webmaster@iseehistory.com
ในบรรดาภาพยนต์ที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น เชื่อว่า Band of Brothers อันเป็นวีรกรรมของทหารพลร่มอเมริกันกลุ่มหนึ่ง จะเป็นที่ประทับใจของคนส่วนใหญ่ หรือเป็นเรื่องที่เรานึกถึงเป็นลำดับต้นๆ อย่างงไรก็ตาม หลายคนรวมทั้งผมอาจมีคำถามอยู่ในใจบ้างเหมือนกันว่า แล้วทหารหน่วยหน่วยอื่น สมรภูมิอื่น หรือกระทั่งทหารชาติอื่น เขาไม่เก่งหรือไม่สำคัญบ้างหรือไร คำถามในทำนองนี้จากทหารผ่านศึกสงครามมโลกครั้งที่ 2 ทางด้านเอเชียและแปซฟิก ได้มีส่วนกระตุ้นให้ผู้สร้าง Band of Brothers ได้สร้างภาพยนต์ซีรี่อีกชุดหนึ่ง คือ The Pacific อันเป็นเรื่องราวของทหารนาวิกโยธินกองพลที่ 1ของสหรัฐอเมริกา ที่ได้สร้างวีรกรรมไว้ในสมรภูมิตามหมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก
Robert Leckie
John Basilone
Eugene Sledge
จากการที่ The Pacific สร้างขึ้นตามหลัง Band of Brothers โดยผู้สร้างเดียวกัน ทำให้ภาพยนต์ทั้ง 2 เรื่องถูกนำมาเปรียบเทียบกันอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่มันอาจจะเปรียบกันได้ในบางแง่มุมเท่านั้น สำหรับเรื่องราวของภาพยนตร์มินิซีรีส์ซึ่งมีถึง 10 ตอนด้วยกันนั้น คงพอจะเล่าสู่กันฟังได้เพียงคร่าวๆ ว่ามีตัวละครสำคัญที่ดำเนินเรื่องอยู่ 3 คน คือ โรเบิร์ต เล็คกี (ลัคกี้), ยูจีน สเลดจ์ และ จอห์น บาซิโลน และตัวละครรองๆ อีกจำนวนหนึ่ง เมื่อสหรัฐอเมริกาถูกญี่ปุ่นโจมตีที่เพิรล์ฮาเบอร์ในเดือนธันวาคม 1941/พ.ศ.2484 บรรดาตัวเอกของเราก็ได้อาสารับใช้ชาติในหน่วยนาวิกโยธิน ซึ่งในเรื่องไม่ได้เล่าเรื่องราวการฝึกเบื้องต้นแต่ประการใด โดยข้ามไปยังเหตุการณ์สำคัญๆ คือ
1. การสงครามที่เกาะ Guadalcanal นาวิกโยธินอเมริกันถูกส่งขึ้นมาบนเกาะซึ่งมีสนามบินที่อยู่ในเส้นทางการติดต่อระหว่างสหรัฐฯ กับออสเตรเลีย ซึ่งไม่อาจปล่อยให้ญี่ปุ่นยึดครองต่อไปได้ ปัญหาสำคัญคือหลังจากบรรดานาวิกโยธินอเมริกันขึ้นบกที่เกาะนี้ได้แล้ว กองทัพเรืออเมริกันต้องพ่ายแพ้กองเรือญี่ปุ่น ทำให้ไม่เหล่านาวิกโยธินต้องรบต้านทานญี่ปุ่นโดยไม่ได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทธภัณฑ์เพิ่มเติมอยู่นับเป็นเดือนๆ แต่ก็ยังสามารถต้านทานกองทัพญี่ปุ่นได้จนประสบชัยชนะในที่สุด
สกัดญี่ปุ่นที่กำลังบุกข้ามลำน้ำ
อารมณ์ขันยามยาก อาหารมีแต่ข้าวเปล่ายังเอามาเขียนเป็นเมนูได้หลายรายการ
2. การแวะพักผ่อนที่เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย มกราคม 1943/พ.ศ.2486 ณ ที่นี้ นาวิกโยธินหลายคนได้มาพบรักกับสาวออสซี่ โดยเฉพาะพ่อหนุ่มโรเบิร์ต เล็คกี้ ที่อุตส่าเอาชนะใจทั้งตัวหญิงสาวทั้งว่าที่พ่อตาแม่ยาย แต่สุดท้ายสาวเจ้ากลัวพ่อแม่จะต้องผิดหวังหากว่าที่ลูกเขยต้องตายในสนามรบ เธอเลยขอเลิก ส่วนจอห์น บาซิโลน ผู้สร้างวีรกรรมไว้ที่ Guadalcanal ได้รับการประดับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor และถูกส่งตัวกลับไปทำหน้าที่การประชาสัมพันธ์ขายพันธบัตร ณ สหรัฐอเมริกา ทั้งที่ตนยังอาลัยต่อเพื่อนฝูง
ลงเรือมาพักผ่อนที่เมลเบิร์น ชาวเมืองต้อนรับอย่างอบอุ่น
จอห์น บาซิโลน ได้รับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor
เล็คกีกับแฟนสาวชาวออสซีที่ลงท้ายด้วยความเศร้า
3. การศึกที่แหลม Gloucester เดือนธันวาคม 1943/พ.ศ.2486 เป็นอีกที่หนึ่งที่นาวิกโยธินได้รับความยากลำบากในการรบท่ามกลางป่าและฝนที่ตกหนักตลอด จากนั้นก็ถูกนำกลับมายังเกาะ Pavuvu ในเดือนพฤษภาคม 1944/พ.ศ.2487 โรเบิร์ต เล็คกี ต้องถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการเครียดอยู่พักหนึ่ง
รบกันกลางสายฝน
เล็คกีเข้ารับการรักษาอาการเครียด ปืนพกทางซ้ายเป็นของทหารญี่ปุ่นที่ยึดได้
4. การรบที่เกาะ Peleliu กันยายน 1944/ พ.ศ. 2487 ในตอนนี้ ยูจีน สเลดจ์ พึ่งได้ออกศึกครั้งแรก เนื่องจากก่อนหน้านั้นจะสมัครมารบพร้อมกับเพื่อนๆ แต่คุณพ่อซึ่งเป็นนายแพทย์พบว่าเขามีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ครั้นอาการดังกล่าวทุเลาจึงได้มาสมทบกับเพื่อนๆ ในหมู่ปืน ค.60 เดิมทีนายพลแมคอาเธอร์ต้องการจะยึดเกาะนี้เพื่อใช้สนามบินในการเข้ายึดฟิลิปปินส์คืนจากญี่ปุ่น การรบ ณ ที่นี้ นอกจากอุปสรรคทางด้านภูมิประเทศและภูมิอากาศเช่นเดียวกับที่อื่นๆ แล้ว ยังมีความผิดพลาดด้านข่าวกรองที่เข้าใจว่ามีทหารญี่ปุ่นอยู่ไม่กี่พัน ซึ่งน่าจะใช้เวลาเผด็จศึกไม่นาน เอาเข้าจริงๆ พี่ยุ่นแกมีมากกว่านาวิกโยธินอเมริกันด้วยซ้ำ กว่าจะยึดสนามบินได้ตามเป้าหมายก็ยากเย็นแล้ว ยังมีกองกำลังอีกส่วนหนึ่งหลบซ่อนอยู่ตามถ้ำเล็กถ้ำน้อย ทำให้ต้องเสียเวลากันเป็นเดือนๆ กว่าจะเผด็จศึกตรงนี้ได้ ในภาพยนตร์เองก็ใช้เวลากับการศึกครั้งนี้ถึง 3 Part เต็มๆ ณ ที่นี้ โรเบิร์ต เล็คกี ได้รับบาดเจ็บและต้องออกจากการรบจนสิ้นสงคราม ที่น่าน้อยใจแทนบรรดานาวิกโยธินอเมริกันคือเสร็จศึกแล้วกลับไม่ได้มีการใช้เกาะนี้เป็นฐานปฏิบัติการต่อไปอย่างที่ตั้งใจแต่แรก ทำให้การศึกที่ Peleliu กลายเป็นการรบที่ถูกลืมไปด้วย
ทหารญี่ปุ่นที่รอตั้งรับ
รุกข้ามสนามบิน
ภูมิประเทศอันทุรกันดาร
5. การรบที่เกาะ Iwo Jima หลังจากที่ จอห์น บาซิโลน ตระเวณขายพันธบัตรจนเบื่อเต็มที เขาก็อาสากลับเข้าทำหน้าที่ โดยเริ่มแรกได้ไปทำหน้าที่ครูฝึกอยู่ที่ค่าย Pendleton ณ ที่นี้เขาได้พบรักกับพยาบาลนามว่า Lena Riggi หลังจากที่ดูใจกันพอสมควร บาซิโลนซึ่งรู้ดีว่าสักวันต้องถูกส่งออกไปรบก็ได้ตัดสินใจขอแต่งงานกับเธอ และแล้วหลังจากนั้น 7 เดือน คือ กุมภาพันธ์ 1945/พ.ศ. 2488 เขาได้ถูกส่งไปรบที่เกาะอิโวจิมา ที่ซึ่งนายพลแมคอาเธอร์ตั้งใจจะใช้สนามบินในการเข้าโจมตีหมู่เกาะญี่ปุ่น การรบที่นี่นับว่านองเลือดไม่น้อยกว่าที่อื่น ในบทบรรยายแบ็คกราวด์ทางประวัติศาสตร์บอกว่าเป็นสมรภูมิเดียวที่ทหารอเมริกันตายมากกว่าญี่ปุ่น นาวิกโยธินเก่งๆ ต้องมาตายที่นี่มาก ซึ่งก็รวมทั้ง จอห์น บาซิโลน นั่นเองครับ
บาซิโลน แต่งงานกับลีน่า ก่อนออกศึก 7 เดือน
ทหารราบกับรถถังที่ไม่ค่อยสำแดงเดชเหมือนในยุโรป
บาซิโลนกับพวกรบหนักก่อนเสียชีวิต
6. การรบที่เกาะโอกินาวา พฤษภาคม 1945/พ.ศ.2488 ตอนนี้ในบรรดาตัวเอกทั้ง 3 ก็เหลือเพียง ยูจีน สเลดจ์ เพียงคนเดียว เขากับเพื่อนร่วมรบอีกหลายคนยังต้องขับเคี่ยวกับบรรดาพี่ยุ่นในสมรภูมิที่ทุรกันดารไม่น้อยไปกว่าที่อื่น และที่น่าอนาถกว่านั้นคือมีพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามด้วย
เชลยศึกที่มีอยู่ไม่มาก
ทหารข้าศึกที่เอาพลเรือนบังหน้า
7. เสร็จศึกกลับบ้าน หลังจากคร่ำเครียดมาเป็นปีๆ ตัวเอก 2 ใน 3 ที่รอดชีวิตมาได้ รวมถึงบรรดาตัวรองๆ อื่นๆ ก็ได้กลับมาบ้าน รวมทั้ง ลีนา ภรรยาของบาซิโลนก็ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของสามีพร้อมทั้งนำเหรียญ Medal of Honor ของสามีไปมอบให้ โรเบิร์ต เล็คกี กลับไปทำงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นตามเดินและได้แต่งงานกับ Vera สาวบ้านตรงข้ามที่หมายปองมาตั้งแต่ก่อนไปรบ คนที่อาการหนักที่สุดคือ ยูจีน สเลดจ์ ที่แม้จะกลับบ้านแบบไม่มีรอยขีดข่วน แต่บาดแผลจากสงครามในจิตใจค่อนข้างจะล้ำลึก จนเหมือนจะไม่เป็นอันทำมาหากินอะไร แต่ในบทบรรยายท้ายเรื่องกล่าวว่าภายหลังเขาได้ไปศึกษาด้านชีววิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนก ส่วนตัวรองอื่นๆ ได้มีอาชีพและครอบครัวกันไปตามฐานะของแต่ละคน
คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ของภาพยนตร์ชุดนี้ คือการสร้างจากบันทึกประสบการณ์จริงของตัวเอกทั้ง 3 คือ โรเบิร์ต เล็คกี (ลัคกี้), ยูจีน สเลดจ์ และ จอห์น บาซิโลน แต่ก็จำกัดอยู่ที่การรบส่วนหนึ่งของสมรภูมิแปซิฟิก ซึ่งในตอนแรกผมคิดเพียงว่ามันขาดแต่เพียงการรบที่เกาะไซปันเท่านั้น แต่พอทบทวนข้อมูลดูอีกที บรรดาเกาะแก่งของฟิลลิปปินส์ อินโดนีเซีย นี่ก็นับกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว ย่อมจะมีการศึกทั้งเล็กและใหญ่ที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมายนัก ก็ต้องทำใจล่ะครับว่ามีข้อมูลมาสร้างได้ขนาดนี้ดีเท่าไหร่แล้ว และมันไม่ใช่ภาพยนตร์สารคดีที่จะต้องให้ข้อมูลการรบทั้งหมด
ทหารญี่ปุ่นถอดสลักระเบิดขณะเสนารักษ์อเมริกันเข้าไปช่วย
บุกเข้าหาราวกับไม่กลัวปืน
ด้านทัศนะต่อทหารแต่ละฝ่าย การสร้างจากเรื่องราวที่เป็นมุมมองของทหารอเมริกันแต่ฝ่ายเดียว อาจทำให้ภาพลักษณ์ทหารญี่ปุ่นออกมาในทางลบ การต่อสู้ของพวกเขาแบบตัวตายถวายชีวิต แทนที่จะได้รับการยกย่องในความกล้าหาญกลับกลายเป็นถูกก่นด่าว่าไม่รู้จักยอมแพ้ (เมื่อหมดทางสู้แล้ว) บ้างเลยหรือไร ทำให้พวกตูลำบากลำบนกว่าจะชนะได้ แม้กระนั้นภาพลักษณ์ของทหารอเมริกันเองก็ไม่ใช่ว่าจะดีนักในแบบที่ในเรื่องก็ยอมรับอยู่กลายๆ จากการที่หลายคนพยายามเลาะฟันทองของจากร่างของทหารญี่ปุ่น ครั้งหนึ่งข้าศึกยังไม่ทันตายด้วยซ้ำ และอีกครั้งหนึ่งที่สเลดจ์กับพรรคพวกแสดงอาการดูหมิ่นเชลยศึกที่มีอยู่หน่อยหนึ่ง และตอนที่ลัคกี้โดนผู้หทวดของตัวเองยึดสิ่งของที่เขาได้มาจากทหารญี่ปุ่น อุดมการณ์ในการรบของญี่ปุ่นไม่ว่าจะมองว่าเป็นความกล้าหาญทรหดอดทน หรือความโหดร้ายดื้นด้านทานทน ข้อเสียที่ชัดๆ อีกประการคือ ในเมื่อพี่ยุ่นต้องพลีชีพกันไปเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปจึงไม่มีบันทึกจากฝ่ายของตนมาเปรียบเทียบกับเรื่องราวของทางฝ่ายอเมริกัน ที่น่าเสียดายคือในแผ่นที่ 6 ซึ่งเป็นเรื่องราวเบื้องหลังการถ่ายทำนั้น น่าจะมีการสัมภาษณ์ของบรรดาผู้แสดงประกอบทางฝ่ายพี่ยุ่นบ้างว่าพวกเขามีทัศนะอย่างไร
แนวหน้ากับแนวหลัง จากการที่ The Pacific มาจากทีมสร้างเดียวกันกับ Band of Brothers ซึ่งผู้วิจารณ์ภาษาอังกฤษเรียกภาพยนต์ 2 เรื่องนี้ว่าเป็น Sisters กัน ความแตกต่างกันที่เห็นได้ชัด นอกจากเรื่องการรบคนละสมรภูมิ คนละซีกโลกกันแล้ว Band of Brothers จะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมรบในหน่วยเดียวกัน ขณะที่ The Pacific ไม่ค่อยจะให้น้ำหนักกับเรื่องนี้ แล้วไปเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับครอบครัวและญาติมิตรในแนวหลัง ได้แก่ ความผูกพันระหว่างลัคกี้กับ Vera สาวที่อยู่บ้านตรงข้าม และระหว่างเขากับแฟนสาวที่ออสเตรเลีย ความผูกพันระหว่างจอห์นแบซิโลนกับลีน่าภรรยาที่พบรักกันระหว่างการฝึก แล้วต้องมาพรากจากกันตลอดไป ความห่วงใยที่พ่อแม่ของยูจีน สเลดจ์มีต่อเขา เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมรบจะไม่สำคัญ ดังเช่น ความรู้สึกของจอห์น บาซิโลน ที่ต้องจากเพื่อนกลับไปขายพันธบัตรที่สหรัฐฯ และความเป็นเพื่อนระหว่างยูจีนกับสนาฟู เป็นต้น ทำให้ความเป็นดรามาของ The Pacific มีมากกว่าและหลากหลายกว่า Band of Brothers ซึ่งจะถูกใจท่านมากกว่าหรือไม่ก็แล้วแต่มุมมองครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
คำคมชวนคิด
"The worst thing about treating those combat boys from the Great War wasn's the they had had their flesh torn. It was that they had had their souls torn out." นายแพทย์สเลดจ์ กล่าวกับ ยูจีน สเลดจ์ บุตรชาย หลังจากพบว่าอาการหัวใจเต้นผิดปกติของยูจีนหายดีแล้ว และยูจีนยังต้องการที่จะสมัครเป็นนาวิกโยธิน ในซับไตเติลภาษาไทยแปลไว้ว่า "สิ่งที่แย่ในการรักษาคนที่กลับจากสนามรบ ไม่ใช่เพราะบาดแผลที่ร่างกายหรอกนะ เป็นเพราะบาดแผลที่จิตใจมากกว่า" ซึ่งในที่นี้ "the Great War" หมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 1
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : The Pacific
ชื่อภาษาไทย : เดอะ แปซิฟิก สมรภูมิวีรบุรุษ ...
ผู้กำกำกับ : Tim Van Patten, David Nutter, Jeremy Podeswa, Graham Yost, Carl Franklin, Tony To
ผู้สร้าง : HBO, Seven Network Australia, Sky Movies, Playtone and DreamWorks
ผู้เขียนบท : Bruce McKenna, Robert Schenkkan, Graham Yost, George Pelecanos, Larry Andries, Michelle Ashford
ผู้แสดง :
Joseph Mazzello ... PFC Eugene Sledge (10 episodes, 2010)
James Badge Dale ... PFC Robert Leckie (10 episodes, 2010)
Jon Seda ... Sgt. John Basilone (10 episodes, 2010)
Ben Chisholm ... Marine (10 episodes, 2010)
Chris Milligan ... 2010-2010 (10 episodes, 2010)
Ashton Holmes ... PFC Sidney Phillips (7 episodes, 2010)
Byron J. Brochmann ... Us Marine - B Core (7 episodes, 2010)
Josh Helman ... PFC Lew 'Chuckler' Juergens (6 episodes, 2010)
Martin McCann ... Cpl. R.V. Burgin (6 episodes, 2010)
Keith Nobbs ... PFC Wilbur 'Runner' Conley (6 episodes, 2010)
Rami Malek ... PFC Merriell 'Snafu' Shelton (6 episodes, 2010)
Toby Leonard Moore ... Sgt. Stone (6 episodes, 2010)
Jacob Pitts ... PFC Bill 'Hoosier' Smith (5 episodes, 2010)
ควรอ่านเพิ่มเติม
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับเต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์