆ ร่วมชั้นจนกระทั่งได้มารู้จักและสนิทกับเจนนี่เด็กหญิงผู้ให้ความเอื้ออารีแก่เขา

กัมป์ได้พบกับเอลวิสในช่วงที่ยังไม่โด่งดังที่บ้านของเขาซึ่งได้ทำเป็นโรงแรมให้คนเช่า กัมป์ขยับเต้นไปตามจังหวะดนตรีของเอลวิส แล้วจึงกลายเป็นต้นแบบท่าเต้นโยกและคลึงของเอลวิส แล้ววันหนึ่งเขาก็วิ่งได้อย่างปาฏิหาริย์จากการพยายามวิ่งหนีเพื่อนๆ ที่ขี่จักรยานไล่ล่าเขา

 

กัมป์ในวัยเด็กกับเอลวิส

เมื่อเติบโตขึ้น เขาจึงเป็นนักวิ่งที่เร็วที่สุดในตำบลจนได้เป็นนักอเมริกันฟุตบอล ได้สัมผัสมือกับประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ แล้วได้ค้นพบความลับของผู้นำว่าพัวพันกับมาริลิน มอนโรจากรูปถ่ายของเธอที่ตั้งอยู่ในห้องน้ำของท่าน

กัมป์กับประธานาธิบดีเคเนดี้

กัมป์ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยอาลาบาม่า แล้ววันหนึ่ง ได้มีนักศึกษาผิวดำได้เข้าเรียนท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของกองทหาร กัมป์ได้เก็บหนังสือที่เธอทำตกแล้วยื่นให้ด้วยประสาซื่อโดยไม่รู้ว่า สถานการณ์ขณะนั้นคับขันแค่ไหน

เมื่อเรียนจบ เขาได้ถูกเกณฑ์เป็นทหารและได้เพื่อนคู่หูผิวดำชื่อบั๊บบ้าผู้มีความฝันจะทำมาหากินกับกุ้ง จากนั้นเขาถูกส่งไปเวียดนาม มีผู้บังคับบัญชาที่นิยมทหารและบรรพบุรุษได้เสียชีวิตไปในสงครามประกาศเอกราช สงครามกลางเมือง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 มีประสบการณ์อันสาหัสแบบเดียวกับทหารอเมริกันคนอื่นๆ ในเวียดนาม บั๊บบ้าต้องตายจากการจู่โจมของข้าศึก กัมป์ได้ช่วยเหลือเพื่อนๆ มากมายและได้รับเหรียญกล้าหาญ ได้พบและจับมือกับประธานาธิบดีจอห์นสัน

รับเหรียญกล้าหาญจากประธานาธิบดีจอห์นสัน

กัมป์ได้สัมผัสกับบรรยากาศการชุมนุมของบุปผาชนกับเจนนี่ในช่วงกลับบ้าน ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับสงครามเวียดนามต่อหน้าฝูงชนซึ่งไม่มีใครรู้ว่าต่อต้านหรือสนับสนุนสงคราม

กัมป์กับบรรยากาศงานบุปผาชน

กัมป์ได้ฝึกฝนตีปิงปองจนเก่งถึงขั้นเซียน แล้วโชว์ลีลาจนคนในโรงพยาบาลไม่ได้สนใจการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่มนุษย์อวกาศคนแรกเหยียบดวงจันทร์ จากนั้น จึงเป็นทีมชาติไปแข่งขันปิงปองเชื่อมสัมพันธ์กับประเทศจีนในช่วงการเปิดสัมพันธ์ใหม่ๆ

กัมป์เข้าร่วมการแข่งขันปิงปองในประเทศจีน

กัมป์ได้พบกับประธานาธิบดีนิกสัน และเกิดพัวพันกับคดีวอร์เตอร์เกตเพราะตัวเองพักอยู่ในโรงแรมเดียวกันแต่ตนละปีก ออกทีวีร่วมกับจอห์นเลนนอน จากนั้น จึงออกจากราชการทหารไปเป็นกัปตันเรือหากุ้งกับผู้หมวดขาพิการที่เขาได้ช่วยชีวิตไว้ในสงครามร่วมกันทำมาหาเลี้ยงชีพจนร่ำรวย แล้วซื้อบริษัทแอปเปิ้ลมาดำเนินกิจการเพราะเข้าใจว่าเป็นบริษัทจำหน่ายผลไม้ จากนั้น จึงปล่อยให้ผู้หมวดแดนดูแลกิจการแทนแล้วเขาก็เป็นหุ้นส่วนรับเงินกลับไปใช้ชีวิตแบบสมถะและบำเพ็ญประโยชน์ที่บ้านเกิดหลังจากแม่ตายไปแล้ว
เจนนี่กลับมาหากัมป์อีกครั้ง ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันสั้นๆ ก่อนจะหนีจากไปอีก ด้วยความเหงา กัมป์จึงออกวิ่งและวิ่งข้ามฝั่งอเมริกาอยู่ 3 ปีมีคนวิ่งตามขบวนเป็นจำนวนมาก จนนึกขึ้นได้ว่าเหนื่อยและเบื่อจึงเลิกวิ่งซะเฉยๆ

กัมป์กับประธานาธิบดีนิกสัน

 

กัมป์พบกับแม่เป็นครั้งสุดท้าย

ในวันที่ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนถูกลอบยิง กัมป์ได้รับจดหมายจากเจนนี่นัดให้ไปพบ เขาจึงมารอขึ้นรถเมล์แล้วไปหาเธอและได้พบว่าเธอมีลูกและบอกว่าเป็นลูกของเขา เจนนี่ขอร้องให้กัมป์แต่งงาน เขาตกลง ทั้งคู่อยู่ร่วมกันระยะสั้นๆ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อชนิดใหม่ที่ยังไม่มียารักษา กัมป์ดูแลลูกน้อยด้วยความรัก ความเอ็นดูต่อมา

กัมป์กับเจนนี่

กัมป์กับลูกน้อย

ฟอร์เรสต์ กัมป์เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า ผสมจินตนาการแฟนตาซีที่อิงประวัติศาสตร์อเมริกาช่วงหลังสงครามโลกแบบหลวมๆ ในลักษณะเมดเลย์ที่ชนะใจคนอเมริกันและคนชาติอื่นๆ ทั่วโลกมาแล้วตั้งแต่ออกฉาย ตัวหนังได้อิงกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และสังคมในด้านต่างๆ ของอเมริกาช่วงทศวรรษ 50- 80 ต้นๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อยโดยผ่านมุมมองและความคิดของคนไอคิวต่ำแบบกัมป์ นับตั้งแต่การขยับแข้งขาของเด็กขาพิการอย่างกัมป์ได้กลายเป็นต้นกำเนิดท่าเต้นโยกและคลึง (Elvis pelvis) ของนักร้องที่เป็นตำนานอย่างเอลวิส, การได้ทักทายนักศึกษามหาวิทยาลัยผิวดำซึ่งเข้าชั้นเรียนวันแรกในมหาวิทยาลัยอาลาบามา ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด เพราะจอร์จ วอลเลซผู้ว่าการรัฐสั่งห้ามไม่ให้คนผิวดำเข้าเรียน เคนเนดี้จึงสั่งกองทหารมาทำการรักษาความปลอดภัยของกองทหารเพื่อสร้างความเท่าเทียมของคนดำ, การได้พบปะและเกี่ยวพันเล็กๆ น้อยๆ กับประธานาธิบดี 3 คน (จอห์น เอฟ เคนเนดี้, ลินดอน บี จอห์นสัน, ริชาร์ด นิกสัน), การได้มีส่วนร่วมในสงครามเวียดนามจนได้เป็นวีรบุรุษในฝัน (การได้ช่วยเหลือเพื่อนทหารที่บาดเจ็บในสงครามเป็นวีรกรรมที่คนอเมริกันนิยมชมชอบมากกว่าการได้ประหัตประหารข้าศึก), ได้สังเกตการณ์และมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของกลุ่มบุปผาชนซึ่งอ้างอิงบรรยากาศแบบวู้ดสต็อก, การได้เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมสัมพันธ์กับประเทศจีนในระยะเริ่มต้นด้วยกีฬาปิงปอง, ได้ออกทีวีกับจอห์น เลนนอน นักร้องนักดนตรีผู้เป็นตำนาน, ได้พัวพันกับคดีวอเตอร์เกตที่พลิกประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกา และเหตุการณ์อื่นๆ ที่ไม่สลักสำคัญมากมายนัก คนอเมริกันเองที่อายุ 50-60 ปี พอได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คงร้องอ๋อและเข้าใจเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อเมริกาที่กัมป์ได้เกี่ยวข้อง แต่คนไทยเราคงต้องศึกษาให้ลึกสักหน่อย จึงจะเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดในหนังได้

จุดเด่นอีกอย่างของหนังเรื่องนี้นอกจากการตีบทที่แตกละเอียดของทอม แฮงค์และตัวละครอื่นๆ แล้ว ก็คือการใช้เทคนิคแต่งภาพและสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทำให้กัมป์สามารถโลดแล่นไปบนภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้อย่างสมจริง เนรมิตรให้กัมป์เป็นอัจฉริยะด้านปิงปอง สร้างภาพให้ผู้หมวดแดนขาด้วนจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นของจริง ซึ่งนับได้ว่าเป็นแม่แบบของการใช้เทคนิคแต่งภาพตัวละครให้มีบุคลิกเป็นไปตามบทบาทได้อย่างน่าอัศจรรย์ นอกเหนือจากการกำกับศิลป์ (การแต่งหน้า แต่งตัวตัวละคร และการตกแต่งฉาก) ทั่วๆ ไป

กัมป์, บั๊บบ้า และผู้หมวดแดน ในสงครามเวียดนาม

อีกประการ หนังเรื่องนี้มีการล้อเลียนหนังบางเรื่องโดยพลิกเรื่องให้เป็นตรงข้ามกัน เช่น พลาทูน (Platoon) ตัวเอกบอกว่าทหารในหน่วยล้วนแต่เป็นคนที่สังคมไม่ต้องการ พวกหัวไม้ กรรมกร คนนอกคอก มาจากเมืองที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ฉากเวียดนามในหนัง กัมป์กลับบอกว่าเพื่อนๆ ทหารของเขาล้วนแต่เป็นคนดีๆ จากสังคมที่ดี และมาจากเมืองสำคัญๆ ของเมริกา ฉากฝึกทหารในค่ายที่ดูเหมือนจะล้อเลียนหนังเรื่อง เกิดเพื่อฆ่า (Full metal Jacket) ที่ครูฝึกผิวหมึกทำทุกวิถีทางเพื่อขับเอาสัญชาตญาณดิบในตัวทหารทุกๆ คนออกมา แต่ไม่ได้ผลสำหรับตัวของกัมป์

สรุปได้ว่า หนังเรื่องฟอเรสต์ กัมป์ ได้ใช้เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และสังคมของอเมริกาเป็นตัวเสริมเรื่องราวและสีสันของหนังมากกว่าการเดินเรื่อง ซึ่งคนอเมริกันหลายคนรวมทั้งคนไทยบางส่วนได้ดูแล้วคงมีอาการอมยิ้ม ประทับใจ ถวิลหา จนถึงขมขื่น เจ็บปวด ต้องการจะลืมเรื่องราวในประวัติศาสตร์เหล่านั้น แต่ก็ทำได้สบายๆ เป็นกันเอง ไม่ซีเรียสจนเกินไป และยังแทรกปรัชญาความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์แบบคริสต์ศาสนาและบุคลิกความใสซื่อแบบอเมริกันดั้งเดิมในเรื่องผ่านทางพฤติกรรมของกัมป์ที่มีต่อคนรอบข้างทั้งเจนนี่ บั๊บบ้า ผู้หมวดแดน และคนอื่นๆ ใครก็ตามที่นิยมความเป็นอเมริกันก็จะเพิ่มความนิยมเข้าไปอีก สำหรับคนเกลียดความเป็นอเมริกันก็คงจะคลายความเกลียดลงและมองเห็นแง่ดีของความเป็นอเมริกันมากขึ้น


คำพูดสำคัญในภาพยนตร์

  • "Life is like a box of chocolates you never know what you're gonna get."
    ชีวิตก็เหมือนกับช็อกโกเลตน่ะแหละ คุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรจนกว่าคุณจะเปิดมัน
    (คำพูดที่แม่สอนกัมป์ และกัมป์ได้บอกแก่คนอื่นๆ ที่รอรถเมล์อยู่ด้วยกัน)
  • "Stupid is as stupid does"
    คนโง่ก็ทำอะไรแบบโง่ๆ
    (คำพูดที่กัมป์ใช้อธิบายเหตุผลแก่คนอื่นๆ เมื่อเขาทำอะไรไร้เหตุผล)
  • "We were like peas and carrots, Jenny and I"
    เราต่างก็เหมือนกับปาท่องโก๋
    (คำพูดที่กัมป์รำพึงรำพันความรู้สึกที่มีต่อเจนนี่)
  • "I'm not a smart man, but I know what love is."
    ผมไม่ใช่คนฉลาด แต่ผมรู้ว่าความรักคืออะไร
    (คำพูดที่กัมป์บอกความในใจต่อเจนนี่)

เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด  หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย

ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : Forest Gump

ชื่อภาษาไทย : อัจฉริยะปัญญานิ่ม

ผู้สร้าง : Charles Newirth

ผู้กำกับ : Robert Zemekis

ผู้เขียนบท : Fric Roth

นิยายดั้งเดิม : Winston Groom

ผู้แสดง

  • Tom Hanks.................................. Forrest Gump
  • Robin Wright.................................Jenny Curran
  • Gary Sinise...................................Lt. Dan Taylor
  • Mykelti Williamson............................Bubba Blue
  • Michael Conner Humphreys...........Young Forrest
  • Sally Field..........................................Mrs. Gump

สาระเพิ่มเติมที่ควรอ่าน

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

  • (ยังไม่มี)

 
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ

หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ

Bookmark and Share

ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com

ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์

 



ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย

71: Into the Fire สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน วันที่ 19/05/2013   20:31:42
May 18 - พฤษภาทมิฬของเกาหลีใต้ วันที่ 19/05/2013   20:32:36
CHE 2008 วันที่ 19/05/2013   20:34:01
เช! ความสำเร็จและความล้มเหลวของสงครามประชาชน วันที่ 19/05/2013   20:34:55
Exodus - อีกตำนานกำเนิดประเทศอิสราเอล วันที่ 19/05/2013   20:36:13
สี่เกล๊อะ จาไมก้า ว่าด้วยประวัติศาสตร์โอลิมปิกส์ฤดูหนาวแนวคอมเมดี้ วันที่ 19/05/2013   20:38:49
ความรุ่งโรจน์ ในโลกมืด ของ เรย์ ชาลส์ วันที่ 19/05/2013   20:39:38
Cast A Giant Shadow : ศึกรบศึกรักของขุนพลยิวอเมริกัน วันที่ 19/05/2013   20:40:41
Black Hawk Down วันที่ 19/05/2013   20:41:45
The Motorcycle Diaries บันทึกลูกผู้ชาย ชื่อ...เช วันที่ 19/05/2013   20:42:51
สารคดี Che Guevara วันที่ 19/05/2013   20:44:52
The Front Line (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   20:45:40 article
The Last King of Scotland (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   20:46:14 article
Hotel Rwanda (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   20:46:40 article
Apollo 13 (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   20:47:12 article
เท กึก กี เลือดเนื้อเพื่อฝัน วันสิ้นสงคราม (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   20:47:39 article
The Lady อองซานซูจี ผู้หญิงท้าอำนาจ (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   20:48:07 article



1

ความคิดเห็นที่ 1 (101727)
avatar
Benjamin

ดูแล้วประทับใจมากครับหนังเรื่องนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น Benjamin (ben_dog99-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-29 15:51:51



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker