ในพระราขพงศาวดารพม่า พระนิพนธ์กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ตอนนี้ดังนี้ครับ
ตั้งล้อมกรุงและรบกับไทย
. . . ตามพระราชพงศาวดารไทยคือ พระยาพระคลัง (โกษาธิบดี) ยกกองทัพในกรุงและหัวเมืองเป็นคน ๑๐,๐๐๐ ออกไปตีค่ายพม่าซึ่งตั้งอยู่ปากน้ำประสรบ . . . พม่ายิงปืนมาถูกพลทัพไทยล้มลงสี่ห้าคนเท่านั้น ทัพไทยก็ล่าถอย ต่อนั้นมาอีก ๓ วัน พระยาพระคลังยกกองทัพออกไปตีค่ายนั้นอีก พม่าลวงเหมือนทีจะแตกหนีล่า ไทยรุกเข้าใกล้ค่าย พม่าตีโอบหลังยิงปืนพุ่งหอก ไทยตายมาก ก็แตกหนีกลับมาอีก ที่ข้างพม่าว่ากองทัพพม่าฝ่ายใต้ต้องรบพุ่งกับไทยเป็นการใหญ่นั้น ในพงศาวดารไทยไม่ใช่ทัพหลวง เป็นทัพราษฎรอาสาช่วยชาติโดยสมัครเอง คือ ครั้งนั้นพม่ารีดเอาเงินทองและลูกสาว ราษฎรไทยชาวเมืองวิเศษไชยชาญ เมืองสิงคบุรี เมืองสรรคบุรี ได้ความเดือดร้อน . . .
ครับ ก็ท่านอ้างถึงพระราชพงศาวดาร ต่อไปก็ต้องเป็นไปตามพระราชพงศาวดาร . . .
ส่วน "ประวัติศาสตร์พม่า" ซึ่งเพ็ชรี สุมิตร แปลจาก A History of Burma ของหม่องทินอ่อง Maung Htin Aung นั้น ไม่ได้กล่าวถึงว่ากองทัพพม่าต้องรบกับกองกำลังที่บ้านระจัน หรือกองกำลัง หรือประชาชนที่ต่อต้านกองทัพพม่าเลย และกล่าวถึงแต่การรบกับกองทัพไทยเท่านั้น
แต่ก็ อาจจะเป็นเพียงการไม่ได้บันทึกไว้ เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีบ้านระจัน
ส่วน "ไทยรบพม่า" นั้น ไม่ต้องกล่าวถึง
เรื่องเหตุการณ์ในการรบ การสงครามก็เป็นอย่างนี้แหละครับ มีบันทึกไว้ที่หนึ่ง ไม่มีบันทึกในหลายๆ ที่ เพราะการรวบรวมข้อมูลซึ่งต้องได้ไม่ครบถ้วนอยู่แล้ว การเห็นความสำคัญของผู้บันทึก ฯลฯ สารพัดนะครับ ผมว่า
และเรื่องปัญหาในตอนปลายกรุงศรีอยุธยาที่นำไปสู่กาลอวสาน นั้น ผมว่าสาเหตุสำคัญ คือ การเมืองภายในกรุงศรีอยุธยาเองซึ่งได้แย่งชิงอำนาจ และห้ำหั่นบั่นชีวิตฝ่ายแพ้ กันมาหลายครั้งหลายครา หลายสิบปีทำให้สูญเสียคนดีมีฝีมือไปมาก คนดีมีฝีมือคือต้องฝ่ายเรา หากไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องกำจัด ส่วนสาเหตุอื่นๆ ผมคิดว่าเป็นผลมาจากสาเหตุสำคัญนี้ทั้งนั้น
เท่านี้ก่อน นะครับ |