โดย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง (Mrs.William Pitt!)
คนทั่วไปมักจะทราบเรื่องชีวิตส่วนตัวของฮิตเลอร์แค่ในตอนท้ายว่าเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมเอวา บราวน์ ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเขาเพิ่งตัดสินใจแต่งงานด้วยเพียง 1 วันก่อนหน้านั้น อันเป็นการยืนยันว่าแท้จริงแล้วจอมเผด็จการผู้นี้แอบซ่อนภรรยาลับๆไว้เบื้องหลังเบื้องหลังภาพพจน์นักการเมืองผู้อุทิศตน
(ฮิตเลอร์ และ เอวา)
เอวา บราวน์ (Eva Braun) นั้นเกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง นาย ฟริตส์ บราวน พ่อของเธอมีอาชีพเป็นครูโรงเรียนช่างฝีมือ และเคยร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ฟริตส์เป็นคนค่อนข้างเข้มงวด และเงียบขรึมในขณะที่ ส่วน ฟรานเชสก้า บราวน์ ผู้เป็นแม่นั้นมีบุคลิกแจ่มใสอยู่เสมอ เอวาเป็นลูกคนรองในจำนวนลูกสาวทั้ง 3 คน เอลซ่า บราวน์ พี่สาวคนโตนั้นมีบุคลิกที่โน้มเอียงไปทางผู้เป็นพ่อ เธอมีวุฒิภาวะสูง และเรียบร้อย เคร่งครัด ในขณะที่เอวา กับ มากาเร็ต น้องสาวคนเล็ก (เป็นที่รู้จักในชื่อ เกรเทล มากกว่า) ได้รับบุคลิกสนุกสนานร่าเริงมาจากผู้เป็นแม่
เอวา และพี่น้องเติบโตขึ้นโดยได้รับการศึกษาอย่างเพีรยบพร้อมในมิวนิค รัฐบาวาเรีย เอวามีความสามารถทางด้านกีฬาแทบทุกชนิด โดยเฉพาะสกี และ ยิมนาสติก อีกทั้งยังมีความสนใจพิเศษเกี่ยวกับการถ่ายภาพแต่เมื่อเธอเริ่มย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เธอกลับมีพฤติกรรมโลดโผนเหมือนเด็กผู้ชาย ไม่เรียบร้อยเป็นกุลสตรี ฟริตส์จึงตัดสินใจส่งเธอเข้าเรียนประจำในคอนแวนซึ่งมีกฏระเบียบเคร่งครัด ทว่าในไม่นานเอวาก็หนีออกมาเพราะทนความเข้มงวดไม่ได้
หลังจากที่ออกจากคอนแวนแล้ว เอวาตัดสินใจไม่ศึกษาต่ออย่างที่ผู้เป็นพ่อคาดหวัง เธอเข้าทำงานในร้านถ่ายภาพของ ไฮน์ริค ฮอฟมานน์ ในฐานะเสมียน และผู้ช่วยช่างถ่ายภาพ เธอทำงานเล็กๆน้อยๆทุกอย่างในร้านตั้งแต่พนักงานต้อนรับ ไปจนถึงล้างฟิล์ม ไฮน์ริค ฮอฟมานน์นั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคนาซียุคแรกเริ่ม และยังเป็นคนวงในที่สนิทสนมกับฮิตเลอร์อีกด้วย ในช่วงปีที่เอวาเริ่มทำงานในร้านถ่ายภาพ พรรคนาซีกำลังเริ่มก่อตัวและแข็งแกร่งขึ้น ด้วยอุดมการณ์ที่รุนแรง และมีแกนนำผู้ปราศัยที่กำลังเริ่มมีชื่อเสียงเลื่องลือ คือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตนายทหารประทวนจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้มีวาทะร้อนแรง แต่เอวาซึ่งเพิ่งอายุได้ 17 ปีนั้นไม่ได้มีความสนใจทางการเมืองแต่อย่างใด
เอวาได้พบกับฮิตเลอร์ครั้งแรกในร้านถ่ายรูปของฮอฟมานน์นั้นเอง เธอเล่าให้พี่สาวของเธอฟังว่าฮิตเลอร์เข้ามาในร้ายเมื่อบ่ายวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังปีนบันไดเพื่อหยิบของบนตู้ชั้นบนสุด ที่แรกเธอไม่รู้ว่าชายที่เธอพบนั้นคืออดล์ฟ ฮิตเลอร์ รู้แต่เพียงว่าชายที่เธอเห็นนั้นมีอายุราว 40 ปี สวมหมวกสักหลาดทรงอ่อน กับเสื้อโค้ต และไว้หนวดรูปร่างตลก รูปลักษณ์ของเขาไม่ได้ดึงดูดใจเอวาเมื่อแรกเห็น แต่ในทางตรงกันข้ามรูปร่างหน้าตาที่สวยงามของเอวานั้นสามารถดึงดูดใจฮิตเลอร์ได้ในทันที หลังจากนั้นฮอฟมานน์ ได้แนะนำให้เอวารู้จักกับชายผู้นั้นในชื่อ “แฮร์ โวล์ฟ” (Mr.Wolf) ซึ่งเป็นชื่อเล่นของฮิตเลอร์ โดยที่เอวาไม่ได้เอะใจเลยว่า แฮร์ โวล์ฟ คือนักการเมืองหนุ่มไฟแรงที่กำลังมีชื่อเสียงในขณะนั้น กระทั่งเมื่อฮิตเลอร์ออกจากร้าน ออฟมาน์จึงได้บอกเธอว่าเขาคือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์!
หลังจากนั้นฮิตเลอร์ก็แวะเวียนมาที่สตูดิโอของฮอฟมานน์บ่อยขึ้น และมักชวนเอวาไปร่วมมื้อค่ำอยู่เสมอๆ แต่ความรักของทั้งสองก็ไม่ได้ราบรื่น เพราะฟริตส์ บราวน์ ผู้เป็นพ่อเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายที่รุนแรงของพรรคนาซี และ เล็งเห็นถึงอันตรายที่นักการเมืองฝีปากกล้าอายุมากที่เข้ามาพัวพันกับลูกสาว นอกจากนั้นฮิตเลอร์เองก็กำลังมีข่าวความสัมพันธ์อื้อฉาวกับ แองเจลิก้า (เกลิ) รอเบล หลานสาว
![](http://uc.exteenblog.com/jansephine/images/eb/geli-pic-161x230.jpg)
แองเจลิก้า (เกลิ) รอเบล
เกลินั้นเป็นลูกของแองเจล่า รอเบล พี่สาวต่างมารดาของฮิตเลอร์ เธอเกิดและโตที่เมืองลินซ์ ประเทศออสเตรีย เมื่อเธออายุราว 17 ปี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าก็เริ่มมีชื่อเสียงทางการเมือง และมีฐานะดีขึ้น จึงรับเกลิ และ แองเจล่า ซึ่งมีความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนักมาอยู่ที่มิวนิค ฮิตเลอร์ พยายามส่งเสียให้เกลิเป็นนักร้องโอเปร่า แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก มักจะไปดูหนัง และโอเปร่าด้วยกันอยู่เสมอ และฮิตเลอร์ก็สามารถตามเจลิไปเลือกซื้อของอย่างอดทน จนความสัมพันธ์ที่ดูจะเกินความเป็น น้า หลานได้กลายมาเป็นความหลง เห็นได้จากภาพเปลือยของเกลิจำนวนหลายภาพที่ฮิตเลอร์ได้วาดไว้ นอกจากนี้เขาผูกขาดความสัมพันธ์ของเธอ ไม่ให้สามารถคบหากับเพื่อนได้โดยอิสระ ทำให้ในระยะหลังเกิดการทะเลาะ มีปากเสียงอย่างรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวที่เกลิ มีต่อ เอมิล มอริส ผู้เป็นคนขับรถของฮิตเลอร์ กระทั่งความขัดแย้งดำเนินมาถึงจุดสูงสุด เมื่อเกลิ พบว่าฮิตเลอร์เองก็ไปมาหาสู่อย่างลับๆกับผู้ช่วยในร้านถ่ายภาพของ ฮอฟมานน์ และหลังจากที่มีปากเสียงอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง เกลิก็ค้นพบกระดาษโน้ตที่เอวาเขียนไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ตของฮิตเลอร์ จากนั้นไม่นานเจลิก็ใช้ปืนพกของฮิตเลอร์ยิงที่หน้าอกตัวเองเสียชีวิตอยู่ในอพาร์ทเม้นท์
จากการตายของเกลิส่งผลกระทบต่อฮิตเลอร์หลายประการ เขาเลิกรับประทานเนื้อสัตว์ และ มีความระมัดระวังในด้านความสัมพันธ์กับผู้คนมากขึ้น ในระยะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเอวายังคงอยู่ แต่ฮิต เลอร์ดูเหมือนจะทุ่มเทความสนใจให้กับงานจนลืมให้ความสนใจกับเอวา ทำให้เอวาได้ยายามฆ่าตัวตายโดยใช้ปืนพกของพ่อยิงที่ลำคอ แต่ไม่สำเร็จเพราะพี่สาวซึ่งได้ยินเสียงปืนเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน
หลังจากการพยายามฆ่าตัวตาย ฟริตส์ บราวน์ ได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงฮิตเลอร์ มีใจความว่าเขาควรจะแต่งงานกับเอวา หรือไม่ก็เลิกยุ่งกับเธอเสีย แต่ฮิตเลอร์ก็ไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องทั้งสองอย่างนั้น เพราะความเป็นชายโสดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีภาพพจน์ของผู้อุทิศตนให้กับประชาชน ซึ่งสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองให้เขาอย่างล้นหลาม แต่เขาก็ไม่ได้เลิกรากับเอวา ฮิตเลอร์ซื้อบ้าน รถยนต์เมอร์เซเดส และ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเอวา โดยมีเงื่อนไขว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจะต้องเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม สามปีต่อมาเอวาได้พยายามฆ่าตัวตายอีกครั้งหนึ่งด้วยการกินยานอนหลับ ในขณะที่ฮิตเลอร์กำลังวุ่นวายอยู่กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เบอลิน
หลังจากการฆ่าตัวตายครั้งที่สองซึ่งไม่สำเร็จ ความสัมพันธ์ระหว่างฮิตเลอร์และเอวาก็เริ่มมั่นคงเป็นรูปเป็นร่างขึ้น เมื่อแองเจล่า ผู้เป็นแม่ของเกลิซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับเอวา ตัดสินใจทิ้งหน้าที่ผู้ดูแลบ้านพักของฮิตเลอร์บนภูเขาบาวาเรียนแอลป์ เอวาก็ได้เข้ามามีบทบาทในฐานะนี้แทนซึ่งเป็นการยืนยันความสำคัญของเธอในสังคมวงในของฮิตเลอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างเอวา ที่มีต่อฮิตเลอร์นั้น ไม่รุนแรงเหมือนในกรณีของเกลิ ฮิตเลอร์เรียนรู้ความผิดพลาด และระมัดระวังมากขึ้น ประกอบกับอุปนิสัยของเอวาที่อ่อนหวาน ร่าเริง มีอารมณ์ขัน สร้างความผ่อนคลาย และให้ความรู้สึกอบอุ่นกับฮิตเลอร์มากกว่าความรักที่ร้อนแรง
![](http://uc.exteenblog.com/jansephine/images/eb/AdolfHitler_und_EvaBraun-061710.jpg)
(ฮิตเลอร์ และ เอวา ที่ระเบียงบนบ้านพักส่วนตัว)
จากคำบอกเล่าของคนภายใน เอวาและฮิตเลอร์เป็นคู่รักที่เหมือนกับคนปกติทั่วไป สำหรับเอวานั้นฮิตเลอร์เป็นผู้ชายเงียบๆ เป็นสุภาพบุรุษ และ โรแมนติก ทั้งสองมีรสนิยมที่คล้ายคลึงกันและมีความสนใจทางด้านศิลปะ ฮิตเลอร์นั้นมีความสามารถในด้านภาพวาดสีน้ำมัน และ สถาปัตยกรรม ส่วนเอวามีความสนใจในการถ่ายภาพ และ ภาพยนต์ แต่ก็มีความแตกต่างในบางประการ ฮิตเลอร์ไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้า แต่เอวานั้นรักการแต่งหน้า และ ชอบแต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ เอวารักษารูปร่างให้ผอมบางอยู่เสมอแม้ว่าฮิตเลอร์จะพูดอยู่เสมอว่าอยากให้เธอกลับไปมีเนื้อมีหนังเหมือนตอนที่พบกันใหม่ๆ นอกจากนั้นเอวายังแอบสูบบุหรี่ตามแฟชั่นในยุคนั้น เวลาที่ฮิตเลอร์ไม่อยู่เพราะฮิตเลอร์ไม่สูบบุหรี่
เอวาไม่มีบทบาทและอิทธิพลทางการเมืองแต่อย่างใด เธอไม่เคยทราบข้อมูลเชิงลึกในด้านนโยบายและปฏิบัติการต่างๆของพรรคนาซี และไม่มีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับผู้มีอิทธิพลทางการเมืองคนใด ยกเว้น อัลเบิร์ต สเปียร์,โยเซฟ เกว็บเบิล และ มาร์ติน บอร์มานน์ เธอไม่ได้รับการยอมรับจากภรรยาของบุคคลระดับสูงในฐานะภรรยาของผู้นำสูงสุดแห่งอาณาจักร ไรค์ เยอรมันนี เพียงแต่เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะชนในฐานะเลขานุการ และ ผู้ดูแลบ้านของฮิตเลอร์
บางทฤษฎีสันนิษฐานว่าฮิตเลอร์มีความผิดปกติทางเพศและมีเอวาไว้เพื่อสร้างภาพพจน์เท่านั้น แต่ก็มีเครื่องยืนยันหลายประการที่ทำให้ทราบว่าฮิตเลอร์มีความสัมพันธ์ระหว่างชาย หญิงตามปกติกับเอวา ในบ้านพักบนเทือกเขาบาวาเรียนแอลป์ เอวามีห้องนอนที่มีประตูเชื่อมต่อกันกับห้องนอนของอิตเลอร์ ในบางครั้งที่ฮิตเลอร์กลับมาอย่างเร่งด่วนโดยไม่ได้บอกกล่าว เอวาต้องขอยาจากแพทย์เพื่อหยุดประจำเดือนเอาไว้ชั่วคราว ในระยะหลังเมื่อสุขภาพของฮิตเลอร์ทรุดโทรมด้วยโรคต่างๆ และความคร่ำเครียดจากการทำงานก็ส่งผลกระทบถึงสมรรถภาพทางเพศ เอวาเคยบอกกับคนสนิทของเธอว่าฮิตเลอร์ได้พูดถึงเรื่องนี้กับเธอ ขอโทษเธอที่ไม่สามารถตอบสนองเธอในฐานะบุรุษเพศได้อีกต่อไป และ อนุญาตให้เธอมีคนรักใหม่ได้ถ้าเธอต้องการ
ฮิตเลอร์นั้นไม่มีความหึงหวงรุนแรงต่อเอวา เช่นที่มีต่อเกลิ เอวานั้นมีเพื่อนชายจำนวนมาก และมักมีนายทหารหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีสังกัด เอส.เอส. แวดล้อมอยู่เสมอ ในระยะหลังเธอได้มีความสนิมสนมกับ แฮร์มานน์ เฟเกไลน์ นายพลหนุ่ม ทหารม้าจากหน่วยเอส.เอส. เขาเป็นวีรบุรุษสงครามที่กำลังรุ่งเรืองในด้านฐานะการงาน ตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานของหัวหน้าหน่วยเอส.เอส. ส่งให้เขาเข้ามาอยู่วงสังคมระดับสูงของพรรคนาซีได้โดยง่ายดาย เฟเกไลน์เป็นคนโสด และ รูปหล่อ ด้วยบุคลิกที่สนุกสนาน ช่างคุย เสียงดังฟังชัด ทั้งยังเป็นนักเต้นรำที่เก่งกาจ ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมไปถึงเอวา ด้วยบุคลิกที่พ้องกันทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว กระทั่งเกิดเสียงซุบซิบหลายกระแสว่าความสัมพันธ์ระหว่างเอวา และ เฟเกไลน์ นั้นถึงขั้นเกินเลยความเป็นเพื่อน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีหลักฐานใดๆที่ทำให้เห็นว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์อื่นนอกไปจากคู่เต้นรำที่สนิทสนม ในภายหลังเฟเกอไลน์ได้แต่งงานกับเกรเทล น้องสาวของเอวา แต่การแต่งงานในครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพียงความทะเยอทะยานของเฟเกไลน์ที่จะดันตัวเองขึ้นไปอยู่ในฐานะน้องเขยของผู้นำสูงสุด
![](http://uc.exteenblog.com/jansephine/images/eb/fegeleineva.jpg)
![](http://uc.exteenblog.com/jansephine/images/eb/evaffege.JPG)
เอวา และ เฟเกไลน์
ในช่วงปีสุดท้ายของสงคราม เอวา ยังคงอาศัยอยู่ที่มิวนิคอย่างเงียบเหงา ขณะที่ฮิตเลอร์บัญชาการรบอยู่ในบังเกอร์ภายใต้กองบัญชาการ ที่กรุงเบอลิน เมื่อสถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ เอวาซึ่งแอบฟังข่าววิทยุจากต่างประเทศอยู่เสมอรู้แน่ชัดแล้วว่าเยอรมันนีกำลังจะเป็นฝ่ายแพ้สงครามก็ได้ตัดสินใจไปอยู่ร่วมกับคนรักของเธอที่กรุงเบอลิน ในเวลานั้นเยอรมันนีถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนัก ทั้งยังโดนปิดล้อมโดยกำลังทหารทั้งอเมริกัน และ รัสเซีย การคมสนาคมสาธารณะไม่มีอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าเธอไม่สามารถที่จะเดินทางจากมิวนิค ไปยังเบอลิน โดยเครื่องบิน หรือ รถไฟได้ ทางเดียวที่จะสามารถไปถึงได้ก็คือรถยนต์ซึ่งก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกโจมตีจากกำลังทางอากาศของฝ่ายตรงข้าม
เอวาไปถึงบังเกอร์ของฮิตเลอร์ในต้นเดือนเมษายนโดยรถยนต์ ซากปรักหักพังของกรุงเบอลินที่เธอเห็นระหว่างทางเสมือนจะย้ำเตือนให้เธอแน่ใจว่าเธอกำลังเดินทางเข้าไปสู่ความตาย เธออยู่ร่วมกับฮิตเลอร์ในบังเกอร์ใต้ดิน ฟังเสียงระเบิดและแรงสั่นสะเทือนจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ฮิตเลอร์ยอมจำนนต่อสถานการณ์ที่ไม่สามารถจะแก้ไขได้ เขาอนุญาตให้เลขานุการและคนรับใช้กลับออกไปจากบังเกอร์ได้ รวมไปถึงเอวาด้วย แต่เธอปฏิเสธที่จะกลับไปมิวนิคและขออยู่ร่วมกับเขาจนนาทีสุดท้าย
ในคืนหนึ่งเอวาได้รับโทรศัพท์จากเฟเกไลน์ ผู้เป็นน้องเขยของเธอวึ่งชักชวนให้เธอหนีไปด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธ และบอกให้เฟเกไลน์รีบกลับมาเสีย ในระหว่างการล่มสลายของอาณาจักรไรค์เยอรมันนี ไฮน์ริค ฮิมม์เลอร์ ผู้บัญชาการหน่วยทหาร เอส.เอส. ซึ่งฮิตเลอร์เชื่อในความจงรักภักดีมากที่สุดได้ยอมจำนนต่อฝ่ายอเมริกัน ทำให้ฮิตเลอร์เกรี้ยวกราดมากจนไม่ไว้วางใจใครอีกต่อไป เมื่อฮิตเลอร์พบว่าเฟเกไลน์หายไปจากบังเกอร์ เขาจึงส่งทหารไปติดตามและจับกุมตัวได้ที่อพาร์ทเม้นส่วนตัว เฟเกไลน์ถูกนำมาที่บังเกอร์ใรสภาพที่สวมชุดพลเรือน และ เมา เอวาพยายามขอให้ฮิตเลอร์ยกโทษให้เพื่อเห็นแก่น้องสาวที่กำลังตั้งครรภ์กับเฟเกไลน์ แต่เมื่อหลักฐานบ่งบอกว่าแท้จริงแล้วเฟเกไลน์ได้เก็บทรัพย์สิน เตรียมตัวจะหนีไปพร้อมกับหญิงคนหนึ่งที่พบในอพาร์ทเม้นท์ ไม่ได้กลับไปหาภรรยาที่มิวนิค เฟเกอไลน์จึงถูกนำตัวขึ้นไปยิงบนสวนเหนือบังเกอร์
ข่าวการถูกจับกุมของมุสโซลินี ผู้นำอิตาลี ถูกเผยแพร่ เมื่อฮิตเลอร์ได้ทราบว่ามุสโซลินีไม่เพียงแต่ถูกจับกุม ซ้ำยังถูกยิงจนเสียชีวิต และถูกจับมัดห้อยหัวให้ประชนรุมประชาทัณฑ์กลางตลาดเมืองมิลานพร้อมกับภรรยาลับที่ติดตามมาด้วย เขาจึงตัดสินใจทำอัตวินิบาตกรรมเพื่อไม่ให้โดนจับกุม เช่นเดียวกับเอวายินดีที่จะตายพร้อมกับคนรักของเธอ
ระหว่างสงคราม ฮิตเลอร์เคยให้สัญญากับเอวาว่าเขาจะแต่งงานกับเธอเมื่อสงครามสิ้นสุด เขาจึงได้ตัดสินใจทำตามสัญญาด้วยการแต่งงานกับเธอเพียง 1 วันก่อนจะฆ่าตัวตาย พิธีสมรสเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทีแรกเอวาตั้งใจจะลงชื่อในทะเบียนสมรสว่า เอวา บราวน์ แต่แล้วเธอก็ขีดฆ่าตัว B ออก และเขียนใหม่ว่า ‘เอวา ฮิตเลอร์’
เวลาบ่ายสามโมงสามสิบนาทีของวันที่ 30 เมษายน ปี 1945 นาย และ นาง ฮิตเลอร์ จับมือกับผู้ร่วมงานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้าไปในห้องส่วนตัว อึดใจหนึ่งเสียงปืนก็ดังขึ้นจากภายใน เมื่อนายทหารผู้รับใช้ของฮิตเลอร์เปิดประตูเข้าไปภายใน ศพของฮิตเลอร์และเอวาอยู่บนโซฟายาวโดยฮิตเลอร์ได้ยิงปืนพกเข้าทางปาก ส่วนเอวาดื่มยาพิษไซยาไนต์ ศพของทั้งสองถูกเผาที่สวนเหนือบังเกอร์ คาดว่าถูกเผาไปจนหมดและถูกระเบิดจากฝ่ายศัตรูทำลายซ้ำ ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนถึงเศษกระดูก และ ซากอวัยวะที่หลงเหลืออยู่ของฮิตเลอร์และภรรยา
ภาพแสน็ปช็อต ของฮิตเลอร์ ถ่ายโดยเอวา
เอวา บราวน์
อ้างอิง
1) หนังสือ
จากที่ผู้เขียนได้ศึกษาชีวประวัติของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์มาเป็นเวลานานพอสมควร ทำให้ทราบว่าหนังสือภาษาไทยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของฮิตเลอร์โดยตรงนั้นมีเพียงไม่กี่เล่ม คือ หนังสือเรื่องชีวิตรักของฮิตเลอร์ ซึ่งค่อนข้างหายากและอาจไม่ตีพิมแล้ว เป็นหนังสือขนาดสั้นที่กล่าวถึงผู้หญิงหลายๆคนที่ฮิตเลอร์เข้าไปเกี่ยวพันด้วย ข้อมูลภายในหนังสือค่อนข้างคลุ่มเครือ ไม่ชัดเจนเท่าไรนัก ส่วนอีกเล่มหนึ่งชื่อเรื่อง อีวา บราวน์ จอมใจฮิตเลอร์ เขียนโดยวิลาศ มณีวัติ ไม่น่าจะยังตีพิมพ์อยู่ และไม่เคยอ่านจึงไม่ทราบว่าข้อมูลในหนังสือสือเป็นอย่างไร อีกเล่มที่น่าสนใจชื่อเรื่องว่าอยู่กับฮิตเลอร์จนชั่วโมงสุดท้าย เป็นบันทึกของเลขานุการณ์ของฮิตเลอร์ที่ร่วมชะตากรรมกับฮิตเลอร์จนกระทั่งฮิตเลอร์ทำอัตวินิบาตกรรม และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์เรื่อง Der Untergang (Downfall) หนังสือไม่ได้เฉพาะเจาะจงถึงเรื่องความสัมพันธ์ของฮิตเลอร์กับผู้หญิงโดยตรง แต่มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์ของฮิตเลอร์กับเอวา บราวน์ ไว้อย่างค่อนข้างถูกต้อง และยุติธรรม ส่วนหนังสือภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องโดยตรงนั้นมีค่อนข้างมาก แต่ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านสูง เพราะโดยทั่วไปแล้วมักจะเขียนแบบแต่งเติมให้ออกรสชาติตามทัศนคติของผู้เขียน ส่วนหนังสือที่ใช้อ้างอิงส่วนใหญ่ในการเขียนบทความนี้คือหนังสือเรื่อง The Lost Life of Eva Braun นอกจากนั้นในบทความนี้ยังมีอ้างอิงมาจากบทสัมภาษของบุคคลใกล้ชิดที่ให้ไว้กับรายการสารคดีต่างๆ อันที่จริงแล้วมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกบางประการเช่นเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของฮิตเลอร์และเอวา ข้อสันนิษฐาน ทฤษฎีต่างๆ
2) บุคคลอื่นๆ
อันที่จริงแล้วผู้หญิงที่มัความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับฮิตเลอร์มีอีกหลายคน แต่กล่าวถึงเพียงแค่ 2 คนหลักๆที่มีอิทธิพลต่อฮิตเลอร์จริงๆคือ เอวา และ เกลิ
3) รายละเอียดและตำแหน่ง
ไม่ได้ลองไว้ชัดเจน เพราะบางตำแหน่งของบุคคลสำคัญส่วนใหญ่จะรู้เฉพาะภาษาอังกฤษและเยอรมัน ซึ่งอธิบายยาก จำคำแปลภาษาไทยที่กระชับและรวบรัดไม่ไม่ได้ เพราะตอนนี้ศึกษาอยู่ต่างประเทศ ไม่มีหนังสือภาษาไทยอ้างอิง เช่นตำแหน่งของสเปียร์ (สถาปนิก?) และ บอร์มานน์ (เลขาธิการ?) จำได้เฉพาะเกว็บเบิล เป็นรัฐมนตรีกระทรวงโฆษณาการ
4) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ข้อมูลบางประการอาจผิดพลาดเพราะศึกษามาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็พยายามเรียบเรียงให้เป็นไปตามความจริงให้มากที่สุด