* * *
สงครามฝรั่งเศส - เวียดมินห์ (๑๓) - ๕๗ วันใน . . . เดียน เบียน ฟู (๓) - ล่มสลาย . . . ไม่ยอมแพ้
สถานการณ์เดิม . . . จาก เวียดมินห์ (๑๒) - ๕๗ วันใน . . . เดียน เบียน ฟู (๒)
๑๕ มีนาคม ๒๔๙๗, ๐๗๐๐ เวียดมินห์ได้ปักธง "จงเด็ดเดี่ยวมั่นคงที่จะรบ และช่วงชิงชัยชนะ" เหนือที่มั่นเกเบรียล
๑๖ มีนาคม ๒๔๙๗, ๐๘๐๐
- ฝ่ายเวียดมินห์ยึดที่มั่นเกเบรียลได้สมบูรณ์
- ที่มั่นแอน - มารี (๓) ทหารภูเขา ถอนตัว
๑๘ มีนาคม ๒๔๙๗
- กำลังในที่มั่นด้านเหนือที่แอนน์ - มารี ๑ และ ๒ ต้องถอนตัวเนื่องจากถูกปืนใหญ่ระดมยิงอย่างหนัก ทำให้ฝ่ายฝรั่งเศสไม่สามารถใช้สนามบินได้
สถานการณ์ต่อไป . . .
ฝ่ายเวียดมินห์ยังคงใช้ปืนใหญ่โจมตีสนามบินอย่างต่อเนื่อง
๒๒ มีนาคม ๒๔๙๗
กรมทหารปืนใหญ่เบาส่งทางอากาศที่ ๓๕ พยายามส่งกำลังเข้าไปเพิ่มเติม ด้วยการส่งทางอากาศ เนื่องจาก การนำเครื่องลงจอดในเวลากลางวันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การนำเครื่องลงในเวลากลางคืนก็เป็นการเสี่ยงแต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เครื่องบินถูกทำลายไปหลายลำ เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งถูกยิงตกขณะกำลังบินขึ้น เมื่อ ๒๓ มีนาคม
๒๔ มีนาคม ๒๔๙๗
พันเอก ปิแอร์ ชาร์ลส แลงกลายส์ (Colonel Pierre Charles Langlais) และนายทหารพลร่มคนอื่นๆ เข้าพบ พันเอก เดอ คาสตรีส์ ขอให้แบ่งมอบอำนาจในการบัญชาการรบ ซึ่งพันเอก เดอ คาสตรีส์ ยอมแบ่งมอบอำนาจให้ แต่มีเงื่อนไขว่า ขอดูแลในบางส่วนด้วย
ฝรั่งเศสพยายามส่งกำลังบำรุงทางอากาศอีกแต่ถูกปืนกลต่อสู้อากาศยานของเวียดมินห์ที่ตั้งรายล้อมอยู่ใกล้พื้นที่ส่งลงยิงเครื่องบินจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
๒๖ มีนาคม การส่งกำลังสายแพทย์ครั้งสุดท้าย - l'ange de Dien Bien Phu
เครื่องบินพยาบาลลงจอด แต่เครื่องเสียหาย และไม่สามารถนำเครื่องขึ้นได้อีก
เจนีเฟอว์ เดอ กาลาร์ด (Genevieve de Galard) พยาบาลทหารอากาศหญิงซึ่งไปกับเครื่อง จึง . . . ต้องติดอยู่ที่ . . . เดียนเบียนฟู
การอุทิศตนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ และความกล้าหาญของเธอทำให้ทุกคนต้องชื่นชม และยกย่องให้เธอเป็น . . .
l'ang Dien Bien Phu e de
"the Angel of Dien Bien Phu"
และเที่ยวบินนั้นเป็น . . . การส่งกำลังสายแพทย์ครั้งสุดท้าย
Genevieve de Galard >
การปฏิบัติการจิตวิทยาต่อทหารฝรั่งเศส
ท่ามกลางการรบและเสียงระเบิดกึกก้องของกระสุนปืนใหญ่ ฝ่ายเวียดมินห์ใช้ลำโพงประกาศเรียกร้องให้ทหารลีเจียนแนร์ของฝรั่งเศสละทิ้งหน้าที่ และให้ทหารที่มาจากแอฟริกา และแอฟริกาเหนือเห็นด้วยกับการต่อต้านจักรวรรดินิยม สัญญาว่าจะต้อนรับอย่างอบอุ่น และให้อิสรภาพโดยเร็ว นอกจากการป่าวประกาศนี้ ก็ยังมีใบปลิวส่งเข้าไปในที่มั่นของฝรั่งเศสด้วย
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการนี้ นับว่าได้ผลน้อยมาก
สถานการณ์ ๒๘ มีนาคม ๒๔๙๗
การสู้รบยุติลงชั่วคราวไปจนถึง ๓๐ มีนาคม ตอนนี้ฝ่ายเวียดมินห์ปิดล้อมที่มั่นทหารฝรั่งเศสในพื้นที่ตอนกลางไว้ทั้งหมด (ที่มั่นทั้ง ๔ แห่งคือ Hugette, Dominique, Claudine, และ Elaine) และไม่สามารถติดต่อกับที่มั่นอิซาเบลล์ที่อยู่ทางใต้ได้
ที่มั่นอิซาเบลล์ Isabelle
อิซาเบลล์ที่มั่นที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวทางใต้สุด มีการสู้รบเพียงประปรายเท่านั้น เพราะฝ่ายเวียดมินห์ต้องการตรึงกำลังของฝรั่งเศสในที่มั่นแห่งนี้ไม่ให้ไปช่วยเหลือที่มั่นอื่นได้ หรือหากส่งกำลังออกไปก็ถูกซุ่มโจมตี ไปไม่ถึงที่หมายต้องเดินทางกลับก็มี และฝ่ายเวียดมินห์ก็กำลังรบติดพันที่ที่มั่นแห่งอื่นอยู่
เนื่องจาก สถานการณ์ของที่มั่นอิซาเบลล์ไม่รุนแรงเลวร้าย ความเร่งด่วนในการส่งกำลังบำรุงจึง . . . ไม่เร่งด่วน จนกระทั่ง . . .
๓๐ มีนาคม ฝ่ายเวียดมินห์เริ่มใช้ปืนใหญ่โจมตี และเริ่มขุดสนามเพลาะเข้าปิดที่มั่นอิซาเบลล์
ที่มั่นอิซาเบลล์ . . . เริ่มขาดแคลนน้ำและ . . . กระสุนก็ร่อยหรอเต็มที
โดมินิค - เอลีน ๓๐ มีนาคม – ๕ เมษายน ๒๔๙๗
ที่มั่นโดมินิค - เอลีน เป็นกลุ่มที่มั่นส่วนกลางของเดียนเบียนฟู อยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยวม กำลังในที่มั่นทั้งสอง มีจำนวน รวม ๕ กองพัน จากหน่วยทหารต่างด้าว, ทหารเวียดนาม, ทหารอัฟริกัน และ ทหารจากชาวเขา ที่ไม่สู้จะเข้มแข็งนัก
นายพล เกี๊ยบ วางแผนเข้าโจมตีแบบเดียวกับที่โจมตีบีทรีซ และเกเบรียล
๓๐ มีนาคม
เวลา ๑๗๐๐ ฝ่ายเวียดมินห์เริ่มโจมตีด้วยปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด
เวลา ๑๙๐๐ กองพลที่ ๓๑๒ เข้าตีและยึดที่มั่นโดมินิค ๑ และ ๒ (ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออก) ได้ และรุกเข้าตีที่มั่นโดมินิค ๓ อันเป็นที่มั่นสุดท้ายที่ตั้งอยู่ระหว่างกำลังของเวียดมินห์กับกองบัญชาการค่ายเดียนเบียนฟูของฝรั่งเศส (ที่ฮิวแกต์)
ขณะที่ทหารเวียดมินห์ที่กำลังเข้าโจมตีทหารฝรั่งเศสที่ประจำปืนกลต่อสู้อากาศยานใกล้กับสนามบิน ฝ่ายฝรั่งเศสใช้ปืนใหญ่ขนาด ๑๐๕ มิลลิเมตร ของกรมทหารปืนใหญ่อาณานิคมที่ ๔ (French 4th colonial artillery regiment) ยิงเล็งตรงไปยังเป้าหมาย คือกลุ่มทหารเวียดมินห์ และฝรั่งเศสก็ต้องใช้ปืนกลต่อสู้อากาศยานนั้นมาใช้ยิงป้องกันตัวเพื่อสกัดการบุกของทหารเวียดมินห์ด้วย
เวียดมินห์ประสบความสำเร็จในการเข้าตีทุกจุด กองพล ๓๑๖ ยึดที่มั่นเอลีน ๑ ที่มีทหารโมร๊อคโคป้องกันอยู่ได้ พอถึงเที่ยงคืนก็ยึดที่มั่นเอลีน ๒ ได้ครึ่งหนึ่ง
ด้านที่มั่นฮิวแกต์
กองพล ๓๐๘ เข้าตีที่มั่นฮิวแกต์ ๗ เกือบจะสำเร็จ แต่ทหารฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่งเข้าเสริมกำลังอุดตรงช่องว่างได้ทัน
๓๑ มีนาคม
หลังเที่ยงคืน (๓๐ มีนาคม) ฝรั่งเศสรวบรวมกำลังเข้าตีโต้เพื่อยึดที่มั่นเอลีน ๒ คืน และสามารถยึดพื้นที่คืนได้ครึ่งหนึ่ง
พันเอก แลงกลายส์ สั่งการให้เข้าตีที่มั่นโดมินิค ๒ และ ที่มั่นเอลีน ๑ คืนให้ได้ในตอนบ่าย ฝรั่งเศสระดมทหารทุกคนที่ยังพอจะรบได้
การตีตอบโต้ประสบความสำเร็จ ทหารฝรั่งเศสยึดฐานทั้งสองคืนมาได้ แต่ก็ถูกเวียดมินห์ยึดคืนกลับไป เพราะทหารฝรั่งเศสหมดกำลังรบที่จะมาเสริมความมั่นคงได้
ที่มั่นอิซาเบลล์ (ที่ยังไม่ถูกฝ่ายเวียดมินห์เข้าตี) ได้พยายามส่งกำลังมาช่วย แต่ถูกซุ่มโจมตีกลางทางจนต้องถอนตัวกลับไป
พันเอก แลงกลายส์ สั่งการพันโท มาร์เซล บิเกียร์ด (Marcel Bigeard) ผู้บังคับที่มั่นเอลีน ให้นำกำลังถอยข้ามแม่น้ำกลับมา (ที่มั่นเอลีน กับ กองบังคับการค่าย ตั้งอยู่คนละฟากแม่น้ำยวม) พันโท มาร์เซล บิเกียร์ดตอบกลับไปว่า . . . “ตราบใดที่ในที่มั่นเอลีนยังมีคนมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่ทิ้งที่มั่น, หรือว่า เดียนเบียนฟูจะละลาย”
และในคืนวันที่ ๓๑ มีนาคม นั้น
กองพล ๓๑๖ เข้าตีที่มั่นเอลีน ๒ และที่มั่นเอลีน ๔
ฝ่ายฝรั่งเศสสกัดกั้นคลื่นมนุษย์ของฝ่ายเวียดมินห์ได้สำเร็จ และส่งรถถังหลายคันเข้ามาช่วย ทำให้เวียดมินห์ต้องถอยกลับ การโจมตีที่มั่นเอลีน ๔ ก็ต้องล้มเหลวไปด้วย
ด้านที่มั่นฮิวแกต์
คืนนี้ (๓๑ มีนาคม) เวียดมินห์ยึดที่มั่นฮิวแกต์ ๗ ได้สำเร็จ (เกือบจะสำเร็จ มาตั้งแต่คืน ๓๐ มีนาคม) แต่ก็ถูกฝรั่งเศสชิงคืนไปได้อีก
๑ เมษายน
ฝ่ายฝรั่งเศสเข้าตีชิงที่มั่นฮิวแกต์ ๗ กลับคืนได้ ตอนรุ่งสาง
การรบแบบผลัดกันรุกผลัดกันรับดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลายคืน เวียดมินห์เข้าตีที่มั่นเอลีน ๒ อีก แต่ก็ยึดได้ชั่วครู่ ฝรั่งเศสก็ยึดคืนกลับได้
แต่อีกหลายชั่วโมงต่อมาเวียดมินห์เข้าตีอีก คราวนี้สู้รบกันอย่างดุเดือดหลายชั่วโมง ฝ่ายฝรั่งเศสในที่มั่นเอเลน ๒ ก็ต้านทานต่อไปไม่ไหว . . .
ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันถอยซ้ำแล้วซ้ำอีก
ฝรั่งเศสพยายามส่งกำลังหนุนทางอากาศแต่ถูกปืนต่อสู้อากาศยานของเวียดมินห์ยิงสกัดกั้นไว้ มีเครื่องบินลำเลียงเพียงเครื่องเดียวเท่านั้นที่ฝ่าด่านกระสุนปืนต่อสู้อากาศยานของเวียดมินห์เข้าไปได้
แต่พลร่มกองหนุนที่ไปถึงนี้ก็สูญเสียอย่างหนัก เสียชีวิตประมาณครึ่งหน่วย ส่วนที่ยังรอดตายมาได้เพราะสนามเพลาะ
๕ เมษายน
หลังจากการสู้รบอันยาวนานหลายคืน เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดและปืนใหญ่ของฝรั่งเศสถล่มทหารเวียดมินห์ที่อยู่บนพื้นที่เปิด พินาศไปหนึ่งกรม
นายพล เกี๊ยบ ตัดสินใจเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ โดยยังดำรงเป้าหมายเดิมที่ต้องการผลักดันทหารฝรั่งเศสที่วางแนวป้องกันทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยวมออกไป (คือที่มั่นโดมินิค และ เอลีน) สั่งการให้ทหารขุดสนามเพลาะเข้าประชิดและก่อกวนให้ทหารฝรั่งเศสอ่อนแอลง
๑๐ เมษายน
ฝรั่งเศสพยายามยึดที่มั่นเอลีน ๑ คืน หลังจากถูกเวียดมินห์ยึดไปได้ ๑๑ วันก่อนหน้านั้น
เริ่มต้นด้วยการให้หน่วยเข้าตีเข้าที่รวมพลในที่มั่นเอลีน ๔ ใช้ปืนใหญ่โจมตีก่อน แล้วจึงเข้าโจมตีในรุ่งสาง โดยพันโท มาร์เซล บิเกียร์ด นำกองหน้า รุกเข้าเจาะทะลวงแนวรับของเวียดมินห์เข้าไปก่อนอย่างรวดเร็ว แล้วกำลังขนาดใหญ่ที่เป็นหน่วยหลักในการเข้าตีนี้ตามมากวาดล้างภายหลัง
ครับ . . . พันโท มาร์เซล บิเกียร์ด นำกำลังเข้ายึดที่มั่นเอลีน ๑ คืนได้สำเร็จ
๑๒ เมษายน
ฝ่ายเวียดมินห์พยายามเข้าตีแย่งชิงฐานนี้อีก แต่ฝ่ายฝรั่งเศสสามารถต้านทานไว้ได้
ฝ่ายเวียดมินห์สูญเสียอย่างหนัก (เสียชีวิต ๖,๐๐๐ คน, บาดเจ็บ ๘,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ คน และถูกจับเป็นเชลย ๒,๕๐๐ คน) เวียดมินห์ยังขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ เป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ฝ่ายฝรั่งเศสสามารถดักฟังวิทยุของฝ่ายเวียดมินห์ได้ว่า สั่งให้บางหน่วยถอนตัว และจากการซักถามเชลยศึก บางคนให้การว่า ได้รับคำสั่งให้รุกคืบหน้าไป หากถอยหนีก็อาจจะถูกนายทหารที่อยู่ข้างหลังยิงเอา
ครับ . . . สถานการณ์ในตอนนี้ ดูเหมือนว่า ฝ่ายฝรั่งเศสจะยันการรุกของฝ่ายเวียดมินห์ไว้ได้ หากสามารถรวมกำลังเข้าทำลายกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ทีละส่วนๆ ได้ แต่ฝ่ายฝรั่งเศสก็ไม่สามารถรวมกำลังได้ เนื่องจาก
ในทางยุทธศาสตร์ ต้องกระจายกำลังออกไปตามพื้นที่อื่นๆ (รายละเอียดในหัวข้อ การตรึงกำลังฝ่ายฝรั่งเศส ตอนที่ (๑๐) - ยึดเดียนเบียนฟู (๒) "it is impregnable" "It is Verdun!")
ในทางยุทธวิธี ก็ไม่สามารถใช้กำลังในพื้นที่เดียนเบียนฟูดำเนินกลยุทธได้เท่าที่ควร เพราะกำลังแยกกันอยู่ในแต่ละที่มั่น อาจจะพอรวบรวมได้บ้างและไปช่วยเหลือที่มั่นซึ่งกำลังถูกโจมตีก็ถูกซุ่มโจมตีเสียระหว่างทาง ไปไม่ถึงที่หมายได้ ครับ สรุปว่า
ฝ่ายฝรั่งเศสไม่สามารถ . . . "รวมกำลังอันมากเข้า ณ ที่ที่เหมาะ ในเวลาที่เหมาะ" ได้
แต่ . . .
นายพล เกี๊ยบ สามารถเรียกระดมกองหนุนที่ยังสดใหม่มาจากลาว ได้
ขณะที่มีการสู้รบ ณ ที่มั่นเอลีน ๑ ฝ่ายเวียดมินห์ได้ขุดสนามเพลาะเข้าหาและล้อมที่มั่นฮิวแกต์ ๑ และ ๖
การช่วงชิงที่มั่นฮิวแกต์
๑๑ - ๑๗ เมษายน
เดียนเบียนฟู ๑๖ เมษายน ๒๔๙๗
ทหารที่ที่มั่นฮิวแกต์ ๑ ได้เข้าตีเพื่อช่วยเปิดทางส่งเสบียงอาหารและกระสุนให้กับที่มั่นฮิวแกต์ ๖ ด้วยการสนับสนุนการยิงอาวุธหนักจากที่มั่นเคลาดีน ฝรั่งเศสพยายามเข้าโจมตีอีกในคืนวันที่ ๑๔ - ๑๕ เมษายน และคืนวันที่ ๑๖ - ๑๗ เมษายน ทำให้สามารถส่งเสบียงอาหารบางส่วนให้กับที่มั่นฮิวแกต์ ๖ ได้ แต่ฝรั่งเศสก็สูญเสียอย่างหนัก จนพันเอก แลงกลายส์ ต้องตัดสินใจสละที่มั่นฮิวแกต์ ๖
๑๘ เมษายน
ทหารบนที่มั่นฮิวแกต์ ๖ พยายามตีฝ่าวงล้อมออกมา แต่รอดออกมาถึงแนวของฝรั่งเศสได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น
ที่มั่นฮิวแกต์ ๑๖ มีนาคม - ๒๓ เมษายน >
๒๒ เมษายน
ฝ่ายเวียดมินห์พยายามเข้าตีที่มั่นฮิวแกต์ ๑ อีกครั้ง และสามารถยึดได้ในเช้าวันที่ ๒๒ เมษายน ทำให้ฝรั่งเศสแทบไม่เหลือพื้นที่ส่งลงในขณะที่มีความต้องการเสบียงอาหารเพิ่มเติมอย่างมาก ฝรั่งเศสต้องโจมตีเพื่อยึดที่มั่นฮิวเกต์ ๑ ให้ได้ในวันต่อมา
ความหวังของฝรั่งเศสในการเจรจา
ท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ ฝรั่งเศสหวังใช้การเจรจาสันติภาพที่เจนีวาเป็นทางรอด การประชุมดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๙๗
๒๙ เมษายน Geneviève de Galard เทพธิดาแห่งเดียนเบียนฟู ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ the Knight's Cross of the Legion d'honneur และ ครัวกซ์ เดอ แกร์ Croix de Guerre
การรบครั้งสุดท้าย - Elaine 2
๑ พฤษภาคม
ฝ่ายเวียดมินห์ระดมกำลังเข้าตีครั้งใหญ่ สามารถยึดที่มั่นเอลีน ๑ ,ที่มั่นโดมินิค ๓ , และที่มั่นฮิวแกต์ ๕
ฝ่ายฝรั่งเศสยังคงรักษาที่มั่นเอลีน ๒ ไว้ได้
๒ - ๕ พฤษภาคม
พันเอก เดอ คัสตรีส์ สั่งใช้กองหนุน หน่วยสุดท้าย จำนวน ๓๘๘ นาย จากกองพันพลร่มอาณานิคมที่ ๑ (1st Colonial Parachute Battalion) ให้โดดร่มลงที่เดียนเบียนฟู แต่ฝนตกหนักจนน้ำท่วมค่ายซึ่งฝ่ายเวียดมินห์เข้าล้อมอยู่ และทำให้การปฏิบัติการทางอากาศต้องหยุดชงักไป นักบินปฏิบัติภารกิจยากยิ่งขึ้นไปอีก ตำบลส่งลงก็ดูเล็กลงไป และต้องใช้ไฟสัญญาณนำทาง
ฝ่ายฝรั่งเศสพยายามรักษาที่มั่นไว้ให้ได้นานที่สุด อย่างน้อยก็จนกว่าจะตกลงกันได้ในเรื่องหยุดยิง ในการประชุมที่เจนีวา
ฝ่ายเวียดมินห์ก็รู้เจตนาของฝ่ายฝรั่งเศส จึงเร่งระดมโจมตีอย่างหนัก
๔ พฤษภาคม
ฝ่ายเวียดมินห์โจมตีด้วยปืนใหญ่รุนแรงขึ้นราว ๔,๐๐๐ นัด การรุกครั้งใหญ่หำลังจะเกิดขึ้นอีก
สถานการณ์ที่อิซาเบลล์เลวร้ายมาก ฝนในฤดูมรสุมทำให้เกิดน้ำท่วมในคูติดต่อ บังเกอร์ก็พังเพราะปืนใหญ่ฝ่ายเวียดมินห์
๖ พฤษภาคม ท้องฟ้าแจ่มใส . . . ส่งกำลังครั้งสุดท้าย . . . โจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
การส่งกำลังครั้งสุดท้าย ที่ใหญ่ที่สุดใน ๘ วัน เครื่องบิน ซี - ๑๑๙ และ ซี - ๔๗ รวม ๕๐ ลำ นำสิ่งอุปกรณ์ ๑๙๖ ตัน ไปทิ้งให้ แต่สายเกินไป สิ่งอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ทิ้งลงดังกล่าวออกนอกพื้นที่ควบคุมของฝ่ายฝรั่งเศส . . . ฝ่ายเวียดมินห์เก็บรวบรวมได้เป็นส่วนมาก
การโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ เครื่องบินทิ้งระเบิด บี - ๒๖ ๔๗ เครื่อง คอร์แซร์ (Corsair) ๑๘ เครื่อง แบร์แคท (Bearcat) ๒๖ เครื่อง เฮลไดเวอร์ (Helldiver) ๑๖ เครื่อง ไพรเวเทีย (Privateer) ๕ เครื่อง รวมเป็นกองบินขนาดใหญ่มาก ปืนต่อสู้อากาศยานฝ่ายเวียดมินห์ย้งเงียบอยู่
ในตอนบ่าย เมื่อปรากฏเสียงเครื่องบิน และป้อมค่ายก็สั่นสะเทือนด้วยเสียงระเบิดเป็นชุดๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เครื่องบินทิ้งระเบิด บี - ๒๖
คอร์แซร์ (Corsair) แบร์แคท (Bearcat)
Helldiver Privateer PB-02LL
การใช้ ปตอ. ขนาด ๑๒.๗ มิลลิเมตร ของเวียดมินห์
ที่มั่นเอลีน ๒ - คัทยูชาเปิดตัวในเดียนเบียนฟู
เวียดมินห์ระดมกำลังโจมตีที่มั่นเอลีน ๒ อีกครั้ง เสียงระเบิดกึกก้องของจรวดหลายลำกล้องจากสหภาพโซเวียตดังขึ้นเป็นครั้งแรกในเดียนเบียนฟู ซึ่งจรวดนี้สหภาพโซเวียตได้เคยทดลองใช้ในปลายสงครามโลกครั้งที่สอง . . . เวียดมินห์ใช้จรวดคัทยูช่า* (Katyusha) เป็นครั้งแรก
Chinese operated soviet-built Katyushas were used against the French at Dien Bien Phu on
May 6, 1954. wikipedia.
ฝรั่งเศสใช้ปืนใหญ่สกัดกั้นคลื่นการรุกของฝ่ายเวียดมินห์สำเร็จด้วยเทคนิคการยิง "พร้อมกัน ณ เป้าหมาย"** "TOT" (Time On Target) และต้านทานการบุกที่ที่มั่นเอลีน ๒ ไว้ได้
เวลา ๒๓๐๐ ตามบันทึก ฝ่ายเวียดมินห์พยายามใช้ดินระเบิด ทีเอ็นที จำนวน ๑ ตัน ทำลาย ที่มั่นเอลีน ๒ แต่ดินระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ กำลังพลในที่มั่นเอลีน ๒ สู้รบอย่างดุเดือดกล้าหาญเยี่ยงวีรบุรุษในคูติดต่อซึ่งเต็มไปด้วยโคลน และ
ในที่สุด . . . ที่มั่นเอลีน ๒ ก็ . . . ถอนตัวไปยังที่มั่นเอลีน ๔ และต่อสู้กันต่อไป . . . ตลอดคืน
*จรวดคัทยูช่า (Katyusha) จรวดหลายลำกล้องของสหภาพโซเวียตเริ่มใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อ ๗ เดือนกรกฎาคม ๒๔๘๔ (ค.ศ.๑๙๔๑) ในการรบที่ออร์ชา (Orsha) เบลารุส (Belarus) ไม่พบข้อมูลว่าเวียดมินห์ได้รับการสนับสนุนตั้งแต่เมื่อใด แต่ใช้เป็นครั้งแรก ในการโจมตีครั้งสุดท้ายในการรบที่เดียนเบียนฟูนี้เอง (เข้าใจว่าฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศสคงไม่ระแคะระคายเรื่องเวียดมินห์ได้รับจรวดคัทยูชานี้มาก่อน)
Katyusha BM -13 132 mm. in the Battle of Berlin
(ซ้าย) กำลังติดตั้ง (ขวา) ยิง!
** "พร้อมกัน ณ เป้าหมาย" (Time On Target - "TOT") เป็นเทคนิคการยิงแบบหนึ่งของทหารปืนใหญ่ คือ ประสานการยิงจากที่ตั้งยิงหลายๆ แห่ง (ต้องมากกว่า ๑ แห่ง) ให้กระสุนทุกนัดจากที่ตั้งยิงที่กำหนด ไปถึงและระเบิดพร้อมกัน ณ เป้าหมาย (นัดแรกกับนัดสุดท้ายระเบิดห่างกันได้ไม่เกิน ๒ วินาที) อาจจะมีปืนเรือ และการโจมตีทางอากาศร่วมด้วย
การประสานการยิงพร้อมกัน ณ เป้าหมายนี้ เป็นวิธียิงที่น่าสนใจอยู่ เพราะระยะจากที่ตั้งยิงแต่ละแห่งถึงเป้าหมายจะไม่เท่ากัน ทำให้ เวลาแล่น (time of flight) คือเวลาที่กระสุนปืนใหญ่เดินทางจากปากลำกล้องไปถึงเป้าหมาย ไม่เท่ากันด้วย (เวลาแล่นมีบอกไว้ในสมุดตารางยิง Firing Table หน่วยเป็น วินาที) ที่ตั้งยิงแต่ละแห่งก็ต้องจำเวลาแล่นของตนไว้ ทางศูนย์อำนวยการยิงที่จะสั่งยิง "พร้อมกัน ณ เป้าหมาย" จะให้เวลาที่ตั้งยิงต่างๆ เตรียมการประมาณ ๑๐ นาที และจะนับถอยหลังแจ้งเตือนให้ทราบทุกนาที เมื่อใกล้จะถึงเวลาแล่นของที่ตั้งยิงที่อยู่ไกลสุด เวลาแล่นมากสุด ก็จะนับถอยหลังทีละ วินาที ครับ เมื่อนับมาถึงเวลาแล่นของที่ตั้งยิงใด ที่ตั้งยิงนั้นก็สั่ง "ยิง" ออกไป กระสุนปืนใหญ่จากหลายๆ ที่ตั้งยิงก็จะไปถึง และระเบิด "พร้อมกัน ณ เป้าหมาย" ท่านว่า การยิง "พร้อมกัน ณ เป้าหมาย" นี้ ได้ผลทางจู่โจม และผลการทำลายสูงสุด ครับ
๗ พฤษภาคม ๒๔๙๗ - ๕๖ วัน นับจากการโจมตีครั้งแรก . . .
นายพลใหม่ในสนาม
เดียนเบียนฟู ล่มสลาย . . . ไม่ยอมแพ้
นายพล เกี๊ยบ สั่งให้ทุกหน่วยเข้าโจมตีหน่วยทหารของฝรั่งเศสที่ยังเหลืออยู่ การสู้รบอย่างดุเดือดดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งฝรั่งเศสและเวียดมินห์ต่างผสมกลมกลืนไปด้วยกัน ในคูคิดต่อสนามเพลาะเต็มไปด้วยผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย แต่การรบยังดำเนินต่อไป
เวลา ๐๗๐๐ - ฝ่ายเวียดมินห์รวบรวมรี้พลขึ้นใหม่ที่ที่มั่นเอลีน ๑ เพื่อการโจมตีครั้งสุดท้าย
- พันเอก เดอ คัสตรีส์ ได้รับคำสั่งแต่งตั้งยศ ให้เป็น พลจัตวา
เวลา ๑๐๐๐ ฝ่ายเวียดมินห์สามารถยึดที่มั่นเอลีนได้ทั้งหมด ฝ่ายฝรั่งเศสไม่มีทั้งกำลังพลและกระสุนที่จะตีโต้ตอบ ผู้บาดเจ็บมีอยู่ทุกบังเกอร์ ซึ่งถูกจับเป็นเชลย ฝ่ายเวียดมินห์ได้พื้นที่ทางฝั่งตะวันออกแม่น้ำยวมไว้ได้อย่างสิ้นเชิง
เวลา ๑๗๐๐ นายพล เดอ คาสตรีส์ วิทยุถึงกองบัญชาการทหารฝรั่งเศสในกรุงฮานอยและพูดกับนายพล โคญี่ . . .
De Castries: "The Viets are everywhere. The situation is very grave.
The combat is confused and goes on all about.
I feel the end is approaching, but we will fight to the finish."
Cogny: "Well understood. You will fight to the end.
It is out of the question to run up the white flag after your heroic resistance."
ข่าวจากสมรภูมิเดียนเบียนฟู ถึง กองบัญชาการทหารฝรั่งเศสในกรุงฮานอย . . .
"เรากำลังทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง . . . Adieu"
อีกสองสามนาทีต่อมา ฝ่ายเวียดมินห์ได้ระเบิดเข้ามาใกล้ที่บังคับการ และยึดเข้ามาถึงคูติดต่อที่อยู่ใกล้ๆ ธงแดงดาวเหลืองปรากฏขึ้นเหนือบังเกอร์ . . .
เดียนเบียนฟู ล่มสลาย . . . ไม่ยอมแพ้
จนถึงค่ำวันที่ ๗ พฤษภาคม ฝ่ายเวียดมินห์ก็ยึดที่มั่นของฝรั่งเศสในส่วนกลางของค่ายเดียนฟูทุกแห่งได้สำเร็จ . . . เว้นแต่ อิสซาเบลล์ ซึ่งอยู่ใต้ลงไป ๖ กิโลเมตร ยังคงต่อสู้ต่อไปอีกหลายชั่วโมง
พันเอก ลาลองด์ (Colonel Lalande) ผู้บังคับกองพันที่ ๓ ต่อสู้ต่อไป ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างไม่ลดละ ฝ่ายฝรั่งเศสกระสุนหมด ต้องใช้ดาบปลายปืน และมีดพก
’ Official Dien Bien Phu website.
อิซาเบลล์
ฝ่ายเวียดมินห์ระดมยิงอาวุธทุกชนิด อิซาเบลล์ ไฟไหม้ บังเกอร์พังพินาศ คูติดต่อ สนามเพลาะราบเป็นหน้ากลอง
เวลา ๒๑๐๐ เวียดมินห์เริ่มเข้าตี ฝรั่งเศสตอบโต้ด้วยปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดที่ยังมีอยู่ ฝ่ายเวียดมินห์หยุดไประยะหนึ่ง และเริ่มใหม่ในเวลา ๒๒๐๐
อิซาเบลล์ สูญเสียอาวุธทุกชนิด เว้นเครื่องยิงลูกระเบิด อีก ๑ เครื่อง และ ปืนใหญ่ขนาด ๑๐๕ มิลลิเมตร ๑ กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน ๒,๐๐๐ นัด
อัลบาทรอสส์ - หักด่านที่อิซาเบลล์
พันเอก แลงกลายส์ นำกำลังที่มีอยู่ปฏิบัติตามแผนอัลบาทรอสส์ หักด่านตีฝ่าออกไป ในคืนวันที่ ๗ - ๘ พฤษภาคม กำลังประมาณ ๑,๗๐๐ นาย ได้พยายามตีฝ่าวงล้อมออกมาในกลางดึกคืนนั้นเช่นกัน (เป็นวันที่ ๘ พฤษภาคม) . . . ซึ่งสำเร็จในระดับหนึ่ง
แต่ที่เหลือรอดชีวิตไปถึงพระราชอาณาจักรลาวได้สำเร็จ ราว ๗๐ (เจ็ดสิบ) นาย เท่านั้น . . . ครับ
เดียนเบียนฟู . . . ๘ พฤษภาคม ๒๔๙๗
หลังการรบ - เชลยศึก
ใน ๘ พฤษภาคม ๒๔๙๗ ฝ่ายเวียดมินห์นับเชลยศึกได้ ๑๑,๗๒๑ นับเป็นจำนวนเชลยศึกที่เวียดมินห์จับได้มากที่สุดในคราวเดียว หรือเท่ากับหนึ่งในสามของเชลยที่ถูกจับได้ตั้งแต่เริ่มสงคราม ในจำนวนนี้บาดเจ็บ ๔,๔๓๖ ซึ่งทางกาชาดรับตัวผู้บาดเจ็บสาหัสไปจำนวน ๘๕๘ (ระหว่าง ๑๔ - ๒๖ มีนาคม ๒๔๙๗)
บรรดาเชลยศึกถูกแยกเป็นกลุ่มๆ เดินเท้าไปยังค่ายเชลยทางตอนเหนือ และทางตะวันออก เป็นระยะทางกว่า ๒๕๐ ไมล์ (ประมาณ ๔๐๐ กิโลเมตร) เชลยศึกนับร้อยคนเสียชีวิตระหว่างเดินทาง
การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บถือเป็นงานอันดับแรกที่ต้องดำเนินการจนกว่าเจ้าหน้าที่กาชาดจะมาถึง ผู้บาดเจ็บ ๘๓๘ คน ถูกเคลื่อนย้ายไปทันที ที่เหลือได้รับการปฐมพยาบาลเท่าที่จะทำได้ และเชลยศึกที่เหลือถูกกักตัวไว้
การสูญเสีย
แต่ละฝ่ายต้องสูญเสียรี้พลสกลไกรเป็นอันมาก ดังนี้ครับ
ระหว่าง ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๖ ถึง ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๗ ฝ่ายฝรั่งเศสมีกำลังพลที่เดียนเบียนฟู ๑๗ กองพัน กำลังพล ๑๕,๗๐๙ นาย
๗ พฤษภาคม ๒๔๙๗ วันสุดท้ายของการรบ ฝ่ายฝรั่งเศสมีกำลังพลที่เดียนเบียนฟู จำนวน ๑๐,๑๓๓ และที่อิซาเบลล์ ๑,๕๘๘ รวม ๑๑,๗๒๑ ในจำนวนนี้บาดเจ็บ ๔,๔๓๖ ฝ่ายเวียดมินห์ยอมให้กาชาดรับตัวผู้บาดเจ็บสาหัสไปจำนวน ๘๕๘ ซึ่งกาชาดได้นำออกไปในระหว่าง ๑๓ - ๒๗ มีนาคม เป็นจำนวน ๓๒๖ ราย
ฝ่ายฝรั่งเศส
หน่วยทหารบก
จากการรบ เสียชีวิต ๑,๗๒๖ บาดเจ็บ ๕,๒๓๔ สูญหาย ๑,๖๙๔ (ส่วนใหญ่ถูกจับเป็นเชลยในระหว่าง ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๖ ถึง ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๗)
หนีทัพ ๑,๑๖๑
หน่วยบิน
อากาศยานที่เข้าปฏิบัติการสนับสนุนการรบที่เดียนเบียนฟู ประกอบด้วย
เครื่องบินขับไล่ และทิ้งระเบิด รวม ๒๒๗ ลำ
เครื่องบินลำเลียง ๑๒๐ ลำ (เป็นเครื่อง C-47 ดาโคต้า ๑๐๐ ลำ)
และเครื่องบินของแอร์เวียดนาม และนักบินพลเรือนอเมริก้นบินเครื่อง C-119’s (Fairchild-Packet)
ทหารอากาศ
อากาศยานถูกทำลายขณะบิน ๒๘ ลำ ถูกทำลายบนพื้น ๒๐ ลำ รวม ๔๘ ลำ
เฮลิคอปเคอร์ถูกทำลาย ๒ ลำ (ในเดือน มีนาคม ๒๔๙๗)
เสียหายเพราะปืนต่อสู้อากาศยาน ๑๖๗ ลำ
กำลังพลเสียชีวิต ๑๕ บาดเจ็บ ๖ สูญหาย ๓๓ ถูกจับเป็นเชลย ๔๓ (ส่วนของทหารอากาศนี้ รวมถึงหน่วยบินที่เดียนเบียนฟูด้วย)
หน่วยบินกองทัพเรือ
เครื่องบินขับไล่ ๖ ลำ นักบินเสียชีวิตในการรบ
อากาศยาน สูญหาย ๘ ลำ เสียหาย ๑๙ ลำ
ลูกเรือทิ้งระเบิดไพรเวเทียร์ สูญหาย ๒ นาย
นักบินอเมริกัน (เครื่องบินลำเลียง C-119)
นักบิน เสียชีวิต ๒ นาย บาดเจ็บสาหัส ๑ นาย
ฝ่ายเวียดมินห์
ฝ่ายเวียดมินห์ใช้กองพลที่ ๓๐๔, ๓๐๘, ๓๑๒, ๓๑๖ และกองพลที่ ๓๕๑ รวม ๔ กองพลทหารราบ และอีก ๑ กองพลอาวธหนัก หรือกองพลทหารปืนใหญ่ กองพันดำเนินกลยุทธ ๓๓ กองพัน ตั้งแต่ ๑๓ มีนาคม หากนับรวมกำลังแรงงานที่ใช้ในการแบกหาม จักรยานขนส่ง และการขุดคูสนามเพลาะ เป็นจำนวนมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน
ไม่มีการศึกษาว่าฝ่ายเวียดมินห์สูญเสียจริงเป็นจำนวนเท่าใด มีเพียงการประมาณว่า
เสียชีวิต ๘,๐๐๐ บาดเจ็บ ๑๕,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ (บางแห่งว่า เสียชีวิต ประมาณ ๑๒,๐๐๐ บาดเจ็บ ๒๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐) และผู้บาดเจ็บอาจเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกได้ (ข้อมูลจากการประมาณการของฝ่ายเสนาธิการฝรั่งเศส ไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ)
ค่ายเชลยศึก
สภาพในค่ายเชลยเลวร้าย เชลยศึกต้องอยู่กันอย่างแออัด อดหยาก และถูกทารุณ ทำให้เชลยศึกต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
เชลยศึกที่เหลือจำนวน ๑๐,๘๖๓ รวมทั้งผู้บาดเจ็บ ๓,๕๗๘ ฝ่ายเวียดมินห์ส่งคืนให้ ๓,๒๙๐ ในอีก ๔ เดือนต่อมา มีผู้เสียชีวิตในค่ายเชลยจำนวน ๗,๕๗๓ คิดเป็นประมาณ ร้อยละ ๗๐ ต่อมาเหลือเชลยศึกเพียง ๓,๒๙๐ คน
แต่มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า จำนวนนี้รวมถึงเชลยชาวเวียดนามซึ่งเวียดมินห์ไม่ส่งคืนให้ โดยไม่กล่าวว่าได้เสียชีวิตในที่กักกัน เชลยศึกส่วนใหญ่ถูกส่งไปทำงานในค่าย หรือรับการอบรม ซึ่งคาดว่าได้เสียชีวิตในค่ายเชลยประมาณ ร้อยละ ๖๐
การเจรจาสงบศึกที่เจนีวา ๑๙๕๔
หลังชัยชนะของเวียดมินห์มีการเจรจาสงบศึกที่เจนีวา ปี ๑๙๕๔ ที่ประชุมตกลงแบ่งเวียดนามเป็นสองส่วนชั่วคราว เวียดนามเหนือเป็นของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ฝรั่งเศสจำต้องถอนกำลังออกจากเวียดนามเหนือ แต่ยังคงครอบครองเวียดนามใต้อยู่ต่อไป และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ.๒๔๙๙ (ค.ศ.๑๙๕๖)
พ.ศ.๒๔๙๘ - สาธารณรัฐเวียดนาม
จักรพรรดิเบาได๋ (ซึ่งฝรั่งเศสสถาปนาให้เป็นประมุขแห่งเวียดนาม ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๒) สละราชบัลลังก์ (อีก) และ . . .
เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น สาธารณรัฐเวียดนาม (Republic of Vietnam.) โงดินห์เดียม (Ngo Dinh Diem) เป็นประธานาธิบดีคนแรก
(ซ้าย) ธงชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยแห่งเวียดนาม (เวียดนามเหนือ) พ.ศ.๒๔๙๘ ปรับรูปดาวใหม่
(ขวา) ธงชาติสาธารณรัฐเวียดนาม (เวียดนามใต้) พ.ศ.๒๔๙๑ ใช้ธงเดิมของราชวงศ์เหวียนสืบต่อมา
บทเรียนจากเดียนเบียนฟู
บทเรียนจากการสงคราม
๑. ฝ่ายฝรั่งเศสประมาณการศักย์สงคราม หรือขีดความสามารถในการทำสงครามกู้ชาติของชาวเวียดนามต่ำเกินไป หรือประมาทในศักย์สงคราม หรือขีดความสามารถในการทำสงครามกู้ชาติของชาวเวียดนาม
ทั้งนี้ เนื่องจากการที่เคยชนะ และได้เป็นเจ้าอาณานิคมปกครองเวียดนามมาประมาณ ๑๐๐ ปี ทำให้คิดว่า เหนือกว่า ฉลาดกว่า เก่งกว่า อยู่เสมอ
๒. การกำหนดความมุ่งหมายหรือจุดประสงค์
แผนนาแวร์ ซึ่งเป็นแผนแม่บทในการสงครามนี้ถึงแม้เป็นแผนทางการทหาร แต่จุดประสงค์นั้นไม่ใช่เพื่อจะทำลายกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ แต่เป็นการหาทางออกในการรักษาผลประโยชน์ร่วมกันในคาบสมุทรอินโดจีน ระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนาม และ . . . ฝรั่งเศสจะพยายามทำการรบให้ได้ชัยชนะ หรือได้เปรียบในสถานการณ์สงครามเพื่อประโยชน์ในการเจรจา และ . . . หาทางออกจากเวียดนามอย่างสง่างาม
เมื่อไม่มีวัตถุประสงค์ในการทำลายกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ ก็ไม่มีโอกาสในการชนะสงคราม อย่างดีที่สุดก็ทำได้เพียง ไม่แพ้
๓. ความมุ่งหมายในการตั้งที่มั่นต้านทานที่เดียนเบียนฟูไม่มีเอกภาพ
รัฐบาลฝรั่งเศสสั่งการให้ นายพล นาแวรร์ มีภารกิจในการป้องกันพระราชอาณาจักรลาวด้วย โดยใช้กำลังเท่าที่มีอยู่
นายพล นาแวรร์ จึงต้องพิจารณาเลือกที่ตั้งฐานปฏิบัติการซึ่งสามารถจะคุ้มครองและเข้าปฏิบัติการในพระราชอาณาจักรลาวตอนเหนือได้สะดวก และ กวาดล้างพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเวียดนามได้ด้วย
เดียนเบียนฟู เป็นตำบลที่เอื้อประโยชน์ทั้งสองประการ แต่ก็มีข้อเสีย คืออยู่ห่างจากศูนย์กลางกำลังหลักๆ ของฝ่ายฝรั่งเศส แต่ฝ่ายฝรั่งเศสก็มั่นใจว่าสามารถชดเชยข้อเสียเหล่านั้นได้ด้วยการปฏิบัติการทางอากาศ
๔. ระบบข่าวกรองทางยุทธศาสตร์
ฝรั่งเศสไม่คาดว่าฝ่ายเวียดมินห์จะมีปืนใหญ่ และปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานใช้เป็นจำนวนมาก และใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในความจริง สาธารณรัฐประชาชนจีนให้ปืนใหญ่ และปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานแก่เวียดมินห์ หรือแม้แต่การที่สหภาพโซเวียตสนับสนุนรถยนตร์บรรทุกให้เวียดมินห์ ก็ดี การสนับสนุนจรวดคัทยูชา ก็ดี ฝ่ายการข่าวของฝรั่งเศสก็ไม่ทราบข่าว
บทเรียนจากการรบ
เมื่อฝ่ายฝรั่งเศสไม่มีวัตถุประสงค์ในการทำลายกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์ ก็ไม่มีโอกาสในการชนะสงคราม
การกำหนดวิธีการรบจึงเป็นการตั้งรับแบบยึดพื้นที่ในฐานที่มั้นตั้งรับ ล่อ หรือ รอ ให้ฝ่ายเวียดมินห์เข้าตีแล้วใช้อาวุธหนัก และการโจมตีทางอากาศยับยั้ง และทำลายการเข้าตี (ดังการรบที่นาซาน ในเดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๔๙๕) ไม่ใช้การรบด้วยวิธีรุกออกไปทำลายกองกำลังฝ่ายเวียดมินห์
๑. การเลือกพิ้นที่ตั้งรับ เป็นพื้นที่ซึ่งมีภูมิประเทศสูงข่มอยู่รอบทิศ
๒. การวางกำลังในพื้นที่ตั้งรับ การแยกพื้นที่ตั้งรับเป็นสองแห่ง คือที่ เดียนเบียนฟู และที่อิซาเบลล์ก็เป็นไปตามหลักการให้ที่มั่นทั้งสองแห่งสนับสนุนกันได้ แต่เมื่อทางอิซาเบลล์จะส่งกำลังไปช่วยที่เดียนเบียนฟู กลับถูกฝ่ายเวียดมินห์ซุ่มโจมตี จึงไม่บรรลุภารกิจ แสดงว่าฝ่ายเวียดมินห์วาดภาพการรบ และเตรียมแผนไว้รองรับสถานการณ์ตามที่ได้วาดภาพการรบไว้แล้วนั้น . . . สำเร็จผลตามแผน
ฝ่ายฝรั่งเศสอาจจะไม่คาดคิดว่า ฝ่ายเวียดมินห์วางแผนรอบคอบเตรียมรับสถานการณ์ หรือมีแผนเผชิญเหตุไว้ว่าหากทางอิซาเบลล์จะส่งกำลังไปช่วยที่เดียนเบียนฟู จะทำอย่างไร แต่ฝ่ายฝรั่งเศสเองเมื่อกำลังที่ทางอิซาเบลล์จะส่งไปช่วยถูกโจมตี ไม่มีแผนเผชิญเหตุว่าจะทำอย่างไร . . . จึงไม่สำเร็จผลตามแผน
๓. ฝ่ายเวียดมินห์มีปืนใหญ่สนามมากกว่า และสามารถใช้ปืนใหญ่ทำการรบได้มีประสิทธิภาพกว่าฝ่ายฝรั่งเศส ทั้งทางยุทธวิธี และหลักยิง
๔. ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานของฝ่ายเวียดมินห์ทำการอย่างได้ผลเป็นอันดียิ่ง ฝ่ายฝรั่งเศสไม่สามารถตัดรอนกำลังอาวุธต่อสู้อากาศยานของฝ่ายเวียดมินห์ได้ ความได้เปรียบในการครองความเป็นเจ้าอากาศจึงมีผลน้อยมาก
๕. การส่งกำลังบำรุง ความสิ้นเปลืองกระสุนสูงเกินกว่าประมาณการมาก แต่เมื่อเครื่องบินร่อนลงไม่ได้ ต้องปรับแผนการส่งกำลังกระสุนเพิ่มเติมเป็นการทิ้งร่ม ก็ตกในดินแดนฝ่ายเวียดมินห์เป็นส่วนมาก ฝ่ายฝรั่งเศสได้ใช้ประโยชน์น้อยมาก
๖. อำนาจกำลังรบที่ไม่มีตัวตน มหาอำนาจจักรวรรดินิยมเจ้าอาณานิคมผู้รุกราน . . . ฝรั่งเศส กับ เวียดนาม . . . ชาติเล็กๆ ที่ถูกรุกราน กดขี่ และข่มเหง
ศึกษาจากการเข้าตีของฝ่ายเวียดมินห์ภายหลังการรบ
ขั้นการโจมตี
ขั้นที่หนึ่ง
- จากแนวโจมตีและสนามเพลาะ สามารถเอาชนะที่ ฮิมแลม (บีทรีซ) และดอคแลป (เกเบรียล)
ขั้นที่สอง
- เคลื่อนลงสู่ที่ราบระหว่างเขา ตัดส่วนกลางออกจากส่วนใต้ โจมตีด้านตะวันออกอย่างดุเดือด สามารถใช้ปืนใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำลายทางขึ้น - ลงของเครื่องบินได้
- เป็นการยึดพื้นที่ บางเนิน ยึดกันฝ่ายละครึ่ง
ขั้นที่สาม
- เป็นการรุกใหญ่ เมื่อยึดเนิน เอ - ๑ (Elaine) ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสก็หมดโอกาสที่จะชนะ
ครับ . . . พวกเราได้ศึกษาผลงานที่ท่านได้ปฏิบัติ ได้เอาความรู้ความสามารถ เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิต เข้าแลก พวกเราได้แต่เพียงเอาหลักการต่างๆ เข้าไปพิจารณาเท่านั้น ไม่สามารถล่วงรู้ข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด ท่านที่ต้องวางแผน หรือแก้ปัญหาในขณะนั้น ทั้งสองฝ่าย ท่านต้องการชัยชนะด้วยกันทั้งนั้น ท่านต้องคิดว่าทำอย่างดีที่สุด แต่ท่านก็ต้องมีข้อขัดข้องซึ่งต้องแก้ปัญหา และ ท่านคงได้ทำอย่างเหมาะสมที่สุดแล้ว หากเป็นไปตามคาด ก็เป็นผลดี หากไม่เป็นไปตามคาด ก็ . . .
ขออนุญาตกล่าวถึงเรื่องบทเรียนฯ เพียงเท่านี้ เชิญท่านผู้สนใจร่วมแสดง หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยนะครับ . . .
ผลกระทบทางการเมือง
การเริ่มแห่งการสิ้นสุดของอาณานิคมฝรั่งเศส
การที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้อย่างพินาศย่อยยับอัปราชัยที่เดียนเบียนฟู สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ศักดิ์ศรีของฝรั่งเศส และเป็นความพินาศอย่างยิ่งใหญ่ทางการเมืองของฝรั่งเศสต่อประดาเมืองขึ้นทั้งหลายในภูมิภาคอื่นด้วย . . .
ชัยชนะของฝ่ายเวียดมินห์ เป็นการเริ่มแห่งการสิ้นสุดของอาณานิคมฝรั่งเศส
เนื่องจากได้เกิดตัวอย่างให้เห็นแล้วในเวียดนาม และทหารฝ่ายฝรั่งเศสที่สู้รบในเดียนเบียนฟูส่วนมากฝรั่งเศสได้เกณฑ์ไปจากอาณานิคมในอาฟริกา ดังนั้น อาณานิคมของฝรั่งเศสในอาฟริกาจึงพยายามต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ด้งนี้
ใน พ.ศ.๒๔๙๗ หรือ ค.ศ.๑๙๕๔ นั้นเองก็ได้เกิด สงครามกู้อิสรภาพของอัลจีเรีย (ประสบผลสำเร็จแอลจีเรียได้รับเอกราชใน พ.ศ.๒๕๐๕ - ค.ศ.๑๙๖๒)
มอรอคโค และ ตูนีเซีย ได้เอกราชใน พ.ศ.๒๔๙๙ (ค.ศ.๑๙๕๖)
ในเวียดนาม . . . เมื่อ ฝรั่งเศสจากไป สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาแทนที่
ดำรงความมุ่งหมาย "รวมชาติ"
เวียดนามเหนือยังคงดำรงความมุ่งหมาย ที่จะ "รวมชาติ" และผลักดัน ขับไล่ กวาดล้าง ผู้รุกรานต่างๆ โดยใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการดำเนินการ ความขัดแย้งระหว่าง เวียดนามเหนือ กับ เวียดนามใต้ ระหว่างชาวเวียดนามด้วยกันซึ่งขัดแย้งกันในความคิดทางการเมือง กลายเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธ โดยมีมหาอำนาจสนับสนุนแต่ละฝ่าย . . . ขยายตัวยกระดับขึ้นจนกลายเป็นสงครามอินโดจีน หรือสงครามเวียดนาม ครั้งที่ ๒ ซึ่งเวียดนามเหนือก็ได้สร้างความประทับใจให้กองทัพสหรัฐอเมริกา และประชาชนอเมริกันอย่างไม่มีวันลืมได้ลง
ครับ . . . และสงครามอินโดจีน หรือสงครามเวียดนามครั้งที่ ๒ นี้ ที่ประเทศไทยและกองทัพไทยได้มีส่วนร่วมด้วยระดับหนึ่ง
. . . สงครามฝรั่งเศส - เวียดมินห์ . . .
สงครามของชาวเวียดนาม . . . ทำสงครามกับมหาอำนาจจักรวรรดินิยมเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสผู้รุกรานพยายามกลับเข้าควบคุมอาณานิคมเวียดนาม โดยมีกองกำลังภาคตะวันออกไกลของฝรั่งเศส (The French Far East Expeditionary Corps - Corps Expeditionnaire Francais en Extreme-Orient, CEFEO) เป็นเครื่องมือ
. . . ชาวเวียดนาม . . . ชาติเล็กๆ ที่ถูกรุกราน กดขี่ และข่มเหง . . . ขบวนการเพื่อเอกราชของเวียดนาม (เวียดนามด็อคแล็บดองมินห์ฮอย - Viet Nam Doc Lap Dong Minh Hoi) หรือ ที่เรียกสั้นๆว่า เวียดมินห์ (Viet Minh) . . .
โดยมีกองทัพประชาชน เป็นเครื่องมือ
ทำสงครามเพื่อเอกราช . . . เพื่ออิสรภาพ . . . ของเวียดนาม
ขอคารวะแด่ท่านที่ได้มีส่วนร่วมในสงครามฝรั่งเศส - เวียดมินห์ ทั้งสองฝ่าย
บรรณานุกรม
- สงครามจรยุทธ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ เขียน ศาศวัต วิสุทธิ์วิภาษ แปล สำนักพิมพ์ปุถุชน กรุงเทพมหานคร พ.ศ.๒๕๑๗
- "ประวัติการรบที่เดียนเบียนฟู" เอกสารประกอบวิชาแก้ปัญหาเสนาธิการกิจ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก พ.ศ.๒๕๒๑
- "สงครามเดียนเบียนฟู" เอกสารประกอบคำบรรยาย การศึกษาเฉพาะกรณีด้านการยุทธ วิชายุทธศิลป์ วิทยาลัยการทัพบก พ.ศ.๒๕๔๐
- ข้อมูล และรูปภาพ ส่วนหนึ่งได้นำมาจาก เว็ปไซต์ ต่างๆ ทำให้เรื่องสมบูรณ์และน่าอ่านยิ่งขึ้น จึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ แลหากท่านที่มีข้อมูลที่แตกต่าง หรือมีข้อคิดเห็น คำแนะนำ ขอโปรดแจ้งให้ทราบเพื่อจะได้ตรวจสอบ และดำเนินการ เพื่อประโยชน์แก่ผู้สนใจโดยทั่วไป