dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



๑๐๐ ปี สมเด็จพระปิยมหาราชเสด็จสวรรคต
วันที่ 16/02/2020   20:42:13

*  *  *

 

เมษายน  ๒๔๕๓ - ดาวหางฮัลเลย์

          จากจดหมายเหตุปูมสุริยยาตร  หรือปูมโหร  .  .  .  

          "วันจันทร์ขึ้น  ๙  ค่ำ  เดือน  ๕  เวลา  ๑๐  ทุ่ม  ดาวอุตรพัทรเกิดหางยาว  ๓  วา    โต  ๓  กำ    เบื้องทิศบูรพาหางไปข้างทิศอาคเนย์    วันจันทร์ขึ้น  ๘  ค่ำ  เดือน  ๖  จึงหาย"

          วันจันทร์ขึ้น  ๙  ค่ำ  เดือน  ๕  ตรงกับวันที่  ๑๔  เมษายน  ๒๔๕๓

          วันจันทร์ขึ้น  ๘  ค่ำ  เดือน  ๖  ตรงกับวันที่  ๑๖  พฤษภาคม  ๒๔๕๓

   

 

 

ภาพถ่ายดาวหางฮัลเลย์ซึ่งได้ถ่ายไว้เมื่อครั้งที่ปรากฏเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓  ค.ศ.๑๙๑๐

 


 

           เมื่อดาวหางฮัลเลย์โคจรจากไปจากสายตาชาวไทยโดยไม่มีเหตุร้ายใดเกิดขึ้นดังที่วิตกกังวลกัน ในที่สุดชาวไทยก็ชักจะลืมๆ  กันไป   และต่างเตรียมตัวเตรียมใจจะฉลองพระบรมรูปทรงม้าเป็นครั้งที่สองในเดือนพฤศจิกายน  ๒๔๕๓    ก็มีเหตุให้ไม่ได้ฉลองพระบรมรูปทรงม้าดังหวัง 

          และหากมีผู้สงสัยว่าจะเป็นผลมาจากดาวหางฮัลเลย์หรือไม่  ก็คงตอบได้ว่า  ไม่   


 

 

 

 

เสด็จสวรรคต - ร่ำไห้โศกาดูรกันทั้งแผ่นดิน


          พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรพระโรคพระธาตุพิการ มาแต่วันที่ ๑๖ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙    พระโรคกลายเป็นทางพระวักกะพิการ  แพทย์ได้ประกอบพระโอสถถวายพระอาการหาคลายไม่ ถึงวันเสาร์ที่  ๒๒  ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙   เวลา ๒ ยาม ๔๕ นาที  เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังสวนดุสิต  พระชนมพรรษา ๕๘  เสด็จดำรงศิริราชสมบัติ ๔๓ พรรษา วันในรัชกาลนับแต่มูลพระบรมราชาภิเศก ๑๕๓๒๐ วัน  .  .  .

(ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๒๗ วันที่ ๓๐  ตุลาคม  ๑๒๙ หน้า  ๑๗๘๒  ข่าวสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)

 

 

 

 

พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

 

 

 วันที่  ๒๓  ตุลาคม  พ.ศ.๒๔๕๓

          เวลาเช้า    สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา  พระบรมราชเทวีประทับเป็นประธานในการถวายน้ำสรงพระบรมศพเป็นส่วนฝ่ายใน

          ตอนบ่าย    เชิญพระบรมศพขึ้นพระแท่นทอง  ทรงพระภูษาแดงลอยชาย  ทรงสพักแพรสีนวล  สะไบเฉียง

          เวลา  ๑๖.๐๐  นาฬิกา    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชทรงเครื่องเต็มยศถวายสรงน้ำพระบรมศพ  พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า  และข้าราชการชั้นเสนาบดี  หม่อมเจ้าชั้นพานทอง  เสร็จแล้ว   พนักงานภูษามาลาถวายเครื่องสุกำ  ทรงเครื่องตามขัติยราชประเพณี  ทรงภูษาเขียนทองพื้นขาว  โจงหน้าหลัง  แลมีทับพระทรวง  พระสังวาล  พาหุรัด  ทองพระกร  พระธำรงค์  ๘  นิ้วพระหัตถ์  ทองข้อพระบาท  ทองปิดพระพักตร์ลงยา  ห่อใบเมี่ยง  ๑๖  ผืน    เสร็จแล้ว  เชิญเสด็จลงพระลองเงินประทับบนกาจับหลักทองคำลงยาราชาวดี  แล้วคลุมตาด    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชถวายพระชฎามหากฐิน   เสร็จแล้วเชิญพระลองจากชั้นบนลงอัฒจันทร์  ผ่านมาทางหลังห้องประชุมลงอัฒจันทร์ใหญ่ถึงหน้าที่นั่ง    ตั้งพระเสลี่ยงไปขึ้นสามคาน    ประกอบพระโกศทองใหญ่  มีพระมหาเศวตฉัตรกั้น    พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าดิลกนพรัตน์  และ พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าสุริยงประยูรพันธ์  ประคองพระโกศ    มีกระบวนแห่  ทหารบก  ๒,๐๐๐  คน  แล้วถึงตำรวจมหาดเล็กแต่งยูนิฟอร์มเสื้อครุยอย่างขบวนพยุหยาตรา    กลองชนะแดง  ๘๐    ทอง  ๒๐    เงิน  ๒๐    จ่าปี่  จ่ากลอง  ๒  สำรับ    มีตำรวจถือหวาย  ถือหอก    ขั้นนาย  สพายกระบี่    เครื่องสูงหักทองขวาง  บังแซก  ๒  สำรับ    พระแสงหว่างเครื่อง    แต่งเครื่องเสื้อครุยลำพอก    แล้วถึงพระที่นั่งสามคาน    มีพระกลดบังสุริยาคู่เคียง  ๘  คู่    พระยา  ทหาร  และราชสำนัก  มหาดเล็กเชิญเครื่องสูง    หลังนาฬิวันเปลือยผมอยู่ท้ายเครื่อง  มีธงสแตนดาร์ดเดินตาม  มีนายทหารกำกับธง    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชทรงพระดำเนินตาม  แล้วถึงเจ้านายทรงดำเนินเรียง  ๔    ตั้งแต่เจ้าฟ้า  พระองค์เจ้า  หม่อมเจ้า  แล้วม้าพระที่นั่ง  ๔  ตัว    แล้วขุนนางตั้งแต่เจ้าพระยาเป็นต้นไป  ทหารเรืออยู่ท้ายกระบวน  จำนวน  ๖๐๐    แห่ออกผ่านพระที่นั่งสีตลาภิรมย์  มาออกกำแพงที่รื้อเป็นช่องเลียบทางพระที่นั่งอนันตสมาคม  ออกพระลาน  ผ่านพระบรมรูปทางด้านตะวันตก  ไปตามถนนราชดำเนิน    เลี้ยวหน้าพระลาน

          ตามทางกระบวนแห่จะได้เห็นราษฎรสองข้างทางมีดอกไม้  ธูปเทียนบูชา  และร้องไห้แทบทุกคน  แม้แต่ทหารถือปืนข้างถนน

          กระบวนแห่เข้าประตูวิเศษไชยศรี  พิมานไชยศรี  เข้าพระมหาปราสาท    เมื่อพระบรมศพถึงแล้ว  เปลื้องประกับ  เชิญขึ้นทางมุขเหนือประตูตะวันตกมีฐานพระบุพโพฐานเขียง    ห้อยเศวตรฉัตร์  ๙  ชั้น    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชผู้ครองแผ่นดินทอดผ้าสดัปกรณ์  ๑๒๐    ผ้าขาว  ๒๔๐    แล้วเสด็จขึ้นราว  ๕  ทุ่ม

          ระยะทางเดินกระบวนจากสวนดุสิตถึงพระบรมมหาราชวังราว  ๓  ชั่วโมง   ทหารปืนใหญ่ยิงสลุตถวายตั้งแต่สรงน้ำพระบรมศพทุกนาที  จนตั้งพระโกศเสร็จ    มีประโคมและนางร้องไห้พวกเจ้าจอมและพนักงาน

 

          ผู้ใหญ่ที่มีชีวิตทันเหคุการณ์นี้  ได้เล่าว่า  วันนั้นอากาศมืดครึ้มอยู่ทั้งวัน  ครั้นกระบวนเชิญพระบรมศพเข้าสู่พระบรมมหาราชวังแล้ว  พักใหญ่  ฝนก็ตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา  
 

 

 


 

 

 พระบรมโกศประดิษฐาน  ณ  พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

 

 

 

 

 

 

 

 

    

 

 

 

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม    ขอเดชะ

 

 

 




บทความจากสมาชิก




แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker