*  *  *

ทุ่งไหหิน  ๒๕๑๔

สถานการณ์เดิม  .  .  .

ด้าน ทชล.๒  .  .  .

          ฝ่ายเวียดมินห์พยายามที่จะรุกเข้าสู่ซำทอง  ล่องแจ้ง

          ในกลางเดือนมิถุนายน  ๒๕๑๓  กำลังฝ่ายเวียดมินห์เข้าตี  BI 13  ที่ซำทอง   และ  BI 14  ที่ภูล่องมาด

          ปลายเดือน  พฤศจิกายน  ๒๕๑๓    ก็เข้าตี  BI 15  ที่บ้านนา     แต่ยังไม่สามารถแย่งยึดพื้นที่ได้

 

ด้าน ทชล.๔  .  .  .  วีรกรรมที่บ้านห้วยทราย

          ต้นเดือนมกราคม  ๒๕๑๔    กำลังฝ่ายเวียดมินห์เข้าตีกองพันอาสาสมัครทหารเสือพราน  BP 41 และ BP 42  (BC 601 และ  BC 602)  บ้านห้วยทราย  เมืองปากเซ    แต่ต้องสูญเสียรี้พลเป็นจำนวนมาก  พบศพตามแนวรั้วลวดหนาม  จำนวน  ๑๓๑ ศพ

           ในเดือน  มีนาคม  ๒๕๑๔    BP 41 และ BP 42  (BC 601 และ  BC 602)  ได้รับคำสั่งให้รุกต่อไปถึงบ้านห้วยข่อย  กม.๓๒  ถนนหมายเลข ๒๓  (ปากเซ - ปากซอง)

สถานการณ์ต่อไป  .  .  .

 แนวรบด้าน ทชล.๒  มีนาคม - เมษายน  ๒๕๑๔

          การที่ฝ่ายเวียดมินห์พยายามรุกเข้าสู่ซำทอง  ล่องแจ้ง  มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๓  แต่ยังไม่สำเร็จนั้น    หากจะพิจารณากำลังที่ใช้จะเห็นว่า   ยังไม่เป็นการรุกใหญ่  อาจจะเป็นการเข้าตีเพื่อหยั่งกำลังฝ่ายเป็นกลางก็เป็นได้    ใน  พ.ศ.๒๕๑๔  นี้  ความพยายามของฝ่ายเวียดมินห์จะเป็นประการใด  เชิญติดตามต่อไป  .  .  .  เชิญครับ  .  .  .

 

กำลังฝ่ายขบวนการประเทศลาวและเวียดมินห์

          กรม ๑๔๘  ๑๗๔  ๑๖๕  และ กรม ๘๖๖   สามารถเข้ายึดพื้นที่บริเวณทุ่งไหหินไว้ได้ทั้งหมด   และเตรียมรุกต่อไปทางตะวันตก  และทางตะวันตกเฉียงใต้ของทุ่งไหหิน    ด้วยการนำปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีราบ (ปกร.) ขนาด  ๑๒๒  มม.  และปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ (ปบร.) ขนาด  ๘๕ มม.  จรวด  ๑๒๒ มม.  และเครื่องยิงลูกระเบิดขนาดต่างๆ  เข้ามายังชายทุ่งไหหินด้านตะวันตก  เมืองปาง  เมืองโปด    และเร่งสร้างทางเข้าสู่เด้านตะวันตกเฉียงใต้ของทุ่งไหหิน  เป็นสิ่งบอกเหตุว่าฝ่ายเวียดมินห์เตรียมการรุกเข้าสู่เมืองซำทอง  และเมืองล่องแจ้งซึ่งเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของฝ่ายรัฐบาล  (นายพลวังเปา)  ต่อไป

          เชิญดูทำเนียบกำลังรบทหารเวียดมินห์หน่อยนะครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ทำเนียบกำลังรบทหารเวียดมินห์  กองพล ๓๑๒  และกองพล ๓๑๖

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีราบขนาด  ๑๒๒ มม.  (ปกร.๑๒๒  มม.)  (ซ้าย)

ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบขนาด  ๘๕ มม.  (ปบร.๘๕ มม.)  (ขวา) 

 

กำลังฝ่ายขวาและฝ่ายเป็นกลาง

          หน่วยกองโจรพิเศษ    SGU.21  SGU.22  SGU.23  และ  SGU.24    
 
         กองพันอาสาสมัครทหารเสือพราน     BC 603  BC 604  BC 605 และ BC 606  (พัน.ทสพ.๖๐๓  . . .)
            
         กองพันอาสาสมัครทหารเสือพรานปืนใหญ่  BA 635   ประกอบด้วย   ๑ ร้อย.ปกค.๑๕๕ มม.,  ๑ ร้อย.ปบค.๑๐๕ มม.  และ  ๑ ร้อย.ค. ๔.๒ นิ้ว

 

บ้านนา  ยกสอง  เมษายน  ๒๕๑๔

          ฝ่ายเวียดมินห์เข้าตี  BI 15  และ ที่ตั้งยิง  PUNCHER  (BA 13)  มาครั้งหนึ่งแล้ว  เมื่อ  ๒๖  พฤศจิกายน  ๒๕๑๓

 

          ต้นเดือนเมษายน  ๒๕๑๔    ฝ่ายเวียดมินห์เริ่มโจมตีที่มั่นตั้งรับในพื้นที่บ้านนาด้วยปืนใหญ่  และเครื่องยิงลูกระเบิด  และส่งกำลังเข้าล้อมไว้    BI 15  ไม่สามารถดำเนินกลยุทธได้    ผู้บังคับกองพัน  BI 15  ขออนุมัติตีฝ่าวงล้อมเพื่อถอนตัว  แต่ไม่ได้รับอนุมัติ    หน่วยเหนือจะแก้สถานการณ์ให้

 

การแก้สถานการณ์ของหน่วยเหนือ

        หน่วยเหนือแก้สถานการณ์ให้ด้วยการส่งกองกำลังอาสาสมัครทหารพราน  จำนวน  ๒ กองพัน   คือ  BC 605 และ BC 606  ให้เข้าตีฝ่ายเวียดมินห์ที่บ้านนาทางทิศตะวันตก  และทางทิศใต้ของสนามบินบ้านนา  พร้อมกับขอการโจมตีทางอากาศสนับสนุนหน่วยที่บ้านนา  

          BC 605 และ BC 606  ได้รับภารกิจให้เข้ายึดเนิน ๑๖๖๓  ซึ่งเป็นภูมิประเทศสำคัญ  แต่เนื่องจากภูมิประเทศยากลำบาก    กำลังทหารพรานทั้งสองกองพันเคลื่อนที่เข้าสู่ที่หมายอย่างล่าช้า  สับสน  และไม่ทราบที่อยู่ที่ถูกต้องของหน่วย

          ระหว่าง  BC 605 และ BC 606  กำลังเคลื่อนที่เข้าสู่บ้านนานั้น    BI 15  และ ที่ตั้งยิง  PUNCHER  ถูกโจมตีด้วยอาวุธหนักอย่างรุนแรง  และฝ่ายเวียดมินห์ได้ส่งกำลังเข้าตีทางปีกซ้ายของ  BI 15  คือ  BI 15 ร้อย.๒    และสามารถเจาะเข้าในที่มั่นตั้งรับได้  ถึงขั้นรบประชิดเข้าตะลุมบอนกัน

          ในที่สุด  BI 15  ร้อย.๒  ต้องสูญเสียมาก  และไม่สามารถรักษาที่มั่นได้    กำลังส่วนที่เหลือต้องถอนตัวไปยังสนามบินบ้านนา

          ในเอกสาร  ระบุว่า  ที่ตั้งยิง  PUNCHER  ซึ่งมี ปกค.๑๕๕ มม. และ ปบค.๑๐๕ มม.  อย่างละ  ๒ กระบอก นั้น  ปืนใหญ่บางกระบอกชำรุด  แต่ไม่ได้บอกว่าเหลือปืนใหญ่ใช้การได้กี่กระบอก  และ  ไม่พบว่าปืนใหญ่  ทั้งที่ตั้งยิง  PUNCHER  และ ที่ตั้งยิง  ZEBRA  ได้สนับสนุนการตั้งรับของ  BI 15  นี้อย่างไร 

          อย่างไรก็ตาม  BI 15  และ ที่ตั้งยิง  PUNCHER  สามารถต้านทานการเข้าตี  และยังคงรักษาที่มั่นไว้ได้ต่อไป

 

 

๓  เมษายน  ๒๕๑๔

          ส่วน  BC 605 และ BC 606  ที่เคลื่อนที่เข้าสู่บ้านนานั้น  โชคร้ายมากจากการโจมตีทางอากาศที่หน่วยเหนือจัดให้ คือ ถูกระเบิดจากเครื่องบิน  F-4  Fanthom  เมื่อ  เวลาประมาณ  ๑๖๐๐  .  .  .  ครับ  .  .  .  เรียบโร้ย 

           BC 605 ร้อย.๒  สูญเสียมาก  .  .  .  หน่วยเหนือจึงอนุมัติให้  BI 15  และ  BA 13  ( PUNCHER)  ถอนตัวได้  เมื่อ  ๖  เมษายน  ๒๕๑๔    และสั่งให้  BC 604  เข้าปฏิบัติการแทน  BC 605

          BI 15  และ  BA 13  ถอนตัวในเวลา  ๒๔๐๐   (ต้องทำลายอาวุธประจำหน่วย)  เข้าหา  BI 14  ที่ภูล่องมาดได้ในอีก  ๒ วันต่อมา  และเคลื่อนย้ายทางอากาศต่อไปยังเมืองล่องแจ้ง  เพื่อฟื้นฟูหน่วย และเตรียมการรุกโต้ตอบต่อไป   

          เมื่อ  BI 15  และ  BA 13  ถอนตัวแล้วไม่นานฝ่ายขบวนการประเทศลาวและเวียดมินห์ก็เข้ายึดบ้านนาได้

๙  เมษายน  ๒๕๑๔ 

         กองพันอาสาสมัครทหารเสือพรานปืนใหญ่  BA 635  จัดกำลังเข้าที่ตั้งยิง  ZEBRA  แทน  BA 13  และที่ตั้งยิง  TIGER  บนสกายไลน์เทือกเขาสูงด้านเหนือเมืองล่องแจ้ง 

          ที่ซำทอง  มีที่ตั้งยิง "ภูฟ้า"  ปบค.๑๐๕ มม.จำนวน  ๒ กระบอก ของ  ทชล.๒   ตั้งอยู่แล้ว
 
 

 

โครงการ วีพี  .  .  .  จบโครงการ  .  .  .  เดินทางกลับ

          หน่วยตามโครงการ วีพี  ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่มีนาคม  ๒๕๑๓  ได้ถึงกำหนดจบโครงการ  ได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับ  ดังนี้ 

          BA 13  เดินทางกลับ  ใน  ๑๐  เมษายน  ๒๕๑๔

          BI 13  ที่เมืองซำทอง  ส่งพื้นที่ให้หน่วย  BC 605  เข้าทดแทน  และเดินทางกลับเมื่อ  ๒๕  เมษายน  ๒๕๑๔   

          BA 14  (ที่ตั้งยิง  EAGLE  เมืองซำทอง) และ  BI 15     เดินทางกลับ  ในกลาง เดือนพฤษภาคม  ๒๕๑๔    

          BI 14  ส่งพื้นที่ภูล่องมาด  ให้กับ  BC 603 และ  BC 607  เมื่อ  ๒๘  เมษายน  ๒๕๑๔  และเดินทางกลับ  ในกลาง เดือนพฤษภาคม  ๒๕๑๔
 
          เมื่อหลายหน่วยได้ถึงกำหนดจบโครงการ  ได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับ    ฝ่ายเป็นกลางจึงต้องปรับการวางกำลังเป็นดังนี้

          เมืองซำทอง     BC 605  เข้าทดแทน  BI 13

          ภูล่องมาด   BC 603  และ  BC 607  เข้าทดแทน  BI 14    

          เนิน ๑๖๖๓  (บริเวณบ้านนา)  BC 608  BC 609  เข้าทดแทน   BC 604 และ BC 606   

          BC 604 และ BC 606  รักษาและป้องกันเมืองล่องแจ้ง

อาสาสมัครทหารเสือพราน

          การรับสมัครกำลังพลเข้าเป็นทหารในกองทัพพระราชอาณาจักรลาวก็ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง  .  .  .

          เมษายน  ๒๕๑๔  เจ้าหน้าที่กองทัพพระราชอาณาจักรลาวก็รับสมัครกำลังพลเพื่อบรรจุในกองพันทหารปืนใหญ่อาสาสม้ครทหารเสือพราน อีก  ๑ กองพัน  - BA 636

 

Stabilized Line  .  .  .  ต้องสถาปนาให้ได้  และ เตรียมการรุกโต้ตอบ

          ฝ่ายเป็นกลางพยายามสถาปนา  Stabilized Line   ตามแนว  เนิน ๑๖๖๓  (บริเวณบ้านนา) ลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านเนิน ๑๙๐๐  (บริเวณภูล่องมาด) - ยอดภูผาไซไม่ให้ฝ่ายเวียดมินห์รุกผ่านต่อไปได้อีก    โดยใช้หน่วยต่างๆ  ดังนี้

          BC 604 และ BC 606  ยึดเนิน ๑๖๖๓  (บริเวณบ้านนา) ไว้อย่างเหนียวแน่น    ฝ่ายเวียดมินห์ยึดบ้านนาอยู่

          BC 603 และ BC 607   ที่บริเวณภูล่องมาดพยายามเข้าตีเพื่อยึดเนิน ๑๙๐๐ (บริเวณภูล่องมาด)         

          SGU  ของนายพลวังเปา  ก็สามารถยึดภูผาไซได้  เมื่อ  ๑๔  พฤษภาคม  ๒๕๑๔

 

.  .  .  ฤดูฝนกำลังจะเริ่ม  .  .  . 

 

ฝนมา  .  .  .  เวียดมินห์ไป 

          กองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ถอนตัวออกจากแนวรบ  เคลื่อนย้ายอาวุธหนักจากบริเวณชายทุ่งไหหิน  เมืองปาง  เมืองโปด  กลับไป  ทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ส่วนหนึ่ง    เพราะหากฝนตกหนัก  การเคลื่อนย้ายอาวุธหนัก และการลำเลียงกระสุนจะกระทำได้อย่างยากลำบากยิ่ง  อาจจะเป็นการเปิดเผยที่ตั้งจนถูกทำลายได้ง่าย    ฝ่ายเวียดมินห์ถอนกำลังไปทางตะวันออก  และทางตะวันออกเฉียงเหนือ  จากเมืองซำทอง  ล่องแจ้ง  ภูล่องมาด  บ้านนา  ผ่านทุ่งไหหิน  อย่างรวดเร็ว  .  .  .  เข้าสู่  .  .  .  เวียดนามเหนือ  .  .  . 
   
        ฝ่ายเป็นกลางจึงสามารถยันฝ่ายเวียดมินห์ไว้ได้ตามแผน  .  .  .  สามารถเข้ายึดถ้ำตำลึง  ภูล่องมาด  ภูผาไซ  ไว้ได้อย่างง่ายดายและมั่นคง  เมืองซำทอง  ล่องแจ้ง  ก็ปลอดภัย

          กองกำลัง ทชล.๒  ของนายพลวังเปา  รุกเข้าสู่ทุ่งไหหิน  จากด้านตะวันตกเฉียงเหนือ  ตะวันตก และด้านใต้ ได้อย่างรวดเร็ว    โดยหลีกเลี่ยงข้าศึกที่เผชิญหน้าอยู่  อ้อมไปยังพื้นที่ส่วนหลัง  เข้ายึดเสบียงอาหาร  อาวุธหนัก เช่น  ปืนใหญ่ขนาด  ๑๒๒  มม. ได้จำนวนหนึ่ง  คืออาวุธส่วนที่กองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ทิ้งเอาไว้ - (เพื่อกลับมาใช้ใหม่ ?)

                   ฝ่ายขบวนการประเทศลาวเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพ  และหยุดยิง  หยุดโจมตีทางอากาศอย่างสิ้นเชิง    แต่ฝ่ายเป็นกลางเห็นว่า  ฝ่ายขบวนการประเทศลาวและเวียดมินห์เป็นฝ่ายเสียเปรียบทางยุทธศาสตร์ และกำลังเพลี่ยงพล้ำ   จึงไม่ยอมเจรจา  และ  .  .  .  เตรียมการรุกโต้ตอบครั้งใหญ่ต่อไป
   
 

          ครับ  .  .  .  เมื่อฝ่ายเวียดมินห์เสียน้ำหนัก หรือแรงหนุนเนื่องในการรุก  ฝ่ายเป็นกลางและฝ่ายขวายันไว้ได้แล้ว  และ  .  .  .  ฝ่ายเวียดมินห์ต้องถอนกำลังกลับคืนสู่เวียดนามเหนืออย่างรวดเร็ว   

          กองกำลังฝ่ายเป็นกลาง  และฝ่ายขวาของรัฐบาลพระราชอาณาจักรลาวสามารถรุกโต้ตอบครั้งใหญ่กลับเข้ายึดทุ่งไหหินได้อย่างง่ายดาย  โดยประมาณสถานการณ์ว่า  ฝ่ายขบวนการประเทศลาวและเวียดมินห์ไม่มีขีดความสามารถทีจะรุกโต้ตอบได้  แต่  .  .  . 

?     ?     ?     ?     ?     ?     ? 

 

การรุกกลับเข้าสู่  .  .  .  ทุ่งไหหิน

มิถุนายน  ๒๕๑๔   

          BA 635/105  เปลี่ยนที่ตั้งยิงจาก  TIGER  บนเนินสกายไลน์  หน้าเมืองล่องแจ้ง  ไปเข้าที่ตั้งยิงใหม่    ที่ตั้งยิง  COBRA  ที่ภูห่วง  ยอดเนินทางด้านใต้ของทุ่งไหหิน  พร้อมกับ  BC 604    และ  .  .  .  กองกำลังทหารเสือพรานที่กองทัพพระราชอาณาจักรลาวรับสมัครจากประเทศเพื่อนบ้านก็เคลื่อนย้ายทางอากาศหลั่งไหลเข้าสู่ทุ่งไหหิน  ได้แก่

          BC 609  เข้าสถาปนาที่มั่นตั้งรับที่ภูเทิง  ยอดเนินทางด้านตะวันออกของทุ่งไหหิน

          BC 610  เข้าสถาปนาที่มั่นตั้งรับที่ภูเซอ  ยอดเนินทางด้านตะวันตกของทุ่งไหหิน

          BC 606  จากเนิน ๑๖๖๓  (บริเวณบ้านนา)  เข้าสถาปนาที่มั่นตั้งรับที่ภูเก็ง  ยอดเนินทางด้านเหนือของทุ่งไหหิน    
 
          ส่วนกองพันทหารอาสาสมัครเสือพรานอื่นๆ  ได้แก่  BC 603   BC 604   BC 605   BC 607   BC 608   BC 611   BC 612  ก็เคลื่อนย้ายเข้าสถาปนาที่มั่นตั้งรับในทุ่งไหหิน  ดังนี้

๑๒  กรกฎาคม  ๒๕๑๔   

          BA 635/155  เคลื่อนย้ายทางอากาศจากที่ตั้งยิง  ZEBRA  เข้าที่คั้งยิงใหม่ด้านตะวันออกของทุ่งไหหิน  ห่างจากภูเทิงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ  ประมาณ  ๔ กิโลเมตร  .  .  .  ที่ตั้งยิง  MUSTANG

๒๐  กรกฎาคม  ๒๕๑๔  

          - กองพันทหารปืนใหญ่อาสาสมัครเสือพราน  บีเอ ๖๓๖  (- ร้อย.ป.๑๐๕ มม.)  (BA 636/-105)  เคลื่อนย้ายสู่เมืองล่องแจ้ง

          - ร้อย.ป.๑๐๕ มม. กองพันทหารปืนใหญ่อาสาสมัครเสือพราน บีเอ ๖๓๖  (BA 636/105)    เคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่ ทชล.๔  ที่เมืองปากเซ 

สิงหาคม  ๒๕๑๔

          BA 635/ค.๔.๒      เข้าที่ตั้ง และสร้างที่ตั้งยิงใหม่ที่เชิงภูเก็ง  คือ  ที่ตั้งยิง  KINGKONG  มี  ปบค.๑๐๕ มม.  ๓ กระบอก  ปกค.๑๕๕ มม.  ๒ กระบอก  และ ค.๔.๒  นิ้ว  ๓ กระบอก         

          BA 636 (- ร้อย.ป.๑๐๕ มม.)    เคลื่อนย้ายทางอากาศเข้าที่ตั้ง และสร้างที่ตั้งยิงใหม่ที่เชิงภูเทิงด้านตะวันออกของทุ่งไหหิน  คือ  ที่ตั้งยิง  .  .  .  LION    มี  ปบค.๑๐๕ มม.  ๒ กระบอก  ปกค.๑๕๕ มม.  ๒ กระบอก  และ ค.๔.๒  นิ้ว  ๕ กระบอก

          BC 605  เคลื่อนย้ายจากซำทอง  เข้ายึดรักษาเชิงภูเทิง  เพื่อคุ้มกันที่ตั้งยิง  LION

พฤศจิกายน  ๒๕๑๔   

          BA 636  จัดกำลังจาก กองร้อย ค.๔.๒ นิ้ว  รับอาวุธ ปกค.๑๕๕ มม.จากที่ตั้งยิง MUSTANG  จำนวน  ๒ กระบอก  สร้างที่ตั้งยิงแห่งใหม่ทางด้านตะวันตกของทุ่งไหหินที่ภูแท่น  ที่ตั้งยิง  PANTHER    และ  BC 610  จัดกำลัง  ๑ กองร้อย  เป็นหน่วยระวังป้องกัน

 

              
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  ภาพจำลองการวางกำลังฝ่ายเป็นกลาง

 

 ธันวาคม  ๒๕๑๔   

          BA 636  จัดกำลังสร้างที่ตั้งยิงแห่งใหม่ทางด้านตะวันตกของทุ่งไหหินที่ภูเซอทางด้านตะวันตกของทุ่งไหหิน ที่ตั้งยิง  STRINGRAY  ใช้  ปกค.๑๕๕ มม.  ๒ กระบอก      BC 610  (- ๑ กองร้อย)  เป็นหน่วยระวังป้องกัน    

 

ครับ  ดูภาพจำลองแสดงการวางกำลังข้างต้นเป็นกำลังฝ่ายเป็นกลางเท่านั้น    ภาพต่อไปแสดงการวางกำลังทั้งสองฝ่าย  เชิญครับ  .  .  .

 

 

 

ภาพจำลองแสดงการวางกำลังทั้งสองฝ่าย  ในทุ่งไหหิน    ต้นเดือนธันวาคม  ๒๕๑๔

 

 

          ครับ  .  .  .  เมื่อฝ่ายเวียดมินห์เสียน้ำหนัก หรือแรงหนุนเนื่องในการรุก  ฝ่ายเป็นกลางและฝ่ายขวายันไว้ได้แล้ว  และ  .  .  .  ฝ่ายเวียดมินห์ต้องถอนกำลังกลับคืนสู่เวียดนามเหนืออย่างรวดเร็ว   

          กองกำลังฝ่ายเป็นกลาง  และฝ่ายขวาของรัฐบาลพระราชอาณาจักรลาวสามารถรุกโต้ตอบครั้งใหญ่กลับเข้ายึดทุ่งไหหินได้อย่างง่ายดาย  โดยประมาณสถานการณ์ว่า  ฝ่ายขบวนการประเทศลาวและเวียดมินห์ไม่มีขีดความสามารถทีจะรุกโต้ตอบได้  แต่  .  .  . 

กองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ไม่ถูกทำลายอย่างหนักจนหมดขีดความสามารถในการรบ

 

สถานการณ์ต่อไป  .  .  .  โปรดติดตามในตับ  "คนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว" .  .  . 

ผ ม ยั ง จำ ค ว า ม รู้ สึ ก นั้ น ไ ด้ จ น ทุ ก วั น นี้

 

 

 

 

สถานการณ์ต่อไป  .  .  .  ผ ม ยั ง จำ ค ว า ม รู้ สึ ก นั้ น ไ ด้ จ น ทุ ก วั น นี้

สถานการณ์ต่อไป  .  .  .  ผ ม ยั ง จำ ค ว า ม รู้ สึ ก นั้ น ไ ด้ จ น ทุ ก วั น นี้

สถานการณ์ต่อไป  .  .  .  ผ ม ยั ง จำ ค ว า ม รู้ สึ ก นั้ น ไ ด้ จ น ทุ ก วั น นี้