dot
dot
เว็บภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ยินดีต้อนรับผู้สนใจทุกท่าน
dot
dot
สมาชิก Webboard/Blog
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
bulletข้อตกลงการเป็นสมาชิก
bulletเว็บบอร์ด-คุยกันหลังฉาก
bulletเว็บบอร์ด-Games ย้อนยุค
bulletเว็บบอร์ด-ชุดจำลองประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-หนังสือประวัติศาสตร์
bulletเว็บบอร์ด-เพลงประวัติศาสตร์
bulletคำถาม/คำตอบ ล่าสุด
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
dot
สงครามโลกครั้งที่ 2
dot
bulletสมรภูมิยุโรป (สัมพันธมิตรVSเยอรมัน-อิตาลี)
bulletสมรภูมิแปซิฟิก-เอเชีย (สัมพันธมิตรVSญี่ปุ่น)
dot
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อื่นๆ
dot
bulletสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
bulletประวัติศาสตร์ไทย
bulletประวัติศาสตร์อเมริกันยุคเริ่มแรก
bulletสงครามเวียดนามและอินโดจีน
bulletตะวันตกโบราณ (กรีก โรมัน ฯลฯ)
bulletประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
bulletเอเชียโบราณ
bulletประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยังไม่แยกหมวดหมู่)
bulletคลิปความรู้จาก YouTube
dot
บทความโดย วิวันดา
dot
bulletฮิตเล่อร์...และเหล่าขุนพลแห่งอาณาจักรไรค์ซที่สาม
bulletลอดลายรั้ว.....วินด์เซอร์
bulletเลิศเลอวงศา...โรมานอฟ
bulletเชลย
bulletซูคอฟ...ยอดขุนพลผู้ดับฝันของฮิตเล่อร์
dot
บทความโดย สัมพันธ์
dot
bulletคนไทยในกองทัพพระราชอาณาจักรลาว
bulletประวัติศาสตร์สงคราม กรีก
bulletกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา
bulletอยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา
bulletฮานนิบาล
bulletพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
bulletไทยกับมหาสงคราม
bulletสงครามเวียดนาม
bulletห้วยโก๋น ๒๕๑๘
bulletการทัพในมลายา
bulletประวัติศาสตร์อื่น ๆ
dot
เรื่องอื่นๆ
dot
bulletบทความเสริมความรู้ทั่วไป
bulletเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
bulletผู้จัดทำ
bulletผังเว็บไซต์ (Site Map)
bulletแนวทางการร่วมเขียนบทความ
bulletถาม-ตอบ (FAQs) (โปรดอ่านก่อนตั้งกระทู้หรือสมัครสมาชิก)
bulletร้านค้าออนไลน์
bulletแบ่งปัน Album
dot
ลิงค์ต่างๆ
dot
bulletHistory on Film
bulletกองบิน 21 กองพลบิน 2
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC




โหราศาสตร์ยุคไอที



The World at War สารคดีที่ช่วยให้เห็นภาพรวมสงครามโลกครั้งที่ 2
วันที่ 19/05/2013   11:26:48

webmaster@iseehistory.com

เมื่อตอนที่ผมให้สัมภาษณ์วารสารสกุลไทยถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เปิดเว็บไซต์ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์แห่งนี้ขึ้นมา  ได้กล่าวถึงภาพยนตร์โทรทัศน์ชุด Combat เป็นหลักแม้จะได้กล่าวไว้ด้วยว่าเป็นหนึ่งในหลายๆ สาเหตุ  ณ ขณะนั้นผมมีเพียงภาพยนตร์ชุดดังกล่าวที่จัดทำในรูปแบบ VCD มาให้เขาถ่ายภาพประกอบ  ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์อีกชุดที่มีความสำคัญต่อผมจนเป็นเหตุให้เปิดเว็บไซต์นี้  หากใครมีอายุพอจะรู้ความในช่วงราวๆ ปีพ.ศ. 2518 – พ.ศ.2520 แล้ว คงจะจำเรื่อง The World at War กันได้  เป็นภาพยนตร์สารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 2  อย่างค่อนข้างจะครบถ้วนนับตั้งแต่ฮิตเลอร์และพรรคนาซีมีอำนาจในเยอรมันไปจนกระทั่งยุติสงครามด้วยการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ญี่ปุ่น

ต้องขออภัยนิดหนึ่งว่าจำปีที่นำมาฉายในเมืองไทยที่แน่นอนไม่ได้  จำได้แต่เพียงว่ากำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น  (ข้อมูลวิกิพีเดียภาษาอังกฤษระบุว่า The World at War ออกอากาศครั้งแรก 31 October 1973 – 8 May 1974 หรือในช่วง พ.ศ. 2516-2517) เวลาผ่านไปหลายปีเมื่อมาเปิดเว็บไซต์ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์แห่งนี้ในช่วงอายุ 40 กว่าๆ ใกล้เลข 5 เข้าไปทุกที  ก็มีความปรารถนาที่จะหาภาพยนตร์ชุดนี้มาเพื่อดูทบทวนให้ความรู้เดิมๆ มันแน่นขึ้นอีกนิด  แล้วจะได้แนะนำให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ดูได้ศึกษาเพื่อเสริมความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์โลกช่วงนี้  ดีกว่าปล่อยให้เข้าใจกันเองผิดๆ ถูกๆ จนไปหลงบูชาอาชญากรสงครามที่ฆ่าคนเป็นล้านๆ  ดังที่ก่อนผมจะเริ่มเขียนบทความนี้ไม่กี่วัน  มีคนมาตั้งกระทู้ถามว่าฮิตเลอร์ที่เขาเชื่อว่ายังไม่ตายนั้นไปอยู่ที่ไหน  ทั้งที่วันเกิดตะแกกลายเป็นอดีตมาตั้งร้อยยี่สิบกว่าปีแล้ว


Jeremy Isaacs ผู้สร้าง The World At War
ท่านเล่าว่าขณะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น

ข่าว(เกือบ)ดีที่ผมทราบทางเว็บบอร์ดก่อนหน้านี้คือในเมืองไทยได้มีการจัดทำภาพยนตร์สารคดีอันทรงคุณค่าชุดนี้ในภาคภาษาไทยในรูปแบบ VCD แล้ว  แต่คงจะด้วยปัญหาการตลาดของผู้ได้ลิขสิทธิ์  ทำให้ไม่เป็นที่แพร่หลายทั่วไป  แม้แต่ตัวผมเองก็ยังหาซื้อ The World at War ฉบับภาษาไทยไม่ได้  เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นที่พึ่งโดยการสั่งซื้อชุด DVD ภาษาอังกฤษจาก Amazon.com มาฝึกประสาทหูฟังภาษาอังกฤษกันไปก่อน

สารคดีชุดนี้มีความยาวถึง 26 ตอนๆ ละประมาณเกือบชั่วโมง  การจะนำเรื่องราวในสารคดีทั้งซีรีส์มาเล่าทั้งหมดคงเป็นงานช้างพอๆ กับการเขียนตำราประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งเล่ม  ในที่นี้คงทำได้แค่สรุปว่าแต่ละตอนมีเนื้อหาอะไรบ้าง  ดังนี้ครับ

  1. "A New Germany (1933–1939)"  การขึ้นสู่อำนาจของฮิตเลอร์และพรรคนาซีในเยอรมัน
     
  2. "Distant War (September 1939 – May 1940)"  เยอรมันบุกโปแลนด์  การจมเรือกราฟสเป เยอรมันรุกรานนอร์เวย์ เชอร์ชิลได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
     
  3. "France Falls (May – June 1940)"  สงครามระหว่างเยอรมันกับฝรั่งเศสรวมทั้งการบุกเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบอร์ก


    ฮิตเลอร์กลับจากฝรั่งเศสมายังเบอร์ลินอย่างผู้มีชัย
     
  4. "Alone (May 1940 – May 1941)"  เยอรมันโจมตีอังกฤษทางอากาศที่เรียกว่า Battle of Britain อังกฤษถอยจากกรีซ เกาะครีต และโทบรุ๊ค
     
  5. "Barbarossa (June – December 1941)"  เยอรมันโจมตีสหภาพโซเวียตรัสเซีย ในปฏิบัติการบาร์บารอสสา
     
  6. "Banzai!: Japan (1931–1942)"   ภูมิหลังของญี่ปุ่นก่อนเข้าสู่สงคราม สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น  การโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์และความสำเร็จในระยะะแรกของญี่ปุ่น เช่น ชัยชนะในมาลายาและที่สิงคโปร์


    พระจักรพรรดิญี่ปุ่นเสด็จตรวจพลสวนสนาม
     
  7. "On Our Way: U.S.A. (1939–1942)"  ภูมิหลังของสหรัฐอเมริกาก่อนเข้าสู่สงคราม  ปัญหาขบวนเรืออเมริกันถูกเรือดำน้ำเยอรมันโจมตี  การเข้าสู่สงครามจากการถูกโจมตีที่เพิร์ลฮาเบอร์  การรบระหว่างอเมริกันกันญี่ปุ่นในสมรภูมิแปซิฟิก
     
  8. "The Desert: North Africa (1940–1943)"  การรบในสมรภูมิทะเลทรายอาฟริกาเหนือที่สร้างชื่อให้กับจอมพลรอมเมลและกองทัพน้อยอาฟริกา
     
  9. "Stalingrad (June 1942 – February 1943)"  สถานการณ์การรบระหว่างเยอรมันกับรัสเซียโดยฝ่ายแรกเริ่มเพลี่ยงพล้ำในการบที่สตาลินกราด
     
  10. "Wolf Pack: U-Boats in the Atlantic (1939–1943)"  การสงครามทางเรือในมหาสมุทรแอตแลนติคที่กองเรือดำน้ำเยอรมันคอยจมขบวนเรือจากอเมริกาไปอังกฤษ ขณะที่สัมพันธมิตรต้องคอยแก้เกมด้วยวิธีการต่างๆ
     
  11. "Red Star: The Soviet Union (1941–1943)"  การรบระหว่างเยอรมันรับรัสเซียที่ฝ่ายหลังเริ่มได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การรบที่เลนินกราด และการรบที่เคิร์ส (the Battle of Kursk)
     
  12. "Whirlwind: Bombing Germany (September 1939 – April 1944)"  ยุทธการทางอากาศเมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดเยอรมัน
     
  13. "Tough Old Gut: Italy (November 1942 – June 1944)"  สัมพันธมิตรได้รับชัยชนะในอาฟริกาเหนือ จากนั้นก็รุกเข้าสู่เกาะซิซิลีของอิตาลีแล้วเข้าสู่แผ่นดินใหญ่โดยลำดับ
     
  14. "It's A Lovely Day Tomorrow: Burma (1942–1944)"  สงครามระหว่างสัมพันธมิตรกับญี่ปุ่นในพม่าและอินเดีย
     
  15. "Home Fires: Britain (1940–1944)"  การเมืองและวิถีชีวิตของชาวอังกฤษหลัง Battle of Britain รวมทั้งการถูกเยอรมันโจมตีด้วยจรวดวี 1
     
  16. "Inside the Reich: Germany (1940–1944)"  สถานการณ์ทางการเมืองในเยอรมันระหว่างปี 1940-1944 อันเป็นการก้าวเข้าสู่สงครามเบ็ดเสร็จ (Total War) รวมทั้งแผนสังหารฮิตเลอร์เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 1944 และการจัดตั้งกองทหารประชาชนที่เรียกกว่า Volkssturm
     
  17. "Morning: (June – August 1944)"  การยกพลขึ้นบกของสัมพันธมิตรที่นอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ตามแผนปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ดหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า "ดีเดย์" และสถานการณ์การรบหลังจากนั้น
     
  18. "Occupation: Holland (1940–1944)"  สถานการณ์ในประเทศเนเธอร์แลนด์ภายใต้การปกครองของกองทัพนาซี
     
  19. "Pincers: (August 1944 – March 1945)"  การรบระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมัน ตั้งแต่ปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เด้น ยุทธการ Battle of the Bulge และสัมพันธมิตรตะวันตกรุกข้ามแม่น้ำไรน์  รวมถึงการลุกฮือขึ้นต่อต้านนาซีของชาวโปแลนด์ ( the Warsaw Uprising)
     
  20. "Genocide (1941–1945)" เป็นการเล่าเรื่องที่นาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว นับตั้งแต่การก่อตั้งหน่วยเอสเอส พัฒนาการของทฤษฎีเชื้อชาติของนาซี และพัฒนาการของวิธีการกำจัดยิวที่ลงท้ายด้วยการสร้างห้องอบแก๊สพิษ
     
  21. "Nemesis: Germany (February – May 1945)"  สถานการณ์การรบระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมันในตอนปลายสงครามจนกระทั่งกรุงเบอร์ลินแตก


    กองกำลังสุดท้ายของนาซีก่อนเบอร์ลินแตก
     
  22. "Japan (1941–1945)"  สังคมและวัฒนธรรมญี่ปุ่นในระหว่างสงคราม รวมถึงสถานการณ์สงคราม เช่น การทิ้งระเบิดกรุงโตเกียว (the Doolittle raid) ยุทธนาวีที่เกาะมิดเวย์ การสูญเสียนายพลเรือเอกยามาโมโต การบที่เกาะไซปัน โอกินาวา ฯลฯ
     
  23. "Pacific (February 1942 – July 1945)"  สถานการณ์การรบตามเกาะเล็กเกาะน้อยในมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงเกาะอิโวจิมา และโอกินาวา (อีกแล้ว)


    เครื่องบินขับไล่ของสหรัฐอเมริกาขณะกำลังร่อนกลับลงมาที่เรือบรรทุกเครื่องบิน
     
  24. "The Bomb (February – September 1945)"  การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ  และการยอมจำนนของญี่ปุ่น
     
  25. "Reckoning (April 1945)"  สถานการณ์ในยุโรปภายหลังสงครามในบรรยากาศของการเก็บกวาดต่างๆ ได้แก่ การยึดครองเยอรมันของฝ่ายสัมพันธมิตร การพิจารณาคดีอาชญากรสงครามที่นูเร็มบวร์ก ฯลฯ
     
  26. "Remember"  เล่าเรื่องการรำลึกสงครามโลกครั้งที่สองของประเทศต่างๆ หลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไป

ทั้ง 26 ตอนที่ว่านี้เป็น “เนื้อหาหลัก” ที่เคยออกอากาศทางโทรทัศน์เท่านั้นนะครับ  ในชุดดีวีดีที่สั่งจาก Amazon.com นั้น มีถึง 11 แผ่น  โดย 26 ตอนนี้กับ The Making of the Series รวมอยู่ใน 7 แผ่นแรก  อีก 4 แผ่นที่เหลือยังมี Bonus Documentaries อีก 10 เรื่องด้วยกัน  ในขณะที่ผมลงมือเขียนบทความนี้ยังไม่มีเวลาได้ดู  ถ้าได้ดูแล้วอาจจะนำข้อมูลมาอัพเดทกันเพิ่มเติม  หรืออาจจะเขียนเป็นบทความต่างหากครับ

จุดเด่น ความประทับใจ 

นับแต่ครั้งแรกที่ได้ชมในจอโทรทัศน์จนได้กลับมาชมอีกในรูปแบบ DVD ในเวลาทีห่างกันนับสิบปี  สิ่งที่นับเป็นความประทับใจไม่ว่าครั้งนี้หรือครั้งนี้ ได้แก่

ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์จากสนามรบจริง

ในสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากจะเป็นยุคที่อาวุธและยุทธวิธีต่างๆ เริ่มลงตัวด้วยการใช้ทหารราบรบร่วมกับรถถัง ปืนใหญ่ และเครื่องบินแล้ว  อีกอาวุธสำคัญคืออาวุธทางความคิดอันได้แก่การโฆษณาชวนเชื่อด้วยสื่อ  กล้องถ่ายภาพยนตร์เวลานั้นพัฒนาจนถึงขั้นบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้สมจริง  ไม่ใช่ฉายแล้วช้าบ้างเร็วบ้างอย่างในหนังตลกของชาลี แชปลิน ยุคแรกๆ และเริ่มจะมีภาพยนตร์สีบ้างแล้ว  และเทคโนโลยีการถ่ายทำภาพยนตร์ก็ได้ถูกนำมาใช้บันทึกภาพจริงจากสนามรบเพื่อนำกลับมาใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ  โดยช่างภาพที่บันทึกภาพเหล่านั้น  หลายท่านก็ต้องพลีชีพไปในสงครามเช่นเดียวกับบรรดาทหารหาญทั้งหลาย  แม้ส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์ขาวดำรวมถึงภาพสีที่ยังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติอย่างสมัยนี้  แต่ภาพความใหญ่โตอลังการของสงครามจริงที่บันทึกไว้นั้นยากที่จะจำลองขึ้นมาในภายหลังให้เหมือนจริงได้อีก  ไม่ว่าจะเป็นกองทหาร  ขบวนรถถัง  ฝูงบิน  การสู้รบอันดุเดือด  ซากปรักหักพังของเมืองทั้งเมือง ฯลฯ 


ทหารอเมริกันกำลังดูแผนที่ในระหว่างการรบที่เกาะอิโวจิมา

หากจะถามว่า  ในเมื่อภาพยนตร์จากสนามรบเหล่านี้แรกเริ่มเดิมทีได้ถ่ายทำขึ้นมาเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ  รวมถึงผู้นำภาพยนตร์เหล่านี้มาสร้างเป็น The World at War ก็เป็นอังกฤษหนึ่งในชาติสัมพันธมิตรที่ชนะสงครามแล้ว  จะมีความน่าเชื่อถือหรือการบิดเบือนประการใดหรือไม่  เท่าที่ผมพยายามฟัง Jeremy Isaacs ในตอนพิเศษ The Making of the Series นั้น  ท่านอธิบายว่า  ฟิล์มที่บันทึกไว้เหล่านี้มันโกหกใครไม่ได้  และเราก็เป็นหนี้บุญคุณบรรดาช่างภาพสนามของทุกฝ่ายที่น่าจะได้พลีชีพไปในการนี้จำนวนมาก  แต่เมื่อมันมาถึงแนวหลัง  กระบวนการในการตัดต่อเรียบเรียงภาพยนตร์เหล่านี้เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ ปลุกขวัญและกำลังใจฝ่ายเดียวกันพร้อมๆ กับการข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม  เป็นสิ่งที่ทีมงาน The World at War ได้ตระหนักถึง  และเลือกใช้อย่างพินิจพิเคราะห์จากภาพยนตร์ของทุกฝ่ายที่เข้าร่วมในสงครามนั้นเอง

แผนที่แอนิเมชัน


เรื่องราวของประวัติศาสตร์สงครามนั้น  หากเล่ากันแต่ปาก  มีแต่ภาพคนสู้กัน  อาจจะมีแต่ความมันโดยปราศจากความเข้าใจ  จะต้องมีแผนที่ประกอบด้วยถึงช่วยให้เข้าใจได้ว่าใครเคลื่อนทัพเคลื่อนพลกันอย่างไร  สารคดี The World at War นี้อาจจะไม่ใช่เรื่องแรกที่มีการจัดทำแอนิเมชันบนแผนที่แสดงการเคลื่อนทัพเช่นว่า  แต่อย่างน้อยก็เป็นเรื่องแรกที่ผมได้ดูแล้วประทับใจ  จะขอลองยกตัวอย่างของกรณีการรบที่เมืองสตาลินกราดอันเป็นจุดพลิกผันของกองทัพนาซีในการรุกรานรัสเซีย  หลายท่านคงจะเคยได้ชมโทมัส เครชท์มันน์ ในบทของผู้หมวดฟอน วิทลันด์ ที่ต้องทนทุกข์ทรมานในการรบที่นี่อย่างเหลือหลายจากภาพยนตร์เรื่อง Stalingrad  และคงได้ประทับใจกับการดวลระหว่างพลซุ่มยิงของวาซิลี ไซต์เซฟ กับผู้พันโคนิกในเรื่อง Enemy at the Gates มาแล้ว  แต่คุณอาจจะยังไม่เข้าใจว่ากองทัพเยอรมันไปเสียท่ากองทัพแดงอีท่าไหนกันแน่  ถ้าให้ผมอธิบายด้วยข้อความก็ต้องบอกประมาณว่า  กองทัพที่ 6 ของเยอรมันที่บุกเข้ายึดเมืองสตาลินกราดนั้น  มันมีกองทัพจากโรมาเนียที่ไม่เข้มแข็งเท่ากองทัพเยอรมันรักษาปีกซ้ายและขวาอยู่  ฝ่ายรัสเซียจึงใช้กำลังพล 2 ส่วนตีกองทัพโรมาเนียทั้ง 2 แล้วบรรจบกันข้างหลังเมืองสตาลินกราด  ทำให้กองทัพที่ 6 ของเยอรมันถูกปิดล้อม  ทีนี้มาดูภาพที่ผม Capture มาจากภาพยนตร์กันครับ


ภาพแรกแสดงทิศทางที่กองทัพรัสเซียตีกองทัพโรมาเนียที่คุมปีก 2 ข้างให้กองทัพเยอรมัน


ภาพนี้กองทัพแดงทั้ง 2 ส่วนมาบรรจบกันแล้ว


จากนั้นกองทัพแดงเคลื่อนแนวต่อไปทางตะวันตกเข้าสู่ Rostov  พร้อมทั้งบีบวงล้อมรอบเมืองสตาลินกราดให้แคบลง

ถ้าท่านเป็นทหารเยอรมันในเมืองสตาลินกราดจะมีปาฏิหาริย์อะไรมาช่วยท่านได้ล่ะครับ



ขอยกตัวอย่างบุคคลที่มาร่วมให้ข้อมูลในภาพยนตร์เพียง 2 ท่าน คือ Albert Speer กับ Traudl Junge เท่านั้นนะครับ
ในภาพยนตร์จริงมีด้วยกันหลายท่านจากหลายชาติ

บทสัมภาษณ์ของบุคคลในเหตุการณ์ที่หลากหลาย รอบด้าน

ในช่วงที่สร้างภาพยนตร์สารคดีชุดนี้เป็นช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงยังไม่ถึง 30 ปี  ดูเหมือนเป็นช่วงที่กำลังพอเหมาะ  ด้วยเหตุประการหนึ่งคือบรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยังมีชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่งผู้สร้างสารคดีชุดนี้ก็มิได้ละเลย  โดยนำท่านเหล่านี้มาเล่าเหตุการณ์ที่ได้ประสบ  บุคคลเหล่านี้มีตั้งแต่ผู้นำการเมืองและการทหาร เรื่อยมาจนถึงทหารชั้นผู้น้อยและชาวบ้าน  และมาจากหลายชาติหลายฝ่าย  ไม่ว่าชาติหลักๆ ในสงครามอย่างอังกฤษ อเมริกา รัสเซีย เยอรมัน ญี่ปุ่น จนถึงชาติเล็กชาติน้อยเท่าที่พอจะหาได้  ทำให้เรื่องราวที่ถ่ายทอดดูมีความน่าเชื่อถือจากความเป็นกลางของมุมมองที่หลากหลาย  หากใครจะกล่าวหาว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่เขียนโดยผู้ชนะแล้ว  ขอให้ท่านดูสารคดีชุดนี้ให้จบซัก 2-3 รอบก่อนจะดีกว่า

 

แง่คิดอื่นๆ

ในการที่ผมได้ The World at War กลับมาดูทบทวนในครั้งนี้  ยังมีแง่คิดบางประการที่อยากจะถ่ายทอดเป็นการแลกเปลี่ยนกันดังนี้ครับ

การแย่งชิงอำนาจของชาติที่ตกเป็นทาสอุตสาหกรรม/ทรัพยากร

สิ่งที่เราจะต้องกล่าวควบคู่กับสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่เสมอ  คือความโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมของฝ่ายอักษะที่กระทำต่อผู้อื่น  อันได้แก่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวและการสังหารโหดชาวรัสเซียโดยนาซีเยอรมัน  กับการสังหารชาวจีนโดยกองทัพญี่ปุ่นโดยเฉพาะการสังหารหมู่ที่นานกิง  รวมถึงทารุณกรรมอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน  ซึ่งกลายเป็นความชอบธรรมของฝ่ายสัมพันธมิตรในการทำสงครามของตน  แต่การที่บรรดาชาติสัมพันธมิตรผู้ชนะสงครามเป็นกลุ่มสังคมของมนุษย์ที่ยังมีกิเลส  ซึ่งบทบาทของชาติเหล่านี้โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและรัสเซียที่ต่างแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ในเวทีโลกในรูปแบบ “สงครามเย็น”  อีกทั้งมนุษย์ทั่วไปที่รับรู้เรื่องของสงครามโลกครั้งที่ 2 กันมากบ้างน้อยบ้างทั้งเป็นระบบและไม่เป็นระบบก็ล้วนเป็นมนุษย์ที่ยังมีกิเลสอยู่เช่นกัน  ชัยชนะของสัมพันธมิตรจึงไม่อาจกลายเป็นตำนาน “ธรรมะย่อมชนะอธรรม” ที่ปราศจากข้อโต้แย้ง  หลายคนยังเฝ้าเพ้อหาฮิตเลอร์  หรือหลงใหลคลั่งไคล้แสนยานุภาพของฝ่ายอักษะที่เคยรุ่งเรืองจนเกือบจะครองโลกได้บนกองซากศพของผู้บริสุทธิ์จำนวนมากมาย

จุดยืนส่วนตัวของผมนั้นคงไม่ต่างจากสุจริตชนทั่วไปที่ยังเห็นศีลธรรมเป็นใหญ่แม้จะปฏิบัติได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์  ความเลวร้ายทั้งหลายที่กองทัพฝ่ายอักษะกระทำนั้นเกิดขึ้นจริงและยากแก่การยอมรับได้  แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะเป็นฝ่ายธรรมะที่สะอาดบริสุทธิ์ไปซะหมด  หากใครยังหลงใหลชื่นชมลัทธิฟาสซิสต์นาซีของฝ่ายอักษะแล้ว  น่ากลัวว่าศีลธรรมของเขาจะบกพร่อง  แต่ถ้าหากใครคิดว่าฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นพระเอกขี่ม้าขาวแล้ว  เกรงว่าจะยังอ่อนต่อโลกอยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม  จากการที่ระยะหลังๆ ผมได้ดูภาพยนตร์สารคดีสงครามที่เรียบเรียงจากภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในระหว่างสงครามดังเช่น The World at War และเรื่องอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง  ทำให้ผมรู้สึกว่าระบบอุตสาหกรรมที่วิวัฒนาการมาจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มันได้ดึงเอามนุษยชาติลงมาเป็นทาสของมันโดยไม่รู้ตัว  เมื่อมีอุตสาหกรรมก็ต้องมีการหาวัตถุดิบมาผลิตสินค้า  ผลิตสินค้าได้ก็ต้องหาตลาดเป็นที่ระบาย  ชาติที่มีดินแดนกว้างใหญ่หน่อยอย่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซียอาจจะไม่เดือดร้อนกับเรื่องวัตถุดิบมากนัก  มหาอำนาจรุ่นแรกอย่างอังกฤษฝรั่งเศสได้ใช้การล่าอาณานิคมเป็นทางออกในการแก้ปัญหาทั้งเรื่องวัตถุดิบและตลาดระบายสินค้ามาแล้ว  ทีนี้บรรดาชาติที่มาพัฒนาอุตสาหกรรมทีหลังอย่างบรรดาชาติที่จะกลายเป็นอักษะในเวลาต่อมานั้น  ประเทศของตัวก็ไม่ได้กว้างใหญ่อะไร  จะล่าอาณานิคมหรือขยายดินแดนไปยังโลกที่สามอย่างมหาอำนาจรุ่นก่อนก็ไม่ได้แล้ว  กลายเป็นความขัดแย้งกับมหาอำนาจและชาติอื่นๆ จนประทุเป็นสงครามโลกถึง 2 ครั้งด้วยกันเพียงเพื่อแย่งชิงทรัพยากรมาป้อนระบบอุตสาหกรรม  แล้วอาวุธที่เอามาเข่นฆ่ากันนั้นก็มาจากระบบอุตสาหกรรมนั่นเอง  ยิ่งอาวุธพัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้สนามรบแต่ละแห่งเป็นเสมือนเขตอุตสาหกรรมสังหารมนุษย์ที่ต่างฝ่ายต่างจัดตั้งขึ้นมาทับซ้อนกัน  แล้วมันก็เป็นเสมือนเจ้านายมนุษย์ที่หลอกให้มนุษย์ฆ่ากันเองมากกว่าที่มนุษย์จะเป็นนายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตนผลิตขึ้นมา  และการแพ้ชนะในสงครามนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไหนจะสามารถนำทรัพยากรมาป้อนให้กับอุตสาหกรรมสังหารของฝ่ายตนได้มากกว่ากัน  และฝ่ายอักษะก็ต้องพ่ายแพ้ไปเพราะความเสียเปรียบในด้านนี้  ทั้งการขาดแคลนน้ำมันและยุทธปัจจัยต่างๆ กับการผลิตอาวุธได้น้อยกว่า  เรียกกว่าก่อสงครามเพื่อปล้นชิงทรัพยากร  แล้วก็ต้องพ่ายแพ้เพราะหาทรัพยากรมาป้อนอุตสาหกรรมสังหารของฝ่ายตนไม่ทัน

 


อาคารบ้านเรือนในเยอรมันถูกไฟไหม้จากการทิ้งระเบิด


สภาพเมืองแห่งหนึ่งภายหลังการทิ้งระเบิด

สงครามทิ้งระเบิด

ขอกลับมาที่สารคดีตอนพิเศษ The Making of the Series อีกครั้ง Jeremy Isaacs ผู้สร้าง The World at War กล่าวคล้ายๆ กับที่ผมเคยอ่านในหนังสือเล่มหนึ่งว่า .การสูญเสียชีวิตผู้คนในสงครามโลกครั้งที่ 1 มักเป็นเรื่องที่คนแนวหลังทราบข่าวการตายของชายหนุ่มที่ไปเป็นทหารในแนวหน้า  แต่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 บ่อยครั้งที่ทหารในแต่ละสมรภูมิอุตส่าเอาชีวิตรอดมาได้เพียงเพื่อจะทราบข่าวว่าตนได้สูญเสียญาติพี่น้องลูกเมียในแนวหลังจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายตรงข้าม  เครื่องบินทิ้งระเบิดจัดเป็นนวัตกรรมใหม่ของยุคนั้นที่พอรวมฝูงไปถล่มที่ใดก็ราวกับเป็นเครื่องจักรอุตสาหกรรมสังหารลอยฟ้าเลยทีเดียว  แม้จะอ้างกันว่าจุดหมายหลักของการทิ้งระเบิดจะมุ่งไปที่ที่หมายทางทหารและอุตสาหกรรมทางทหารต่างๆ  แต่ในทางปฏิบัติการจะทำลายแต่ที่หมายดังกล่าวโดยไม่ให้พลเรือนต้องลำบากเลยคงจะไม่เคยเกิดขึ้น  เพราะเครื่องบินเองก็ต้องทิ้งระเบิดจากที่สูงมากๆ  มาโจมตีในช่วงกลางวันถูกเครื่องบินขับไล่และปตอ.สกัดกั้นมากๆ ก็ต้องเปลี่ยนมาโจมตีกลางคืน  ทางฝ่ายเยอรมันช่วงหลังๆ พอไม่มีเครื่องบินจะไปถล่มอังกฤษ ก็หันมาประดิษฐ์จรวดวี 1 วี2 มาใช้แทน  แล้วจะกำหนดเป้าหมายได้แม่นยำแค่ไหนไม่ทราบ  สุดท้ายฝ่ายไหนจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจฆ่าพลเรือนผลก็แทบไม่ได้ต่างกัน  บ่อยครั้งที่พอเราพูดถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรปเราจะนึกถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวที่พวกนาซีกระทำ  ซึ่งก็เป็นความเลวร้ายของลัทธินาซีที่เราควรจะประณามจริงๆ  แต่หากจะมองขอบเขตความเสียหายกันแล้ว  การทิ้งระเบิดใส่กันไม่ว่าประเทศไหนทำกับประเทศไหนก็เป็นความเลวร้ายไร้มนุษยธรรมก่อความเสียหายกับมนุษยชาติโดยรวมอย่างมหาศาล  ใน The World at War มีอยู่หลายตอนที่กล่าวถึงความเลวร้ายดังกล่าว  แต่ผมยังมีสารคดีอีกชุดหนึ่งที่มีตอนหนึ่งกล่าวถึงความเลวร้ายของการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดล้วนๆ  ซึ่งจะได้นำมาเสนอในโอกาสต่อไป

บทบาทประเทศรองๆ

เป็นที่แน่นอนล่ะครับว่าในเมื่อเป็นเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในภาพรวม  ก็ย่อมจะกล่าวถึงบทบาทของประเทศหลักๆ แต่ละฝ่ายเป็นธรรมดา  อันได้แก่  ฝ่ายสัมพันธมิตร มีอังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา และฝ่ายอักษะมีเยอรมันกับอิตาลีและญี่ปุ่นเป็นหลัก  ประเทศอื่นๆ ที่กล่าวถึงมากรองลงมาสักนิด  มีเนเธอร์แลนด์นี่กล่าวถึงเป็นตอนหนึ่งเลย  แล้วก็มีโปแลนด์กับฟินแลนด์ที่กล่าวถึงมากหน่อย  นอกนั้นมีกล่าวถึงนิดๆ หน่อยๆ หรือไม่กล่าวถึงเลย  ซึ่งในที่นี้ผมคงไม่ไปว่าอะไรเขา  เพียงแต่ให้ข้อสังเกตว่ายังมีอีกหลายชาติที่เราควรจะศึกษาบทบาทของพวกเขาให้มากๆ  อย่างออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์ กับแคนาดานี่  ต้องช่วยอังกฤษอย่างมาก  โดยเฉพาะออสเตรเลียนี่ช่วงแรกมัวแต่ขนทหารไปช่วยอังกฤษ  พอญี่ปุ่นเริ่มบุกบรรดาประเทศในเอเชียแปซิฟิกจนใกล้ออสเตรเลียเข้ามาเลยต้องไปอาศัยกำลังของอเมริกาในการป้องกันประเทศ  และยังมีอีกหลายประเทศที่ต้องถูกฝ่ายอักษะปกครองอยู่เป็นเวลาหลายปี  ชาติที่เข้าไปช่วยเยอรมันมากๆ อย่างโรมาเนีย เป็นต้น

ส่งท้ายการแนะนำสารคดีชุดนี้  เชื่อว่าหลายท่านที่มาเยี่ยมเยือนเว็บไซต์ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์แห่งนี้ส่วนใหญ่จะให้ความสนใจกับประวัติศาสตร์และภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2  และได้ชมภาพยนตร์ในแนวนี้มาไม่น้อยแล้ว  แต่ภาพยนตร์เหล่านี้ย่อมจับแต่เพียงบางประเด็นหรือบางเหตุการณ์มาถ่ายทอด  จะมีสักกี่เรื่องที่จะให้ความรู้ความเข้าใจสงครามโลกครั้งที่ 2 ในภาพรวมได้  หลายปีก่อนผมได้ชมภาพยนตร์สารคดีชุด The World at War นี้ทางโทรทัศน์อันทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในภาพรวมของสงครามโลกครั้งที่ 2 มาในระดับหนึ่ง  ทั้งที่ไม่มีโอกาสได้ดูทบทวนอีกเลย  จนกระทั่งในครั้งนี้ได้มีภาพยนตร์ชุดนี้มาครอบครองในรูปแบบดีวีดีแล้ว  ก็อยากจะแนะนำให้ท่านทั้งหลายได้พยายามหามาชมและศึกษาทำความเข้าใจ  ตลอดจนเก็บไว้เป็นเสมือนเอ็นไซโคลปีเดียสำหรับการอ้างอิงตลอดไปครับ



จุดจบของสงคราม

เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด  หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย

ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : The World at War

ชื่อภาษาไทย :  แฉลับสงครามโลกครั้งที่ 2

ผู้สร้าง : Jeremy Isaacs (อังกฤษ)

ผู้บรรยาย : 
Laurence Olivier

ควรอ่านเพิ่มเติม


กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

 

เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ

ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับเต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์


 

 



สงครามโลกครั้งที่ 2 - ยุโรป

Inglourious Basterds ยุทธการเดือดเชือดนาซี วันที่ 27/05/2013   23:02:43 article
The Boy in the Striped Pyjamas เด็กชายในชุดนอนลายทาง วันที่ 19/05/2013   11:30:27
สารคดีชุด The History Channel World War II จาก BBC วันที่ 19/05/2013   11:32:15
Escape from Sobibor แหกค่ายนรกนาซี วันที่ 19/05/2013   14:49:41
Defiance วีรบุรุษชาติพยัคฆ์ (กลุ่มนักสู้ยิวในเบลารุส) วันที่ 19/05/2013   14:50:16
Brother's War ยุทธการสกัดแผนการหลังม่านเหล็ก วันที่ 19/05/2013   14:51:09
Life Is Beautiful ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง(?) วันที่ 19/05/2013   14:52:30
Stauffenberg ในเวอร์ชันของเยอรมันเอง วันที่ 19/05/2013   14:54:02
Valkyrie : ยุทธการดับจอมอหังการ์อินทรีเหล็ก วันที่ 19/05/2013   14:55:25
Kelly's Heroes การเสียดสีความเป็นวีรบุรุษของอเมริกัน วันที่ 19/05/2013   14:57:02
Enigma รหัสลับพลิกโลก วันที่ 19/05/2013   14:58:01
The Fallen หลายฝ่ายหลายชีวิตกับความไร้สาระของสงคราม วันที่ 19/05/2013   14:59:09
ป้อมปืนนาวาโรน หนามแหลมมีพิษที่ยอกอกอังกฤษ วันที่ 19/05/2013   15:02:34
La Grande Vadrouille: หนังสงครามแนวตลกชั้นครู วันที่ 19/05/2013   15:04:14
Saints and Soldiers รบกันแต่อย่าเกลียดกัน??? วันที่ 19/05/2013   15:05:31
The Devil's Brigade กองพลน้อยปีศาจลูกผสมอเมริกัน-แคนาดา วันที่ 19/05/2013   15:06:55
The Battle of the River Plate วันที่ 19/05/2013   15:08:04
Das Boot U – 96 เรือล่มเมื่อจอด วันที่ 19/05/2013   15:11:04
Mosquito Squadron นิยายรักนักบิน วันที่ 19/05/2013   15:12:40
Where Eagles Dare วันที่ 19/05/2013   15:14:27
THE EAGLE HAS LANDED (แผนสิบหกอินทรีเหล็ก) วันที่ 19/05/2013   15:15:36
The Pianist ความวิปโยคจากอคติทางเชื้อชาติ วันที่ 19/05/2013   15:17:06
The Last Armored Train ว่าด้วยรถไฟหุ้มเกราะในสงครามโลก วันที่ 19/05/2013   15:18:21
Days of Glory เมื่อพี่(ฝรั่ง)เศสยังติดหนี้คนอาหรับ วันที่ 19/05/2013   15:19:32
To Hell And Back สงคราม...สร้างวีรบุรุษ วันที่ 19/05/2013   15:21:01
The Great Escape แหกค่ายมฤตยู วันที่ 19/05/2013   15:22:20
Combat! คัมแบ็คในรูปแบบ VCD วันที่ 19/05/2013   15:23:45
D-Day the Sixth of June นิยายรักวันดีเดย์ วันที่ 19/05/2013   15:24:52
D-Day 6.6.44 สารคดี จาก BBC วันที่ 19/05/2013   15:25:59
The Atlantic Wall ปราการชายฝั่งยุโรป ของ ฮิตเลอร์ วันที่ 19/05/2013   15:27:09
Saving Private Ryan วันที่ 19/05/2013   15:28:34
Von Ryan's Express ด่วนนรกเชลยศึก วันที่ 19/05/2013   15:29:52
Memphis Belle ป้อมบินเย้ยฟ้า วันที่ 19/05/2013   15:30:55
Land and Freedom ความล้มเหลวของฝ่ายซ้ายใน สงครามกลางเมืองสเปน วันที่ 19/05/2013   15:34:12
633 ฝูงบินมัจจุราช วันที่ 19/05/2013   15:35:21
Cross of Iron อิสริยาภรณ์ แห่ง ความกล้า กับ ความบ้าเกียรติ วันที่ 19/05/2013   15:36:41
Kill Rommel การต่อต้านสงครามด้วยมนุษยธรรม วันที่ 19/05/2013   15:37:39
The Bridge at Remagen อีกยุทธการยึดสะพานที่คำสั่งเป็นพิษ วันที่ 19/05/2013   15:38:46
Donwfall (Der Untergang) ปิดตำนานบุรุษล้างโลก (ฮิตเลอร์) วันที่ 19/05/2013   15:52:54
Band of Brothers บทเรียนเรื่อง "ภาวะผู้นำ" วันที่ 19/05/2013   15:53:55
Nuremberg: ศาลยุติธรรม ระดับโลก หรือ ปาหี่ของผู้ชนะ? วันที่ 19/05/2013   15:55:43
Sophie Scholl กับ ขบวนการต่อต้านนาซี ใน เยอรมัน วันที่ 19/05/2013   15:56:49
โอมาร์ มุกตา ผู้หาญสู้ เผด็จการ ฟาสซิสต์ อิตาลี วันที่ 19/05/2013   15:58:04
แพตตัน การรบกับข้าศึก VS การแข่งขันกับพันธมิตร วันที่ 19/05/2013   15:59:18
Hitler the Rise of Evil ชีวิตของจอมเผด็จการที่เสมือนนิยายอมตะ วันที่ 19/05/2013   16:00:23
A Bridge Too Far ศึกสะพานนรก เพราะการวางแผนผิดพลาด วันที่ 19/05/2013   16:01:54
D-Day: Men and Machines สารคดี เบื้องหลัง การยกพลขึ้นบก ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ วันที่ 19/05/2013   16:03:14
ทัวร์ สงครามโลกครั้งที่สอง กับ กองพลที่ 1 สหรัฐฯ (The Big Red One) วันที่ 19/05/2013   16:04:20
Battle of the Bulge ยุทธภูมิรถถังที่อาศัยการตีความข้อมูลข่าวกรอง วันที่ 19/05/2013   16:05:30
Battle of Britain สงครามอินทรีเหล็ก วันที่ 19/05/2013   16:08:59
The Longest Day การยกพลขึ้นบก ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ วันที่ 19/05/2013   16:10:08
ยุทธภูมิเลือด Stalingrad วันที่ 19/05/2013   16:11:23
Enemy at the Gates : วีรบุรุษสามัญชนจากอูราลในสมรภูมิ สตาลินกราด วันที่ 19/05/2013   16:12:27
Dark Blue World (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:14:45 article
Hart's War (ยังไม่มีบทวิจารณ์) วันที่ 19/05/2013   16:15:49 article



1

ความคิดเห็นที่ 1 (101575)
avatar
รอมเมล

เป็นสารคดีที่ดีมาก และทันสัมษาณ์ผู้ที่ผ่านสงครามมา เล่าเรื่องราวด้วย ผมสะสมไว้แยะ น่าเสียดายเจอพิษน้ำท่วมเข้าไปเสียหายหมดเลย เสียดายคนพากษ์ ได้คำแปลแบบคนไม่มีความรู้เรื่องสงครามมาแปล ทำให้ใช้สำนวนฟังแล้วขัดๆๆหุ แต่ก็เข้าใจไม่ยากสำหรับคนที่พอมีความรู้เรื่องสงครามโลก

ผู้แสดงความคิดเห็น รอมเมล (goh_17-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-25 02:22:28


ความคิดเห็นที่ 2 (101629)
avatar
Peiper

ตอนนี้ จะหาซื้อสารคดีชุดนี้ แบบภาคไทยหรือบรรยายไทยได้จากที่ไหนครับ  ดูใน Truevision แล้วอยากได้มาก  สารคดีชุดนี้พิเศษมาก ๆ ตรงที่สร้างหลังจากเหตุการณ์ไม่นาน จนสามารถไปสัมภาษณ์บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จริงได้นี่แหละครับ  ได้คำบอกเล่าจาก อัลเบิร์ต เสปียร์ ตัวเป็น ๆ นี่ก็สุดยอดแล้ว 

 

ช่วยแนะนำทีนะครับ อยากได้มาก

ผู้แสดงความคิดเห็น Peiper ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-15 20:54:34


ความคิดเห็นที่ 3 (101926)
avatar
bankbroken

 good

ผู้แสดงความคิดเห็น bankbroken (bankbroken-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-08 16:09:44


ความคิดเห็นที่ 4 (102143)
avatar
Demetorius

 ขอบคุณผู้เขียนมากครับ

บทความนี้สั่งสอนให้ผมได้เรียนรู้ในหลายๆเรื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น Demetorius (maceus-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 20:09:29



1


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| WW II Europe | WW II Asia | WW I | Vietnam War | ประวัติศาสตร์ไทย | บทความจากสมาชิก | คุยกันหลังฉาก | บทความทั้งหมด |

สนใจร่วมเขียนบทความในเว็บไซต์ เชิญอ่าน แนวทางการร่วมเขียนบทความ ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์

Custom Search



eXTReMe Tracker