* * *
สงครามฝรั่งเศส - เวียดมินห์ (๘) - นายพล อองรี นาแวร์
สถานการณ์เดิม . . . จาก . . . นายพล ราอูล ซาลัง
- กุมภาพันธ์ ๒๔๙๕ นายพล ซาลัง สั่งถอนกำลังจากฮัวบินห์
- ยุทธการลอร์เรน ไม่บรรลุเป้าหมาย กองทหารฝรั่งเศส รุกลึกเข้าไปถึงฟูเยนบิงแล้ว นายพล เกี๊ยบไม่ส่งกำลังออกรบ นายพล ซาลัง จึงสั่งถอนกำลังกลับเข้าสู่แนวเดอ แลทเธอร์ ถูกซุ่มโจมตีขนาดใหญ่ที่ช่องเขาฉานมวง บนเส้นทางอาณานิคมหมายเลข ๒ สูญเสียมาก
- นายพล เกี๊ยบ ขยายผลต่อไป เข้ายึดที่มั่นขนาดเล็ก ที่บาเล และ ม็อกชาน และส่งกองพลที่ ๓๐๘ เข้าตีนาซาน
- การรบที่นาซาน จังหวัดซอนลา ตุลาคม - ๒ ธันวาคม ๒๔๙๕
ฝ่ายเวียดมินห์ใช้ยุทธวิธีคลื่นมนุษย์เข้าตี ฝ่ายฝรั่งเศสใช้ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศหยุดยั้งคลื่นมนุษย์ไว้ได้ นายพล เกี๊ยบสั่งถอนกำลัง ฝ่ายเวียดมินห์ต้องสูญเสียอย่างหนัก
ครับ . . . นาซานได้บรรลุผลสัมฤทธิ์ที่ไม่คาดคิด คือ หยุด "กองกำลังเวียดมินห์ซึ่งดูเหมือนว่าไม่สามารถหยุดได้" ลงได้
สถานการณ์ต่อไป . . .
สถานการณ์ในฤดูร้อน ๒๔๙๖
๗ พฤษภาคม ๒๔๙๖ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแต่งตั้ง พลเอก อองรี นาแวร์ (General Henry NAVARRE) เป็นผู้บัญชาการทหารในอินโด ต่อจากพลเอก ราอูล ซาลัง
อย่างไรก็ตาม นายพล ราอูล ซาลัง ได้เสนอแนวความคิดทางยุทธวิธี ว่าควรใช้ นาซาน เดียนเบียนฟู และไลเจา เป็นฐานที่มั่นให้สนับสนุนซึ่งกันและกันได้ แต่เป็นธรรมดาครับ ข้อเสนอของผู้ที่จากไปซึ่งไม่ต้องรับผิดชอบในการปฏิบัติอีกต่อไป แต่ผู้มาใหม่จะต้องรับผิดชอบเต็มที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ? เพียงใด ?
ภาพแสดงที่ตั้งของ นาซาน (อยู่ในจังหวัดซันลา) เดียนเบียนฟู และไลเจา
นายพล นาแวรร์ ได้เยี่ยมกองบังคับการ คลังส่วนหลัง หน่วยปฏิบัติการในสนาม ที่มั่นคอนกรีตในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ที่มั่นขนาดเล็กบนพื้นที่สูง ฐานปฏิบัติการในพื้นราบทางใต้ ที่ราบสูงตอนกลาง และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้อมค่ายที่นาซาน ซึ่งนายพล กีลส์บังคับบัญชากองกำลัง ๑๐,๐๐๐ สามารถสกัดกั้นเวียดมินห์ไม่ให้เข้าสู่แคว้นไท ทางตะวันตก และ . . . ป้องกัน ไลเจา (Lai Chau)
นาซานเป็นความสำเร็จทางยุทธวิธีของฝรั่งเศส แต่นาซานก็เป็นภาระในการรักษาไว้ต่อไปด้วย และต้องระดมอากาศยานในการส่งกำลัง และสนับสนุนอย่างมาก
นายพล นาแวรร์ มีความคิดว่า หากสถาปนาที่มั่นที่เดียนเบียนฟู ขณะที่ยังคงรักษานาซานไว้ จะเป็นการบังคับให้ฝ่ายเวียดมินห์ต้องแบ่งกำลังเป็นสองส่วนเพื่อเกาะค่ายทั้งสอง แต่ฝ่ายฝรั่งเศสเอง ก็ขาดแคลนกำลัง และมีข้อจำกัดอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถรักษานาซานไว้ได้ และหากรักษาต่อไปอาจจะเป็นการเปิดช่องให้เวียดมินห์โจมตีอีกได้
วิธีการ "นาซาน และ เดียนเบียนฟู" ดังกล่าว จึงเป็นไปไม่ได้
นายพล นาแวรร์ตกลงใจที่จะ "ปล่อย" นาซาน และส่งกำลังเข้าเดียนเบียนฟู นาซานมีคุณค่าที่จะเป็นภาพต้นแบบสำหรับเดียนเบียนฟู และคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จได้ดังเช่นที่นาซาน
ต้นเดือนมิถุนายน ๒๔๙๖ ขณะที่กำลังคิดคำนึงถึงการสถาปนาที่มั่นที่เดียนเบียนฟู นายพล นาแวรร์ คิดถึงการถ่าย หรือถอดแบบปราการที่นาซาน (ซึ่งไม่สามารถรักษาไว้ได้ต่อไป) มาใช้ที่เดียนเบียนฟู
ในเดือนสิงหาคม ๒๔๙๖ ได้สั่งการให้ถอนกำลังจากนาซาน รวมถึงไลเจา (Lai Chau) ที่อยู่ไกลขึ้นไปทางเหนือด้วย
นายพล กีลล์ส ผู้บังคับการทหารฝรั่งเศสที่นาซานสามารถใช้อุบายถอนตัวจากนาซาน โดยไม่สูญเสีย (ในเดือนสิงหาคม ๒๔๙๖)
รัฐบาลฝรั่งเศสพยายามที่จะแสวงประโยชน์ และป้องกันลัทธิคอมมิวนิสต์ในดินแดนที่เคยเป็นอาณานิคมของตนมาก่อน จึงพยายามขยายอิทธิพลเข้าไปในพระราชอาณาจักรลาวด้วย ใน ๒๘ ตุลาคม ๒๔๙๖ มีการลงนามในสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันกับรัฐบาลลาว ให้พระราชอาณาจักรลาวรวมอยู่ในสหพันธ์ฝรั่งเศส ดังนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสจึงสั่งการให้ นายพล นาแวรร์ มีภารกิจในการป้องกันพระราชอาณาจักรลาวด้วย
นายพล นาแวรร์ จึงต้องพิจารณาเลือกที่ตั้งฐานปฏิบัติการซึ่งสามารถจะตุ้มครองและเข้าปฏิบัติการในพระราชอาณาจักรลาวตอนเหนือได้สะดวก และกวาดล้างพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเวียดนามได้ด้วย
ในการเลือกที่ตั้งฐานปฏิบัติการซึ่งสามารถจะตุ้มครองและเข้าปฏิบัติการในพระราชอาณาจักรลาวตอนเหนือได้สะดวก นายพล นาแวรร์พิจารณาที่ . . . เดียนเบียนฟู
Why not in Dien Bien Phu ?
ที่นาซาน ฝ่ายเวียดมินห์ประสบความล้มเหลวอย่างนองเลือด เพื่อเป็นการป้องกันพระราชอาณาจักรลาวไว้ได้ด้วยกำลังเท่าที่มี นายพล นาแวรร์ ต้องการสร้างที่มั่นแข็งแรงในแคว้นไท และควบคุมเส้นทางผ่านที่สำคัญของฝ่ายเวียดมินห์
เดียนเบียนฟู สามารถเป็นฐานอากาศ - พื้นดินที่มีประสิทธิภาพล้ำหน้าซึ่งปฏิบัติการรุกได้สำเร็จในบริเวณ นี้ . . .
นายพล นาแวรร์เห็นว่าได้พบเงื่อนไขทั้งหมดของนาซานแห่งใหม่ และพร้อมที่จะปฏิบัติดังที่นาซานอีกที่ . . . เดียนเบียนฟู . . . Why not in Dien Bien Phu ?
นายพล นาแวรร์ถือหลักที่ว่า ไม่มีการปราบปรามที่ปราศจากการปะทะ และมีความคิดจะยึดและสถาปนาฐานที่มั่นที่เดียนเบียนฟู ให้เป็นฐานปฏิบัติการอากาศ - พื้นดินที่มีประสิทธิภาพล้ำหน้า เพื่อสกัดกั้นเวียดมินห์ไม่ให้เข้าสู่พระราชอาณาจักรลาว ตามนโยบายรัฐบาลฝรั่งเศสอีกด้วย
แนวความคิดของ นายพล นาแวรร์ ที่ต้องการสถาปนาที่มั่นที่เดียนเบียนฟู เพื่อ
๑. รักษาความมั่นคงในพระราชอาณาจักรลาวตอนเหนือ
เนื่องจากเส้นทางที่ฝ่ายเวียดมินห์ใช้ในการติดต่อระหว่างพระราชอาณาจักรลาวกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จะต้องผ่านเดียนเบียนฟู หากฝรั่งเศสยึดเดียนเบียนฟูไว้ได้แล้ว เป็นการขัดขวางการติดต่อดังกล่าว จะทำให้พระราชอาณาจักรลาวตอนเหนือปลอดภัยได้ด้วยกำลังเท่าที่มี ตามนโยบายรัฐบาลฝรั่งเศส
๒. ลดความกดดันในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง
เนื่องจากในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงเป็นที่ชุมนุมกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ซึ่งกดดันฝรั่งเศสอยู่ หากมีฐานที่มั่นที่เดียนเบียนฟู อาจเป็นการทำให้ฝ่ายเวียดมินห์ต้องนำกำลังออกจากพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง (มาที่เดียนเบียนฟู) บ้าง
๓. ใช้เป็นฐานทัพอากาศหน้า
หากสถาปนาเดียนเบียนฟูให้เป็นฐานปฏิบัติการอากาศ - พื้นดินที่มีประสิทธิภาพล้ำหน้า จะสามารถโจมตีเส้นทาง และขบวนส่งกำลังบำรุงของฝ่ายเวียดมินห์ได้สะดวกรวดเร็ว ทำให้การปฏิบัติการรุกในบริเวณนี้เป็นผลสำเร็จ
๔. ใช้เป็นที่บดเนื้อ
หากฝ่ายเวียดมินห์ใช้กองกำลังขนาดใหญ่โจมตีด้วยยุทธวิธี "คลื่นมนุษย์" ต่อที่มั่นเดียนเบียนฟูนี้เช่นที่นาซานอีก จะเป็นโอกาสอันดีที่จะทำลายกองกำลังขนาดใหญ่ของเวียดมินห์ให้ย่อยยับไปได้ ดังที่นาซานอีกเช่นกัน
ข้อเสียทางยุทธการของเดียนเบียนฟูต่อฝ่ายฝรั่งเศส - "มีแนวโน้มที่จะเป็นกับดัก"
๑. จำนวนสิ่งอุปกรณ์ที่ต้องส่งไปสนับสนุนเดียนเบียนฟูมีปริมาณมหาศาล ต้องระดมอากาศยานที่มีอยู่อย่างมาก
๒. เนื่องจากเดียนเบียนฟูสามารถติดต่อกับฮานอยได้ด้วยการคมนาคมทางอากาศเท่านั้น และระยะทางระหว่างเดียนเบียนฟู กับ ฐานทัพอากาศฮานอย ซึ่งอยู่ห่างไปทางตะวันออกถึง ๒๘๐ กิโลเมตร จึงเป็นอุปสรรคในเรื่องต่างๆ เช่น
- การสนับสนุนทางอากาศยุทธวิธี เกิดข้อจำกัดเนื่องจาก เกินรัศมีทำการของเครื่องบินขับไล่จากกรุงฮานอย
- การสนับสนุนและการซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้ำหนักมาก
๓. สภาพอากาศที่แปรปรวนในที่สูงจะเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติการทางอากาศ อีกด้วย
"มีแนวโน้มที่จะเป็นกับดัก"
ได้มีการคัดค้านการเลือกเดียนเบียนฟู ด้วยเหตุผลหลักคือ การดำรงการเชื่อมต่อทางอากาศกับกรุงฮานอยซึ่งอยู่ไกลออกไปถึง ๒๘๐ กิโลเมตร สภาพอากาศที่แปรปรวนอยู่เสมอในพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งนายทหารอากาศที่รับผิดชอบการสนับสนุนกำลังภาคพื้นดินก็ได้เสนอข้อคืดเห็นด้วย
นายพล กีลล์ส อดีตผู้บัญชาการที่นาซานไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง และเห็นว่า "มีแนวโน้มที่จะเป็นกับดัก"
ถึงกระนี้กระนั้นกระไรก็ตาม . . .
นายพล นาแวรร์ ได้ตกลงใจ . . . "ยึด และรบ ที่เดียนเบียนฟู"
เดียนเบียนฟู - เมืองแถงของไทยในอดีต
หมู่บ้านเมืองทันห์ (Moung Thanh) ในเมืองเดียนเบียนฟู (Dien Bien Phu) เมืองแถงของไทยในอดีต จังหวัดไลเจา (Lai Chau)
หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ยาวตามแนวเหนือ - ใต้ ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร ส่วนกว้าง ตะวันออก - ตะวันตก ประมาณ ๕ - ๗ กิโลเมตร มีเส้นทางตามแนวเหนือ - ใต้ ขนานกับลำน้ำยวม และน้ำโค
หุบเขาสีเขียวด้วยนาข้าว พืชผัก ต้นไม้ ป่าไม้บนลาดเนินเขา และล้อมรอบด้วยภูเขา บนพื้นราบมีบ้านใต้ถุนสูงตั้งกระจายเป็นจุดๆ ภูมิทัศน์สงบ ปลอดโปร่ง แบบชนบท น่าเพลิดเพลิน มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่กลางที่ราบ ประชาชนเป็นชาวไทยดำ
มีสนามบินขนาดเล็ก สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๓ (ค.ศ.๑๙๒๐) และยังใช้ได้อยู่ จำเป็นต้องบูรณะขยายเพื่อให้รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้
ชุมทางถนนไปสู่ พระราชอาณาจักรลาว ประเทศไทย สหภาพพม่า และสาธารณรัฐประชาชนจีน
สายตะวันออกเฉียงเหนือ ไปสู่ ไลเจา
สายตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ ไปสู่ ตวนเกียว ซอนลา นาซาน และฮ้วบินห์
สายตะวันตก ไปสู่ เมืองหลวงพระบาง
สายใต้ ไปสู่ ซำเหนือ
ในช่วงปลายปี ๒๔๙๖ ฝ่ายฝรั่งเศสเห็นว่าเดียนเบียนฟู อยู่ห่างจากฮานอยถึง ๒๘๐ กิโลเมตร ควรวางกำลังไว้ ๒ กองพล และวาดภาพการรบว่า ฝ่ายเวียดมินห์สามารถทำการสู้รบได้เพียงขนาดเล็กเท่านั้น มีปืนใหญ่จำกัด และจะถูกทำลายอย่างง่ายดาย
แนวความคิดของฝ่ายฝรั่งเศส
แผนนาแวรร์ - Navarre Plan
ฝ่ายฝรั่งเศสได้กำหนดแผนนาแวรร์ Navarre Plan เป็นแผนยุทธศาสตร์ในการดำเนินการต่อฝ่ายเวียดมินห์ โดยแบ่งการปฏิบัติออกเป็น ๒ ขั้น ดังนี้
ขั้นที่ ๑ รวมกำลังทำตอนใต้ให้มั่นคง ออมกำลังตอนเหนือ (mentalite' de'fensive - defensive mentality)
จากเส้นขนานที่ ๑๘ ขั้นนี้มุ่งสถาปนาพื้นที่ส่วนใต้เส้นขนานที่ ๑๘ ให้มั่นคงเสียก่อน และออมกำลัง (พยายามไม่ใช้กำลังกำลังขนาดใหญ่) ในพื้นที่ส่วนเหนือเส้นขนานที่ ๑๘ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อิทธิพลของฝ่ายเวียดมินห์
ขั้นที่ ๑ นี้ จะดำเนินการไปจนถึงกลางปี พ.ศ.๒๔๙๗
ขั้นที่ ๒ รวมกำลังรุกใหญ่ในตอนเหนือ (la bataille ge'ne'rale - offensive)
เมื่อพื้นที่ส่วนใต้เส้นขนานที่ ๑๘ มั่นคงแล้ว จึงรวมกำลังขนาดใหญ่ทำการรุก และกวาดล้างในพื้นที่ส่วนเหนือเส้นขนานที่ ๑๘
ขั้นที่ ๒ นี้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางปี พ.ศ.๒๔๙๗ ไปจนถึง พ.ศ.๒๔๙๙
ถึงแม้เป็นแผนทางการทหาร แต่จุดประสงค์นั้นไม่ใช่เพื่อจะทำลายกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ แต่เป็นการหาทางออกในการรักษาผลประโยชน์ร่วมกันในคาบสมุทรอินโดจีน ระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนามและ . . . ฝรั่งเศสน่าจะพยายามทำการรบให้ได้ชัยชนะ หรือได้เปรียบในสถานการณ์สงครามเพื่อประโยชน์ในการเจรจา และ . . . หาทางออกจากเวียดนามอย่างสง่างาม
แผนนี้สอดคล้องกับยุทธศาตร์ของรัฐบาลฝรั่งเศส
แผนนาแวรร์ - มุมมองของฝ่ายเวียดมินห์
ฝ่ายเวียดมินห์มองแผนนาแวรร์ว่า มีความมุ่งหมายที่จะกวาดล้างกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์และยึดครองดินแดนเวียดนามทั้งหมด
แนวความคิดของฝ่ายเวียดมินห์
แผนยุทธศาตร์ของฝ่ายเวียดมินห์
๑. ระดมกำลังไว้ในเขตที่มั่นเปิดของฝ่ายฝรั่งเศส
๒. ทำลายกำลังฝรั่งเศสและยึดดินแดนบางส่วนคืน
๓. กดดันให้ฝรั่งเศสต้องกระจายกำลังออกไปเป็นหน่วยขนาดเล็ก
เมื่อนายพล นาแวรร์ตกลงใจเข้ายึดเดียนเบียนฟูนั้น กองพันที่ ๙๑๐ กรมที่ ๑๔๘ กองพลที่ ๓๑๖ ของเวียดมินห์ยึดอยู่แล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๔๙๕
ครับ . . . เมื่อผู้บังคับบัญชาตกลงใจอย่างไรแล้ว ฝ่ายเสนาธิการ และผู้บังคับหน่วยชั้นรองลงไปก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะผู้บังคับบัญชาก็มีการประมาณสถานการณ์เหมือนกัน และเป็นผู้รับผิดชอบในความสำเร็จหรือล้มเหลวของการปฏิบัติ ทุกคนจะพยายามปฏิบัติให้ข้อตกลงใจของผู้บังคับบัญชาดำเนินไปสู่ความสำเร็จให้จงได้ (แม้ว่าจะไม่ตรงกับความคิดของตน)
นายพล กีลล์ส ผู้บัญชาการกองกำลังส่งทางอากาศ ได้รับภารกิจนำกำลังส่งทางอากาศโดดร่มลง ณ หมู่บ้านเมืองทันห์ ในเดียนเบียนฟู ตามแผนยุทธการคาสเตอร์
ครับ เราจะได้ติดตามยุทธการคาสเตอร์ในสถานการณ์ต่อไป . . . ยุทธการคาสเตอร์ ยึดเดียนเบียนฟู
สถานการณ์ต่อไป . . . ยึดเดียนเบียนฟู (๑) ยุทธการคาสเตอร์
สถานการณ์ต่อไป . . . ยึดเดียนเบียนฟู (๑) ยุทธการคาสเตอร์
สถานการณ์ต่อไป . . . ยึดเดียนเบียนฟู (๑) ยุทธการคาสเตอร์