
โดย webmaster@iseehistory.com
คราวก่อนกล่าวถึง "สุภาพบุรุษเสือใบ" ของผู้สร้างเดียวกับ "จอมโจรมเหศวร" ไปแล้ว คราวนี้ขอนำเรื่อง "เสือใบ" ของสันติสุชาภาพยนตร์ ที่ออกฉายในปี 2527 มาเล่าให้ครบชุดกันซะที ก่อนจะเข้าเรื่อง ขอนำประวัติของเสือใบที่พอจะค้นคว้าได้มาลงทบทวนกันอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ท่านผู้อ่านต้องเสียเวลาคลิกย้อนกลับไปดูบทความก่อนๆ ดังนี้ครับ
ประวัติโดยย่อ เสือใบนั้นเดิมชื่อ นายใบ สะอาดดี บ้านอยู่สุพรรณบุรี เหตุที่เป็นโจรเนื่องจากตอนอายุ 30 (ประมาณปี 2487/ค.ศ.1944) ถูกโจรปล้น และน้องภรรยาถูกฉุดไปด้วย จึงตามไปช่วยและ ฆ่าโจรตายไป 2 ศพ และต้องเป็นโจรเสียเองแต่บัดนั้น ต่อมาเมื่อใดยังหาวันที่ไม่ได้ เสือใบได้มอบตัวต่อทางการและถูกศาลตัดสินประหารชีวิต แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2496 /ค.ศ.1953 เนื่องในวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และได้รับพระราชทานอภัยโทษพ้นการจำคุกเมื่อ 14 ธันวาคม 2506/ค.ศ.1963
เสือใบเวอร์ชันนี้ ชื่อใบมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง และอาศัยอยู่ที่สุพรรณบุรี โดยเริ่มเรื่องก็เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ กำลังออกไปตกปลากับเพื่อนชื่อจอม ก็มาเจอเหตุระทึกใจกลางทางเมื่อเหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่ง กำลังควบคุมคนร้ายที่ท่าทางจะสำคัญรายหนึ่ง แล้วจู่ๆ ตำรวจกลุ่มนั้นก็ถูกซุ่มยิงจากคนร้ายอีกสองสามรายที่อยู่ข้างทางเพื่อหวังชิงตัวเพื่อนของพวกมัน แต่สู้ตำรวจไม่ได้ ถูกยิงตายกันหมดทั้งผู้ซุ่มยิงและผู้ที่ถูกคุมตัว ใบกับจอมพอหายตื่นเต้นก็ไปตกปลาตามที่ตั้งใจ และใช้ชีวิตเป็นปกติสุข จนกระทั่ง เพื่อนบ้านรายหนึ่ง ถูกขโมยวัวไป โดยทราบว่าผู้ร้ายคือนายยิ่ง ลูกชายกำนันเยี่ยม พอขโมยได้ก็เอาไปขายหาเงินเล่นไฮโลว์ เพื่อนบ้านคนนั้นเห็นว่าใบเป็นเพื่อนกับยิ่ง จึงมาติดต่อผ่านนายแบนและนางโผผู้เป็นบิดามารดา ขอให้ใบช่วยไปพูดขอวัวคืนมาจากยิ่ง ใบกับจอมไปพบยิ่งกำลังเล่นไฮโลว์อยู่ก็เกิดมีปากเสียงจนถึงขั้นวิวาทชกต่อยกัน ผลคือฝ่ายพระเอกชนะไปตามระเบียบ แต่ไม่ได้วัวคืน จากนั้นกำนันเยี่ยมตามไปข่มขู่นายแบนกับนางโผอยู่ 1 ครั้ง แล้วใบกับจอมซึ่งหวังจะไปปรับความเข้าใจกับกำนันเยี่ยมแต่ไม่พบ ก็ต้องชกต่อยกับยิ่งและพรรคพวกอีกสองครั้ง จบทัวร์นาเม้นต์ลงโดยยิ่งเห็นว่าสู้เจ้าใบกับเจ้าจอมไม่ได้ซักทีก็ไปคว้าปืนมายิงจอมได้รับบาดเจ็บและกำลังจะยิ่งซ้ำ ใบจึงชักปืนออกมายิงป้องกันเพื่อนถูกยิ่งนัดเดียวตายคาที่ จากนั้นก็หอบหิ้วจอมไปร่ำลาพ่อแม่ก่อนจะพากันเตลิดหนี กำนันเยี่ยมที่ทราบเรื่องด้วยความโกรธแค้นตามมาทีหลัง ได้แต่ขู่ให้นายแบนและนางโผส่งตัวลูกมาภายในสามวัน

ดามพ์ เผด็จดัสกร ในบทกำนันเยี่ยม กับปืนเมาเซอร์กระบอกงามคู่ชีพ
กล่าวฝ่ายเสือเลี่ยมลูกน้องทรยศของเสือฝ้ายพยายามฉุดมะลิน้องสาวเสือฝ้ายกับกาหลง ขณะที่ใบกับจอมกำลังหยุดพักอยู่บริเวณนั้น แล้วใบเดินไปหาน้ำให้จอม ก็มาพบเหตุการณ์เข้าพอดีจึงช่วยเหลือมะลิไว้ได้ โดยยังไม่ทราบว่ามะลิเป็นใคร ใบนำน้ำกลับไปให้จอม บอกว่าเป็นห่วงพ่อแม่ กลัวกำนันเยี่ยมจะคุกคาม จอมกลัวใบจะได้รับอันตรายจึงอาสาจะไปช่วยดูแลพ่อแม่ให้ ใบก็เห็นด้วยแล้วก็ปล่อยให้จอมกลับไปทั้งที่ยังบาดเจ็บอยู่อย่างนั้น (พิลึกจัง) โดยสั่งว่าเสร็จธุระแล้วให้จอมไปหาที่บ้านของสาครที่บ้านดงตาล ด้านเสือเลี่ยมพาพวกไปขออยู่กับเสือเกื้อ อ้างว่าฝ้ายปล้นแล้วแบ่งให้ไม่เป็นธรรม เสือเกื้อไม่รับไว้โดยอ้างว่าการกำลังกวาดล้างพวกตน จึงโบ้ยให้ไปหากำนันเยี่ยมซึ่งกำลังต้องการคนดี(?)มีฝีมือไว้เป็นกำลัง
ใบมาถึงบ้านสาคร พบสาครกำลังถูกลูกน้องเสี่ยซ้งเศรษฐีเงินกู้ข่มเหงบังคับจะเอาวัวไปใช้หนี้ ใบจึงยิงลูกน้องเสี่ยซ้งตายไปสองคน แล้วพาสาครตามไปฆ่าเสี่ยซ้งเอาโฉนดที่ดินมาคืนชาวบ้าน จากนั้นสาครเสนอให้ไปอยู่กับเสือฝ้ายด้วยกัน

ใบกับสาครนำโฉนดมาคืนชาวบ้าน หลังจากฆ่าเสี่ยซ้ง นายทุนเงินกู้หน้าเลือด
เลี่ยมมาอยู่กับกำนันเยี่ยม แจ้งข่าวว่าพบกับใบขณะที่ตนจะฉุดมะลิและคาดว่าใบจะไปอยู่กับเสือฝ้าย ด้านจอมเมื่อกลับถึงหมู่บ้านก็ถูกลูกน้องกำนันเยี่ยมทั้งเก่าและใหม่รุมฆ่าตาย สาครพาใบมาพบใจเพื่อนที่มาอยู่กับเสือฝ้ายอยู่ก่อน แล้วพากันไปหาเสือฝ้าย เสือปลิวบอกเสือฝ้ายว่าไม่ควรไว้ใจใบ แต่มะลิช่วยบอกเสือฝ้ายว่าใบเป็นผู้ช่วยให้รอดจากน้ำมือเลี่ยม เสือฝ้ายจึงรับไว้ วันต่อมากำนันเยี่ยมให้คนนำศพจอมมาให้ใบ ใบเห็นศพจอมแล้วก็เสียใจมาก แต่ก็ทำให้เสือฝ้ายเห็นใจด้วยเช่นกัน
วันต่อมาเยี่ยมได้ข่าวจากลูกน้องว่าใบกลับมาเยี่ยมแม่ จึงแจ้งตำรวจและพาลูกน้องไปล้อมจับ แต่เสือใบไหวตัวหนีทัน ด้านมะลิน้องสาวเสือฝ้ายไม่รู้ว่ามีเสน่ห์อะไรถึงได้ถูกใจลูกน้องเลวๆ ของเสือฝ้ายอยู่เรื่อย จึงถูกเสือปลิวกับพวกมาฉุดพาหนีไป เสือฝ้ายกับพรรคพวกออกตาม พอดีมาพบกับเสือใบ เสือใบเลยช่วยตามอีกแรงหนึ่ง ทั้งหมดตามไปจนทันเสือปลิว และฆ่าลูกน้องเสือปลิวตายหมด เมื่อเสือปลิวจนมุมจึงขอท้าดวลปืนกับเสือใบและถูกเสือใบยิงตาย เสือฝ้ายยอมยกมะลิให้เสือใลและบอกว่าจะขอหยุดเป็นโจรเพื่อไปต่อสู้กับญี่ปุ่น
เมื่อไม่มีเสือฝ้าย เสือใบจะได้แสดงวีรกรรมอะไรกี่ครั้งก็ไม่ทราบได้ แต่ที่มีปรากฏในหนังคือตอนออกไปทำเคสกำราบเสี่ยโกยที่ชอบฉุดลูกเมียชาวบ้านมาปรนเปรอ ด้านกำนันเยี่ยมได้ออกปล้นฆ่าชาวบ้านโดยอ้างชื่อเสือใบ เสือใบจึงตามไปล้างแค้น แต่กำนันเยี่ยมไม่อยู่ และลูกน้องกำนันเยี่ยมที่ปะทะกันสามารถหนีไปได้ จากนั้นคืนหนึ่งเสือใบกับพวกเตรียมโจมตีคลังน้ำมันของทหารญี่ปุ่น เกิดมีเซอร์ไพรส์พบกับเสือฝ้ายเข้าพอดี ทั้งสองเสือจึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันถล่มญี่ปุ่นซะยับเยิน ด้วยปืนกลหนัก M60 ที่ยึดมาจากทหารญี่ปุ่นนั่นเอง ว่าแต่ไอ้เจ้าปืนกล M60 นี่เขาเอามาติ๊งต่างแทนปืนกลญี่ปุ่น หรือว่าทหารญี่ปุ่นแอบไปล้วงมาจากกระเป๋า Doraemon ก็ไม่ทราบได้เหมือนกัน

เสือใบกับเสือฝ้ายร่วมมือกันถล่มคลังน้ำมันญี่ปุ่น
เสือใบพามะลิไปกราบพ่อแม่ กำนันเยี่ยมก็พาพวกมาล้อมยิงอีก เสือใบพามะลิกับพรรคพวกหนีไปได้ คราวนี้กำนันเยี่ยมพึ่งจะปิ๊งไอเดียว่าเลี่ยมเคยอยู่กับเสือฝ้ายมาก่อน น่าจะรู้ว่าเสือฝ้ายและเสือใบจะหลบไปอยู่ที่ไหน เลี่ยมก็ไม่รอช้าพากำนันเยี่ยมกับพวกไปยังถ้ำแห่งหนึ่งที่เสือฝ้ายใช้เป็นที่ซ่อนตัวยามคับขัน โดยมีตำรวจอีกจำนวนหนึ่งไปสมทบ กำนัยเยี่ยมยังปิ๊งไอเดียขึ้นมาอีกว่าเห็นควรให้ลูกน้องไปจับพ่อแม่เสือใบมาเป็นตัวประกันด้วย ระหว่างนั้นก็ปะทะกันไปพลาง บาดเจ็บล้มตายด้วยกันทั้งสองฝ่าย เสือใบเห็นท่าจะสู้ไม่ได้ พาพรรคพวกหลบเข้าไปในถ้ำ เพื่อเตรียมไปทะลุอีกด้านหนึ่ง สาครซึ่งบาดเจ็บกับกาหลงยอมสละชีวิตยิงสกัดศัตรูจนตายด้วยกัน แต่ก่อนสิ้นใจยังอุตส่ากำลูกระเบิดไว้ กำนันเยี่ยมมาพลิกศพโดยนึกว่าเป็นเสือใบก็ถูกระเบิดตาย ด้านมะลิกับใจได้หนีเล็ดลอดไปช่วยพ่อแม่เสือใบจากลูกน้องกำนันเยี่ยมได้สำเร็จ ด้านเลี่ยมถูกเสือฝ้ายยิงตายขณะที่เสือฝ้ายกำลังจะไปช่วยเสือใบ เมื่อผู้ร้ายตายหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่พระเอกคนดีผู้ไม่ได้เป็นโจรโดยสันดานจะต้องมอบตัว โดยมีนางโผผู้มารดาเป็นผู้เกลี้ยกล่อมเช่นเดียวกับตอนท้ายเรื่อง "จอมโจรมเหศวร"
จากเนื้องเรื่องที่เล่ามานี้ เมื่อเทียบกับ "สุภาพบุรุษเสือใบ" แล้ว การดึงเอาเสือใบกลับมาอยู่สุพรรณบุรี เหมือนจะช่วยให้มีความน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้าง แต่ด้วยเหตุที่หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นในยุคที่หนังบู๊กำลังเฟื่องฟู เนื้องเรื่องที่เต็มไปด้วยการชกต่อยและยิงกันเกือบจะทุกๆ 5 นาที 10 นาที พอมาเทียบกับประวัติจริงของเสือใบที่ผมพอค้นได้บ้างดังกล่าวข้างต้น คงเห็นแต่ความจริงเพียงว่า ในยุคนั้น ชาวบ้านธรรมดาๆ ต้องกลายมาเป็น "โจร" หรือ "คนนอกกฎหมาย" กันก็เพราะการกดขี่ข่มเหงของผู้มีอิทธิพลที่กฎหมายเอื้อมมือไปช่วยเขาได้ไม่ทันเหตุการณ์ หรือไม่ทันใจเขาก็แล้วแต่มุมมอง แม้จะมีเรื่องเล่าว่าเขาเหล่านี้เป็นโรบินฮู้ดเมืองไทย ปล้นโดยสุภาพแค่ไหน มีการเอาเงินไปช่วยคนจนหรือไม่ ทำด้วยเจตนาดีจริงหรือต้องการสร้างแนวร่วมก็ตาม สุดท้าย ไม่ว่าเงื้อมมือของกฎหมาย บรรดาผู้สร้างภาพยนตร์ชีวิตของพวกเขา หรือแม้กระทั่งตัวพวกเขาเองในเวลาต่อมา ก็ไม่อาจยอมรับชีวิตนอกกฎหมายของพวกเขาได้ ดังในตอนท้ายภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ลงทุนนำเสือใบตัวจริงมากล่าวปิดท้าย "ขออย่าให้เอาอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นในหนัง มีอะไรขอให้พึ่งกฎหมายบ้านเมือง" แล้วทุกวันนี้กฎหมายบ้านเมืองพึ่งพาได้อย่างที่กล่าวหรือไม่ ผมคงพูดได้ไม่เต็มปากทั้งในทางสนับสนุนและคัดค้าน นอกจากอธิษฐานว่า ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยคุ้มครองคนดีๆ อย่าให้คนที่อยู่เหนือกฎหมายมาทำให้ท่านต้องกลายเป็นคนนอกกฎหมายก็แล้วกันครับ

นารีรัตน์ มนศิริ ในบทมะลิ นางเอกของเรื่องที่บู๊สะบั้นหั่นแหลกไม่แพ้ผู้ชาย
ทีแรกว่าจะจบแค่นี้ ขอพูดเลยมาถึงเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสักนิด ในภาพรวมของหนังหากไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้ว ก็นับว่าเป็นหนังบู๊ที่ดูสนุกไม่แพ้หนังแอ๊คชั่นเรื่องใดๆ สิ่งที่สะดุดความรู้สึกอยู่บ้างนอกจากข้อเท็จจริงของชีวประวัติเสือใบและการมีบทบู๊ที่ค่อนข้างถี่ซักหน่อยแล้ว สมบัติ เมทะนี ณ วันเวลานั้นยังดูหนุ่มหล่อและดูไม่ดุพอที่จะเป็นเสือฝ้ายในจินตนาการของผมและใครหลายๆ คนได้ เหตุหนึ่งที่น้าบัติต้องมารับบทนี้อาจเป็นเพราะ (เดาเอานะครับ) คู่พระคู่นางของเรื่องยังเป็นดาราหน้าใหม่ในเวลานั้น และทั้งสองคนก็เป็นเพียงคน "หน้าตาดี" เล่นบทบู๊คล่อง แต่ไม่ได้ "สุดหล่อ" หรือ "สุดสวย" พอจะเรียกเรตติ้งได้ การเดินเรื่องหลายตอนยังขาดเหตุผลไปบ้าง เช่น อยู่ๆ ก็ปล่อยให้จอมกลับไปทั้งที่ยังบาดเจ็บ โลเกชั่นส่วนใหญ่ใช้หมู่บ้านในชนบทจริง ดูเหมาะสมดีอยู่แล้ว นอกจากฉากถล่มคลังน้ำมันญี่ปุ่น ที่คงจะสร้างแบบลงทุนน้อยๆ อาศัยความมืดช่วยจนพอจะกล้อมแกล้มไปได้ แต่มาสะดุดตรงเจ้าปืนกล M60 นี่แหละครับ
จากที่เคยเสิร์ชข้อมูลของเว็บต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ของมูลนิธิหนังไทย พบว่ายังมีภาพยนตร์ไทยที่เกี่ยวข้องกับบรรดาโจรในยุคนั้นอีกหลายเรื่องเหมือนกันครับ แต่บางเรื่องดูเรื่องย่อแล้ว "ออกทะเล" ยิ่งกว่าเรื่องที่นำมาพูดคุยกันแล้วด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ถ้าพบว่าเรื่องไหนมีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจสักหน่อย จะคัดเลือกมานำเสนอต่อไปครับ

ทีแรกว่าจะปิดท้ายด้วยภาพพระเอกมอบตัว แต่เปลี่ยนใจมาเป็นภาพนี้ดีกว่า
เรื่องนี้บู๊กันกระทั่งป้ารัตนาภรณ์ของผมยังได้ใช้ไม้ฟาดผู้ร้ายทีหนึ่งด้วยก่อนจะโดนตบล้มไม่เป็นท่า
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่อง : เสือใบ
ผู้กำกำกับ : วิสันต์ สันติสุชา
ผู้สร้าง : สันติสุชาภาพยนตร์
ผู้เขียนบท : แดน กฤษดา
ผู้แสดง : ไชยันต์ สรไกร, สมบัติ เมทะนี, โกวิทย์ วัฒนะกุล, นารีรัตน์ มนศิริ, ดุษณี ชัยมงคล, รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง, ดามพ์ เผด็จดัสกร, ฉัตร มงคลชัย, วิทยา สุขดำรงค์, เมือง อพอลโล, นที บุญนาค ฯลฯ
ควรอ่านเพิ่มเติม
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์