โดย countryboy
24 ธันวาคม 2550
สวัสดีปีใหม่ครับเพื่อน ๆ ของ iseehistory.com ทุก ๆ ท่าน เป็นอย่างไรบ้างครับกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา หวังว่า เพื่อน ๆ คงได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกใจกันไปแล้วนะครับ
ก่อนหน้านี้ ผมได้คุยกับ webmaster กันถึงเรื่องของ เสือมเหศวร ซึ่งคงจะได้อ่านบทวิจารณ์จาก webmaster กันเร็ว ๆ นี้ ผมเลยนึกได้ว่า ผมมีแผ่นหนังเรื่องราวของเสือปล้นในอดีตของสหรัฐอเมริกาในยุคตะวันตกอยู่ด้วย เลยขออนุญาตนำมาเล่าสู่กันฟังก่อนที่จะพบเรื่องราวของเสือไทยเรานะครับ หนังเรื่องที่ว่านี้คือเรื่อง Butch Cassidy & The Sundance Kid หรือในชื่อภาษาไทยว่า "สองสิงห์ชาติไอ้เสือ" เป็นหนังฟอร์มใหญ่ ดาราดังครับ Paul Newman กับ Robert Redford 2 ชื่อนี้ เป็นประกันได้ในความมันของหนังครับผม เอาละครับ ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องราวของหนัง เรามาลองดูประวัติย่อ ๆ ของ 2 สิงห์นี้กันสักเล็กน้อยนะครับ ส่วนท่านใดที่ต้องการทราบรายละเอียดมากไปกว่านี้ ลองเข้าไปค้นหาได้ตาม อินเตอร์เน็ท แอ๊ดเดรส ที่ผมให้มาท้ายเรื่องนี้ได้เลยครับ เยอะแยะมากครับผม
เริ่มจากคนแรกก่อนเลยนะครับ คือ Butch Cassidy เจ้าของฉายา Robin Hood of the West มีชื่อจริงว่า Robert LeRoy Parker. เกิดเมื่อวันที่ 15 (บางหลักฐานระบุว่าวันที่ 13) เมษายน 1866 (พ.ศ.2409) ที่เมือง Beaver รัฐ Utah เป็นลูกคนโตจากจำนวน 13 คนของครอบครัวที่นับถือนิกายMormon ซึ่งอพยพจากอังกฤษมาอยู่อเมริกาตั้งแต่ปี 1856 (พ.ศ.2394)ในวัยรุ่น ได้รับการชักจูงจาก Mike Cassidy ให้ออกจากบ้านเพื่อผจญภัยไปด้วยกัน และในระหว่างที่ทำงานที่ร้านขายเนื้อที่ Rock Springs Wyoming เขาได้ถูกเรียกชื่อเล่น ๆ ว่า "Butch" ซึ่งเขาชอบกับชื่อนี้มาก และด้วยความผูกพันกับ Mike Cassidy ที่เหมือนกับเป็นลูกพี่ของเขา เขาจึงมักบอกกับใคร ๆ ว่า เขาชื่อ Butch นามสกุล Cassidy
และที่ ไวโอมิง นี่เอง บุช ต้องติดคุกอยู่ 2 ปีในเรือนจำด้วยข้อหาใดไม่ปรากฏ ตั้งแต่ปี 1894 - 1896 (พ.ศ.2437-2439) ซึ่งเท่ากับตอนนั้นเขามีอายุ 28 ปีเข้าไปแล้ว ซึ่งที่นี่เอง เหมือนกับเป็นที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาโจรให้กับเขาหลังจากที่ออกจากคุกมาได้ไม่กี่ปี ด้วยความที่เป็นคนที่มีไหวพริบดีและฉลาด นอกเหนือจากความเป็นหนุ่มหน้าตาดีอีกต่างหาก บุช ได้ร่วมกันกับเพื่อนสนิทหลายคนตั้งแก๊งค์ขึ้นและยกระดับตัวเองเป็นหัวหน้าในชื่อแก๊งค์ Wild Bunch (ชื่อเหมือนหนังคาวบอยเรื่องนึงเลยครับ ดูเหมือนจะชื่อไทยว่า "คนเดนคน" หรือไงนี่แหละ มันมากครับเรื่องนี้ ผมยังมีเก็บอยู่เลย แต่ดูได้แค่ 2 แผ่นเท่านั้น แผ่นที่ 3 เสียซะแล้ว...ใครมีเก็บไว้บ้างครับ) เพื่อน ๆ ร่วมแก๊งค์ของ บุช หลายคนเป็นที่รู้จักกันดีในตะวันตกยุคนั้นว่าเป็นมือปล้นระดับเซียนทั้งสิ้น เช่น Harry Longabaugh หรือ The Sundance Kid ; Harvey Logan, หรือ Kid Curry ; Ben Kilpatrick, ฉายา Tall Texan ; Harry Tracy, และ Elzy Lay เป็นต้น แก๊งค์ของ บุช ออกตะเวนปล้นดะไปหมดโดยส่วนใหญ่จะเป็นการปล้นรถไฟ ธนาคาร หรือพวกรถขนเงินของพวกเหมืองหรือบริษัทต่าง ๆ แต่ที่พวกเขาปล้นและทำความเสียหายให้เจ้าทรัพย์มากที่สุดคือ การปล้นรถไฟ
และจากความเสียหายมหาศาลของบริษัทรถไฟนี่เอง ทำให้ทางบริษัทติดต่อว่าจ้างมือปราบฝีมือเยี่ยมนาม Pinkerton ออกตามาล่าพวกเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย แก๊งค์ ไวลด์บันช์ ต้องแตกลง บุช และเพื่อนซี้คือ ซันด๊านซ์ คิด พร้อมแฟนของ ซันด๊านซ์ ชื่อ Etta Place หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Ann Bassett ต้องหนีออกนอกประเทศไปอยู่ถึง อาร์เจนตินา อเมริกาใต้ ที่นี่ พวกเค้าได้ซื้อปศุสัตว์ไว้แห่งหนึ่ง และดำรงค์ชีวิตแบบสุจริตชนอยู่ได้ประมาณ 2 - 3 ปี แต่แล้ว....สัญชาติญาณของนักปล้นก็กลับคืนมาอีก เมื่อพวกเขาต้องการเงินที่ได้มาง่าย ๆ มากกว่าความยากลำบากในการทำไร่ บุช และ ซันด๊านซ์ ออกปล้นธนาคารอีกครั้งแถว ๆ นั้น และต้องถูกกองทหารของ โบลีเวีย ยกกำลังเข้าปราบจนต้องตายไปในที่สุด
คนต่อมา คือ Sundance Kid ซึ่งมีชื่อจริงคือ Harry Alonzo Longabaugh เกิดที่แถบ Mont Clare เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวน 5 คนของครอบครัวจน ๆ ครอบครัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของเมือง Philadelphia รัฐ Pennsylvania เมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 1867 (พ.ศ.2410) อ่อนกว่าเพื่อนซี้ บุช ปีนึงครับ พออายุได้ 15 ก็ออกจากบ้านไปทำงานกับพวกกองเกวียนด้วยการชักนำของลูกพี่ลูกน้องด้วยกัน จนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี 1887 อายุเพิ่งจะยี่สิบเองก็ถูกจับขังคุกซะ 18 เดือนที่เรือนจำเมือง Sundance รัฐ Wyoming ในโทษฐานขโมยม้าเพราะความที่ตอนนั้นตกงานและไม่มีเงินใช้เลย ผู้ที่จับกุมเค้าได้ในตอนนั้นคือนายอำเภอ James Ryan ซึ่งตามล่าอยู่ถึง 4 เดือนจึงไปจับได้ที่ มอนตาน่า โน่นครับ จากนั้นก็นำตัวกลับมาติดคุกที่เมืองที่เกิดเหตุ ก็เลยได้ฉายาว่า Sundance Kid และออกตะเวนเป็นนักปล้นเต็มตัวมาตั้งแต่บัดนั้น ลองมาดูเฉพาะที่เป็นรายใหญ่ ๆ และมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานซักหน่อยนะครับ
2 มิถุนายน 1899 (พ.ศ.2442) ซันด๊านซ์ คิด ได้เข้าร่วมกับแก๊งค์ ไวลด์บั๊นช์ ภายใต้การนำของ บุช แคสสิดี้ เข้าทำการปล้นรถไฟของบริษัท ยูเนียนแปซิฟิค ได้เงินจากในเซฟที่พวกเค้าใช้ไดนาไมท์ระเบิดออกมาไป34,000 เหรียญ ไม่รวมพวกเครื่องทองรูปพรรณอีกจำนวนหนึ่ง ต่อมา 19 กันยายน 1900 (พ.ศ.2443) ปล้นธนาคาร Winnemucca National Bank ที่ Nevada ได้เงินไปอีก 32,640 เหรียญ ซึ่งเป็นเหตุให้ทั้งบริษัทรถไฟ และ ธนาคาร ต่างร่วมกันลงขันจ้างมือปราบฝีมือดีตามล่าพวกเค้าจนต้องหนีกันหัวซุกหัวซุนเลยครับ
และระหว่างการหลบหนีนี่เอง พวกเค้าได้ทำในสิ่งที่นักประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตำนานตะวันตกบอกไว้ว่า "ไม่น่าทำ" นั่นคือการถ่ายรูปหมู่ของพวกเค้าไว้ที่ ร้านถ่ายรูปของ John Swartz ที่ Fort Worth รัฐ Texas และจากรูปถ่ายนี้เอง ที่ทำให้การประกาศติดตามตัวพวกเค้าทำได้ง่ายขึ้น เมื่อรูปดังกล่าวตกไปอยู่ในมือของผู้รักษากฎหมาย มือปราบ Pinkerton ที่ได้รับการว่าจ้างมาและพรรคพวกที่ประกอบไปด้วย นายอำเภอสหรัฐ นายอำเภอท้องถิ่น และนักล่ารางวัลจากบริษัทรถม้า เวล ฟาร์โก ที่มีชื่อเสียง ต่างตามล่าพวกแก๊งค์ ไวลด์บั๊นช์ อย่างเอาเป็นเอาตายจนกระทั่งแก๊งค์ต้องแตกสลายลง
ปี 1901 (พ.ศ.2444) ซันด๊านซ์ , บุช และ เอตต้า แฟนของ ซันด๊านซ์ ต้องหลบหนีเข้าเมือง นิวยอร์ค เพื่อลงเรือหนีไปอเมริกาใต้ ทั้ง 3 ใช้ชื่อปลอมในการหลบหนี แต่ด้วยความที่ตอนนั้น การถ่ายรูปน่าจะเป็นที่กำลังฮิตเอามาก ๆ ซันด๊านซ์ และ เอตต้า จึงได้ถ่ายรูปไว้อีกก่อนที่จะเดินทางด้วยเรือชื่อ Herminius เพื่อเดินทางไปยังเมือง บัวนอส ไอเรส ประเทศ อาร์เจ็นตินา ต่อไป ก็ดีครับ ทำให้เราได้เห็นรูปจริง ๆ ของพวกเค้ากันได้จนปัจจุบัน
อีกนิดนึงนะครับ อย่างเพิ่งเบื่อกันซะก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยเรื่องหนังกัน ขอเล่าเรื่องพวกเค้าอีกนิดนึง เกี่ยวกับการตายของพวกเค้า จากหลักฐานส่วนใหญ่ระบุว่า ทั้ง บุช และ ซันด๊านซ์ ถูกกองทหารยิงตายที่ San Vicente ทางตอนเหนือของเมือง Tupiza ประเทศ Bolivia เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 1908 (พ.ศ.2452 แต่ในเว็บไซท์ของโบลิเวียบอกว่าวันที่ 7 พฤศจิกายน) เรื่องของเรื่องที่อยากคุยถึงคือได้มีการเจอตัว Mrs. Lula Parker Betenson ซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้องของ บุช ได้ให้สัมภาษณ์ว่า บุช ไม่ได้ตายตอนนั้น แต่ได้หนีกลับมาอยู่สหรัฐอเมริกา และตายในอีก 16 ปีต่อมาที่ Spokane Washington เมื่อปี 1925 (พ.ศ.2468) ตอนนั้น ตอนที่ให้สัมภาษณ์นั่น คุณยายแกอายุ 86 แล้วครับ ส่วนเจ้าหนู ซันด๊านซ์ นั้น ก็เชื่อกันว่า กลับมาตายที่บ้านเกิดเมื่อปี 1936 (พ.ศ.2479) ด้วยเช่นกัน ก็ต้องคอยนักสืบค้นทางประวัติศาสตร์ตะวันตกคนต่อ ๆ ไปละครับ ที่จะต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่า พวกเค้า ทั้ง 2 คน พบจุดจบกันอย่างไร
ดารานำ บุช (Paul Newman) ซันแดนซ์ (Robert Redford) และเอ็ตต้า (Katharine Ross)
เอาล่ะครับ ทีนี้มาคุยกันถึงเรื่องหนังกัน ที่ผมมีอยู่เป็น VCD แบบ Sound Track จำนวน 2 แผ่นในความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีครับ คุณภาพอยู่ในขั้นดี หนังเปิดเรื่องขึ้นมาในโทน ซีเพีย ดูขลังดีครับ เรื่องเริ่มเดินตอนที่ บุช และ ซันด๊านซ์ คิด รู้จักกันและตั้งแก๊งค์ปล้นขึ้นแล้ว ถ้าเป็นตามที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ก็อยู่ในช่วงประมาณปี 1899 (พ.ศ. 2442) บุช เข้ามาดูลาดเลาที่ธนาคารแต่ปรากฏว่ามีการป้องกันอย่างแข็งแรง ในขณะที่เจ้าหนู ซันด๊านซ์ คิด เล่นไพ่อยู่อีกที่หนึ่ง เมื่อ บุช เห็นว่าแบ๊งค์นี้ปล้นลำบากแน่ก็เลยไปชวน ซันด๊านซ์ กลับรังโจรในขณะที่ ซันด๊านซ์ กำลังจะดวลปืนกับขาไพ่ที่หาว่าเค้าเล่นโกง แต่เมื่อรู้ว่าเจ้าหนูนั่นคือ ซันด๊านซ์ คิด ก็เลยต้องหงอไป ที่รังโจรซึ่งในหนังเรียกชื่อแก๊งค์ของพวกเค้าว่า The Hole in the Wall ไม่ได้เรียกว่า Wild Bunch อย่างที่ถูกระบุไว้นั้น บุช ถูกลูกน้องท้าประลองเพื่อจะตั้งตัวเป็นหัวหน้าใหม่ แต่ บุช ก็สามารถปราบลงได้แบบตลก ๆ ครับ
จากนั้น ก็เป็นฉากการปล้นรถไฟของบริษัท ยูเนี่ยน แปซิฟิค ซึ่งก็ไม่ได้เน้นที่ความโหดร้ายรุนแรงอะไรเลย มีแต่มุขขำ ๆ ให้หัวเราะกันด้วยซ้ำไป เมื่อปล้นเสร็จ ทั้งสองก็แยกจากลูกน้องเข้ามาหลบอยู่ในเมือง พร้อมกับจิบเบียร์แอบดูนายอำเภอประจำเมืองที่เรียกหาอาสาสมัครออกตามล่าพวกเค้า แต่ไม่มีใครยอมไปด้วย จากนั้น ซันด๊านซ์ ก็แยกตัวไปหา Etta แฟนสาวที่ในหนังระบุว่าเป็นคุณครูสอนหนังสือ ในขณะที่ บุช ยังสนุกอยู่กับอีตัวในเมือง เป็นฉากการเปิดตัวดารานำแสดง และแนะนำให้ผู้ชมได้มารู้จักกับชื่อจริง ๆ ของทั้ง 2 คนว่า บุช ชื่อ Parker และ เจ้าหนู ซันด๊านซ์ มีชื่อจริงว่า Longabaugh มีฉากสวย ๆ เพลงเพราะ ชื่อ Raindrop keep fallin' on my head จากการขับร้องของ B.J. Thomas ตอนที่เปิดตัวพวกเค้าทั้งสามคนด้วยครับ เป็นตอนที่ บุช ซื้อจักรยาน 2 ล้อที่ว่ากันว่าเป็นพาหนะในยุคใหม่ตอนนั้นมารับ เอ็ตต้า ออกมาขี่เล่น (ดูอ้างอิง)
คณะผู้ตามล่าสองเสือ
บุช และ พวก ออกปล้นรถไฟอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนเดิมครับ ได้นั่งดูไปหัวเราะไปกับมุขตลกที่มีในหนัง และในการปล้นครั้งนี้เอง ที่ทางบริษัทรถไฟได้วางแผนซ้อนให้มือปราบที่จ้างมาเป็นพิเศษตามมาทันโดยที่พวกเค้ายังไม่ได้เงินไปเลย ฉากการไล่ล่าได้ปรากฏขึ้น ตอนนี้ ในหนังระบุว่า หัวหน้าทีมในการตามล่า คือ มือปราบหมวกขาว โจ ลาฟอส โดยมีอินเดียนแดงที่มีความเชี่ยวชาญในการแกะรอยชื่อ ลอร์ดบอติเมอร์ เป็นผู้แกะรอยนำทาง ซึ่งที่ระบุไว้เป็นหลักฐานที่ผมหาเจอนั้นหัวหน้าทีมคือ พิ้งเคอร์ตัน อย่างที่เล่าไว้ข้างต้นแล้วต่างหาก ก็ว่ากันไปครับ
บุช และ ซันด๊านซ์ ต้องหลบหนีการไล่ล่าแบบกัดไม่ปล่อยของทีมล่า แต่ไม่ว่าทั้ง 2 คนจะใช้วิธีการที่จะหลบหนีอย่างไรก็ตาม ก็ไม่อาจพ้นการติดตามอย่างไม่ลดละของนักล่าได้ จนกระทั่งไปจนมุมที่หน้าผาสูงที่มีสายน้ำเชี่ยวกรากอยู่ด้านล่าง บุช เสนอความคิดที่จะโดดหนีลงไปกับสายน้ำ แต่ ซันด๊านซ์ ต้องการสู้ตายด้วยเหตุผลที่ต้องหัวเราะกันคือ เค้าว่ายน้ำไม่เป็นครับ แต่ในที่สุด ทั้ง 2 คนก็โดดหนีไปได้อย่างปลอดภัย โดยมีข่าวออกมาว่า ทั้ง 2 คน ตายแล้ว
ทั้ง 2 คนหลบกลับมาหา เอ็ตต้า และวางแผนหลบหนีไป โบลีเวีย (ตามประวัติระบุว่าไป อาร์เจนตินา) โดย บุช โกหก ซันด๊านซ์ ว่าเขาพูดสเปนได้ ทั้ง 3 คนเดินทางไปนิวยอร์คเพื่อลงเรือที่นั่น ในหนังจะมีฉากที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของนิวยอร์คในยุคนั้นให้ดูด้วยครับ ยังได้เห็นอนุสาวรีย์เทพีแห่งสันติภาพแว๊บนึงเลย
ที่ โบลีเวีย ทั้ง 3 คนต้องตกตะลึงต่อสภาพของประเทศในยุคนั้น แต่เพื่อความอยู่รอด พวกเค้าก็ต้องออกปล้นธนาคารกันอีกโดยที่ต้องเรียนรู้ภาษาสเปนเฉพาะศัพท์คำพูดที่ต้องการสื่อให้รู้ว่านี่คือการปล้นเท่านั้น เรียกว่าเรียนภาษาไป ปล้นไป ขำดีครับ ทั้ง 3 คนร่วมกันปล้นซะหลายธนาคารจนกระทั่งพบว่า มือปราบหมวกขาว โจ ลาฟอส ตามมาถึง โบลีเวีย แล้ว จึงต้องวางแผนกันว่าเลิกปล้นชั่วคราวโดยหันมาหาอาชีพสุจริตทำมาหากินกัน แต่แล้ว เหมือนกับพระเจ้าสั่งว่า พวกเค้า ต้องเป็นไอ้เสือเท่านั้น เพราะในขณะที่ บุช และ ซันด๊านซ์ ไปรับจ้างคุ้มกันเหมืองของชาวพื้นเมืองนั้น ทั้ง 2 คนได้ฆ่าโจรพื้นเมืองที่มาปล้นเงินของเหมืองตาย แต่คงจะไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าตัวเองเป็นคนบริสุทธิ์ (อันนี้ผมเดาตามเนื้อเรื่องนะครับ) ก็เลยต้องหลบมาวางแผนการดำรงชีวิตใน โบลีเวีย กันใหม่ เอ็ตต้า เสนอให้ทำไร่หรือทำคอกปศุสัตว์ แต่ทั้ง 2 คนปฏิเสธว่า เป็นงานหนัก และ ไม่ถนัดสำหรับพวกเค้า ซึ่งตรงนี้ ตามประวัติที่มีบันทึกไว้บอกว่า พวกเค้าทำไร่กันก่อนที่จะหันมาปล้นนะครับ
เมื่อข้อเสนอไม่ได้รับการยอมรับ เอ็ตต้า จึงขอแยกทางกลับสหรัฐ ฯ คนเดียว บุช และ ซันด๊านซ์ จึงต้องออกปล้นกันเพียง 2 คน และในการปล้นขบวนขนเงินของเหมืองครั้งสุดท้าย ทั้ง 2 พลาดที่เอาม้าของเหมืองที่มีการตีตราเครื่องหมายไปด้วย เมื่อไปถึงเมืองที่ในหนังไม่ได้ระบุชื่อ (ระบุไว้ที่เว็บไซท์ของโบลีเวียว่า TOPIZA) เด็กเลี้ยงม้าได้เห็นเข้า จึงได้ไปแจ้งตำรวจของโบลีเวีย ทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น ซึ่งเพิ่งจะมีฉากนี้แหละครับที่ยิงกันแบบมัน ๆ เหมือนหนังคาวบอยอื่น ๆ ทั้ง 2 คนยิงต่อสู้ตำรวจของ โบลีเวีย ตายไปสิบกว่าคน โดยที่ทั้งสองคนเองก็โดนกระสุนไปคนละหลาย ๆ นัด ในขณะที่กองทหารม้าของ โบลีเวีย คงจะซักหนึ่งกองร้อยเดินทางมาพอดี จึงได้ร่วมมือกับตำรวจเข้าทำการปิดล้อมทั้ง 2 คน
กองกำลังของโบลิเวียที่ปิดล้อม
บุช และ ซันด๊านซ์ รู้ตัวเองว่า กระสุนปืนของตำรวจที่พวกเขาโดนเข้าไปคนละหลายนัดนั้น ทำให้พวกเขาต้องตายแน่ ๆ แต่ด้วยความเป็นชาติเสือ พวกเค้าตกลงกันว่าจะสู้อย่างไว้ลาย มีการพูดปลุกปลอบใจกันเองว่า ถ้าตีฝ่าหนีไปถึงม้าได้แล้ว พวกเค้าจะหนีไปอยู่ที่ ออสเตรเลีย กัน ซึ่งจะมีความสุขมากกว่าอยู่ที่ โบลีเวีย มาก พวกเค้าตกลงที่จะฝ่าวงล้อมออกมาโดยปลุกปลอบใจตัวเองว่า ไม่มีทหารเป็นกองร้อยล้อมอยู่ด้านนอก พวกเค้าสามารถตีฝ่าออกไปสู่อิสรภาพได้แน่ ๆ และด้วยร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเลือดของทั้งสองคน ปืนคู่มือคนละสองกระบอกที่ถึงกับต้องใช้ผ้าพันไว้กับมือเพราะแทบจะไม่มีแรงจับมันแล้ว ทั้งสองคน วิ่งออกมานอกอาคารที่ปิดล้อมอยู่ เพื่อพบกับห่ากระสุนที่ระดมยิงใส่ พวกเค้าตายแบบไว้ลายเสือจริง ๆ เลยครับ
เนื้อเรื่องในหนัง แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์นัก แต่ก็เป็นหนังที่ดูได้ดีนะครับ ตามความคิดของผมนั้น เป็นหนังที่แม้เด็ก ๆ ก็ดูได้ดี ไม่มีฉากการต่อสู้ที่โหดร้ายรุนแรงมากนัก ฉากเซ็กส์ก็ไม่มีแบบโจ๋งครึ่มจนหน้าเกลียด แต่กลับมีฉากที่ชวนหัวเราะได้อย่างมากมายเลยทีเดียว ก่อนจะเริ่มเดินเรื่องในหนังนะครับ มีการขึ้นตัวหนังสือไว้ด้วยว่า Most of What Follows is True ดังนั้น หลาย ๆ ฉาก หลาย ๆ ตอนก็เลยเป็นแบบ "จริงมั่งไม่จริงมั่ง" ก็ตามประสาหนังแหละครับ อย่างตอนจบนี่ ทาง โบลิเวีย ระบุว่า ล้อมเอาไว้จนยันเช้า เมื่อไม่มีการยิงต่อสู้ออกมา ทางทหารจึงบุกเข้าไปพร้อมกับพบว่า two bandidos หรือ two bandit หรือ โจรสองคน นอนตายจมกองเลือดอยู่
สู้แค่ตาย!(?)
บทบรรยายภาษาไทยของหนังเรื่องนี้ทำได้ดีครับ หลาน ๆ ผมนั่งดูเข้าใจได้ดี แบบว่า ไม่มีมั่วจนต้องมาอธิบายความให้ฟังกันอีก ขอชมเชยผู้ทำบทบรรยายไทยครับผม ส่วนการตายของทั้ง 2 คนนั่นอย่างที่เล่าไว้ก่อนหน้านี้นั้นว่า เชื่อกันว่าทั้ง 2 คนนั้นไม่ได้ตายที่ โบลีเวีย แต่กลับมาตายยังแผ่นดินแม่นั้น ก็ต้องคอยติดตามการพิสูจน์และการค้นคว้าของนักประวัติศาสตร์ตะวันตกกันต่อไปครับผม
ขออีกนิดนะครับ ขอฝากเรียนเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้กันทุกท่าน เนื่องจากหนังที่ผมมีอยู่เป็น VCD ที่น่าจะใกล้จะหมดอายุแล้ว รบกวนท่านที่มีหนังเรื่องนี้เป็นแผ่น DVD อยู่กรุณาบอกเล่าคุยกันมาบ้างครับ เพื่อผมจะได้ขอรบกวนท่าน รวมทั้งยังมีหนังอีก 2 เรื่องที่ผมเคยมีแต่ปรากฏว่าดูไม่ได้แล้ว (VDO) คือ The Sting ที่นำแสดงโดยดาราทั้ง 2 คนในเรื่องนี้ และเรื่องของสองโจรผัว - เมีย คือ Bonnie Parker & Clyed Barrow ถ้าท่านใดมีเก็บไว้ กรุณาบอกผม Countryboy ด้วยครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ขอบคุณมาล่วงหน้าครับผม
สุดท้ายนี้ เนื่องจากใกล้จะปีใหม่ ศกใหม่แล้ว ขอนำพรสู่เพื่อน ๆ ชาว iseehistory.com ทุกท่านครับผม สวัสดีปีใหม่ครับ
ศุภฤกษ์ เบิกฟ้า คราปีใหม่
ขอเทพไท้ ให้พร คุ้มครองท่าน
ให้โชคดี มั่งมีทรัพย์ นับอนันต์
เปี่ยมสุขสันต์ มากยิ่ง มิ่งมงคล
ปีใหม่นี้ ขอให้คลาย จากทุกข์โศก
ให้ปลอดโรค พ้นภัย ที่มัวหมอง
ให้มีโชค มากลาภ ด้วยเงินทอง
ที่หมายปอง ให้สมหวัง ดั่งใจเทอญ
ความเห็นจาก webmaster@iseehistory.com
เป็นอีกเรื่องที่มีคนช่วยเขียนโดยที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยครับ เท่าที่อ่านจากบทความของคุณ Countryboy และดูหนังตัวอย่างจาก YouTube แล้ว ท่าทางน่าสนุกจริงๆครับ ตอนนี้ในเกือบทุกบทความผมจะหาคลิปจาก YouTube มาประกอบเท่าที่จะหาได้ คงจะทำให้คนที่ไม่เคยดูภาพยนตร์พอนึกออกว่าแต่ละเรื่องเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้คนที่ใช้ Internet แบบ Hi Speed คงได้เปรียบหน่อย หากมีปัญหาในการชมคลิปอย่างไร ช่วยแจ้งทางเว็บบอร์ดหรืออีเมล์ด้วยนะครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่อง Butch Cassidy & The Sundance Kid
ชื่อไทย สองสิงห์ชาติไอ้เสือ
ชนิด VCD บรรยายไทยจำนวน 2 แผ่น ความยาว 1 ชั่วโมง 45 นาที
ผู้สร้าง Twentieth Century Fox ปี 1969
ดารานำแสดง
- Paul Newman : Butch Cassidy
- Robert Redfort : The Sundance Kid
- Katharine Ross : Etta Place
เว็บไซท์ที่อ้างอิง
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ภาพยนตร์ตัวอย่าง จาก www.youtube.com
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์