กลับมาคุยกันต่อเรื่องการแต่งตัวใหม่ให้กับ Action Figure 1/6 ที่พูดถึงเมื่อคราวที่แล้ว เพื่อความสะดวกในการเล่าเรื่อง คงต้องตั้งชื่อให้ Figure ตัวนี้ซะที ไอ้ครั้นจะประกวดตั้งชื่อกันแบบลูกหมีแพนด้าก็เกรงจะใช้เวลานานไม่ทันใจ (เห็นประกวดกันตั้งแต่ผมยังไม่คิดจะซื้อ Figure ตัวนี้ด้วยซ้ำ จนถึงขณะที่เขียนเรื่องนี้ ผ่านมาเป็นเดือนก็ยังเรียกว่า "อาหมวย" อยู่ ไม่เห็นตัดสินเลือกชื่อไหนซะที เสียดายค่าไปรษณียบัตรแทนหลายๆ ท่านจริงๆ) จะตั้งชื่อว่า Hans ก็เป็นชื่อของคนเยอรมันที่จะโหลไปหรือเปล่าไม่ทราบ คิดไปคิดมาเอาชื่อ Rudolf ก็แล้วกัน เพราะขึ้นต้นด้วย ตัวอาร์ หรือ ร.เรือ เหมือนผม และตรงกับชื่อตัวละครค่อนข้างสำคัญตัวหนึ่งในเรื่อง Saints and Soldiers ครับ

ภาพแรกเป็นรูดอล์ฟตอนมาใหม่ๆ ดูเหมือนจะมีหมวกเหล็กกับซองแมกกาซีนของ MP40 เท่านั้นมั๊งที่พอจะบอกว่าเป็นทหารเยอรมัน แต่อาวุธที่ให้มาเป็นปืนยาวรุ่นสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือไงเนี่ย อาวุธกับกระสุนคนละเรื่องกันเลย เครื่องแบบก็ไม่เคยเห็นในสารบบของทหารเยอรมันมาก่อน

ภาพที่ 2 นี่คงไม่คิดมากกันนะครับ ลอกคราบรูดอล์ฟจนหมดก็จะเป็นเช่นนี้ ถ้าคุณไปดูตามเว็บที่ขายฟิกเกอร์พวกนี้จะเห็นรุ่นใหม่ๆ ที่มีข้อต่อตามแขนขาและลำตัวที่ทำให้มีท่าทางได้ใกล้เคียงธรรมชาติมากกว่า ผมชอบตรงที่มือของรูดอล์ฟนั้นสามารถกำและแบได้ โดยนิ้วชี้ กับนิ้วกลาง+นิ้วนาง+นิ้วก้อย เคลื่อนที่เป็นอิสระจากกัน แต่มีข้อเสียคือทำให้ฝ่ามือและหลังมือไม่สวย

ภาพที่ 3 นี้เป็นชุดเครื่องแบบของทหารกองพล Grossdeutschland ผลิตภัณฑ์ของ Toys City ที่ผมสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตมา บรรจุในกล่องสวยงาม มีเครื่องแบบและอาวุธยุทธภัณฑ์จำลองรวม 4 ถุง ถุงแรกเป็นเครื่องแบบประกอบด้วยเสื้อ กางเกง และเสื้อคลุม (Overcoat or Great Coat) ปกเสื้อจะมีแถบสีขาว บอกว่าเป็นทหารราบยศระหว่างสิบเอกถึงจ่าสิบเอก ถุงที่ 2 เป็นอาวุธปืน MP44 พร้อมแมกกาซีน แต่ก่อนเคยได้ยินว่าปืนชนิดนี้มีใช้เฉพาะในหน่วยเอสเอส แต่ในหนังบางเรื่องก็เห็นทหารธรรมดา (Wehrmacht) ก็ใช้ โดยเฉพาะกองพล Grossdeutschland นี้แม้ไม่ใช่เอสเอสก็เป็นทหารชั้นหัวกะทิเหมือนกัน ถุงที่ 3 เป็นบรรดาเครื่องสนามและอุปกรณ์ทั้งหลาย ถุงที่ 4 เป็นรองเท้าที่ทำด้วยวัสดุคล้ายหนังจริง ต่างจากรองเท้าของเดิมของรูดอล์ฟที่ทำด้วยยาง ส่วนหมวกผ้า (Side Cap ทหารไทยเรียกว่า "หมวกหนีบ" ครับ) และเครื่องหมายต่างๆ นั้น จำไม่ได้ว่าอยู่ในถุงไหน และไม่มีหมวกเหล็กมาให้ แต่ไม่เป็นปัญหาครับ มีของเดิมอยู่แล้ว
เพิ่มเติมเรื่องเครื่องแบบนิดนึงว่า บรรดาเครื่องหมายและเหรียญตราที่ให้มานั้น เราต้องติดบนเสื้อและหมวกเองโดยไม่มีคู่มือบอกเลยครับ ที่ง่ายที่สุดคือตราสามเหลี่ยมสำหรับติดหมวกนั้น เป็นสติ๊กเกอร์ที่ตัดมาให้พอดี ลอกกระดาษข้างหลังออกก็แปะกับหมวกผ้าได้เลย (เฮ!) แต่ตัวนกอินทรีนั้น ต้องหากรรไกรเล็กๆ หรือคัตเตอร์คมๆ มาตัดเอาเองให้ได้ขนาด นกอินทรีที่หน้าอกกับแผงคอซึ่งเป็นผ้า และเหรียญตราโลหะที่กระเป๋าเสื้อนั้น ทีแรกผมใช้เทปกาวสองหน้าอย่างใสๆบางๆ แต่เทปกาวที่ว่าคงจะเก่าเก็บไปหน่อย ทำให้ลอกเทปข้างหลังออกยาก ตอนหลังเลยต้องใช้กาวซิลิโคนช่วยบ้าง แม้หลายปีก่อนจะเคยประกอบชุดจำลอง 1/35 แต่ผลคือมีรอยเลอะเทอะนิดหน่อยตามระเบียบ ตอนติดบ่าหรืออินทนูนี่ก็ยุ่งเหมือนกัน แต่ละข้างเขาออกแบบมาเป็นสองด้านประกบกัน โดยเอาด้านเล็กสอดเข้าใต้ห่วงเสื้อตรงไหล่ แล้วส่วนหัวไปประกบกันตรงบ่าข้างๆ ต้นคอ แล้วเราจะต้องเจาะรูเสื้อตรงนั้นเพื่อใช้น็อตยึดอินทนูเข้ากับเสื้อ ตรงหัวน็อตอยู่ข้างบนก็จะเป็นเหมือนกระดุม ส่วนข้างในใต้เสื้อก็ใส่แหวนน็อตซ่อนไว้ ปัญหาคือทำยังไงจึงจะเจาะเสื้อให้เป็นรูขนาดพอดีๆ โดยไม่ให้ผ้าเสีย วิธีของผมคือหาของแหลมๆ เช่นไม้หรือเหล็กที่ไม่เป็นสนิมมาเจาะ กว่าจะได้เล่นเอาเหนื่อยครับ ที่แย่คือความจริงเสื้อคลุมที่ให้มานั้นถ้าจะใช้ก็ต้องติดอินทนูเช่นกัน แต่เขาให้อินทนูมาชุดเดียวครับ แปลว่าถ้าจะใช้เสื้อคลุมตัวนี้ต้องย้ายอินทนูจากเสื้อปกติมา แต่ผมไม่เอาด้วยแล้ว เก็บเสื้อไว้ดูเล่นดีกว่า และขอแนะนำว่าใครที่อยากจะเริ่ม "เล่น" หรือสะสมฟิกเกอร์พวกนี้ น่าจะพิจารณาของที่ทำสำเร็จใส่กล่องไว้แล้วจะดีกว่า

บ่นซะนาน มาดูรูปที่ 4 กัน พอรูดอล์ฟได้แต่งองค์ทรงเครื่องใหม่แล้ว ค่อยสมเป็นทหารเยอรมันยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นมาหน่อย ปืนพกในมือขวานั้นเป็นปืน Walther ครับ ไม่ใช่ Luger ที่กองร้อยอีซี่อยากได้กันนักหนา

ตะกี้ลืมคล้องกล้องส่องทางไกลครับ เอามาถือโชว์ในรูปที่ 5 กันหน่อย

รูปที่ 6 ลองใส่เสื้อคลุมยาวดู แต่ขี้เกียจย้ายอินทนูมา แล้วถ้าจะใส่พวกเครื่องสนามก็ต้องร่นเข็มขัดกันยกใหญ่

รูปที่ 7 รูดอล์ฟกับปืน MP44 พร้อมที่จะออกรบแล้ว

รูปที่ 8 บรรดาเครื่องสนามที่จำเป็น ถ้าจะให้พะรุงพะรังกว่านี้ ต้องมีพลั่วสนาม มีดดาบปลายปืน กับผ้า Zeltbahn ด้วย แต่เท่านี้ก็มากพอแล้ว

รูปที่ 9 ระเบิดขว้างแบบมีด้ามจับนี้ซื้อแยกต่างหากครับ

รูปที่ 10 เจ้า Panzerfaust นี่ก็ซื้อแยกเหมือนกัน
แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรมากกว่าการเล่นตุ๊กตา?
อันดับแรกก็คงเป็นเรื่องของการได้ศึกษาเรื่องเครื่องแบบทหารยุคต่างๆ ในประวัติศาสตร์ตามแต่เราจะเลือก ซึ่งที่จริงอาจมีทางเลือกอื่นๆ เช่น ในยุคอินเตอร์เน็ตนี้เราอาจเลือกการ save ภาพจากอินเตอร์เน็ตมาสะสมไว้ในฮาร์ดดิสก์แทนการตัดกระดาษได้ แต่โบราณท่านว่า "สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ" ครั้นจะหาเครื่องแบบจริงมาสะสมคงไม่ง่าย ไม่ว่าจะสั่งตัดในเมืองไทยหรือสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต ขนาดเครื่องแบบของจริงคงยุ่งยากต่อการสะสมหรือจัดเก็บจัดแสดงไม่น้อย ถัดมาก็คงจะเป็นเรื่องของการฝึกถ่ายภาพนี่แหละครับ
อีกประเด็นหนึ่งที่อาจนำไปต่อยอดได้ทั้งในเชิงการค้าและด้านความรู้ ในเมืองนอกนั้นเขาได้มีการเล่นฟิกเกอร์นี้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ขนาดของมันก็ค่อนข้างตายตัวคือ 12 นิ้ว หรือเกิน 30 เซ็นติเมตรนิดหน่อย การผลิตเสื้อผ้าสำหรับฟิกเกอร์พวกนี้ก็ทำนองเดียวกับเสื้อผ้าตุ๊กตาอื่นๆ อย่าง Barby หรือน้อง Blythe แต่จากการเป็นเครื่องแบบของทหารในประวัติศาสตร์จึงดูมีคุณค่ากว่าด้วยซ้ำ (สาวๆ ที่มีน้อง Blythe จะน้อยใจไหมเนี่ย) เชื่อว่าคงมีคนไทยที่ทำธุรกิจผลิตเสื้อผ้าตุ๊กตาอยู่บ้างแล้ว หากจะลองทำเสื้อผ้าของ Action Figure ดูบ้าง อาจเป็นอีกทางเลือกในการขยายตลาดไปต่างประเทศได้ นอกจากเครื่องแบบของทหารฝรั่งมังค่าแล้ว ของไทยๆ เราเอง ไม่ว่าจะทหารยุคโบราณเรื่อยมาถึงยุคสงครามโลก จนกระทั่งเครื่องแบบทหารในยุคปัจจุบัน อย่างชุดนักเรียนนายร้อย ชุดทหารราชวัลลภ ไหนยังจะชุดไทยเรือนต้น ชุดราชปะแตน ชุดพระราชทาน สารพัดชุดสารพัดเครื่องแบบที่น่าจะจำลองมาให้คนไทยและลูกหลานไทยได้เห็นและมีความภาคภูมิใจกันบ้าง สุดท้ายใครจะเป็นผู้ทำการบ้านนี้ก็ไม่ทราบได้ สำหรับผมและรูดอล์ฟต้องขอลาไปเตรียมตัวเขียนแนะนำภาพยนตร์เรื่องใหม่ๆ ซะทีครับ
หมายเหตุ : เปิดให้แสดงความคิดเห็นเฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ที่ด้านล่างสุด หรือสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในกรอบข้างล่างนี้ครับ