ครั้งก่อนได้เคยเชิญชวนให้ท่านผู้สนใจประวัติศาสตร์ได้พยายามศึกษาจากแหล่งความรู้ภาษาต่างประเทศกันบ้าง รวมทั้งพาดพิงถึงวิกิพีเดีย (www.wikipedia.org) เวอร์ชันภาษาอังกฤษอย่างง่าย (Simple English) ไว้ในบทความเรื่อง ประวัติศาสตร์กับภาษาต่างประเทศ ไม่ทราบว่าได้ผลประการใดกันบ้าง ในครั้งนี้จะได้มาขยายผลกันต่อว่าเราจะได้ประโยชน์อะไรจากการอ่านวิกิพีเดียในเวอร์ชัน Simple English กันบ้าง

วิกิพีเดีย คือ สารานุกรมเสรี ที่จัดทำแบบออนไลน์ ครอบคลุมความรู้ในสาขาวิชาการต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ มากมาย บันทึกไว้ด้วยภาษาต่างๆ ไม่ทราบว่ากี่ภาษา แต่เอาเป็นว่าคงเกือบจะทุกภาษาทั่วโลกแล้ว และที่ต่างจากสารานุกรมที่จัดจำหน่ายเป็นเล่ม คือ ผู้เขียนบทความต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้รู้ผู้มีการศึกษาระดับบิ๊กๆ แต่เป็นอาสาสมัครจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปนั้นเอง
ในเมื่อผู้เขียบทความเหล่านี้อาจจะไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิเสมอไปแล้ววิกิพีเดียมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน? เทียบกับสารานุกรมทั่วไปได้เพียงใด? เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะยังข้องใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นักค้นคว้าที่ดีย่อมจะต้องเลือกใช้แหล่งความรู้ต่างๆ อย่างพินิจพิเคราะห์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มใด เว็บไซต์แห่งใด หรือสื่อความรู้ใดๆ ก็ตาม
จากประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่าบทความในเวอร์ชันภาษาอังกฤษส่วนใหญ่จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีรายละเอียดและความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะใช้ในการอ้างอิงได้ สำหรับเวอร์ชันภาษาไทยนั้น หลายๆ บทความก็นับว่าใช้ได้ แต่น่าเสียดายว่ามีอีกหลายบทความยังไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากยังมีผู้เขียนในวิกิพีเดียอีกหลายคนคิดเพียงแค่จะต้องมีบทความภาษาไทยมากๆ เข้าไว้ หลายคนมักง่ายเที่ยวไป copy บทความจากเว็บหลายๆ แห่งมา Paste ปะติดปะต่อกันไว้ โดยไม่ดูความเข้ากันได้ของเนื้อหา หลังๆ เริ่มมีการใช้วิธีแปลจากวิกิเวอร์ชันภาษาอังกฤษมา ก็ดูเหมือนจะดีกว่าการลอก แต่บางทีแปลเป็นภาษาไทยที่ไม่ค่อยเป็นภาษาคนบ้าง หรือยังติดสำนวนฝรั่งมาแบบที่อาจารย์การแปลชอบล้อว่า "กลิ่นนมเนยหึ่ง" บ้าง บางทีเอาเขามาแปลแต่ตอนบทนำเรื่อง ส่วนที่เหลือจะแปลต่อหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ฯลฯ
ประเด็นที่น่าสนใจคือวิกิพีเดียเคยตกเป็นข่าวว่า ได้มีคนที่สักแต่ว่ามีอาชีพเป็นครูอาจารย์ทั้งที่เมืองนอกและในเมืองไทยเองสั่งให้ลูกศิษย์ทำการบ้านส่งทางวิกิพีเดีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของวิกิพีเดียอยู่ไม่น้อย อันที่จริง ทางวิกิพีเดียเองมีระบบในการที่จะตรวจสอบและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับบทความที่ไม่ได้คุณภาพหรือละเมิดลิขสิทธิ์ ฯลฯ อยู่เหมือนกัน บทความที่มีปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขหรือลบทิ้ง แล้วแต่อาการหนักเบาแค่ไหน
มาตรการที่ว่าจะได้ผลแค่ไหนก็แล้วแต่มุมมองของผู้ชมเว็บแต่ละท่าน โดยส่วนตัวยืนยันอีกครั้งว่า บทความภาษาอังกฤษส่วนใหญ่พอใช้ได้จนถึงดีมาก แต่ก็ถือว่าอ่านยาก ส่วนภาษาไทยยังต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านมากหน่อย
แล้ว Simple English ล่ะเป็นอย่างไร แล้วทำไมต้องมี Simple English แยกออกมาต่างหากจาก Normal English หรือ Standard English ด้วยเล่า
ขอตอบประเด็นหลังก่อนก็แล้วกันครับ ย้อนอดีตกันนิดหน่อย เมื่อมนุษย์จากแทบทุกมุมโลกมีการพบปะกันมากขึ้น ไม่ว่าโดยการค้า การรบ การทูต การกีฬา ฯลฯ แล้วพบว่าภาษาที่แต่ละชาติแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างคนต่างใช้นั้น มันช่างเป็นอุปสรรคเหลือเกิน จึงได้มีความพยายามว่าจะใช้ภาษาอะไรเป็นภาษากลาง แนวทางหนึ่งคือการสร้างภาษาขึ้นมาใหม่ให้ทุกชาติทุกเผ่าพันธุ์เริ่มต้นเรียนกันใหม่เหมือนกันแต่มีคำศัพท์และไวยากรณ์ที่ง่ายๆ เก็บเล็กผสมน้อยมาจากภาษาต่างๆ นั่นก็คือภาษา Esperanto แต่ก็ยังไม่สามารถเผยแพร่ออกไปได้กว้างขวางเท่าที่ควร อีกทางเลือกหนึ่งก็คือในเมื่อท่านผู้ดีอังกฤษได้เคยอุตสาหะในการล่าเมืองขึ้นไปทั่วโลกจนเคยได้รับฉายาว่าเป็นจักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ทำให้ภาษาอังกฤษได้เผยแพร่ไปทั่วโลกด้วยไม่ว่าประเทศไหนๆ จะเคยเป็นเมืองขึ้นอังกฤษหรือไม่ก็ตาม ย่อมรู้ภาษาอังกฤษกันมากบ้างน้อยบ้าง ครั้นพออังกฤษเริ่มลดบทบาทลง ผู้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นพี่เบิ้มแทนก็เป็นสหรัฐอเมริกาซึ่งก็เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเช่นกัน ภาษาอังกฤษจะแทนจะกลายเป็นภาษากลางของโลกโดยปริยาย แต่ครั้นจะใช้ภาษาอังกฤษตามมาตรฐานของคนประเทศอังกฤษ/อเมริกาซะเลย คนในหลายๆ ประเทศที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง (อาจจะด้วยเหตุว่ายังหยิ่งทะนงกับการไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร หรือเรียนกันแบบเอาแต่ท่องศัพท์จำแกรมม่ากันเป็นสิบๆ ปี ไม่เคยเจอฝรั่งจริงๆ หรือจะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่) ย่อมจะเสียเปรียบ จึงต้องมีการ "ย่อย" ให้ภาษาอังกฤษนี้มันง่ายขึ้นมาอีกหน่อย โดยมีการวางหลักเกณฑ์กันไว้ว่าจะใช้คำศัพท์ใช้ไวยากรณ์กันอย่างไรถึงจะไม่ยากเกินไปแต่ยังสื่อกันรู้เรื่องและคงหลักการเดิมของภาษาอังกฤษไว้ได้ ทั้งเรื่องของภาษา Esperanto และ Simple English นี้ ต่างก็มีรายละเอียดและความเป็นมาที่ค่อนข้างมากก่อนจะมาถึงกำเนิดของวิกิพีเดีย แต่เพื่อไม่ให้ยืดยาวจนนอกเรื่องก็ขอเล่าย่อๆ กันเท่านี้ เอาเป็นว่าสารานุกรมออนไลน์วิกิพีเดียนี้ได้กำหนดให้มีเวอร์ชันเป็นภาษา Esperanto และ Simple English เช่นเดียวกับภาษาอื่นๆ
ในด้านจำนวนบทความ ถ้าเทียบกับวิกิพีเดียที่เป็น Simple English กับเวอร์ชันภาษาอื่นๆ ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ โดยคร่าวๆ คือ ภาษาอังกฤษ ประมาณ 3 ล้าน 7 แสนกว่าบทความ ภาษาเยอรมันและฝรั่งเศส อย่างละประมาณ 1 ล้านกว่าบทความ ภาษาไทยประมาณ 6 หมื่น 8 พันกว่าบทความ ส่วน Simple English มีอยู่ประมาณ 7 หมื่น 3 พันกว่าบทความ คือ มากกว่าภาษาไทยอยู่พอประมาณ แต่ก็ยังถูกภาษาอื่นๆ อีกหลายภาษาทิ้งห่างอยู่หลายช่วงตัว รวมถึง Esperanto ที่ผมกล่าวพาดพิงถึงในย่อหน้าที่แล้วนั้น มีมากถึง 1 แสน 5 หมื่นกว่าบทความแล้วครับ
ในด้านคุณภาพ พบว่ามีหลายบทความเหมือนกันครับที่เขียนไว้สั้นๆ ห้วนๆ ประมาณว่าเขียนแค่นี้ทำไมฟะ อ่านแล้วไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเลย แต่ก็มีอีกหลายบทความที่เรียกว่ากำลังพอดี ไม่สั้นไม่ยาวเกิน หรือที่ยาวหน่อย แต่อ่านรวดเดียวจบแบบรู้เรื่อง เรียกว่ายังพอพึ่งได้ในบางกรณีครับ
ดังนั้น หากสิ่งที่เราต้องการรู้ในหัวข้อใดที่ไม่มีในวิกิเวอร์ชันภาษาไทย หรือมีแต่สั้นเกินไป เขียนมั่ว ลอกเขามา หรือไม่แน่ใจด้วยเหตุใดก็ตาม ครั้นจะไปอ่านที่เวอร์ชัน English ก็ยากไปหน่อย เวอร์ชัน Simple English ก็พอจะช่วยเราได้ ในกรณีที่เรื่องนั้นมีความละเอียดมากๆ ต้องการทำความเข้าใจกับเรื่องนั้นอย่างจริงจังแล้วไม่แนะนำให้ใช้เวอร์ชัน Simple English แทน English ปกติโดยสิ้นเชิงนะครับ แต่ควรอ่านเวอร์ชัน Simple English เพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนก่อนที่จะไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมในเวอร์ชันภาษาอังกฤษปกติ น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า
ทีนี้มาเข้าเรื่องกลุ่มบทความเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่จะแนะนำให้อ่านกันซะที คัดเลือกมาสำหรับแฟนๆ เว็บไซต์ IseeHistory โดยเฉพาะ
อันดับแรกความหมายของวิชาประวัติศาสตร์ครับ
ถัดมาก็เป็นบทความพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับสงครามความขัดแย้งใหญ่ๆ ที่สำคัญต่างๆ
บทความที่เกี่ยวกับเรื่องราวของนาซีเยอรมัน
แล้วก็มาที่บทความชีวประวัติบุคคลที่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน
บุคคลสำคัญของชาติอื่นๆ ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ถ้าสงครามโลกครั้งที่ 2 มันเฝือเกินไป ลองมาดูชีวประวัติบุคคลสำคัญในยุคสมัยอื่นๆ กันบ้าง
ตัวอย่างบทความเกี่ยวกับลัทธิและขบวนการต่างๆ ในประวัติศาสตร์
เรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ก็ค้นหากันตามชอบใจครับ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านได้พัฒนาความรู้ทั้งด้านประวัติศาสตร์และการอ่านภาษาอังกฤษโดยทั่วกันครับ
----------
หมายเหตุ : เปิดให้แสดงความคิดเห็นเฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ที่ด้านล่างสุด