dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



Das Boot U – 96 เรือล่มเมื่อจอด
วันที่ 19/05/2013   15:11:04

 

Countryboy
 
                สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว iseehistory.com ทุกท่าน เมื่อตอนที่ผมจบเรื่องที่แล้วนั้น (Black Hawk Down) อุตส่าห์ขอเสียงเชียร์ว่าอยากให้คุยกันถึงเรื่องอะไรกันต่อก็เงียบเชียบเสียเหลือเกิน ก็เลยตกลงใจเองว่าเอาเรื่องนี้ดีกว่า Das Boot ครับ ตามที่อ่านจากกระทู้ของเพื่อน ๆ ว่าเป็นหนังสงครามที่น่าดูอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
 
                Das Boot U- 96 เป็นเรื่องเล่าถึงการต่อสู้ของเรือดำน้ำเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีการเกริ่นนำในเรื่องว่า ปี 1941 ที่ฐานทัพเรือดำน้ำของเยอรมันที่ La Rochelle ในฝรั่งเศส ซึ่งตอนนั้นยังถูกยึดครองโดยเยอรมัน ฮิตเลอร์หวังว่า กองเรือดำน้ำของเขาที่นี่ จะสามารถปิดล้อมมหาสมุทรแอตแลนติก และสามารถปิดกั้นการลำเลียงเพื่อส่งกำลังบำรุงต่าง ๆ ของพันธมิตรที่มายังประเทศอังกฤษซึ่งเป็นคู่สงครามกันได้
 
                แต่ความเป็นเจ้าทะเลของอังกฤษตั้งแต่อดีตนั้นก็ยังคงอยู่ กองเรือลำเลียงยังสามารถฝ่าการปิดล้อมของเรือดำน้ำได้อยู่ตลอดเวลาด้วยการใช้เรือพิฆาตเป็นอาวุธสำคัญในการคุ้มกัน เรือดำน้ำของเยอรมันถูกทำลายลงเป็นจำนวนมาก แม้ว่าเยอรมันจะทุ่มกำลังเข้าไปมากเท่าใดก็ตาม ก็ยังไม่สามารถที่จะเอาชัยต่อกองเรือของอังกฤษไปได้ เรือลำแล้วลำเล่า นักรบหนุ่มคนแล้วคนเล่า ที่ต้องสูญหายไปกับทะเลลึกอันเป็นสมรภูมิของพวกเค้า จากจำนวนทหารเรือของกองเรือดำน้ำร่วม 40,000 คนนั้น 30,000 คน ไม่ได้กลับมา
 
                หนังเปิดฉากที่สโมสรนายทหาร เป็นการเปิดตัวผู้การเรือ ต้นกล รอง 1 และ รอง 2 รวมทั้งหมวด เวอร์นเนอร์ ซึ่งเป็นนายทหารประชาสัมพันธ์ที่จะร่วมเดินทางไปกับเรือดำน้ำ U – 96 เพื่อที่จะกลับมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้แนวหลังฟังเป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้กับชาวเยอรมันที่มีความนิยมในตัวท่านผู้นำของเค้า
 
 
                ในสโมสร เราจะได้เห็นถึงอาการปลดปล่อยตัวเองจากความกดดันต่าง ๆ ในสมรภูมิของเหล่านักรบทั้งหลาย ซึ่งก็หนีไม่พ้นเหล้านั่นเอง หลายคนที่จัดว่าเป็น เฒ่าทะเล ออกอาการด่าว่าผู้นำของพวกเค้าที่สั่งให้พวกเค้ามารบ ท่ามกลางสายตาของนักรบหนุ่มบางคนที่มีความชื่นชมในตัวของท่านผู้นำอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนสนุกสนานกันเต็มที่ เพราะต่างรู้ดีว่า พวกเค้า อาจไม่มีโอกาสที่จะกลับมาสนุกอย่างนี้ได้อีก ซึ่งในขณะเดียวกันกับที่ต้นกลเรืออู – 96 ก็กำลังเครียดเรื่องเกี่ยวกับภรรยาของเค้าที่ป่วยอยู่ที่แผ่นดินแม่ โดยมีผู้การเรือคอยปลอบใจอยู่ด้วย
 
                เมื่อถึงเวลาออกเรือ เหล่าลูกนาวีหนุ่ม ๆ ต่างแสดงความกระตือรือร้นอย่างเต็มที่ที่จะได้ออกทะเลครั้งนี้ ทุกคนดูสดชื่นและมีขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยม เมื่อเรือออกจากท่า มีผู้คนมาส่งมากมาย รวมทั้งมีวงดุริยางค์มาร่วมบรรเลงอีกด้วย
 
บรรดาลูกเรือตั้งแถวก่อนออกทะเล
 
                ภายในเรือ หมวดเวอร์นเนอร์ ได้รับการพาทัวร์ทั่วลำเรือเพื่อให้รู้สภาพต่าง ๆ ซึ่งเหมือนกับพาเราเข้าทัวร์ด้วยละครับ เราจะได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แสนจะคับแคบ แออัด ที่นอนก็มีเพียงครึ่งเดียวของจำนวนคน โดยต่างก็เปลี่ยนกันใช้ที่นอนที่ว่านี้ระหว่างพวกที่เข้าเวรกับพวกที่พัก ในเรือเต็มไปด้วยอาหารที่พวกเค้าพยายามขนมาให้มากที่สุด เราจะเห็นอาหารเหล่านี้แขวนเต็มไปทั่วเท่าที่จะแขวนเก็บได้แม้แต่ในห้องยุทธการ ในขณะที่เรือทั้งลำ มีห้องส้วมเพียงห้องเดียวที่ใช้กันตั้งแต่ผู้บังคับการเรือลงมาจนถึงกลาสีคนสุดท้าย
 
                อาหารแต่ละมื้อนั้นจะมีโต๊ะแคบ ๆ สำหรับนายทหารเท่านั้น แคบขนาดที่ใครจะผ่านไปมาต้องขออนุญาตให้นายทหารคนใดคนหนึ่งลุกหลีกทางให้ ในขณะที่ลูกเรือจะต้องนั่งกินกันบนพื้นเรือด้วยถาดอาหารในบริเวณที่ที่พวกเค้าอยู่กันอย่างคับแคบนั่นเอง ลำบากขนาดนี้ ยังอยากออกรบกันเลยครับ
 
สภาพความเป็นอยู่ในเรือที่แสนจะคับแคบ
 
                ระหว่างการเดินทาง มีการฝึกดำฉุกเฉินในสถานการณ์ถูกโจมตี เหมือนอย่างที่เคยอ่านหรือเคยดูมานั่นแหละครับ ดำฉุกเฉินที ลูกเรือก็วิ่งไปหัวเรือที เพื่อเป็นการช่วยกดหัวเรือให้ดำลงได้เร็วขึ้น ทุกคนทำได้ดีมากครับ ดูจากที่ตอนเค้าแถมท้ายมาเป็นเบื้องหลังการถ่ายทำนั้น ได้ยินแว่ว ๆ ว่าทุกคนต้องฝึกกันเหมือนทหารเรือดำน้ำจริง ๆ เลย เวลาภาพที่ออกมาดูไม่สับสนวุ่นวายเลยครับ
 
                20 วันผ่านไปท่ามกลางทะเลที่คลั่งตลอดเวลา รวมทั้งหมอกที่ลงจัดอีกด้วย ผู้การเรือเริ่มเครียดแล้วครับ ยังหาข้าศึกไม่เจอเลยซักลำ ได้แต่ดักฟังข่าวของเพื่อนร่วมรบ เช่น อู – 37 ที่กำลังไล่ล่าคอนวอยของอังกฤษอยู่ แต่ อู – 96 อยู่ห่างเกินกว่าที่จะเข้าร่วมขบวนการล่าได้ทัน ทำให้ผู้การหัวเสียมาก
 
ผู้การ - ต้นกล
 
เวอร์เนอร์ - รอง2 - รอง1
 
                ต่อมามีข่าวจาก อู – 36 ว่าเจอขบวนเรือลำเลียงของอังกฤษร่วม 30 ลำ ผู้การสั่งลอยลำขึ้นผิวน้ำเพื่อให้ใช้เครื่องจักรทำความเร็วสูงสุดเข้าไปช่วย ตรงนี้ ขอขยายความนิดนึงนะครับสำหรับท่านที่สงสัย คือเรือดำน้ำนั้น เมื่ออยู่ใต้น้ำ จะใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้านะครับ ซึ่งทำความเร็วได้ระดับนึง อาจจะประมาณ 10 น๊อต มากน้อยกว่านั้นแล้วแต่แบบของเรือนะครับ แต่ถ้าอยู่บนผิวน้ำ สามารถใช้เครื่องจักรใหญ่ที่สามารถทำความเร็วได้สูงขึ้นอีกกว่าเท่าตัว ขออภัยสำหรับท่านที่ทราบเรื่องนี้แล้วด้วยนะครับ
 
                ต่อกันนะครับ เริ่มรบกันแล้ว แต่เป็นการถูกกระทำข้างเดียว เพราะระหว่างนั้น อู – 96 สามารถตรวจพบเรือพิฆาตของอังกฤษที่กำลังตั้งเข็มเข้าหาเรือ อู ที่ถูกตรวจพบก่อนพอดี ผู้การสั่งดำฉุกเฉินและประจำสถานีรบ แต่ไม่ทันที่จะใช้ ตอร์ปิโดร์ต่อสู้ได้ เรือพิฆาตซึ่งมีความเร็วสูงกว่ามากก็มาอยู่บนหัวซะแล้ว ผู้การต้องสั่งดำหนีการโจมตีด้วย Depth Charge หรือระเบิดน้ำลึกจากเรือพิฆาตอย่างหัวซุกหัวซุน การไล่ล่าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นครับ เรือพิฆาตใช้ โซนาร์ เป็นเครื่องมือในการค้นหา ฝ่ายเรือ อู ก็มีเครื่องฟังเสียงใต้น้ำไว้คอยตรวจสอบตำแหน่งเรือพิฆาต ผู้การต้องใช้ไหวพริบและความชาญฉลาดในการนำเรือหลบหนีข้าศึกที่หย่อนระเบิดน้ำลึกใส่หัวอยู่โครม ๆ   มีทั้งการเปลี่ยนระดับความลึกและทิศทางเรือเพื่อให้เรือพิฆาตหลงทาง ทุกคนต้องอยู่ในความเงียบ ขนาดเดินยังต้องย่องเลยครับ
 
หลบหลีกเรือพิฆาตที่มีระเบิดน้ำลึกเป็นอาวุธ
 
                หลังจากการสลัดหลุดจากการไล่ล่าของเรือพิฆาตมาได้ อู – 96 ก็พยายามที่จะตามหากองเรืออังกฤษต่อไปท่ามกลางความบ้าคลั่งของทะเลในมหาสมุทรแลตแลนติคในช่วงปลายปี คนในเรือหนวดเคราเริ่มรุงรัง อาหารเริ่มจะขาดแคลน ขนมปังมีราขึ้น อันนี้ผมเคยอ่านเจอเรื่องของสงครามเรือดำน้ำที่ผู้การประเทือง ศรีสุข เคยเขียนเอาไว้เหมือนกันครับ เมื่ออยู่ในเรือนาน ๆ ขนมปังเริ่มขึ้นรา แต่พวกเค้าไม่ทิ้งไปเลยนะครับ เค้าจะค่อย ๆ เฉือนราดำ ๆ นั่นออกไปทำซุปอีกที ในหนังก็เห็นนั่งเฉือนออกอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เห็นว่าเอาไปทำอะไรต่อ เห็นแต่อารมณ์ขันของรอง 2 อารมณ์ดีที่ยังบอกว่า อย่างน้อย ๆ ในเรือลำนี้ ก็ยังมีราขึ้นงอกงามออกมาได้
 
                ในระหว่างลาดตระเวน อู – 96 เกือบจะโดนกับเรือของ ทอมเซ็น ผู้การขี้เมาที่เจอกันเมื่อตอนต้นเรื่อง ทำให้ผู้การเรือ อู – 96 โมโหมากที่ไม่เจอเรือข้าศึกเจอแต่เรือพวกเดียวกัน บรรยากาศในเรือตรึงเครียดเพิ่มขึ้น ต้นกลก็คิดถึงเมียที่ป่วยอยู่ที่บ้าน กลาสีหนุ่มบางคนก็คิดถึงแฟนที่ฝรั่งเศส เฝ้าแต่เขียนจดหมายทุกวันทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะได้ส่งเมื่อไหร่ ที่น่าขำก็คือมี โลน ระบาดในเรือ เหล่ากะลาสีติดโลนกันหลายคน ไม่เว้นแม้แต่ รอง 1 ผู้เคร่งครัดและเนี๊ยบไปหมดแม้เวลากินอาหารก็ตาม นอกจากนั้น ผู้การยังกลัวว่าจะออกนอกเส้นทางเดินเรือทั่วไปที่คอนวอยของอังกฤษใช้กัน เพราะสภาพอากาศที่ปิดตลอดเวลาทำให้หาตำแหน่งเรือจากการวัดมุมแดดไม่ได้เลยมาสิบกว่าวันแล้ว
 
                และแล้ว ในที่สุดเวลาที่พวกเค้าเฝ้าคอยก็มาถึง เมื่ออากาศเปิด คลื่นลมสงบ อู – 96 สามารถตรวจพบคอนวอยขบวนหนึ่ง ผู้การสั่งนำเรือเข้ารบทันทีที่ระยะประมาณ 2,000 หลา อู – 96 ยิงตอร์ปิโดไป 4 ลูกก่อนที่เรือพิฆาตที่คุ้มกันคอนวอยมาจะตรวจพบและแล่นเข้าโจมตี ผู้การสั่งดำหนีการไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่ได้หนีการไล่ล่าเพียงอย่างเดียว แต่พวกเค้าเฝ้าฟังเสียงระเบิดจากตอร์ปิโดทั้ง 4 ลูกที่ยิงออกไปด้วยว่าจะถูกเป้าหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ตอร์ปิโด 3 ใน 4 ลูกถูกเป้าหมาย ในขณะที่เรือพิฆาตก็เข้าทำการโจมตีด้วยระเบิดน้ำลึกอย่างรุนแรง ไม่ใช่ลำเดียวนะครับ มากันถึง 2 ลำด้วยกัน ผู้การต้องใช้ฝีมืออย่างเต็มที่ในการนำเรือหลบหนีออกมาจากการโจมตีนั้นท่ามกลางความเสียหายที่ได้รับ และท่ามกลางความขวัญเสียของลูกเรือบางคนรวมทั้ง หมวดเวอร์นเนอร์ ที่กลัวจนหนีไปนอน ไม่รู้ว่าแกหลับลงไปได้ยังไงตั้งหลายชั่วโมง สู้รอง 2 ไม่ได้ครับ ระหว่างหลบหนีการไล่ล่าอยู่นั้น แกปวดฉี่ขึ้นมาก็ไม่ยอมยกมือขออนุญาตผู้การลาไปปัสสาวะ แกยืนฉี่ใส่กระป๋องตรงตำแหน่งประจำสถานีรบของแกนั่นเองครับ
 
ยิงตอร์ปิโดจมเรือในคอนวอย
 
แต่ที่แย่ที่สุดคือ โยฮัน ช่างเครื่องที่กรำศึกมาแล้วกับเรือดำน้ำถึง 9 ครั้ง แต่ครั้งนี้แกกลัวจนสติแตก จะพยายามหนีออกจากเรือทั้ง ๆ ที่ยังดำอยู่ใต้น้ำ ผู้การสั่งยังไงก็ไม่เชื่อ สติแตกแล้วนี่ครับ ผู้การต้องเข้าไปคว้า วอลเธอร์ พี – 38 จะเอามายิงทิ้ง ดีว่าต้นกลและพรรคพวกช่วยกันจับยัดไปไว้ที่ห้องเครื่องได้ทันซะก่อน เลยรอดตายไป
 
6 ชั่วโมงผ่านไป อู – 96 สามารถหลบหลีกการไล่ล่าของเรือพิฆาตทั้งสองลำออกมาได้ และขึ้นสู่ผิวน้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูผลงานจากตอร์ปิโดของเค้าซึ่งยังเหลือลอยลำติดไฟอยู่อีก 1 ลำ ตอนนี้เรือพิฆาตอังกฤษไปแล้วนะครับ ตั้ง 6 ชั่วโมงแล้วนี่นา คงคิดว่าเรือ อู จมไปแล้วมั๊ง แถมตอนไปดันไปเฉย ๆ ซะอีก ลูกเรือสินค้าที่รอดตายยังติดอยู่ในเรือที่ไฟโหมไหม้คึ่ก ๆ อยู่อีกตั้งหลายคนไม่ยอมช่วยรับไปด้วย ผู้การเรือ อู – 96 ไม่ทันเห็นนี่ครับ สั่งยิงตอร์ ฯ ไปอีกลูกเพื่อจะได้จม ๆ ไปซะจะได้ลงปูมเรือได้อย่างภูมิใจว่ายิงเรือจมไปแล้วกี่ลำกี่ตัน พอสั่งยิงไปลูกนึงที่ระยะไม่ถึงกิโลถึงได้รู้ว่ายังมีลูกเรือสินค้าติดอยู่ตอนที่เรือระเบิดจะจมลงนี่เอง พวกเค้าพากันเสียใจนะครับที่ไม่อาจช่วยเหลือรับลูกเรือเหล่านั้นขึ้นมาบนเรือเค้าได้ คงเพราะเคยมีเหตุการณ์ที่เรือดำน้ำเยอรมันหลังจากยิงเรือข้าศึกจมลงแล้ว และในขณะที่อยู่ในระหว่างช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิตขึ้นมานั้นปรากฏว่าถูกโจมตีจากฝ่ายข้าศึกอีกต่างหากทั้ง ๆ ที่ทางเรือ อู ได้ส่งสัญญาณทุกอย่างให้รู้แล้วด้วย
 
เรื่องนี้ผมอ่านเจอมาจากหนังสือของผู้การประเทือง ศรีสุข เช่นกันครับ ขออนุญาตนำมาเล่าย่อ ๆ นะครับ เรือลำนั้นคือเรือ อู – 156 ของผู้การ ฮาร์ทเทนสไตน์ ได้ยิงเรือ ลาโคเนีย ของสายการเดินเรือ คิวนาร์ด ไว้ท์สตาร์ (จำชื่อบริษัทเดินเรือบริษัทนี้ได้หรือเปล่าครับ คุ้น ๆ กันหรือเปล่า) ระวางขับน้ำเกือบสองหมื่นตันจมลงโดยมีคนบนเรือทั้งหมด 2,000 กว่าคน เรือ อู – 156 ได้เข้าไปช่วยผู้รอดชีวิต   และออกอากาศทางวิทยุเป็นภาษาอังกฤษซ้ำ ๆ กันอีกต่างหากว่า “ถ้าเรือลำใดที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้รอดชีวิต จะไม่ถูกโจมตีจากเรือ อู และ เรือ อู จะต้องไม่ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน” รวมทั้งการทำธงกาชาดขึงไว้บนเรือเพื่อให้เครื่องบินได้เห็นอีกด้วย แต่เรือ อู – 156 ยังถูกโจมตีด้วยเครื่องบินแบบ ลิเบอร์เลเตอร์ ติดเครื่องหมายธงอเมริกัน (???) อีกจนได้ แม้ว่าจะมีนักบินอังกฤษที่ทางเรือ อู ช่วยชีวิตขึ้นมาขออนุญาตผู้การเรือ อู – 156 ส่งสัญญาณไฟแจ้งข่าวแก่นักบินแล้วก็ตาม เครื่องบินลำนั้นทิ้งระเบิดลงมาถึง 5 ลูกทำให้เรือได้รับความเสียหาย กัปตัน ฮาร์ทเทนสไตน์ ต้องสั่งตัดเชือกเรือชูชีพและให้คนที่ช่วยเหลือขึ้นมาจากทะเลต้องโดดลงทะเลไปอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับสั่งดำฉุกเฉินโดยเรือได้รับความเสียหายหลายจุดด้วยกัน โชคยังดีที่นักบินได้พาเครื่องจากไปเสียก่อนหรือว่าระเบิดหมดก็ไม่รู้ซีครับ เรือ อู – 156 เลยยังไม่จมและพวกเค้าช่วยกันซ่อมจนเรือกลับมารบได้เหมือนเดิม ตอนนั้น เดอนิทซ์ แม่ทัพเรือเยอรมันยั๊วมาก เลยสั่งห้ามเรือดำน้ำของตัวทุกลำว่า ไม่ต้องช่วยเหลือลูกเรือของเรือทุกลำที่ยิงได้ แต่…เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 1942 นี่นา แล้วมาเกี่ยวอะไรกับเรือ อู – 96 วุ๊ย
 
เอาเป็นว่า อู – 96 ไม่ยอมช่วยลูกเรือเหล่านั้นก็แล้วกันนะครับ ด้วยเหตุผลที่ผู้การบอกว่า เรือเราเต็มแล้ว ตอนนี้ ลูกเรือเริ่มเหนื่อยกับทะเลและต้องการกลับบ้าน ผู้การตัดสินใจเดินทางกลับ แต่ได้รับคำสั่งใหม่ให้ไปรับอาวุธ อาหาร น้ำมันเพิ่มเติมจากเรือลำเลียงของเยอรมันที่ วิโก้ ประเทศสเปน จากนั้นให้นำเรือผ่านช่องแคบ ยิบรัลต้า เพื่อไปยังฐานทัพเรือ ลา สเปเซีย ด้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เจ้าช่องแคบนี้กว้างเพียง 7 ไมล์เท่านั้นและเรือรบอังกฤษอยู่เต็มไปหมด ผู้การรู้ว่าเสี่ยงมากที่จะนำเรือผ่านออกไปจึงวางแผนให้ต้นกลกลับบ้านไปหาเมียที่ป่วยพร้อมกับ หมวดเวอร์นเนอร์ ที่ไม่ใช่ลูกเรือโดยตรง
 
ชมภาพวิวทะเลบ้าง ทั้งยามสงบและยามปั่นป่วน
 
ที่เรือสินค้าซึ่งมาส่งสัมภาระให้นั้นมีเรื่องขำ ๆ เมื่อรอง 1 ซึ่งเนี๊ยบตลอดเวลาแต่งชุดเต็มยศขึ้นเรือในขณะที่นายทหารคนอื่น ๆ มอมแมมกันทั้งนั้น ผู้การเรือสินค้าเข้าใจผิดเข้าไปทักทายอย่างดีเลยละครับ และที่นี่เองที่หน่วยเหนือมีคำสั่งระงับการขึ้นบกของต้นกลและหมวดเวอร์นเนอร์ ทั้งสองคนต้องผจญภัยไปกับ อู – 96 อีกครั้ง
 
หลังจากรับเสบียงเสร็จ อู – 96 เริ่มออกเดินทางเพื่อผ่านช่องแคบ ยิบรัลต้า ที่เต็มไปด้วยอันตรายจากกองเรือฝ่ายข้าศึกที่เฝ้าช่องแคบนี้อยู่ ผู้การใช้แผนปลอบใจลูกเรือโดยบอกว่า จะเดินทางเวลากลางคืน เมื่อถึงเวลาผ่านช่องแคบ จะดำน้ำและค่อย ๆ ปล่อยให้เรือไหลไปตามกระแสน้ำเพื่อลดการตรวจจับจากฝ่ายอังกฤษ แผนนี้ มีแต่พวกเฒ่าทะเลที่กรำศึกมานานแล้วถึงรู้ว่าเป็นแค่แผนปลอบใจเท่านั้น แต่ทุกคนก็ยินดีที่จะติดตามผู้การของเขาไปทุกแห่งทุกที่ด้วยความเชื่อมั่นในฝีมือ
 
22.15 น. ขณะที่กำลังนำเรือบนผิวน้ำเพื่อจะหาจุดผ่านช่องแคบ เรือถูกโจมตีจากเครื่องบิน คริชบัม ต้นเรือบาดเจ็บสาหัส เรืออังกฤษที่อยู่รอบ ๆ บริเวณนั้นต่างแห่กันมารุมกินโต๊ะ อู – 96 เรือเสียหายมาก ต้องจมลงถึงก้นช่องแคบที่ความลึกประมาณ 280 เมตร หางเสือติด ระบบควบคุมการดำเสียหาย เรือทะลุรั่วหลายแห่ง ห้องแบตเตอร์รี่รั่ว เครื่องจักรใหญ่เสียหาย แต่ลูกเรือทุกคนยังมีขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม พวกเค้าใช้ความสามารถที่มีอยู่พยายามช่วยกันกู้ซ่อมเรือของพวกเค้า
 
ถูกเครื่องบินโจมตี
 
โยฮัน ทหารพรรคกลิน (ช่างเครื่อง) ที่เคยสติแตกตอนถูกโจมตีครั้งแรก ๆ นั้น ถึงเวลานี้กลับเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม จุดต่าง ๆ รวมทั้งท่อทางเดินที่รั่วทำให้น้ำเข้าท่วมเรือนั้น โยฮันได้ใช้ความสามารถพาลูกทีมเข้าจัดการอุดได้ทั้งหมด ทำให้เรือปลอดภัยขึ้นมาระดับหนึ่ง จากนั้น ทีมพรรคกลินที่เหลือนำโดยต้นกลฝีมือดีก็เข้าแก้ไขสถานการณ์เป็นจุด ๆ ไป ในขณะที่อากาศในเรือเริ่มจะน้อยลง ลูกเรือที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ถูกสั่งให้อยู่นิ่งและใช้เครื่องฟอกอากาศในการหายใจ การซ่อมดำเนินไปท่ามกลางความตรึงเครียดของทุกคน แต่ทุกคนเก็บอาการไว้ได้ดี
 
15 ชั่วโมงผ่านไป จากฝีมือของเหล่าพรรคกลินและลูกเรือทุกคน ความเสียหายต่าง ๆ กลับคืนสู่สภาพเกือบปกติ ต้นกลเข้ามารายงานผู้การถึงสภาพของเรือในขณะที่ตัวผู้การเองก็เริ่มท้อแล้ว ทุกคนดีใจที่จะได้กลับขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง ก่อนสั่งลอยลำขึ้น ผู้การได้ซักซ้อมแผนการต่าง ๆ รวมทั้งให้เตรียมการสละเรือถ้ามีการโจมตีจากเรือข้าศึก  เพราะขณะนี้ เรืออยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมรบกับใครเลย
 
โยฮัน ทหารพรรคกลิน ขณะกำลังฟังเสียงเครื่อง
 
และแล้ว เหมือนกับพระเจ้ายังปราณีไม่ให้พวกเค้าต้องฝังร่างตายอยู่ใต้ท้องทะเลทั้งเป็น เรือสามารถลอยลำขึ้นมาได้และไม่ปรากฎว่าจะมีเรือข้าศึกอยู่ในบริเวณนั้นอีกด้วย ข้าศึกคงคิดว่าได้ฝังพวกเค้าไว้ใต้ท้องทะเลไปแล้ว เรือเริ่มเดินเครื่องด้วยความเร็วเต็มฝีจักรกลับสู่ฐานทัพที่ ลา โรเชลล์ ท่ามกลางความดีใจของทุก ๆ คนในสภาพที่เรือโทรมเต็มที่
 
เมื่อถึงท่าเรือที่ ลา โรเชลล์ คริชบัม ถูกนำตัวขึ้นไปเป็นคนแรกเพื่อนำส่งโรงพยาบาลในทันที และในขณะที่ลูกเรืออื่น ๆ กำลังมีความสุขในการที่ได้กลับมาถึงฐานทัพของพวกเค้านั้น เครื่องบินข้าศึกนับสิบลำได้เข้าทำการโจมตีฐานทัพ ทุกคนรีบขึ้นจากเรือพากันหาที่หลบภัย หลายคนบาดเจ็บ และหลายคนต้องตายไป เช่น โยฮัน ช่างเครื่องฝีมือดีผู้ผ่านมาแล้ว 9 สมรภูมิ รอง 2 ผู้มีอารมณ์ดีตลอดเวลา พิลกริม ต้นหนคู่ใจของผู้การ ยังมีเจ้าหนุ่มน้อยหัวใจสีชมพูที่เฝ้าเขียนจดหมายถึงแฟนสาวทุกครั้งที่มีเวลาว่าง และ รวมทั้งผู้บังคับการเรือที่ก่อนจะหมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย ยังเฝ้ามองเรือคู่ใจของเค้าที่ค่อย ๆ จมลงไปจนหมดลำ คงจะสงสัยก่อนตายมั๊งว่า ทำไม เราอุตส่าห์นำเรือมาได้ขนาดนี้ ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ นานามาได้ กลับมาล่มเมื่อจอดซะนี่เอง
 
อุตส่าดั้นด้นมาถึงบ้าน กลับถูกโจมตีจน "เรือล่มเมื่อจอด"
 
เป็นหนังดูสนุกครับ ได้ความรู้เกี่ยวกับเรือดำน้ำหลาย ๆ อย่าง ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ ได้เห็นความสามัคคีกัน มีฉากที่ชวนให้ตื่นเต้นหวาดเสียวหลายฉาก โดยเฉพาะตอนเสียง โซนาร์ ข้าศึกดังปิ้ง ๆ อยู่บนหัว แล้วก็ตามมาด้วยระเบิดน้ำลึกตูมตามมาอีก ให้อารมณ์ร่วมมันดีครับ เป็นหนังสงครามเรื่องหนึ่งที่ทหารในหนังไม่ได้ยิงกันซักโป้งเดียว ยกเว้นตอนเมาเหล้าในสโมสรตอนต้นเรื่องนะครับ ตอนนั้นยิงเพราะความเมา แถมแม่นอีกต่างหาก ใครมีหนังเรื่องนี้อยู่ลองเปิดดูอีกทีซีครับ ยิงแม่นซะ…ไม่มี
 
                ผมชอบฉากสุดท้ายครับ ตอนที่ผู้การมองเรือแกค่อย ๆ จมลงไป ผมว่าเหมือนกับในเพลงพระราชนิพนธ์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาของทหารเรือไทยเลยครับ ตอนที่ว่า “ถึงเรือจะจมในน้ำธงไม่ต่ำลงมา” เพลง “ดอกประดู่” ไงครับ จำได้ไหม เหมือนในหนังเลยครับ เรือ อู – 96 ค่อย ๆ จมลงไปโดยที่ในขณะนั้น ธงสวัสดิกะ ก็ยังพริ้วอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งจมไปกับเรือ ใครชอบเพลงนี้บ้างครับ ผมมีเป็นรุ่นเก่าแก่มากเลยครับ ได้อารมณ์ไปอีกแบบจากที่ขับร้องและบรรเลงโดยวงดุริยางค์ทหารเรือ เพลงนี้ เคยคึกคักล่าสุดก็สมัยพลเรือเอกสงัด ชลออยู่ เป็นนายกรัฐมนตรี และก็ตอน วีรกรรมดอนแตง อีกครั้ง จากนั้นก็แทบไม่เคยได้ยินจากสื่ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของกองทัพเรืออีกเลย เป็นเพลงที่ฟังไปแล้วเห็นภาพตามได้อย่างชัดเจนเลยครับ รวมถึงเพลง “หนักแผ่นดิน” ที่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ น่าจะเอามาเปิดให้หลาย ๆ คนรู้ว่า “คนแบบไหน เป็นคนหนักแผ่นดิน”
 
"ถึงเรือจะจมในน้ำ ธงไม่ต่ำลงมา"
 
                สุดท้าย ขอขอบคุณ คุณสุรพล แห่งร้าน “โมเดลเวิลด์” สนามเป้า ที่กรุณามอบหนังเรื่องนี้ให้ผมได้มาดู และผมก็เอาเขียนคุยกันกับพวกเรา ขอขอบคุณอีกครั้งครับผม
 
                สำหรับเรื่องต่อไป ไหน ๆ เราก็ลงทัวร์เรือดำน้ำกันแล้ว เมื่อ อู – 96 จมลง เราย้ายเรือใหม่กันดีไหมครับ ผมว่าจะพาท่านลงเรือของอังกฤษบ้าง เรื่องต่อไปขอคุยกันถึงเรื่องเรือชื่อ Surprise จากหนังเรื่อง  Master and Commander กันนะครับ แล้วค่อยขึ้นบก ไปดูกันว่า ตะวันตกถูกพิชิตได้อย่างไร จากเรื่อง How the West Was Won ตามที่ webmaster คุยไว้ว่า…อยากได้ครับ เพื่อน ๆ สมาชิกท่านอื่น ๆ ว่าอย่างไรบ้างครับ…อืม…ไม่ขอเสียงดีกว่า…ขอไป…เก้อ…ทุกที
 
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด  หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
 
ชื่อเรื่อง                : Das Boot (The Boat)
ชนิดแผ่น             : DVD Soundtrack ความยาว 3 ชั่วโมง 27 นาที
ผู้จัดจำหน่าย       : Columbia Pictures ปี 1982
อำนวยการสร้าง  : Wolfgang Peterson
บทประพันธ์          : Lothar – Gunther Buchheim
ดารานำแสดง                
  • Jurgen Prochnow
  • Herbert Gronemeyer
  • Klaus Wennemann
  • Hubertus Bengsch
  • Martin Semmelrogge
หนังสืออ้างอิง       : “ฉลามเหล็ก” แปลโดย นาวาเอกประเทือง ศรีสุข สำนักพิมพ์ บงกช พ.ศ. 2523
 

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

  • (ยังไม่มี)

 
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ

หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ

Bookmark and Share

ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com

 

ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์

 



สงครามโลกครั้งที่ 2 - ยุโรป

Inglourious Basterds ยุทธการเดือดเชือดนาซี วันที่ 27/05/2013   23:02:43 article
The World at War สารคดีที่ช่วยให้เห็นภาพรวมสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 19/05/2013   11:26:48
The Boy in the Striped Pyjamas เด็กชายในชุดนอนลายทาง วันที่ 19/05/2013   11:30:27
สารคดีชุด The History Channel World War II จาก BBC วันที่ 19/05/2013   11:32:15
Escape from Sobibor แหกค่ายนรกนาซี วันที่ 19/05/2013   14:49:41
Defiance วีรบุรุษชาติพยัคฆ์ (กลุ่มนักสู้ยิวในเบลารุส) วันที่ 19/05/2013   14:50:16
Brother's War ยุทธการสกัดแผนการหลังม่านเหล็ก วันที่ 19/05/2013   14:51:09
Life Is Beautiful ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง(?) วันที่ 19/05/2013   14:52:30
Stauffenberg ในเวอร์ชันของเยอรมันเอง วันที่ 19/05/2013   14:54:02
Valkyrie : ยุทธการดับจอมอหังการ์อินทรีเหล็ก วันที่ 19/05/2013   14:55:25
Kelly's Heroes การเสียดสีความเป็นวีรบุรุษของอเมริกัน วันที่ 19/05/2013   14:57:02
Enigma รหัสลับพลิกโลก วันที่ 19/05/2013   14:58:01
The Fallen หลายฝ่ายหลายชีวิตกับความไร้สาระของสงคราม วันที่ 19/05/2013   14:59:09
ป้อมปืนนาวาโรน หนามแหลมมีพิษที่ยอกอกอังกฤษ วันที่ 19/05/2013   15:02:34
La Grande Vadrouille: หนังสงครามแนวตลกชั้นครู วันที่ 19/05/2013   15:04:14
Saints and Soldiers รบกันแต่อย่าเกลียดกัน??? วันที่ 19/05/2013   15:05:31
The Devil's Brigade กองพลน้อยปีศาจลูกผสมอเมริกัน-แคนาดา วันที่ 19/05/2013   15:06:55
The Battle of the River Plate วันที่ 19/05/2013   15:08:04
Mosquito Squadron นิยายรักนักบิน วันที่ 19/05/2013   15:12:40
Where Eagles Dare วันที่ 19/05/2013   15:14:27
THE EAGLE HAS LANDED (แผนสิบหกอินทรีเหล็ก) วันที่ 19/05/2013   15:15:36
The Pianist ความวิปโยคจากอคติทางเชื้อชาติ วันที่ 19/05/2013   15:17:06
The Last Armored Train ว่าด้วยรถไฟหุ้มเกราะในสงครามโลก วันที่ 19/05/2013   15:18:21
Days of Glory เมื่อพี่(ฝรั่ง)เศสยังติดหนี้คนอาหรับ วันที่ 19/05/2013   15:19:32
To Hell And Back สงคราม...สร้างวีรบุรุษ วันที่ 19/05/2013   15:21:01
The Great Escape แหกค่ายมฤตยู วันที่ 19/05/2013   15:22:20
Combat! คัมแบ็คในรูปแบบ VCD วันที่ 19/05/2013   15:23:45
D-Day the Sixth of June นิยายรักวันดีเดย์ วันที่ 19/05/2013   15:24:52
D-Day 6.6.44 สารคดี จาก BBC วันที่ 19/05/2013   15:25:59
The Atlantic Wall ปราการชายฝั่งยุโรป ของ ฮิตเลอร์ วันที่ 19/05/2013   15:27:09
Saving Private Ryan วันที่ 19/05/2013   15:28:34
Von Ryan's Express ด่วนนรกเชลยศึก วันที่ 19/05/2013   15:29:52
Memphis Belle ป้อมบินเย้ยฟ้า วันที่ 19/05/2013   15:30:55
Land and Freedom ความล้มเหลวของฝ่ายซ้ายใน สงครามกลางเมืองสเปน วันที่ 19/05/2013   15:34:12
633 ฝูงบินมัจจุราช วันที่ 19/05/2013   15:35:21
Cross of Iron อิสริยาภรณ์ แห่ง ความกล้า กับ ความบ้าเกียรติ วันที่ 19/05/2013   15:36:41
Kill Rommel การต่อต้านสงครามด้วยมนุษยธรรม วันที่ 19/05/2013   15:37:39
The Bridge at Remagen อีกยุทธการยึดสะพานที่คำสั่งเป็นพิษ วันที่ 19/05/2013   15:38:46
Donwfall (Der Untergang) ปิดตำนานบุรุษล้างโลก (ฮิตเลอร์) วันที่ 19/05/2013   15:52:54
Band of Brothers บทเรียนเรื่อง "ภาวะผู้นำ" วันที่ 19/05/2013   15:53:55
Nuremberg: ศาลยุติธรรม ระดับโลก หรือ ปาหี่ของผู้ชนะ? วันที่ 19/05/2013   15:55:43
Sophie Scholl กับ ขบวนการต่อต้านนาซี ใน เยอรมัน วันที่ 19/05/2013   15:56:49
โอมาร์ มุกตา ผู้หาญสู้ เผด็จการ ฟาสซิสต์ อิตาลี วันที่ 19/05/2013   15:58:04
แพตตัน การรบกับข้าศึก VS การแข่งขันกับพันธมิตร วันที่ 19/05/2013   15:59:18
Hitler the Rise of Evil ชีวิตของจอมเผด็จการที่เสมือนนิยายอมตะ วันที่ 19/05/2013   16:00:23
A Bridge Too Far ศึกสะพานนรก เพราะการวางแผนผิดพลาด วันที่ 19/05/2013   16:01:54
D-Day: Men and Machines สารคดี เบื้องหลัง การยกพลขึ้นบก ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ วันที่ 19/05/2013   16:03:14
ทัวร์ สงครามโลกครั้งที่สอง กับ กองพลที่ 1 สหรัฐฯ (The Big Red One) วันที่ 19/05/2013   16:04:20
Battle of the Bulge ยุทธภูมิรถถังที่อาศัยการตีความข้อมูลข่าวกรอง วันที่ 19/05/2013   16:05:30
Battle of Britain สงครามอินทรีเหล็ก วันที่ 19/05/2013   16:08:59
The Longest Day การยกพลขึ้นบก ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ วันที่ 19/05/2013   16:10:08
ยุทธภูมิเลือด Stalingrad วันที่ 19/05/2013   16:11:23
Enemy at the Gates : วีรบุรุษสามัญชนจากอูราลในสมรภูมิ สตาลินกราด วันที่ 19/05/2013   16:12:27
Dark Blue World (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:14:45 article
Hart's War (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:15:49 article



1

ความคิดเห็นที่ 1 (747)
avatar
Leo53

อยากขอความรู้เกี่ยวกับระเบิดน้ำลึกที่ทิ้งลงมาจากเรือพิฆาตครับ  ลักษณะการระเบิดจะระเบิดเมื่อกระทบกับเรือดำน้ำ หรือว่าระเบิดตามระดับความลึกที่ตั้งไว้ หรือระเบิดตามระยะเวลาที่ตั้งไว้ หรือ??? อ่านจากบทความแล้วสันนิษฐานว่าโอกาสที่เรือพิฆาตจะจมเรือดำน้ำได้มีไม่มากนัก?

 

ในสภาวะสงครามขณะนั้น กองทัพเรือเยอรมันมีแต่กองเรือดำน้ำเท่านั้นหรือครับที่จะสู้อังกฤษได้ กองเรือรบบนผิวน้ำถูกทำลายไปเกือบหมดแล้วหรือครับ?

ผู้แสดงความคิดเห็น Leo53 (chanchai-dot-d-at-chaiyo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-17 17:30:45


ความคิดเห็นที่ 2 (748)
avatar
โรจน์

เขาว่าเยอรมันไปเสียเรือรบในการรบกับสัมพันธมิตรที่นอร์เวย์หลายลำ ทำให้ไม่สามารถยกพลขึ้นบกที่อังกฤษ และต้องใช้เรือดำน้ำเป็นหลักตลอดสงครามครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (webmaster-at-iseehistory-dot-com)ตอบโดยเว็บมาสเตอร์วันที่ตอบ 2008-06-17 21:24:40


ความคิดเห็นที่ 3 (759)
avatar
countryboy

เรียน ท่าน Leo 53 ครับ

เรื่องระเบิดน้ำลึกนี่  เท่าที่ทราบมานะครับ  จะระเบิดที่ความลึกตามที่ตั้งไว้ครับผม  โดยเรือผิวน้ำ  จะใช้โซนาร์ตรวจจับเรือดำน้ำว่าอยู่ที่ตำแหน่งไหน  ความลึกเท่าไหร่  จากนั้น  จะกำหนดความลึกที่จะทำให้ระเบิดระเบิดขึ้นได้ครับ  คงจะอาศัยความกดดันของน้ำที่ระดับต่าง ๆ น่ะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น countryboy (fromcountryboy-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-18 14:19:51


ความคิดเห็นที่ 4 (893)
avatar
PT109

เรื่องนี้คล้ายเรื่อง U-571ครับแต่เรื่องU-571นั้นเป็นภารกิจของทหารเรือพันธมิตรที่ไปขโมยเครื่องอินิมาจากเรื่องอูฝ่ายเยอรมัน มีฉากเรือดำน้ำดำหนีระเบิดน้ำลึกเหมือนกัน มีใครเคยดูบ้างครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น PT109 (F-31-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-27 15:44:47


ความคิดเห็นที่ 5 (1132)
avatar
คนเล่าเรื่อง

ครับ เรื่องนี้ ผมเคยดูเมื่อนานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยยังไม่เข้าใจในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ  เคยได้ดูซ้ำตอนที่เคเบิ้ลนำมาฉายเมื่อหลายเดือนก่อนครับ

ที่จริง ทหารนาซี 40,000 คนที่ปฏฺบัติภาระกิจใต้ท้องทะเลนี้นับว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่ไม่ต้องกินกระทิงแดงหรืออะไรสีแดงที่คนเพื่อชีวิต (ตัวเอง) ผลิตออกมา  หนังทั้งเรื่องมาจบตรงที่ภาระกิจของพวกเขาน่าจะประสบความสำเร็จ  กลับบ้านอย่างวีรบุรุษ ได้รับเหรียญตรา  แตรที่หนังต้องจบด้วยความย่อยยับของฝ่ายเยอรมันแบบหักมุมนั้น ผมเดาว่า ผู้สร้างคงต้องการหลีกเลี่ยงการประท้วงจากประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ต้องการให้มีการนำเสนอความสำเร็จใดๆ ของพรรคนาซีเยอรมันในอดีตผ่านทางภาพยนตร์ก็เป็นได้ครับ (ลองสังเกตดูนะครับ ของเล่นเด็กจำพวกชุดทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ชองฝ่ายเยอรมันนั้น  จะมีแค่ตรากางเขนเหล็ก ไม่มีตราสวัสดิกะของพรรคนาซีเลย  เพราะหลายๆ ประเทศได้ห้ามเอาไว้)

สำหรับเนื้อเรื่องนั้น  ผมสังเกตว่ามีจุดที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นทหารมนุษย์ที่ฝ่ายเยอรมันเป็นจริง  ต่างจากการเป็นเครื่องจักรกลสงครามที่ฝ่ายชนะพยายามยัดเยียดเอาไว้ในหนังทุกเรื่อง (ทหารเยอรมันในฮอลลีวู้ดต่างมีบุคลิกดังนี้ คือ โหด อำมหิต เลือดเย็น  กักขฬะ หยาบคาย  แล้วบางทีก็โง่เง่า  ตายง่ายเป็นฝูงๆ )

ขอบพะรคุณครับกับบทความวิเคราะห์หนังประวัติศาสตร์ดีๆ ผมขอเชิญคุณ country boy ให้ช่วยออกความเห็นในหนังที่ผมวิเคราะห์หน่อยครับ โดยเฉพาะเรื่องเกียรติภูมิชาติทหารครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเล่าเรื่อง (danai-at-buu-dot-ac-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-14 17:14:02


ความคิดเห็นที่ 6 (1166)
avatar
โรจน์ (Webmaster)

ขอเสริมนิดนึงว่า เรื่อง "เกียรติภูมิชาติทหาร" พึ่งนำขึ้นเว็บเมื่อตะกี้ ดูได้ที่ http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538686577&Ntype=10 ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (Webmaster) (webmaster-at-iseehistory-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-15 22:43:23


ความคิดเห็นที่ 7 (98059)
avatar
ปู่หนัง

ขอเสริมเรื่องระเบิดน้ำลึกที่ค.ห.1ถามนั้นลองตอบตามเท่าที่พ่อเคยเล่าให้ฟังนะครับ(พ่อเป็นตะหานน้ำน่ะเคยพาไปดูเขาซ้อมด้วยล่ะพ่อเป็นครูฝึกน่ะครับ) ที่คุณคันทรี่ว่ามานั้นใช่ครับระเบิดน้ำนลึกนั้นจะระเบิดเมื่อได้ระยะความลึกที่ตั้งไว้ ถามว่ารู้ได้งัย เรือพิฆาต หรือพวกเรือที่ติดอาวุธปราบเรือดำน้ำนันจะมีเครื่องโซนาร์จับเสียงไอ้ที่ส่งดังป๊องๆ นันละแล้วเขาจะคำนวณความลึกประมาณว่าคล้ายกะที่นักเรียนเรียนตอนม.3นัน่ละครับ จากนั้นก็ตั้งค่าระดับความลึกพอยิงออกไปมันก็ดิ่งลงพอถึงความลึกที่กำหนดก็ตูม ถามว่าลูกระเบิดมันรู้ได้งัยหว่าว่าลึกแค่ไหนลองนึกเปรียบเทียบแบบนี้ครับประมาณว่าตอนเราเรียนหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์เขาให้เราคำนวณหาความสูงของภูเขาซึ่งเราหาจากความดันอากาศที่เปลี่ยนไปทำให้ความสูงของปรอทในหลอดแก้วเปลี่ยนไปพอจำกันได้ไหม คล้ายๆกันว่าเมื่อน้ำลึกมากขึ้นแรงบีบแรงกดของน้ำที่กระทำต่อตัวระเบิดก็เปลี่ยนไปแบบน้นละครับ ส่วนไอ้เจ้าระเบิดน้ำลึกที่ผมบอกว่ายิงนั้นเพราะตัวมันรูปร่างคล้ายถังนำมันแต่ติดอยุ่กับฐานที่มีลักษณะเป็นปีกและแกนเหมือนรุปตัวทีในภาษาอังกฤษเขาใช้ยิงจากเครื่องยิงมันก็ไม่ได้ไปไกลมากหรอกครับแต่อย่างน้อยก็ห่างจากเรื่อทียิงหน่อยไม่ใช่หย่อนทิ้งลงไปเฉยๆแล้วดันโดนตัวเองซะอีก การค้นหาเรือเป้าหมายก็จะวนไปรอบๆอาจมีเรือช่วยโจมตีมากกว่า 1 ลำ การหวังผลบางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่าจะหย่อนแล้วโดนตรงๆหรอกครับ เขาปูพรมด้วยระดับความลึกที่ต่างกันอยู่บ้าง แรงอัด แรงระเบิด แรงกดต่างๆ รวมทั้งการบังคับให้เรื่อต้องดำดิ่งลงลึกเกินกว่าจะทนได้ก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเรือดำน้ำได้จนอาจถึงขั้นหมดสภาพเข้าไปต่อตึกับใครได้อีก ฟลุ๊คจริงๆก็ตูมจมกันไปเลย แต่ผมว่าส่วนใหญ่มุ่งผลในการสร้างความเสียหายอย่างหนักจนพิการเสียมากกว่า การโจมตีแบบมองไม่เห็นตัวกันจะให้เหมือนเรือผิวน้ำคงยากครับ

ทั้งหมดนี้จากพ่อบ้างจากการเรียนรู้บ้างถูกผิดก็ขออภัยท่านที่รู้แบบกระจ่างแจ้งด้วยนะครับ อยากร่วมด้วยช่วยกันบ้างแค่นั้นเองครับผิดพลาดประการใดอย่าถือสานะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปู่หนัง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-09-30 08:20:20


ความคิดเห็นที่ 8 (98107)
avatar
โรจน์ (Webmaster)

 อ่านดูความเห็นของคุณ "ปู่หนัง" แล้ว  ทั้งความรู้และวิธีคิดนี่ระดับ "อาจารย์ปู่" เลยนะเนี่ย ท่าทางคงจะได้อ่านคอมเม้นต์ดีๆ อีกหลายอัน  โดยเฉพาะเรื่องที่ผมเขียนถ้ามีอะไรคลาดเคลื่อนก็วิจารณ์ได้เต็มที่เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (Webmaster) (webmaster-at-iseehistory-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-09-30 22:59:53


ความคิดเห็นที่ 9 (101584)
avatar
รอมเมล

 เด็กๆผมได้ดูสารคดีเป็นเบี้องหลังทำหนังเรื่องนี้ ออกทางช่อง11 กรมประชาสัมพันธ์  ทีมผู้สร้างเป็นชาวเยอรมันหมด ทำกันที่ประเทศเยอรมัน ทำให้ชื่อของผู้กำกับวูฟกัง พีเตอรเซ่นได้รับการยอมรับ เพราะการทำหนังทำด้วยเทคนิคง่าย เน้นมุมกล้องเอา หนังทำออกมาเข้าขั้นมาตราฐานฮอลลิวู๊ดเลย 

ความรู้สึกผมดูเรื่องนี้เหมือนดูสารคดีมากเลย ดูการใช้ชีวิตของลูกเรืออูที่ความเป็นจริง (ต่างกับหนังเก่าเรื่องนึงจำชื่อไม่ได้ เป็ยเรื่องการต่อสู้ของเรืออูกับเรือพิฆาตอเมริกัน ที่ตอนจบผู้การเรือพิฆาตแกล้งทำเป็นเรือจะจมหลอกให้เรืออูขึ้นมา เพื่อจะใช้ปืนใหญ่ยิงแทนการใช้เตอร์บิโด  แล้วเอาเรือพิฆาตพุ่งชนเรืออูส่ะเลย) ผู้กำกับจะเอาภาพในอดีดลูกเรือในอดีดมาเป็นแบบ ฉากกินอาหาร ดุแล้วน่าเหลือเชื่อจริงๆ กินอยู่ในเรือแต่ดูสะอาด ของจริงจะเป็นยังไงน้า อาหารของนายทหาร น่ากินจัง     ฉากระเบิดน้ำลึกระเบิดในน้ำ เป็นกล่องเล็กๆเอง พอระเบิดก็ไม่ได้ภาพที่น่าสนใจเลย แต่พอเอาภาพมาทำสโลโมชั่นกลับได้ภาพระเบิดใต้น้ำที่รุนแรงส่ะงั้น   ฉากเรืออูกลับฐาน ทีมผู้สร้างไปถ่ายสถานที่จริงในฝรั่งเศส ที่ร้างไปแล้วให้กลับฟื้นคืน   แล้วให้ชาวบ้านแถวนั้นแต่งชุดทหารเยอรมันมาต้อนรับ เรือU-96กลับฐาน

ภายหลังฮอลลิวู๊ดซื้อลิขสิทธิ์ ได้ทำการแต่งเสียงใหม่ เพราะเทคนิคด้านเสียงสมัยนั้นธรรมดามาก และเมื่อมีการนำเรื่องนี้มาทำขายเมื่อไร ต้องทำเสียงใหม่กันอีก  ผมซื้อเรื่องนี้หลายครั้ง ก็ไม่รู้ว่าเสียงดีขึ้นตรงไหน อันนี้ต้องโทษที่เครื่องผมไม่มีระบบรองรับเสียงระบบเซอรราว รอบทิศทาง เพราะแพงมาก 

Das Bootผมจำไม่ได้ว่าได้มาฉายในเมืองไทยป่าว แต่ได้ดู Das Boot มาในรูปวิดีโอเทป ไม่มีพากษไทย แล้วหนังเรื่อง The Hunt for  Red Octoberดังมาก ทำให้ Das Boot ได้รับความสนใจมากขึ้น จำไม่ได้ว่า เอาDas Bootกลับมาฉายใหม่หรือป่าว แต่แน่ๆวิดีโอ เรื่อง Das Bootกลับมาขายได้อีก แถมมีการตั้งชื่อเป็นภาษาไทยเรียบร้อย จำไม่ได้ว่ามีการพากษไทยหรือป่าว  เพราะวิดีโอเทปผม ราขึ้นเปิดไม่ได้ นั่นคือสาเหตุที่ผมซื้อเรื่องนี้หลายรอบ

คนที่รับบทผู้การเรืออูเลยได้อนิสง วูฟกังพีเตอรเซ่นพาไปเล่นหนังในอเมริกาส่ะเลย สมัยนั้นหลังสายลับกำลังขายได้ เลยได้งานแยะเลย ครั้งสุดท้ายที่วูฟกัง พีเตอรเซ่นร่วมงานกัน น่าเป็นเรื่อง Air Foce One ที่แสดงนำโดย แฮรรี่สัน ฟอร์ด เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

ผู้แสดงความคิดเห็น รอมเมล (goh_17-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-25 19:57:58



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker