* * *
สัญญา ๖๐ ปี ของ สาธารณรัฐเกาหลี
๖๐ ปีก่อน เช้าตรู่ของวันที่ ๒๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๓ สงครามเกาหลีได้อุบัติขึ้น เมื่อเกาหลีเหนือประเทศคอมมิวนิสต์ได้รุกรานเกาหลีใต้เป็นเหตุให้มนุษยชาติ และอิสรภาพแห่งเกาหลีใต้ได้ถูกนำขึ้นสนามทดสอบแห่งประวัติศาสตร์ สงครามเกาหลีถือเป็นการเผชิญหน้าทางการทหารที่ยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกของกองกำลังฝ่ายประชาธิปไตยกับกองกำลังฝ่ายคอมมิวนิสต์ ในการนี้สหประชาชาติได้ส่งกองกำลังทหารจาก ๑๖ ประเทศสมาชิกพร้อมด้วยหน่วยอาสาพยาบาลจาก ๕ ประเทศไปยังเกาหลีใต้ พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยแม้แต่จะได้รู้จักหรือพบหน้ากันมาก่อน แต่กลับมาร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารเกาหลีในต่างดินแดนที่แสนไกล เพื่อรักษาไว้ซึ่งอิสรภาพของชาวเกาหลีใต้
ในวาระครบรอบวันที่ระลึก ๖๐ ปีสงครามเกาหลี ข้าพเจ้าขอย้อนระลึกถึงความสัมพันธ์อันแสนพิเศษระหว่างประเทศเกาหลีใต้กับประเทศไทยของท่าน และขอกล่าวถึงความร่วมมืออันจะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อสงครามเกาหลีได้อุบัติขึ้น ประเทศไทยของท่านเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วในการเข้ามาร่วมรบกับเกาหลีใต้ และเป็นเพียงสองประเทศในเอเชียร่วมกับประเทศฟิลิปปินส์ที่ส่งกองกำลังมาช่วยรบในสงคราม ประเทศไทยของท่านได้ส่งทหารบกจำนวน ๖,๓๒๖ นาย ชัยชนะหลายต่อหลายครั้งในสมรภูมิทำให้ทหารไทยได้รับสมญานามว่า “พยัคฆ์น้อย” สงครามครั้งนี้ได้คร่าชีวิตทหารไทยไป ๑,๒๗๓ นาย ซึ่งหากไม่มีการพลีชีพอันศักดิ์สิทธิ์ของผู้กล้าเหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้าคงไม่สามารถเขียนคำสดุดีได้เช่นในวันนี้
สงครามเกาหลีได้ทำให้มาตุภูมิของเรากลายเป็นกองเถ้าถ่าน แต่ทว่าลูกหลานของประเทศไทยได้โปรยเมล็ดพันธุ์นี้จนเติบใหญ่มาจวบจนปัจจุบัน สำหรับพวกเราถือเป็นความภาคภูมิใจในประเทศไทยของท่านที่ได้ให้ความช่วยเหลือเรา และถือเป็นความภาคภูมิใจในตนเองที่ได้บุกเบิกโชคชะตาอย่างกล้าหาญจนกลายเป็นความสำเร็จอันโรจน์รุ่งในวันนี้
นับแต่นี้ แม้จะเป็นเพียงส่วนน้อย แต่สาธารณรัฐเกาหลีก็ขอมีส่วนร่วมในการสนับสนุนสวัสดิการแห่งมวลมนุษยชาติ เพราะเราได้เคยอยู่ในสภาพที่ได้รับความช่วยเหลือจากสังคมโลกในการเอาชนะความหายนะจากสงครามเมื่อ ๖๐ ปีก่อนมาแล้ว จาก ๖๐ ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันสาธารณรัฐเกาหลีเป็นประเทศสมาชิกหนึ่งในองค์กรร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ที่ได้คอยช่วยเหลือนานาประเทศ พวกเราชาวเกาหลีจะพยายามอย่างที่สุดในการร่วมมือเพื่อความมั่นคงของประชาคมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์ที่พวกเราได้เคยมีมา เราปรารถนาจะแบ่งปันรูปแบบการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและการศึกษารวมถึงโปรแกรมการฝึกฝน ฝึกอบรมนานาชนิดแก่เพื่อนร่วมโลก
อีกทั้งสาธารณรัฐเกาหลีจะขอมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการรักษาสันติภาพของโลก ณ ขณะนี้พวกเรากำลังดำเนินภารกิจปฏิบัติการรักษาสันติภาพ (PKO) ใน ๑๔ ประเทศทั่วโลก และในปีนี้กำหนดจะมีการจัดประชุม G20 ส่วนในปี ๒๐๑๒ จะมีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ ๒ ขึ้น ซึ่งในการนี้เราจะเพิ่มมาตรการความร่วมมือทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติและปรารถนาจะให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา แต่ทว่าสาธารณรัฐเกาหลียังคงเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยังมีการแบ่งแยกดินแดน อีกทั้งยังมีความตึงเครียดทางการทหารอยู่ ดังที่ได้ทราบจากเหตุการณ์เรือโชนัน ถูกโจมตีในวันที่ ๒๖ มีนาคม ที่ผ่านมา จากความร่วมมือและการสนับสนุนของประเทศท่านต่อกระบวนการตอบโต้การกระทำนี้ ทำให้พวกเราชาวเกาหลีตื่นจากภวังค์ และตระหนักถึงคุณค่าความสัมพันธ์ของประเทศเราทั้งสองเป้าหมายที่แท้จริงของความสัมพันธ์เกาหลีเหนือใต้นั้นมิใช่เพื่อการเผชิญหน้าเอาชนะกัน แต่เพื่อชี้นำและเปลี่ยนเกาหลีเหนือที่เดินผิดทางให้กลับมาความมั่นคงและสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี หรือความร่วมมือเพื่อความมั่นคงและการรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวของชนชาติเกาหลีต่างหากที่เป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญของพวกเรา คาบสมุทรเกาหลีในอนาคตจะมิใช่เป็นแค่เพียงพื้นที่แห่งความแตกแยกและความไม่ปรองดองอีกต่อไป แต่จะเป็นพื้นที่สันติภาพแห่งใหม่ของโลก
ข้าพเจ้าขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับมิตรภาพอันอบอุ่นที่ประเทศไทยของท่านได้หยิบยื่นให้เมื่อ ๖๐ ปีก่อน พวกเราชาวเกาหลีทุกคนจะขอจดจำและระลึกถึงวีรบุรุษทหารชาวไทยทุกท่านที่ได้มาช่วยรบในสงครามเกาหลีตลอดไป
๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๓
นาย ลี มยอง บัค
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี
พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ กรุณาอนุเคราะห์ข้อมูล