dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



สามพี่น้องตระกูลซ่งผู้ยิ่งใหญ่ ภาพยนตร์ที่ใฝ่หาความสมานฉันท์แห่งชนชาติจีน
วันที่ 19/05/2013   16:24:41

โดย "คนเล่าเรื่อง"


              เรื่องเริ่มต้นที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนในปี ค.ศ. 1981 ซ่งชิ่งหลิงบุตรสาวคนที่สามในวัยชราของตระกูลซ่งได้ล้มป่วยลงอย่างหนักจนหมดทางรักษา  เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังรัฐบาลให้ส่งโทรเลขไปถึงสถานทูตในสหรัฐอเมริกาเพื่อส่งข่าวไปถึงซ่งเหม่ยหลิงบุตรสาวคนเล็กที่อาศัยอยู่ที่นั่น และบอกว่าซ่งชิ่งหลิงอยากให้มาพบเพื่อดูใจ และที่ลองไอส์แลนด์  เมืองนิวยอร์ก ซ่งเหม่ยหลิงซึ่งนั่งรถเข็นได้ทราบเรื่อง ได้แต่รำพึงรำพันโดยยังไม่ตัดสินใจทำอะไร  ในขณะที่ซ่งชิ่งหลิงที่ป่วยหนักยังคงถามหาซ่งเหม่ยหลิง

              จากนั้น จึงตัดมาถึงตอนที่ประเทศจีนในยุคปลายของราชวงศ์ชิงในระบอบจักรพรรดิ  ซึ่งได้มีชาวจีนจำนวนมากพยายามต่อต้านทั้งทางลับและทางแจ้ง ซึ่ง ดร. ซุนยัดเซ็น ก็นับเป็นผู้นำขบวนการต่อต้านที่ถูกหมายหัวคนหนึ่ง  แต่เขาได้รับความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ จากชาวจีนผู้รักชาติ คนหนึ่งคือ ชาร์ลี ซ่ง หรือ ซ่งเอี้ยวหยูเจ้าของโรงพิมพ์ชาวจีนผู้นับถือศาสนาคริสต์ได้ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่  ซ่งเอี้ยวหยู มีบุตรสาวสามคน คือ ซ่งอ้ายหลิง ซ่งช่งหลิง และซ่งเหม่ยหลิง  ซึ่งเด็กหญิงทั้ง 3 ได้พบเห็นการสนับสนุนการต่อสู้ของ ดร.ซุนยัดเซ็นโดยพ่อของพวกเธอด้วย  จากนั้น ซ่งเอี้ยวหยูได้ส่งลูกสาวทั้ง 3 ไปเรียนต่อที่อเมริกา (ในประวัติศาสตร์  ทั้ง 3 ไม่ได้เดินทางไปเรียนพร้อมกัน)
 


สามพี่น้องตระกูลซ่งวัยสาวตัวจริงกับในภาพยนตร์ จากซ้ายไปขวา ซ่งอ้ายหลิง ซ่งชิ่งหลิง และซ่งเหม่ยหลิง


ซ่งเอี้ยวหยูหรือ ชาร์ลี ซ่ง


ซ่งเอี้ยวหยูกับภรรยาในภาพยนตร์


สามพี่น้องตระกูลซ่งวัยเด็กเดินทางไปอเมริกา

              และแล้ว ประเทศจีนก็ได้เปลี่ยนการปกครองจากระบอบฮ่องเต้ที่มีอายุยืนยาวนับพันปีมาเป็นระบอบสาธารณรัฐในปี ค.ศ. 1911 เมื่อทั้ง 3 คนทยอยเดินทางกลับมา ซ่งอ้ายหลิงซึ่งทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของ ดร.ซุนยัดเซ็นได้ระยะหนึ่งแล้วจึงลาออกมาแต่งงานกับข่งเสียงซี ทายาทรุ่นที่ 75 ของมหาปราชญ์ขงจื๊อ ผู้มีการศึกษาสูงจากต่างประเทศและมีทรัพย์สมบัติอันร่ำรวยของตระกูล แล้วซ่งชิ่งหลิงจึงได้ทำงานเป็นเลขา ดร. ซุนยัดเซ็นแทนพี่สาว แต่ประเทศจีนในขณะนั้น นอกจากจะยังไม่เป็นปึกแผ่นแล้ว ยังเกิดความแตกแยกเป็นก๊กเหล่าของบรรดาขุนศึก   ซ่งชิ่งหลิงได้ทุ่มเทกายและสติปัญญาให้อย่างเต็มที่ต่อนักปฎิวัติผู้อุทิศตัวให้กับชาติและประชาชนอย่างแท้จริง  จนกระทั่งต่อมา  เธอได้ทุ่มเทใจให้กับ ดร. ซุนยัดเซ็น และได้มีความก้าวหน้าในการงานจากตำแหน่งเลขามาเป็นภรรยาคู่ชีวิต  ภายใต้การคัดค้านและกีดกันขนาดตัดพ่อตัดลูกและตัดเพื่อนของซ่งเอี้ยวหยูผู้เดือดดาลต่อการเปลี่ยนสถานะของเพื่อนอย่าง ดร.ซุนยัดเซ็นมาเป็นลูกเขย

              งาน การรวบรวมชาติของ ดร.ซุนยัดเซ็นไม่ราบรื่น  มีแต่ปัญหาและอุปสรรคมากมาย รวมทั้งศัตรูผู้ปองร้าย นั่นคือ บรรดาขุนศึกทั้งหลายที่ต่างมาร่วมมหกรรมสงครามชิงแผ่นดินในครั้งนี้  เขาต้องบริหารประเทศอย่างกระพร่องกระแพร่งและต้องหลบหนีจากศัตรูผู้ปองร้ายไปด้วย  และครั้งที่หนักที่สุด คือ การยิงถล่มทำเนียบประธานาธิบดี (ในประวัติศาสตร์ ถือเป็นการปองร้าย ดร.ซุนยัดเซ็นที่หนักที่สุดในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1922) ซึ่งเจียงไคเช็กนายทหารหนุ่มอนาคตไกลได้รีบรุดไปช่วยเหลือ  แม้ว่าจะต้องละจากการชมอุปรากรฉากสำคัญและต้องละจากการทำความรู้จักกับซ่งเหม่ยหลิงซึ่งมาชมอุปรากรนั้นด้วย  การยิงถล่มทำเนียบครั้งนั้นสร้างความลำบากและความเสี่ยงต่อชีวิตให้กับ ดร.ซุนยัดเซ็นและซ่งชิ่งหลิงอย่างมากจนกระทั่งเธอต้องแท้งลูกในท้องไป


งานแต่งงานของซ่งอ้ายหลิง


ซ่งชิ่งหลิงทำงานเป็นเลขาให้ ดร.ซุนยัดเซ็น 


ดร.ซุนยัดเซ็นกับซ่งชิ่งหลิง

              ดร. ซุนยัดเซ็นนิยมชมชอบในตัวของเจียงไคเช็กมาก จึงได้สนับสนุนให้ตั้งกองทหารของสาธารณรัฐและโรงเรียนนายทหารหวงผู่โดยความช่วยเหลือทางการเงินของข่งเสียงซีคู่เขย กองทัพใหม่มีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการก่อตั้งกองทัพอากาศ  ต่อมา ซ่งเอี้ยวหยู ได้ล้มป่วยและถึงแก่กรรมโดยบุตรสาวทั้งสามต่างร่วมกันดูใจ ซึ่งซ่งชิ่งหลิงได้กล่าวขอขมาต่อพ่อของเธอเป็นครั้งสุดท้าย และ ดร. ซุนยัดเซ็นก็เศร้าโศกเสียใจอย่างมากกับการจากไปของผู้เป็นทั้งเพื่อนและพ่อตา

              ดร. ซุนยัดเซ็นยังคงทำงานหนักแบบอุทิศตัวให้กับประเทศชาติและอุดมการณ์ แม้ว่าสุขภาพจะย่ำแย่ลง  เขาต้องการสมานฉันท์กับกลุ่มการเมืองใหม่ (ในยุคนั้น) คือ พรรคคอมมิวนิสต์  แต่เขาก็ได้ล้มเจ็บหนักจนถึงแก่กรรมไปโดยยังทิ้งภาระกิจการสร้างรัฐใหม่ในอุดมคติไว้แก่คนรอบข้างรวมทั้งภรรยาของเขาด้วย

              เจียงไคเช็กได้เริ่มงานสร้างชาติใหม่ในความคิดของเขาอย่างแข็งขันพร้อม ๆ กับการสร้างครอบครัวใหม่ด้วยการพยายามสร้างสัมพันธ์กับซ่งเหม่ยหลิงโดยการสนับสนุนของซ่งอ้ายหลิง เขาได้กวาดล้างศัตรูทางการเมืองอย่างรุนแรงและโหดเหี้ยม โดยเฉพาะกับพวกคอมมิวนิสต์  ซึ่งซ่งชิ่งหลิงได้คัดค้านและประณามเจียงไคเช็กอย่างเปิดเผยและรุนแรงซึ่งสร้างความขุนเคืองให้แก่เจียงไคเช็กเป็นอย่างมาก   เจียงไคเช็กได้รับปากต่อเงื่อนไขของครอบครัวซ่งว่าจะหย่าขาดจากภรรยาเก่า  เรียนรู้หลักคำสอนของศาสนาคริสต์ให้มากขึ้นเพื่อการสมรสกับซ่งเหม่ยหลิง แต่ถูกคัดค้านอย่างหนักจากซ่งชิ่งหลิง แต่ซ่งเหม่ยหลิงได้สัมผัสและหลงใหลกับอำนาจวาสนาเสียแล้ว เธอจึงตั้งใจที่จะร่วมชีวิตกับเจียงไคเช็ก และแล้วเจียงไคเช็กจึงได้แต่งงานกับซ่งเหม่ยหลิงอย่างชื่นมื่น (ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 1927 ขณะนั้น ซ่งเหม่ยหลิงอายุ 29 ปี เจียงไคเช็กอายุ 40 ปี)  ต่อมา เธอได้ไปอาศัยอยู่ที่รัสเซียช่วงหนึ่งและได้เรียนรู้หลักและทฤษฎีของสังคมนิยมมากขึ้น และเมื่อกลับมา  เธอกับพี่และน้องก็ได้ร่วมกันปรนนิบัติและดูแลแม่เป็นครั้งสุดท้าย


เจียงไคเช็กกับซ่งเหม่ยหลิง


เจียงไคเช็กแต่งงานกับซ่งเหม่ยหลิง


การถกเถียงกันทางการเมืองระหว่างซ่งชิ่งหลิงกับเจียงไคเช็ก

              จากนั้น  ซ่งชิ่งหลิงยังคงปฏิบัติตนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจียงไคเช็กแบบไม่ลดราวาศอก จนความสัมพันธ์ในครอบครัวตึงเครียดมากขึ้น มีการถกเถียงที่รุนแรงบนโต๊ะอาหารเกี่ยวกับลัทธิการเมืองและความเห็นที่แตกต่างในการปกครองอย่างเผ็ดร้อนระหว่างเจียงไคเช็กกับซ่งชิ่งหลิง (คล้าย ๆ กับการถกเถียงเรื่องแบ่งข้างและแบ่งสีในขณะนี้) พร้อม ๆ กับการต่อต้านเจียงไคเช็กที่หนักข้อกว่าเดิมต่อหน้าสาธารณชน  จนเขาได้สั่งทำร้ายเธอ  แต่ทั้งซ่งอ้ายหลิงและซ่งเหม่ยหลิงได้เตือนสติและช่วยขอร้องแกมบังคับให้เขาเลิกราไป

              เมื่อกองทหารญี่ปุ่นเข้ารุกรานประเทศจีน  เจียงไคเช็กนอกจากจะไม่ต่อต้านญี่ปุ่นแล้ว  ยังทำการกวาดล้างพรรคคอมมิวนิสต์ต่อไปอย่างไม่ลดละโดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องของประชาชน  กลุ่มคอมมิวนิสต์ต้องสูญเสียที่มั่นและกำลังพลไปมากมายจนต้องล่าถอยไปเกิดเป็นวีรกรรมการเดินทัพทางไกล  แล้วกองทัพแดงของคอมมิวนิสต์จึงหนีไปตั้งหลักได้ที่เมืองเหยียนอาน มณฑลส่านเป่ย  เจียงไคเช็กได้สั่งให้ขุนศึกคนสำคัญในซีอาน คือ นายพลหยางหู่เฉิง  และจอมพลจางเสวียเหลียงเตรียมการบดขยี้กองทัพแดงเป็นครั้งสุดท้าย  โดยเขาได้เดินทางไปบัญชาการด้วยตนเอง  แต่ในที่สุด ทั้ง 2 ได้ก่อทำการจับตัวเจียงไคเช็กและบังคับให้เลิกกวาดล้างกองทัพแดง  แล้วให้ร่วมมือกันสู้กับญี่ปุ่น

              ทั้ง 3 พี่น้องได้รับทราบข่าวนี้ด้วยความตกใจ  ไม่มีใครที่กล้าเดินทางไปเจรจาทำความตกลงและใน ครม. ยังมีการออกความเห็นให้นำเครื่องบินไปทิ้งระบิดฐานที่มั่นในซีอานเพื่อกวาดล้างพวกกบฎ (ซึ่งน่าจะเป็นการหมกเม็ดเพื่อการกำจัดเจียงไคเช็กด้วย) ซ่งเหม่ยหลิงจึงได้สั่งห้ามไว้และตัดสินใจเดินทางไปเจรจาด้วยตนเองเพียงลำพัง (ตามประวัติศาสตร์เธอเดินทางไปพร้อมกับพี่ชาย ทีวี ซ่ง หรือซ่งจื่อเหวิน) โดยทั้งซ่งอ้ายหลิงและซ่งชิ่งหลิงก็สนับสนุนเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์กันในชาติ



การกวาดล้างพวกคอมมิวนิสต์ของเจียงไคเช็ก


สามพี่น้องปรึกษาหาทางช่วยเหลือเจียงไคเช็ก


สามพี่น้องช่วยกันรณรงค์เพื่อต่อสู้กับญี่ปุ่น

              ที่ซีอาน ซ่งเหม่ยหลิงได้ใช้กุศโลบายแก้ไขสถานการณ์จากเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก และโน้มน้าวให้เจียงไคเช็กหันมาร่วมมือกับสองนายพลเพื่อต่อต้านญี่ปุ่น (ในหนังค่อนข้างย่นย่อครับ  แต่ถ้าอ่านเรื่องจริงในประวัติศาสตร์จากหนังสือทางสู้ในชีวิต  จะพบว่าซ่งเหม่ยหลิงมีไหวพริบปฏิภาณที่ดีเยี่ยมในการผ่อนคลายสถานการณ์ที่แสนคับขันได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว) เจียงไคเช็กและเธอจึงเดินทางกลับมาได้  และแล้ว  การต่อสู้ขับไล่กองทัพญี่ปุ่นผู้รุกรานโดยชาวจีนทั้งผองจึงได้เริ่มต้นขึ้น  แล้วทั้ง 3 พี่น้องก็ได้ทำกิจกรรมบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ทหารอย่างเต็มที่ (ในประวัติศาสตร์ ทั้ง 3 ได้ร่วมด้วยช่วยกันในกิจการของชาติยามสงครามที่เมืองฉงชิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของจีนในเวลานั้น) ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาของความสมานฉันท์ของสามพี่น้อง และคนในชาติ (แม้ว่าในประวัติศาสตร์  ยังคงมีความหวาดระแวงและแอบแทงข้างหลังกันระหว่างกองทัพของเจียงไคเช็กและกองทัพแดงทั้งในทางลับและทางแจ้งก็ตาม)

              ต่อมา เมื่อสงครามสิ้นสุด ซ่งอ้ายหลิงได้เกษียณตัวเองจากงานการเมืองแล้วย้ายไปอยู่ฮ่องกงกับครอบครัว (ในประวัติศาสตร์ เธอและครอบครัวได้อพยพไปอยู่ไต้หวันพร้อมกับเหม่ยหลิงช่วงกองทัพแดงเอาชนะสงครามชิงแผ่นดินได้  แล้วจึงย้ายไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา) แล้วสองพี่น้องที่เหลืออยู่ยังคงทำงานการเมืองแบบต่างขั้วต่อไปจนถึงตอนที่ต้องชิงแผ่นดินกันอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1949 กองทัพแดงมีชัยได้ครองแผ่นดินทั้งหมด เจียงไคเช็กและซ่งเหม่ยหลิงต้องอพยพไปตั้งอาณาจักรใหม่ที่เกาะไต้หวัน ซ่งชิ่งหลิงอยู่ในแผ่นดินใหญ่ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์สร้างรัฐใหม่และการเมืองใหม่ ทั้งคู่ จึงต้องแยกจากกันไปตลอดกาล

              ท้ายเรื่อง ซ่งชิ่งหลิงซึ่งป่วยหนักรำพันข้อความบางอย่างก่อนสิ้นใจ ในขณะที่ซ่งเหม่ยหลิงนั่งสะท้อนใจและเศร้าโศกเมื่อได้ทราบข่าวท่ามกลางสายฝนพรำ

              พี่น้องตระกูลซ่งเป็น ภาพยนตร์อัตชีวประวัติของพี่น้องผู้หญิง 3 คนที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเมืองและการทหารจีนยุคใหม่หลัง ราชวงศ์แมนจูอย่างสำคัญ

 


สามพี่น้องตระกูลซ่งวัยกลางคน 1 จากซ้ายไปขวา ซ่งอ้ายหลิง  ซ่งเหม่ยหลิง  และซ่งชิ่งหลิง


สามพี่น้องตระกูลซ่งวัยกลางคน 2


สามพี่น้องตระกูลซ่งเยี่ยมเยียนเด็กกำพร้าในเมืองฉงชิ่ง

              ใน แง่ประวัติศาสตร์  หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวในประวัติศาสตร์การเมืองจีนผ่านทางตัวละคร พี่น้องสามสาวและบุคคลในประวัติศาสตร์อย่างประนีประนอม  และสมานฉันท์  (ยกเว้นบางคน เช่น เจียงไคเช็กที่ หนังสร้างภาพความเป็นผู้ร้ายให้เต็ม ๆ) เพื่อสะท้อนถึงความแตกต่างทางความคิดด้านการเมืองการปกครองของพี่น้องสามคน ซึ่งเปรียบเสมือนกับแผ่นดินจีน 3 ผืนที่ต้องแบ่งแยกออกไปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซ่งอ้ายหลิง พี่สาวคนโตที่เป็นตัวแทนของทุนนิยมซึ่งได้ย้ายไปอยู่ฮ่องกง ถิ่นจีนทุนนิยมหลังสงคราม ซ่งชิ่งหลิง น้องสาวคนกลาง ผู้สมัครใจอยู่ในแผ่นดินใหญ่ตามคำเชิญของประธานเหมาเจ๋อตง  เพื่อเทอดเกียรติและสืบทอดเจตนารมณ์ไตรราษฎร์ของ ดร.ซุนยัดเซ็น ผู้นำการเปลี่ยนแปลงรัฐจีนในยุคใหม่  ซ่งเหม่ยหลิง น้องสาวคนสุดท้อง ผู้ร่วมชีวิตกับผู้ปกครองเผด็จการเจียงไคเช็กซึ่งหนีไปตั้งหลักที่เกาะไต้หวัน และสร้างความเจริญก้าวหน้าแบบทุนนิยมโดยยังคงยึดหลักไตรราษฎร์ของ ดร. ซุนยัดเซ็น แม้จะเป็นเพียงเปลือกก็ตาม โดยความหวังที่จะให้แผ่นดินจีนทั้ง 3 ผืนกลับมารวมกันได้อย่างเป็นปึกแผ่นในที่สุดแบบพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งสามคน

              ความสัมพันธ์ของพี่น้องทั้ง 3 ถึง แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันจนถึงขัดแย้งในด้านวิถีชีวิตและจุดมุ่งหมาย  ซึ่งมีนัยยะสะท้อนถึงความแตกต่างทางความคิดของกลุ่มการเมืองทั้งสามกลุ่ม คือ ทุนนิยม  เผด็จการ และประชาชน ดังที่มีผู้สรุปถึงอุปนิสัยและความคิดของพี่น้องสามคนว่า  คนหนึ่งหลงใหลเงิน คนหนึ่งหลงใหลอำนาจ ส่วนอีกคนรักประเทศ  แต่ก็ยังเป็นไปดำเนินไปอย่างผูกพัน รักใคร่ ห่วงหาอาทรซึ่งกันและกันช่วยสะท้อนความเป็นพี่น้องร่วมชาติเดียวกันของชาวจีนนั่นเองครับ


การพบปะและอยู่ร่วมกันครั้งสุดท้ายของสามพี่น้อง

              หนังเรื่องนี้ได้พยายามทำให้ความขัดแย้งของพี่น้องทั้งสามนั้นดำเนินไปอย่างประนีประนอม ความปรองดอง และมีความผูกพันกันเช่นเดียวกับชาวจีนในประวัติศาสตร์ช่วงนั้น  โดยพยายามพูดถึงประเด็นการกวาดล้าง กดขี่ข่มเหง ให้เป็นไปแต่พอสมควร (ทั้งที่ในความเป็นจริง การกวาดล้างคอมมิวนิสต์ของตอมพลเจียงนั้นรุนแรงแทบไม่ต่างจากการกวาดล้างศัตรูทางการเมืองของฮิตเลอร์และสตาลินเลย) การละเว้นที่จะกล่าวถึงพฤติกรรมแบบผลประโยชน์ทับซ้อนของพี่สาวคนโตกับคู่สมรส (ในประวัติศาสตร์ ซ่งอ้ายหลิงกับข่งเสียงซีได้กอบโกยผลประโยชน์ไปไม่น้อยจากการเกี่ยวดองเป็นญาติกับนายพลเจียงด้วยการเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง) ก็เป็นการยอมรับระบบทุนนิยมที่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนา   การยกย่องสรรเสริญ ดร. ซุนยัดเซ็น นักปฏิวัติที่ยังคงนั่งอยู่ในหัวใจของชาวจีนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อสื่อไปถึงจุดกำเนิดเดียวกันของระบอบการปกครองจีนใหม่หลังยุคราชวงศ์ชิงของแมนจู  รวม ทั้งการที่สุดท้ายทั้ง 3 พี่น้องก็ได้ร่วมมือกันทำการเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ตามความสามารถและ ความถนัดของแต่ละคน  ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสามพี่น้องและประเทศชาติ และเป็นความหวังให้แผ่นดินจีนทั้ง 3 กลับมารวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง คือ ฮ่องกง (ซึ่งกลับเป็นของจีนไปแล้ว) จีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน

              แต่ตัวหนังได้ละเลยรายละเอียดในเรื่องของพี่น้องตระกูลซ่งบางคนออกไป คือ ที่จริงแล้ว ชาร์ลี ซ่ง มีลูก 6 คน เป็นผู้ชาย 3 และผู้หญิง 3 คน ซึ่งเรียงตามลำดับ ดังนี้ครับ

  • ลูกสาวคนโต ซ่งอ้ายหลิง (ค.ศ. 1890-1973)
  • ลูกสาวคนที่สอง ซ่งชิ่งหลิง (ค.ศ. 1893-1981)
  • ลูกชายคนที่สาม ซ่งจื่อเหวิน
  • ลูกสาวที่สี่ ซ่งเหม่ยหลิง (ค.ศ. 1898-2003)
  • ลูกชายที่ห้า ซ่งจื่อเหลียง
  • ลูกชายคนที่หก ซ่งจื่ออัน

              ตัวหนังได้ละทิ้งพี่ชายและน้องชายของครอบครัวนี้ไปจนหมด เข้าใจว่าต้องการให้หนังเดินเรื่องที่ 3 พี่น้องผู้หญิงเป็นหลัก และตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป รวมทั้งการเดินเรื่องที่แตกต่างจนถึงคลาดเคลื่อนจากประวัติศาสตร์จริงหลายประการ ซึ่งก็เป็นไปตามความเหมาะสมของเนื้อหาและเวลาของหนัง  รายละเอียดอื่น ๆ ที่ถูกแต่งเติมเข้ามาให้เกิดความน่าสนใจชวนติดตาม เช่น ตอนที่ทั้งเหม่ยหลิงและเจียงไคเช็กนั่งเครื่องบินกลับจากซีอาน  แล้วไฟในสนามบินดับจนอ้ายหลิง ต้องออกปัญญาให้รถยนต์เรียงแถวส่องไฟนำทางให้  รวมทั้งบทสรุปการพลัดพรากของสามพี่น้องหลังสงครามที่ถูกละเลยไปจากการเร่ง รัดจนบทหนังช่วงท้ายขาดรายละเอียดไปอย่างมากในความเห็นของผม  เพราะยังมีช่วงเหตุการณ์อีกมากช่วงหลังสงครามโลกมาสู่สงครามชิงแผ่นดินจนคอมมิวนิสต์มีชัยที่ถูกละเว้นเอาไว้ ซึ่งผมคิดว่า  น่าจะมีฉากเหตุการณ์สรุปการพลัดพรากกันของสามพี่น้องสักหน่อยเพื่อให้เรื่องสมบรูณ์ขึ้นครับ


ซ่งชิ่งหลิงในสภาพป่วยหนักก่อนสิ้นใจ


ซ่งเหม่ยหลิงถอนใจเมื่อคิดถึงพี่สาว

              ดาราทั้ง 3 ที่มารับบทบาทก็นับว่าทำได้ดีตามหน้าที่ครับ มิเชล โหยว สามารถสลัดบทบาทนางเอกนักบู๊มาเป็นพี่ใหญ่ที่รักและหวังดีต่อน้อง ๆ ทุกคน  จางม่านอวี้  กับบทชีวิตที่หนักในการร่วมงานและร่วมชีวิตสร้างชาติจีนใหม่กับ ดร. ซุนยัดเซ็น และต้องสืบทอดเจตนารมณ์อย่างแนบแน่น  และ วิเวียน วู  กับบทของหญิงสาวผู้ทะเยอทะยาน  เจ้าปัญญา และไหวพริบที่ดี  แต่สำหรับผม ดาราที่มารับบทซ่งเหม่ยหลิงเธอดูไม่เหมาะสมเลยครับเมื่อเทียบกับซ่งเหม่ยหลิงตัวจริงที่มีใบหน้าคมเข้มที่สุด แม้ว่าเธอจะทำบทบาทได้ดีก็ตาม ส่วน ดร.ซุนยัดเซ็นนั้นผมคิดว่าหนุ่มเกินไปหน่อยกับบทของเขา  สำหรับเจียงไคเช็กนั้น  ช่างดูใกล้เคียงกับตัวจริงมากเลยครับ

              งานโปรดักชั่นต่าง ๆ นับว่าอลังการสมศักดิ์ศรีหนังมหากาพย์แบบนี้  หลาย ๆ ฉากมีความยิ่งใหญ่สมจริง  งานกำกับศิลป์ของฉากแบบย้อนยุคก็นับว่ากลมกลืน (ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า การกำกับศิลป์แบบย้อนยุคอันใกล้ของเรา มักใช้ของเก่าแบบเก่าจริง ๆ ตามสภาพของมันในปัจจุบัน เช่น โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป โดยไม่ได้คิดว่าในยุคนั้นของเหล่านี้จะต้องมีสภาพใหม่  จึงทำให้หนังดูหดหู่เป็นประจำครับ) แสงและสีของภาพยนตร์ก็อยู่ในโทนสดใส  จึงไม่ใช่หนังที่หนักหรือมีปรัชญาที่สูงจนเกินกว่าที่คนทั่วไปจะดูได้ครับ

              สุดท้ายครับ  ต้องขอออกความเห็นสักหน่อยว่า  เนื้อเรื่องตอนที่เจียงไคเช็กเอาแต่ปราบปรามคอมมิวนิสต์แบบให้สิ้นซากโดยเอาแต่ตั้งข้อรังเกียจเหยียดหยาม และประณามพวกเขาเหล่านั้นนั้น  การกระทำนี้ในท้ายสุดได้นำความปราชัยมาสู่ตัวของเขา  ซึ่งไม่ต่างจากการเมืองของประเทศสารขัณฑ์ที่กำลังโดนกระแสชาตินิยมผสมความเกลียดชัง  ผสมกับการแบ่งแยกแบบสุดขั้ว  แล้วนำไปสู่การทำลายล้างกันอย่างน่าเศร้าครับ

เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด  หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย

บริษัทผู้สร้าง – Centro, Golden Harvest

กำกับ – Mabel Cheung Yuen-Ting

อำนวยการสร้าง - Alex Law Kai-Yu, Ng See Yuen

บทภาพยนตร์ - Alex Law Kai-Yu

กำกับภาพ – Artur Wong

ตัดต่อ - Mei Feng

ดนตรีประกอบ - Kitaro, Randy Miller

กำกับศิลป์ - Eddie Ma

ออกแบบเครื่องแต่งกาย-
Emi Wada

แสดงนำMaggie Cheung Man-Yuk, Michelle Yeoh (Yeung Chi-King), Vivian Wu Kwan-Mui, Winston Chao (Chiu Man Suen), Wu Xing-Guo (Ng Hing Kwok), Jiang Wen, Elaine Kam Yin-Ling, Niu Zhen Hua

ปีที่ออกฉาย 1997,

อ่านเพิ่มเติม 

  • 3 สตรีเหล็กตระกูลซ่ง  บุญศักดิ์ แสงระวี
  • สงครามชิงแผ่นดิน  สุขสันติ์  วิเวกเมธากร
  • ทางสู้ในชีวิต หลวงวิจิตรวาทการ
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Soong_sisters 

คำพูดจากภาพยนตร์

  • พวกเธอ (ลูก ๆ ทั้ง 3) คือผู้หญิงยุคใหม่ของจีน ผู้หญิงที่จะเป็นผู้นำ
    (ซ่งเอี้ยวหยูบอกกับภรรยาเมื่อต้องส่งลูกสาวทั้ง 3 ไปเรียนต่อที่อเมริกา)
  • เมืองจีนอายุ 5 พันปี แก่จนฟั่นเฟือนเลอะเทอะ ยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งล้าหลัง
    (ซ่งเอี้ยวหยูวิจารณ์สภาพประเทศจีน)
  • เจียงไคเช็กไม่ใช่ลินคอล์นจีน เขาเป็นแค่นโปเลียนของหนิงโปเท่านั้น
    (ซ่งชิงหลิงกล่าวเตือนน้องสาว เมื่อรู้ว่าจะแต่งงานกับเจียงไคเช็ก)
  • ผู้ชายไม่มีดีและชั่ว  มีแต่แข็งแกร่งและอ่อนแอ
    (ซ่งอ้ายหลิงพูดถึงทัศนะของเธอต่อผู้ชายกับน้องสาว)
  • สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เกียจคร้าน ไม่ใช่ทหารที่ดี  นายทหารที่แท้จริง ต้องมีความคิดลึกซึ้ง ความเป็นอยู่เรียบง่าย
    (เจียงไคเช็กกล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา)
  • ทำผิดลงโทษ ทำดีตอบแทน สมควรฆ่าก็ฆ่า
    (เจียงไคเช็กอธิบายหลักการปกครองแบบของเขาต่อซ่งชิงหลิง)
  • ญี่ปุ่นเป็นเพียงโรคผิวหนังสำหรับจีน  แต่คอมมิวนิสต์เป็นหนามตำใจของจีน
    (เจียงไคเช็กบอกกับซ่งเหม่ยหลิง)
  • ประวัติศาสตร์ไม่มีคำว่า “ถ้า”
    (ซ่งชิ่งหลิงกล่าวก่อนสิ้นใจ)

 กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

  • (ยังไม่มี)

 
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ

หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ

Bookmark and Share

 ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com

ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์

 



สงครามโลกครั้งที่ 2 - เอเชีย/แปซิฟิก

From Here to Eternity ดรามาชีวิตทหารอเมริกันก่อนการโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์ วันที่ 19/05/2013   16:18:19 article
The Pacific สมรภูมิวีรบุรุษ .. วันที่ 19/05/2013   16:21:18
เว่ยตี่ฮองเฮา+สนมเอกนอกบัลลังก์ กับปูยีในมุมมองผู้สร้างหนังฮ่องกง วันที่ 19/05/2013   16:25:33
zero ซีโร่ บินเพชฌฆาต ลูกผู้ชายแห่งแดนอาทิตย์อุทัย วันที่ 19/05/2013   16:26:34
The Last Emperor จักรพรรดิโลกไม่ลืม วันที่ 19/05/2013   16:27:34
Kawashima Yoshiko - ผู้หญิงพันธุ์มหาอำนาจ วันที่ 19/05/2013   16:28:36
Don't Cry, Nanking สงครามอำมหิตปิดตาโลก วันที่ 19/05/2013   16:29:52
Away All Boats อีกแบบฉบับนักบริหารที่น่าศึกษา วันที่ 19/05/2013   16:30:55
Flying Tigers หนังสงครามเรื่องแรกของ John Wayne วันที่ 19/05/2013   16:32:04
Letters from Iwo Jima เมื่อฝรั่งสร้างหนังญี่ปุ่นได้น่าประทับใจ วันที่ 19/05/2013   16:33:04
Flags of our Fathers วันที่ 19/05/2013   16:34:14
The Bridge on the River Kwai สะพานข้ามแม่น้ำแคว วันที่ 19/05/2013   16:35:23
Thin Red Line : มนุษย์กับธรรมชาติ VS มนุษย์กับสงคราม วันที่ 19/05/2013   16:36:25
ยุทธภูมิโหด โอกินาว่า (Battle of Okinawa) มุมมองที่ไม่สมบูรณ์ วันที่ 19/05/2013   16:37:22
MacArthur ขุนพลอเมริกัน ผู้เป็นดั่ง รัฐบุรุษ ในแดนญี่ปุ่น วันที่ 19/05/2013   16:38:20
Pearl Harbor นวนิยายบนแผ่นฟิล์มที่บิดเบือนประวัติศาสตร์? วันที่ 19/05/2013   16:39:10
The Great Raid 121 แบบฉบับอันยอดเยี่ยมของปฏิบัติการช่วยเชลยศึก วันที่ 19/05/2013   16:40:53
ยุทธนาวีที่ Midway : วีรกรรมคนปนโชคชะตา วันที่ 19/05/2013   16:42:05
Yamato ปรัชญาแห่งการยอมสู้ตายเพื่อการเกิดใหม่ที่ดีกว่า วันที่ 19/05/2013   16:43:00
Tora!Tora!Tora! โศกนาฏกรรมที่ Pearl Harbor ทั้งของผู้แพ้และผู้ชนะ วันที่ 19/05/2013   16:43:44
แฉลับสงครามโหด (Untold Stories of World War II) วันที่ 19/05/2013   16:44:37
นายพลเรือเอก ยามาโมโต ผู้หวังรีบเผด็จศึกเพื่อสันติภาพ วันที่ 19/05/2013   16:45:33
Windtalkers เมื่อคุณกันใช้รหัสลับภาษาอินเดียนแดงในยุทธการที่เกาะไซปัน วันที่ 19/05/2013   16:48:39
Oba: The Last Samurai (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:49:22 article
My Way (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:49:51 article
Ip Man ภาค 1-2 (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:50:19 article



1

ความคิดเห็นที่ 1 (94016)
avatar
หมาป่าดำ

ชอบซาวน์แทร็ก เรื่องนี้มากครับ โดย คิทาโร่

ผู้แสดงความคิดเห็น หมาป่าดำ (mistiest-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2010-04-20 14:23:38



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker