dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



THE EAGLE HAS LANDED (แผนสิบหกอินทรีเหล็ก)
วันที่ 19/05/2013   15:15:36

โดย ชาญชัย (Leo53)

 

“ มโน มอบพระผู้เสวยสวรรค์
แขน มอบถวายทรงธรรม์ เทอดหล้า
ดวงใจ มอบเมียขวัญ และแม่
เกียรติศักดิ์ รักของข้า มอบไว้แก่ตัว ”

พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6

เกริ่นนำ

เวลา 1.00 นาฬิกาตรง ของวันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1943 นายพลฮิมเล่อร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาหน่วยรบพิเศษ เอสเอส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำรวจลับเกสตาโป แห่งอาณาจักรไรช์ที่ 3 ได้รับข่าวสั้นๆว่า “The Eagle has landed” ซึ่งหมายความว่า หน่วยทหารเล็กๆหน่วยหนึ่งของกองทัพเยอรมันได้กระโดดร่มลงไปในเกาะอังกฤษแล้วอย่างปลอดภัย เพื่อปฏิบัติการลักพาตัวนายกรัฐมนตรีอังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิล จากบ้านพักในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งชายฝั่งทะเล ที่เขากำลังพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่ ภาพยนต์เรื่องนี้พยายามจะผูกเรื่องราวขึ้นให้ใกล้ความจริงที่ได้เกิดขึ้นให้มากที่สุด โดยอย่างน้อยที่สุด 50 เปอร์เซ็นต์ของเรื่องราวในภาพยนต์เป็นความจริงที่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรทางประวัติศาสตร์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์นั้นผู้ชมภาพยนต์จะต้องใช้วิจารณญานของตนเองว่า น่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือไม่

ที่มาของภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายขายดี (Best Selling) เขียนโดยแจ็ค ฮิกกินส์ เป็นเรื่องราวของหน่วยคอมมานโดเยอรมัน ที่กระโดดร่มลงไปบนเกาะอังกฤษเพื่อจับตัววินสตัน เชอร์ชิล มาเป็นตัวประกันหรือถ้าทำไม่ได้ก็จะสังหารเสีย เป็นปฏิบัติการในช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่สอง (วันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1943) ที่เยอรมันหวังว่าจะทำให้อะไรๆดีขึ้นได้บ้างและปาฏิหารย์อาจมีจริง เนื่องจากในขณะนั้นสถานการณ์ของเยอรมันเข้าสู่วิกฤติของการแพ้สงครามแล้ว เนื่องจากสาเหตุสำคัญคือ หนึ่ง การบุกรัสเซียที่ล้มเหลวทำให้สูญเสียกำลังทหารไปถึง 720 กองพล (เยอรมันเริ่มถูกตีถอยร่นจากรัสเซียในสมรภูมิที่เมืองเคิสค์และสตาลินกราดเมื่อปี ค.ศ.1943)  สอง สัมพันธมิตรสามารถเข้ายึดซิซิลีและอิตาลีได้ โดยอิตาลีต้องยอมเซ็นสัญญาสงบศึกเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ.1943 และมุสโสลินีผู้นำอิตาลีก็ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรควบคุมตัวไว้ และสาม ที่ร้ายที่สุดคือในขณะที่เยอรมันสู้กับประเทศอื่นๆเกือบทั้งยุโรป จนบอบช้ำสาหัสแล้ว สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศยักษ์ใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์มั่งคั่งทั้งทางเศรษฐกิจและยิ่งใหญ่ทางการทหาร ไม่เคยได้รับความบอบช้ำมาก่อนเลย (สงครามโลกครั้งที่สองเริ่มขึ้นในยุโรปปี ค.ศ.1939 อเมริกาเข้ามาเต็มตัวประมาณต้นปี ค.ศ.1942 หลังจากที่สนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างไม่เป็นทางการมาตลอด และสงครามในยุโรปสงบลงเมื่อปี  ค.ศ.1945) ถือโอกาสเข้ามาร่วมกินโต๊ะเยอรมันด้วย

 

เบนิโต้ มุสโสลินี หัวหน้าพรรคฟาสซิสท์ และผู้นำอิตาลี กับ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หัวหน้าพรรคนาซี และผู้นำเยอรมัน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

หากจับตัวเชอร์ชิลได้นอกจากจะเป็นการปลุกขวัญกำลังใจให้กับเยอรมัน และลดทอนความฮึกเหิมของฝ่ายสัมพันธมิตรลงบ้างแล้ว ฮิตเลอร์ยังคาดหวังว่าอาจมีส่วนช่วยให้การขอเจราจาสงบศึกกับฝ่ายสัมพันธมิตรมีความเป็นไปได้มากขึ้นอีกด้วย (ฮิตเลอร์ต้องการขอสงบศึกกับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อจะไปเผด็จศึกด้านรัสเซียด้านเดียว)

แจ็ค ฮิคกิ้นส์ผู้แต่งเรื่องนี้เขียนไว้ในบทที่หนึ่งของหนังสือว่า เรื่องราวที่เขียนขึ้นทั้งหมดนี้ประกอบไปด้วยเนื้อหาที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ที่เหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อให้ประกอบกันเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์  ความคิดที่จะเขียนนิยายเรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อแจ็ค ฮิคกิ้นส์ไปพบหลุมศพของพันเอกสไตน์เน่อร์และทหารของเขาอีก 13 คน ในสุสานของโบสถ์แคทอลิคที่ Studley Constable: ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆชายฝั่งทะเลบนเกาะอังกฤษ บนหลุมศพมีเครื่องหมายกางเขนเหล็ก (เหรียญกล้าหาญ) ของกองทัพเยอรมัน และมีคำจารึกไว้ว่า. “สถานที่นี้เป็นที่ฝังศพของ พันเอกเคิร์ท สไตน์เน่อร์ และทหารพลร่มใต้บังคับบัญชาของเขาอีก 13 คน ซึ่งทั้งหมดได้เสียชีวิตลงในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1943”
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าบาทหลวงเจ้าอาวาสและชาวเมืองนอกจากจะไม่ให้ข้อมูลใดๆแก่เขาแล้ว ยังขับไล่เขาออกจากเมืองด้วยความโกรธอีกด้วยที่เขาไปพบหลุมศพลับของเหล่าทหารเยอรมันเข้าและต้องการจะสืบหาเรื่องราวของทหารเยอรมันเหล่านั้น  มีเพียงสัปเหร่อแก่ๆขี้เมาคนเดียวที่ยอมเอ่ยปากออกมาว่า “พันเอกสไตน์เน่อร์คือนายทหารเยอรมันที่มาที่นั่นเพื่อจะสังหาร วินสตัน เชอร์ชิล!!!” หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาแจ็ค ฮิคกิ้นส์ ยกเลิกงานอื่นๆทั้งหมดและใช้เวลาหนึ่งปีเต็มๆ ในการเสาะหาค้นคว้าไฟล์ข้อมูลเอกสารเป็นร้อยๆพันๆไฟล์ ติดต่อสัมภาษณ์บุคคลต่างๆจำนวนมาก เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆกว่าค่อนโลกไม่ว่าจะเป็นซานฟรานซิสโก สิงคโปร์ อาร์เยนติน่า ฮัมเบิร์ก เบอร์ลิน วอร์ซอ และแม้แต่แหล่งผู้ก่อการร้าย ไออาร์เอ เช่น The Falls Road in Belfast ทุกแห่งในโลกไม่ว่าที่ไหนที่อาจจะมีข้อมูลเงื่อนงำ ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตามเพื่อที่จะนำเขาไปสู่ความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงที่เกี่ยวกับ เรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด และความเข้าใจในปริศนาต่างๆทีมีศูนย์กลางอยู่ที่ “พันเอกเคิร์ท สไตน์เน่อร์”

เรื่องย่อ

ฮิตเล่อร์ได้แรงบันดาลใจจากปฏิบัติการสะท้านโลกเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ.1943 ของหน่วยคอมมานโดเยอรมันนำโดยร้อยโท ออตโต้ สก็อซเซนี่ โดยการกระโดดร่มลงหลังแนวรบฝ่ายสัมพันธมิตร เข้าโจมตีโรงแรม Campo Imperatore บนยอดเขาในอิตาลี และสามารถชิงตัวมุสโสลินีออกมาได้ ปฏิบัติการครั้งนี้นอกจากจะเป็นปฏิบัติการทางทหารที่เยี่ยมยอดที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกครั้งหนึ่งแล้วยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเยอรมันได้ และช่วยบั่นทอนความฮึกเหิมของฝ่ายสัมพันธมิตรลงได้บ้าง ฮิตเล่อร์จึงต้องการให้กองทัพเยอรมันดำเนินการในทำนองเดียวกันนี้อีก ด้วยการบุกจับตัววินสตัน เชอร์ชิล มาเป็นตัวประกัน ความคิดของฮิตเล่อร์นี้ฮิมเล่อร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งควบคุมดูตำรวจทั้งประเทศ ตำรวจลับเกสตาไป และกองกำลังหน่วยรบพิเศษเอสเอสด้วย ให้การสนับสนุนเต็มที่  พลเรือเอกวิลเฮม คานาริส ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองทหารได้รับคำสั่งให้ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการตามแผนที่ “ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ดังกล่าว” ในการที่จะบุกเข้าใปจับตัววินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนำตัวมาที่ประเทศเยอรมัน

พลเรือเอกคานาริสเห็นว่าความคิดดังกล่าวเป็นเรื่องตลก และเชื่อว่าฮิตเล่อร์จะลืมเรื่องดังกล่าวภายในไม่กี่วัน แต่เขารู้ว่าฮิมเล่อร์จะไม่ลืม  และกลัวว่าฮิมเล่อร์จะนำเรื่องนี้มาให้ร้ายเขาได้  พลเรือเอกคานาริสจึงสั่งการมอบหมายให้พันเอก โอเบิร์ส ราเดิลทำการศึกษาความเป็นไปได้ แม้จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเสียเวลาเปล่าก็ตาม

 

Otto Skorzeny ทหารกล้าของเยอรมัน วีรบุรุษ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้สร้างประวัติศาสตร์ ในวงการทหารที่หน่วยคอมมานโดสามารถบุกเข้าชิงตัวมุสโสลินีที่ถูกควบคุมตัวอยู่หลังแนวรบของฝ่ายสัมพันธมิตรได้สำเร็จ

ทีมงานของพันเอกราเดิลพบว่าสายลับในอังกฤษคนหนึ่งชื่อรหัสว่า สตาลิ่ง ได้สงข่าวที่น่าสนใจยิ่งเกี่ยวกับกรณีนี้ ซึ่งถ้าเป็นที่อื่น ณ เวลาอื่นแล้วข่าวชิ้นนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เนื้อข่าวแจ้งมาว่า วินสตัน เชอร์ชิลมีกำหนดการจะมาตรวจเยี่ยมสนามบินแห่งหนึ่งใกล้หมู่บ้าน Studley Constable ซึ่งสายลับเยอรมัน “โจแอนนา เกรย์ ชาวอาฟริกาใต้พักอาศัยอยู่ พันเอกราเดิลสามารถคิดแผนการที่มีความเป็นไปได้ขึ้นแผนหนึ่ง แต่พลเรือเอกคานาริสไม่เห็นด้วยและสั่งระงับการดำเนินการไว้ก่อน ฮิมเลอร์แอบนัดพันเอกราเดิลไปพบและสั่งอย่างไม่เป็นทางการให้พันเอกราเดิลดำเนินการตามแผนที่วางไว้ต่อไปโดยไม่ต้องแจ้งให้พลเรือเอกคานาริสทราบ สายลับชาวไอริชสังกัดขบวนการไออาร์เอ เรียม เดฟลิน ได้รับมอบหมายให้เดินทางล่วงหน้าไปประสานงานกับโจแอนนา เกรย์ สายลับของเยอรมันซึ่งมีความชิงชังประเทศอังกฤษจากภูมิหลังและประสบการณ์ในอดีตที่บ้านเกิดในอาฟริกาใต้

 

พันเอกราเดิลและเดฟลิน ไปชวนพันเอกสไตน์เน่อร์ ให้รับภารกิจนำทหารใต้บังคับบัญชาไปบุกจับตัววินสตัน เชอร์ชิลมาเป็นตัวประกัน

พันเอกราเดิลสามารถชักชวน ให้หน่วยคอมมานโดภายใต้การนำของพันเอกสไตน์เน่อร์รับไปปฏิบัติภารกิจนี้ได้ พันเอกเคิร์ท สไตน์เน่อร์เป็นนายทหารที่มีประวัติการรบเป็นเยี่ยม  ในการโจมตีเบลเยี่ยม เมื่อปีค.ศ.1941เขาสามารถนำกำลังทหารเข้าโจมตีสร้างความเสียหายให้กับฐานทัพอากาศของเบลเยี่ยมเป็นอันมาก ได้รับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กจากการสู้รบในหลายสมรภูมิ ครั้งล่าสุดได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษมีกำลังคน 350 คน      ในการรบที่สมรภูมิเลนินกราดและสตาลินกราด  แผนปฏิบัติการที่ได้รับมอบหมายบรรลุความสำเร็จได้ด้วยดีทุกแผน ในเดือนมกราคม ค.ศ.1943 หน่วยปฏิบัติการพิเศษของเขาสลายตัวลงและรอดตายมาด้วยกันเพียง 7 คนเท่านั้น ในระหว่างการเดินทางกลับจากสตาลินกราดนั้น ที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่งในโปแลนด์ เขาได้แสดงอาการไม่เห็นด้วยกับทำการทำร้ายชาวยิวที่มีเด็กและผู้หญิงรวมอยู่อย่างโหดร้าย ของหน่วยทหารเอสเอสของเยอรมัน และพยายามช่วยชีวิตเด็กหญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยการยิงของทหารเอสเอส เขาถูกตั้งข้อหาและนำตัวส่งศาลทหารพร้อมกับทหารใต้บังคับบัญชา พวกเขาได้รับยกเว้นโทษประหารแต่ถูกส่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยรบพลีชีพที่เกาะแชนเนล มีหน้าที่โจมตีกองเรือสินค้าของอังกฤษ ด้วยระเบิดตอปีโดซึ่งยิงและกำหนดทิศทางด้วยคน (Manned torpedoes)

พันเอกสไตน์เน่อร์ช่วยเด็กหญิงวัยรุ่นชาวยิวที่หนีการไล่ล่าอย่างโหดร้ายของทหารหน่วยเอสเอส
และส่งตัวขึ้นบนขบวนรถไฟเพื่อให้หลบหนีไป

เอกราเดิลและเรียม เดฟลินเดินทางไปพบกับพันเอกสไตน์เน่อร์และทหารของเขาที่ เกาะแชนเนล พันเอกสไตน์เน่อร์ตกลงรับปฏิบัติภารกิจนี้ โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะต้องได้รับยศทหารและเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กคืนดังเดิม  เหตุผลที่ทำให้พวกเขารับงานนี้คือ  ภารกิจการโจมตีกองเรือสินค้าของอังกฤษด้วย  Manned torpedoes ที่พวกเขาทำอยู่นี้ก็เป็นงานในลักษณะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว  เพียงแต่ว่าเป็นการตายในแผ่นดินบ้านเกิด ดังนั้นถ้าจะต้องไปตายนอกประเทศก็ขอตายอย่างชายชาติทหารในชุดเครื่องแบบทหารเยอรมัน แผนปฏิบัติการคือหน่วยคอมมานโดชุดนี้จะบินไปเกาะอังกฤษด้วยเครื่องบิน C47 ที่ยึดได้จากฝ่ายสัมพันธมิตร และกระโดดร่มลงไปเนื่องจากส่วนใหญ่ของหน่วยคอมมานโดพูดภาษาอังกฤษไม่ได้  จึงต้องปลอมตัวเป็นหน่วยรบกู้ชาติโปแลนด์ ทำการแทรกซึมเข้าไปในหมู่บ้าน Studley Constable ปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จแล้วหนีกลับออกมาพร้อมตัวประกันด้วยเรือ E-boat ที่นัดเวลากันไว้ อย่างไรก็ตามในวันที่จะออกปฏิบัติการนั้น หน่วยคอมมานโดทุกคนสวมเครื่องแบบทหารเยอรมันไว้ภายในคลุมข้างนอกไว้ด้วยชุดเครื่องแบบทหารโปแลนด์ ซึ่งไม่ได้มีในข้อตกลงระหว่างพันเอกสไตน์เน่อร์กับพันเอกราเดิล ทั้งนี้พันเอกสไตน์เน่อร์ยืนยันกับพันเอกราเดิลว่า หากพันเอกราเดิลไม่ยินยอมพวกเขาก็จะไม่รับปฏิบัติภารกิจนี้        เหตผลคือ พวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย  ไม่ใช่สายลับ ไม่ใช่จารชน แต่พวกเขาเป็นทหารเยอรมัน เพราะฉะนั้นหากเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามแผนการได้ พวกเขาจะถอดชุดทหารโปแลนด์ที่สวมอยู่ข้างนอกออก และจะสู้ตายอย่างชายชาติทหารในเครื่องแบบทหารเยอรมัน พันเอกราเดิลจึงไม่สามารถทำอะไรได้

 

พันเอกสไตน์เน่อร์เจรจากับทหารสหรัฐที่นำกำลังมาปิดล้อม โดยยินยอมปล่อยประชาชนทึ่ถูกจับไว้เป็นตัวประกันทั้งหมด ไม่ยอมแพ้ และขอสู้ตายอย่างทหารเยอรมัน

เป็นที่น่าเสียดายว่าแผนการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ  เนื่องจากทหารเยอรมันนายหนึ่งกระโดดน้ำเข้าไปช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากกังหันน้ำ แม้จะช่วยเด็กผู้หญิงไว้ได้แต่ตัวเขาเองเสียชีวิตทันที่เมื่อถูกน้ำพัดพาเข้าไปในกังหัน เสื้อชุดทหารโปแลนด์ที่สวมไว้ข้างนอกขาดออกทำให้มองเห็นเครื่องแบบทหารเยอรมันที่สวมไว้ภายใน    พวกชาวบ้านจึงทราบความจริง และหน่วยคอมมานโดจำเป็นต้องควบคุมตัวชาวบ้านทั้งหมดไปขังรวมกันไว้ในโบสถ์ แต่น้องสาวของบาทหลวงเจ้าอาวาสหลบหนีไปได้ และไปแจ้งเรื่องกับหน่วยทหารพรานของสหรัฐในพื้นที่ทราบ พันเอกพิทผู้บังคับการหน่วยทหารพรานซึ่งขาดประสบการณ์และไร้ความสามารถ ถูกยิงเสียชีวิตขณะกำลังจะยิงโจแอนนา เกรย์ในบ้านของเธอ นอกจากนี้แผนการโจมตีหน่วยคอมมานโดเยอรมันที่ตั้งมั่นอยู่ในโบสถ์ก็ล้มเหลว ผู้กองคล้าครองผู้บังคับการจึงต้องจัดกำลังโจมตีอีกเป็นครั้งที่สอง และเป็นการโจมตีที่ประสบความสำเร็จ

ทหารเยอรมันนายหนึ่งโดดน้ำเข้าไปช่วยเด็กผู้หญิงจากกังหันน้ำ
เขาช่วยเด็กไว้ได้ แต่ตัวเองถูกดูดเข้าไปในกังหันและเสียชีวิตทันที
เครื่องแบบทหารโปแลนด์ที่คลุมไว้ข้างนอกขาดออกและเห็นชุดทหารเยอรมันที่สวมไว้ข้างใน

 

ทหารเยอรมันในหน่วยคอมมานโดทุกนายแสดงความพร้อมใจถอดชุดทหารโปแลนด์ที่คลุมอยู่ออก และขอสู้ตายเยี่ยงชายชาติทหารในเครื่องแบบทหารเยอรมัน

พันเอกสไตน์เน่อร์ รองผู้บังคับการของเขา และเดฟลินสามารถหลบหนีออกไปได้ด้วยอุโมงค์ลับในโบสถ์ เมื่อไปถึงจุดนัดพบกับเรือที่มารับ  พันเอกสไตน์เน่อร์ให้รองผู้บังคับการซึ่งได้รับบาดเจ็บกลับไปกับเรือ แต่ตัวเขาขอกลับไปปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ  ในขณะที่เดฟลินแยกทางไปเพื่อเดินทางกลับไอร์แลนด์บ้านเกิดของเขา พันเอกสไตน์เน่อร์แฝงตัวเข้าไปที่บ้านพักของรับรองของ วันสตัน เชอร์ชิลและสามารถสังหาร วินสตัน เชอร์ชิลได้ แต่ตัวเองก็ถูกพวกองครักษ์ของวินสตัน เชอร์ชิลยิงเสียชีวิต              เรื่องจบอย่างหักมุมด้วยการที่วินสตัน เชอร์ชิลที่ถูกฆ่าตายนั้น เป็นตัวปลอมซึ่งมีอยู่หลายคน คอยทำหน้าที่ปฏิบัติการพรางตาให้กับวินสตัน เชอร์ชิลตัวจริงอยู่ในหลายสถานที่ตลอดเวลาโดยถือเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างหนึ่ง

รถหุ้มเกราะ อาวุธหนัก และทหารสหรัฐจำนวนมากที่ยกกำลังมาปิดล้อมหน่วยคอมมานโดเยอรมันสิบกว่าคนที่มีเพียงอาวุธเบาประจำกายเท่านั้น

พันเอกสไตน์เน่อร์ลอบเข้าไปในบ้านที่เชอร์ชิลพักแรมอยู่ และสามารถสังหารวินสตัน เชอร์ชิล (ตัวปลอม !!!) ได้สำเร็จ แต่ตัวเขาเองก็ถูกพวกองครักษ์ของเชอร์ชิลยิงเสียชีวิตทันที

ความประทับใจ

ก) ภาพพจน์วีรบุรุษของทหารเยอรมัน?

หนังสงครามโลกครั้งที่สองส่วนใหญ่ (เกือบทั้งหมด) ที่สร้างขึ้นมาล้วนสร้างโดยฝ่ายสัมพันธมิตรที่เป็นฝ่ายชนะสงคราม  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐอเมริกา (ฮอลลีวู้ด) ดังนั้นจึงเป็นไปตามคำพังเพยของไทยเราที่ว่า “ชนะเป็นจ้าว แพ้เป็นโจร” เราจึงมักเห็นแต่ทหารเยอรมันที่แต่งเครื่องแบบใหม่เอี่ยมโก้หรู ฟุ่มเฟือย ไม่ฉลาด รบไม่เก่งสู้กับทหารฝ่ายสัมพันธมิตรทีไร ถูกฆ่าตายเป็นเบือ โหดเหี้ยมอำมหิต สารพัดที่จะไม่ดีไม่งามเสมอ ซึ่งโดยหลักฐานและสถิติทางประวัติศาสตร์แล้วไม่ใช่เช่นนั้นเลย สถิติทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรเสียชีวิตประมาณไม่น้อยกว่า 14 ล้านคน ทหารฝ่ายเยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่น รวมกันเสียชีวิตประมาณไม่น้อยกว่า 8 ล้านคน แล้วทหารเยอรมันจะเซ่อซ่าไร้ความสามารถแบบที่มักเห็นกันในหนังสงครามได้ยังไง ส่วนในเรื่องคุณธรรมของทหารเยอรมันนั้น กองทัพเยอรมันได้ชื่อว่าเป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการรบสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น กองทัพที่มีแต่ทหารโหดเหี้ยมอำมหิต ไร้ความเมตตา ไร้คุณธรรม ก็ไม่ต่างกับกองโจร  ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่กองโจรจะมีขีดความสามารถในการรบ แบบที่กองทัพเยอรมันได้แสดงให้เห็น ทั้งในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง ผมคิดว่าความพ่ายแพ้ของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สองเกิดจากสาเหตุสามประการคือ หนึ่ง การตัดสินใจผิดพลาดของฮิตเล่อร์ในการบุกรัสเซียแทนที่จะเผด็จศึกยึดเกาะอังกฤษให้ได้เสียก่อน เพราะการบุกรัสเซียนอกจากจะเป็นการเปิดศึกสองด้านแล้ว ผลของแนวรบนี้ทำให้เยอรมันต้องเสียกำลังทหารไปถึง 720 กองพล สอง พันธมิตรทั้งอิตาลีและญี่ปุ่นอ่อนแอเกินไป อิตาลีนั้นฟอร์มดีแต่พอรบเข้าจริงยังไม่ทันจะได้รบเท่าไร (ถ้าจะเปรียบให้ชัดเจนก็อาจะใช้คำว่า “ยังไม่ทันนกระจอกกินน้ำ” ก็ได้) ทั้งสามเหล่าทัพที่มุสโสลินีอุตสาห์ทุ่มเทเงินทองมหาศาลพัฒนาขึ้นมา ก็พากันยกธงขาวยอมแพ้แล้ว ส่วนญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเยอรมันในสมรภูมิยุโรปเลย แต่กลับเป็นสาเหตุให้สหรัฐอเมริกาใช้อ้าง ในการประกาศสงครามกับเยอรมันได้อย่างชอบธรรม และประการสุดท้ายคือสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศใหญ่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรบุคคล และมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ไม่เคยได้รับความบอบช้ำด้วยสงครามมาก่อน ถือโอกาสเข้าร่วมรุมรบเยอรมันในขณะที่เยอรมันประเทศเดียว ต้องรบจนเอาชนะประเทศต่างๆมาเกือบทั้งยุโรปแล้วเหลือเพียงอังกฤษ และรัสเซีย สองประเทศเท่านั้น จึงอยู่ในสภาพที่บอบช้ำมาก  ด้วยสาเหตุทั้งสามประการนี้ หนทางชนะสงครามของเยอรมันจึงไม่มีเลย ไม่ใช่เพราะกองทัพเยอรมันไร้ความสามารถ และ/หรือทหารเยอรมันในภาพรวมรบไม่เก่ง และไร้คุณธรรม อย่างที่ภาพยนตร์ที่สร้างโดยประเทศผู้ชนะสงครามพยายามจะบิดเบือนอยู่เสมอ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นเพียงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่สร้างโดยฝ่ายชนะสงคราม แต่ก็ให้ภาพรวมที่เป็นธรรมต่อกองทัพและทหารหาญของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง

 

พันเอกสไตน์เน่อร์ (กำลังช่วยอุ้มเด็กหญิงวัยรุ่นขึ้นมาจากพื้น)และทหารของเขาเผชิญหน้ากับหน่วยทหารเอสเอสเพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงวัยรุ่นชาวยิวที่ถูกไล่ล่าอย่างโหดร้าย

ข) คุณธรรมของทหารเยอรมันที่สะท้อนให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้

ผมคิดว่าคำจัดความของนักรบในอุดมคตินั้น คำกล่าวยกย่อง โรดริโก แห่ง บิวาร์ ในภาพยนตร์เรื่อง “เอลซิด” โดยกษัตริย์มัวร์องค์หนึ่งน่าจะเป็นประโยคคำจำกัดความที่ดีที่สุดประโยคหนึ่งคือ “.... ในตำนานความเชื่อถือของชนเผ่าเรา เราเรียกนักรบที่เก่งกล้าสามารถในการศึก ผู้ซึ่งมีหัวใจอันเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา ความกล้าหาญ และความเข้มแข็งอดทน ว่าเอลซิด นับแต่นี้ต่อไปเราขอเรียกท่านว่า เอลซิด ....” พฤติกรรมที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมของทหารเยอรมัน ที่สะท้อนให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตรงกับคำจำกัดความของคำว่า เอลซิด ในเรื่องของคุณธรรมทั้ง 3 ข้อโดยครบถ้วน ดังนี้

  • ความเมตตากรุณา เห็นชัดเจนจากพฤติกรรมต่อไปนี้
    • ทหารเยอรมันนายหนึ่ง ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงเล็กๆจากกังหันน้ำจนตัวเองต้องตาย 
    • เมื่อไม่สามารถปิดบังแผนปฏิบัติการของพวกตนได้ต่อไป พวกเขาก็ไม่ใช้ประชาชนจำนวนมากที่ควบคุมไว้เป็นตัวประกัน เป็นเกราะกำบังตัว และปล่อยประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกคนออกไปหมด  ก่อนที่จะเกิดการปะทะกับกองกำลังทหารสหรัฐ
    • การที่พันเอกสไตน์เน่อร์และทหารของเขา เข้าขัดขวางการไล่ต้อนจับกุมเด็กหญิงวัยรุ่นชาวยิวอย่างโหดร้ายของหน่วยทหารเอสเอส ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่มีอิทธิพลมากเพราะไม่ได้ขึ้นตรงต่อกองทัพบกแต่สังกัดขึ้นตรงกับฮิตเล่อร์ โดยไม่คำนึงถึงอนาคต ตำแหน่งหน้าที่การงาน และอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อตนเองเลย ฯลฯ
  • ความกล้าหาญและความเข้มแข็งอดทน  เห็นชัดเจนจากพฤติกรรมต่อไปนี้
    • เมื่อแผนการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พวกเขาพร้อมใจกันตัดสินใจ ปล่อยตัวประกันทั้งหมด ไม่ยอมแพ้ และขอสู้ตายเยี่ยงชายชาติทหารในเครื่องแบบของทหารเยอรมัน
    • ทหารทุกคน ยืนยันขอสู้ตายเพื่อถ่วงเวลาให้นานที่สุด เพื่อให้สไตน์เน่อร์สามารถไปปฏิบัติภารกิจที่ค้างอยู่ให้สำเร็จ และเพื่อให้ทหารที่บาดเจ็บและเดฟลินหนีไปได้
    • แทนที่พันเอกสไตน์เน่อร์จะหนีกลับไปเยอรมันด้วยเรืออีโบ๊ทที่มารับพร้อมกับรองผู้บังคับการที่ได้รับบาดเจ็บ  เขากลับหันหลังกลับไปปฏิบัติภารกิจที่ยังคั่งค้างอยู่ให้สำเร็จ
    • ทหารในหน่วยปฏิบัติการนี้ก่อนจะมาปฏิบัติภารกิจในอังกฤษ ล้วนถูกลงโทษให้ทำงานในหน่วยพลีชีพ “Manned Torpedoes” ซึ่งต้องตายภายในเร็ววันทุกคน แต่พวกเขาก็ยังทำหน้าที่ทหารหาญของชาติโดยไม่ได้แสดงความท้อแท้หวาดกลัวให้เห็นเลย

ผมเชื่อว่าด้วยพฤติกรรม ที่องอาจกล้าหาญ และเปี่ยมด้วยคุณธรรมเมตตาธรรมดังกล่าวของหน่วยทหารเยอรมันหน่วยนี้  แม้จะเข้าไปปฏิบัติภารกิจที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศอังกฤษโดยตรงอย่างร้ายแรง แต่เนื่องจากเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบในฐานะทหาร และพฤติกรรมของพวกเขาเป็นไปอย่างองอาจ กล้าหาญ และเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม คุณธรรม จึงทำให้แม้แต่ศัตรูคือคนอังกฤษในหมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังต้องให้เกียรติพวกเขา ด้วยการฝังศพให้อย่างสมศักดิ์ศรีโดยประดับเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กของกองทัพเยอรมันไว้บนหลุมศพ และเขียนคำไว้อาลัยว่า พวกเขาเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่  โดยไม่ถือว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย สายลับ หรือจารชน

ค) ไร้ความสามารถแต่ได้ดีมีถมไป

ปรากฏการณ์คู่โลกอย่างหนึ่งคือ คนไร้ความสามารถ (ในตำแหน่งหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่) แต่ได้ดีมีตำแหน่งสำคัญๆที่สามารถทำให้เกิดผลดี/ผลเสียต่อ ผู้อื่น/สังคมโดยรวม/ตนเอง มีปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปในทุกหนแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ในหน่วยทหารพรานของสหรัฐในสมรภูมิสงครามโลกเช่นในภาพยนตร์เรื่องนี้ พันเอกพิทผู้บังคับการหน่วยทหารพรานในเรื่องนี้ ไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงแต่กลับอยากได้หน้าอยากได้ผลงานให้ตนเอง เขาจัดกำลังเข้าโจมตีหน่วยทหารเยอรมันอย่างไร้สติทั้งๆที่มีกำลังเหนือกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้ แต่กลับไม่สามารถเข้าตีได้สำเร็จ ทำให้ทหารเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากและตัวเองก็เสียชีวิตด้วย  แทนที่จะให้รองผู้บังคับการคือผู้กองคล้าคซึ่งเป็นทหารที่รบเก่งเป็นผู้ช่วยในการนำกำลังเข้าโจมตี เขากลับอยากได้เป็นพระเอกคนเดียว จึงสั่งให้ผู้กองคล้าคไปทำหน้าที่แจ้งข่าวให้คณะของวินสตัน เชอร์ชิล ทราบเรื่องหน่วยทหารเยอรมันเท่านั้น เรื่องแบบนี้แม้โดยสามัญสำนึกไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในกองทัพสหรัฐในภาวะสงครามเช่นนี้  แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วเรื่องแบบนี้มีให้เห็นอยู่โดยทั่วไป ตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ เช่นบรรดาขันทีที่เล่นการเมืองเก่งจนครอบงำฮ่องเต้ของจีนในราชวงศ์ต่างๆได้  แต่กลับทำให้บ้านเมืองล่มจมเพราะเก่งแต่เล่นการเมืองกันเองในประเทศ แต่ทำงานไม่เป็นและยังโลภโมโทสันอีก แม้กระทั่งปัจจุบันในประเทศของเราเอง เรื่องราวทำนองนี้ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ซึ่งก่อให้เกิดผลร้ายอย่างยิ่งแก่ชาติบ้านเมืองและประชาชน และก็มองไม่เห็นหนทางใดเลยที่จะแก้ไขเรื่องราวทำนองนี้ได้
 

พันเอกพิทผู้บังคับการหน่วยทหารพลร่มสหรัฐ ไร้ความสามารถในการรบ และขาดประสบการณ์ ทั้งที่มีกำลังเหนือกว่ามากชนิดเทียบกันไม่ได้ แต่ไม่สามารถเข้าตีหน่วยคอมมานโดเยอรมันได้สำเร็จ ทำให้สูญเสียทหารไปจำนวนมาก และตัวเองก็ยังถูกโจแอนนา สายลับเยอรมันยิงเสียชีวิตอีกด้วย

ง) การสั่งด้วยวาจา หาแพะมารับบาปเมื่องานผิดพลาด

เราได้ยินเสมอว่านักการเมืองจะสั่งการข้าราชการประจำ ให้สนองนโยบายของตนโดยการสั่งด้วยวาจา ไม่ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าผิดพลาดขึ้นข้าราชประจำก็ต้องรับผิดไปเอง ถ้าไม่ทำเขาก็ตั้งคนอื่นมาทำได้ และในทุกงานไม่ว่าราชการหรือเอกชนถ้างานเกิดผิดพลาดขึ้นมา ต้องมีแพะมาสังเวยความผิดให้ผู้มีอำนาจเสมอ ในภาพยนต์เรื่องนี้ก็เช่นกัน ฮิมเล่อร์สั่งพันเอกราเดิลด้วยวาจา ซึ่งพันเอกราเดิลขอหลักประกันในการดำเนินการตามแผนเดิมที่ฮิมเล่อร์สั่ง ฮิมเล่อร์ก็ให้หนังสือที่ลงนามโดยฮิตเล่อร์ ใจความว่า “ขอให้ดำเนินการตามแผนเดิมที่ได้วางเอาไว้ต่อไป เพื่อความรุ่งเรืองของอาณาจักรไร้ช์ที่สาม เรื่องนี้มีความสำคัญและก็ลับเฉพาะ ขอให้ผู้การหน่วยรบที่ 5 รับไปดำเนินการต่อโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” อย่างไรก็ตามหนังสือดังกล่าวฮิมเล่อร์ให้พันเอกราเดิลเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทหาร ยานพาหนะ การประสานงานและอุปกรณ์ต่างๆเท่านั้น เมื่อพันเอกราเดิลไปรายงานว่าหน่วยคอมมานโดภายใต้การนำของพันเอกสไตน์เน่อร์ ได้กระโดดร่มลงบนเกาะอังกฤษอย่างปลอดภัยแล้ว  ฮิมเล่อร์ก็ทำลายเอกสารคำสั่งนั้นทิ้ง ต่อมาเมื่อมีรายงานจากเรืออีโบ้ทที่ไปรับทหารที่บาดเจ็บกลับมา ว่าแผนการไม่ประสบความสำเร็จ ฮิมเลอร์ก็ส่งตำรวจลับเกสตาไปจับพันเอกราเดิลในข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาและสั่งการโดยพลการ” ซึ่งพันเอกราเดิลไม่ขัดขืน และเดินออกไปนอกสำนักงานเพื่อให้เพชรฆาตยิงเป้าแต่โดยดี  งานนี้ไม่เหมือนเรื่องราวในเมืองไทยที่เราได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆในประเด็นเดียวเท่านั้นเอง คือในบ้านเรานั้นที่ข้าราชการยอมนักการเมืองเพราะหวังได้ตำแหน่งลาภยศ แต่พันเอกราเดิลในภาพยนต์เรื่องนี้ เขาทำเพราะเขาเห็นด้วยกับนายพลฮิมเล่อร์ว่าแผนการนี้มีความเป็นไปได้ และถ้าทำสำเร็จก็จะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองในขณะนั้น ซึ่งกำลังอยู่ในวิกฤติการณ์ที่กำลังจะแพ้สงคราม พันเอกราเดิลไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหรือลาภยศใดๆ
 

เมื่อฮิมเล่อร์ได้รับแจ้งว่าแผนปฏิบัติการ “The Eagle has landed” ไม่ประสบความสำเร็จ จึงสั่งการให้ตำรวจลับเกสตาไปไปจับกุมตัวพันเอกราเดิลในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาและสั่งการโดยพลการ และนำตัวไปลงโทษด้วยการยิงเป้าทันที โดยพันเอกราเดิลยินยอมให้จับกุมโดยดีและเดินเข้าสู่ที่ประหารอย่างกล้าหาญ

ง) ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกไหม

ต้องบอกว่าสนุกครับ ดาราแสดงเป็นดารายอดนิยมในยุคนั้นหลายคน  ไม่ว่าจะเป็นไมเคิล เคน (พันเอกสไตน์เน่อร์), โดแนลด์ ซูเทอร์แลนด์ (เรียม เดฟลิน), โรเบิร์ต ดูวอล (พันเอกราเดิล) และ โดแนลด์ พลีเซ้นส์ (นายพลฮิมเล่อร์) ฯลฯ ทุกคนเล่นบทบทได้ดีมาก การเดินเรื่องสนุกรวดเร็วเร้าใจ ไม่มีช่วงยืดเยื้อให้ต้องเบื่อหน่ายเลย แม้กระทั่งบทรักโรแมนติคสั้นๆระหว่างเรียม เดฟลิน กับมอลลี่ ก็ยังสามารถสอดแทรกเข้ามาในภาพยนต์ได้ และทำได้ดีด้วย ฉากการรบ ทิวทัศน์ในหมู่บ้านเล็กๆ ชายหาด การกระโดดร่มลงมา ล้วนทำได้ดี การจบเรื่องอย่างหักมุมด้วยการที่วินสตัน เชอร์ชิลที่ถูกสังหารนั้นเป็นตัวปลอม ก็เป็นการจบอย่างสวยงาม และทำให้เกิดคำถามในใจว่า ถ้าเป็นตัวจริง หรือถ้าจับวินสตัน เชอร์ชิลไปเป็นตัวประกันในเยอรมันได้สำเร็จ  จะมีผลต่อการตัดสินใจของอังกฤษหรือไม่ และภาวะของสงครามจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่อย่างไร

 

เรียม เดฟลิน กับมอลลี่ หญิงสาวในหมู่บ้านที่เกิดรักแรกพบระหว่างกันขึ้น มอลลี่ช่วยเก็บ ความลับให้เดฟลิน และมีส่วนช่วยให้เขาหนีรอดไปได้ แต่เธอก็เสียใจกับการกระทำของเธอและตัดสินใจตัดขาดกับเขาไปในที่สุด

เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด  หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย

ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : The Eagle has landed

ชื่อภาษาไทย :  แผนสิบหกอินทรีเหล็ก

เรื่องเดิม : หนังสือเขียนโดย Jack Higgins

ผู้กำกำกับ :  Anthony Richmond B.S.C.

ผู้สร้าง : Jack Wiener & David Niven Jr.

ผู้เขียนบท :  Tom Mankiewicz

ผู้แสดง :

  • Michael Caine as Colonel Steiner,
  • Donald Sutherland as Liam Devlin
  • Robert Duvall as Colonel Radl
  • Jenny Agutter as Molly
  • Donald Pleasence as Himmler
  • Anthony Quayle as Admiral Canaris
  • Jean Marsh as Joanna Grey
  • etc.

ควรอ่านเพิ่มเติม:

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

  • (ยังไม่มี)

 
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ

หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ

Bookmark and Share

ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com

ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์

 



สงครามโลกครั้งที่ 2 - ยุโรป

Inglourious Basterds ยุทธการเดือดเชือดนาซี วันที่ 27/05/2013   23:02:43 article
The World at War สารคดีที่ช่วยให้เห็นภาพรวมสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 19/05/2013   11:26:48
The Boy in the Striped Pyjamas เด็กชายในชุดนอนลายทาง วันที่ 19/05/2013   11:30:27
สารคดีชุด The History Channel World War II จาก BBC วันที่ 19/05/2013   11:32:15
Escape from Sobibor แหกค่ายนรกนาซี วันที่ 19/05/2013   14:49:41
Defiance วีรบุรุษชาติพยัคฆ์ (กลุ่มนักสู้ยิวในเบลารุส) วันที่ 19/05/2013   14:50:16
Brother's War ยุทธการสกัดแผนการหลังม่านเหล็ก วันที่ 19/05/2013   14:51:09
Life Is Beautiful ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง(?) วันที่ 19/05/2013   14:52:30
Stauffenberg ในเวอร์ชันของเยอรมันเอง วันที่ 19/05/2013   14:54:02
Valkyrie : ยุทธการดับจอมอหังการ์อินทรีเหล็ก วันที่ 19/05/2013   14:55:25
Kelly's Heroes การเสียดสีความเป็นวีรบุรุษของอเมริกัน วันที่ 19/05/2013   14:57:02
Enigma รหัสลับพลิกโลก วันที่ 19/05/2013   14:58:01
The Fallen หลายฝ่ายหลายชีวิตกับความไร้สาระของสงคราม วันที่ 19/05/2013   14:59:09
ป้อมปืนนาวาโรน หนามแหลมมีพิษที่ยอกอกอังกฤษ วันที่ 19/05/2013   15:02:34
La Grande Vadrouille: หนังสงครามแนวตลกชั้นครู วันที่ 19/05/2013   15:04:14
Saints and Soldiers รบกันแต่อย่าเกลียดกัน??? วันที่ 19/05/2013   15:05:31
The Devil's Brigade กองพลน้อยปีศาจลูกผสมอเมริกัน-แคนาดา วันที่ 19/05/2013   15:06:55
The Battle of the River Plate วันที่ 19/05/2013   15:08:04
Das Boot U – 96 เรือล่มเมื่อจอด วันที่ 19/05/2013   15:11:04
Mosquito Squadron นิยายรักนักบิน วันที่ 19/05/2013   15:12:40
Where Eagles Dare วันที่ 19/05/2013   15:14:27
The Pianist ความวิปโยคจากอคติทางเชื้อชาติ วันที่ 19/05/2013   15:17:06
The Last Armored Train ว่าด้วยรถไฟหุ้มเกราะในสงครามโลก วันที่ 19/05/2013   15:18:21
Days of Glory เมื่อพี่(ฝรั่ง)เศสยังติดหนี้คนอาหรับ วันที่ 19/05/2013   15:19:32
To Hell And Back สงคราม...สร้างวีรบุรุษ วันที่ 19/05/2013   15:21:01
The Great Escape แหกค่ายมฤตยู วันที่ 19/05/2013   15:22:20
Combat! คัมแบ็คในรูปแบบ VCD วันที่ 19/05/2013   15:23:45
D-Day the Sixth of June นิยายรักวันดีเดย์ วันที่ 19/05/2013   15:24:52
D-Day 6.6.44 สารคดี จาก BBC วันที่ 19/05/2013   15:25:59
The Atlantic Wall ปราการชายฝั่งยุโรป ของ ฮิตเลอร์ วันที่ 19/05/2013   15:27:09
Saving Private Ryan วันที่ 19/05/2013   15:28:34
Von Ryan's Express ด่วนนรกเชลยศึก วันที่ 19/05/2013   15:29:52
Memphis Belle ป้อมบินเย้ยฟ้า วันที่ 19/05/2013   15:30:55
Land and Freedom ความล้มเหลวของฝ่ายซ้ายใน สงครามกลางเมืองสเปน วันที่ 19/05/2013   15:34:12
633 ฝูงบินมัจจุราช วันที่ 19/05/2013   15:35:21
Cross of Iron อิสริยาภรณ์ แห่ง ความกล้า กับ ความบ้าเกียรติ วันที่ 19/05/2013   15:36:41
Kill Rommel การต่อต้านสงครามด้วยมนุษยธรรม วันที่ 19/05/2013   15:37:39
The Bridge at Remagen อีกยุทธการยึดสะพานที่คำสั่งเป็นพิษ วันที่ 19/05/2013   15:38:46
Donwfall (Der Untergang) ปิดตำนานบุรุษล้างโลก (ฮิตเลอร์) วันที่ 19/05/2013   15:52:54
Band of Brothers บทเรียนเรื่อง "ภาวะผู้นำ" วันที่ 19/05/2013   15:53:55
Nuremberg: ศาลยุติธรรม ระดับโลก หรือ ปาหี่ของผู้ชนะ? วันที่ 19/05/2013   15:55:43
Sophie Scholl กับ ขบวนการต่อต้านนาซี ใน เยอรมัน วันที่ 19/05/2013   15:56:49
โอมาร์ มุกตา ผู้หาญสู้ เผด็จการ ฟาสซิสต์ อิตาลี วันที่ 19/05/2013   15:58:04
แพตตัน การรบกับข้าศึก VS การแข่งขันกับพันธมิตร วันที่ 19/05/2013   15:59:18
Hitler the Rise of Evil ชีวิตของจอมเผด็จการที่เสมือนนิยายอมตะ วันที่ 19/05/2013   16:00:23
A Bridge Too Far ศึกสะพานนรก เพราะการวางแผนผิดพลาด วันที่ 19/05/2013   16:01:54
D-Day: Men and Machines สารคดี เบื้องหลัง การยกพลขึ้นบก ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ วันที่ 19/05/2013   16:03:14
ทัวร์ สงครามโลกครั้งที่สอง กับ กองพลที่ 1 สหรัฐฯ (The Big Red One) วันที่ 19/05/2013   16:04:20
Battle of the Bulge ยุทธภูมิรถถังที่อาศัยการตีความข้อมูลข่าวกรอง วันที่ 19/05/2013   16:05:30
Battle of Britain สงครามอินทรีเหล็ก วันที่ 19/05/2013   16:08:59
The Longest Day การยกพลขึ้นบก ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ วันที่ 19/05/2013   16:10:08
ยุทธภูมิเลือด Stalingrad วันที่ 19/05/2013   16:11:23
Enemy at the Gates : วีรบุรุษสามัญชนจากอูราลในสมรภูมิ สตาลินกราด วันที่ 19/05/2013   16:12:27
Dark Blue World (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:14:45 article
Hart's War (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:15:49 article



1

ความคิดเห็นที่ 1 (95975)
avatar
หมาป่าดำ

ได้ชมเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเด็ก ทางช่อง 3 ครับ

ประเด็นที่ผิดพลาดของทหารเยอรมันชุดนี้คือการใส่เครื่องแบบทหารเยอรมันไว้

แม้แต่ตัวผู้การ ตอนไปลอบยิงเชอร์ชิล ยังถอดเครื่องแบบทหารอเมริกันที่ใส่มาออกก่อน

เรียกว่าหยิ่งในเครื่องแบบและศักดิ์ศรีทหารเยอรมันมาก

แต่ก็ต้องยอมรับความกล้าหาญ และมีคุณธรรมของทหารชุดนี้

ทหารเยอรมันที่ไปรบในสมรภูมิจริงๆ ต้องแยกให้ออกจากหน่วยเอสเอสหรือเกสตาโปครับ

 

ตอนนี้ดีวีดีทำออกมาจำหน่ายใหม่ครับ หาชมกันได้

ผู้แสดงความคิดเห็น หมาป่าดำ (mistiest-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-07-26 09:14:56


ความคิดเห็นที่ 2 (101579)
avatar
รอมเมล

ตำนานเลยเรื่องนี้ การดำเนินเรื่องสนุก ตัวละครมีเอกลักษณืเฉพาะที่ทำให้เรื่องน่าติดตาม  ตามประวัติศาสตร์มีแผนการลอบสังหารจริง แต่ว่ากันว่าฮิตเลอร์ไม่ยอมอนุมัติเลย  เพราะกล่าวหาว่าเป็นแผนที่ไร้เกียรติที่สุด จะสร้างความอับอายแก่ฮิตเลอร์มากกว่า (ถ้าทำไปจะโดนหัวเราะว่าหน้าไม่อายยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จ)  ดังนั้นเมื่อหนังทำมา กลับอ้างเรื่องราวให้ฮิตเลอร์อยากลักพาตัวเชอรชิลจริง  แล้วแผนการดูน่าเชื่อถือ เพราะความลงตัวที่ที่น่าลุ้นอย่างมาก

บทบาทของสไตน์เน่อร์เป็นแบบอย่างของคนที่ผ่านการรบอย่างโชกโชน มาดพี่แกนิ่ง ใจเย็นดีจริงๆ รักลูกน้องสุดยอดจนลุกน้องยอมตายเลย ทำให้เข้าใจความสง่างามของท่าท่างนายเยอรมันได้ถูกต้อง  จนแม้แต่นายทหารอเมริกันยังนับถือ ไม่อยากให้ตายอย่างไร้ทางสู้แบบนั้น ฉากการต่อสู้ที่สมจริง เพราะหนังที่พระเอกเป็นเยอรมัน การต่อสู้เลยกลายเป็นสูดสี   ดูตอน รถหุ้มเกราะM3 ติดปืนกลหนัก Browning .50 แล้วยังหุ้มเกราะเข้าไปอีก ทหารเยอรมันเห็นมันเข้ารีบปิดประตุหลบก้ไม่พ้น ตายทันที กระหน่ำส่ะบ้านพรุนไปหมด ยังเอาบาซูก้าซ้ำเข้าไปอีก เอาให้ตาย!!   แล้วก้ได้เวลาทหารอเมริกันบุกยึดโบสถ์คืน ทำได้อย่างสนุกเลย เร้าใจมาก ยอมรับเลย สังเกตว่าทหารอเมริกันที่เอาตาข่ายคลุมหมวก พวกนี้มักจะเป็นหน่วยจู่โจม มิน่าพันเอกพิทถึงมั่นใจในฝีมือลูกน้อง ลุยตรงๆๆเลย แถมเล่นปืนคาบินกันหมด ยิงทีละนัดหรือรัวก้ได้ มีหลงมีคนนึงใช้ปืน M3 .45cal รัวเปิกทางเข้าไปอีก สุดยอดมาก

หนังเรื่องนี้ดูกี่รอบก้ไม่ล้าสมัย จนผมยังลืมเลยว่า Michael Caineแก่แล้ว ยังไปจำว่าพี่แกยังหนุ่มอยู่เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น รอมเมล (goh_17-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-25 04:21:16



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker