Countryboy
24 เมษายน 2550
วันที่ 17 พฤษภาคม 1943 (พ.ศ.2486) หรือเมื่อ 64 ปีที่ผ่านมา ณ สนามบิน Bassingbourn ประเทศอังกฤษ เป็นวันที่เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ 4 เครื่องยนต์ลำหนึ่งจะต้องบินเป็นเที่ยวบินที่ 25 เพื่อไปทิ้งระเบิดที่ Wilhelmshaven เยอรมันนี ซึ่งเป็นเที่ยวบินสุดท้ายของเธอ เนื่องจาก Memphis Belle เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดลำแรกของฝูง ที่จะผ่านการปฏิบัติภารกิจครบ 25 เที่ยวบิน โดยที่ไม่ถูกยิงตก หรือ เสียหายจนต้องออกจากการรบ ดังนั้น เพื่อผลทางด้านจิตวิทยา และความต้องการที่จะประชาสัมพันธ์กองทัพ รวมถึงการออกชักจูงประชาชนในสหรัฐอเมริกาเมืองแม่ ให้ช่วยกันซื้อพันธบัตรสงคราม เพื่อนำเงินมาเป็นทุนสำรองในการรบต่อต้านการบุกของเยอรมันนีและญี่ปุ่นผู้ก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นมา Belle จึงต้องกลับบ้าน เพื่อภารกิจบินตะเวนทำการประชาสัมพันธ์แทนการออกบินทำการรบอีกต่อไป
ข้างบนนี้ คือเรื่องที่ผมอ่านเจอมาจากเว็บไซท์ 2 – 3 แห่งนะครับ ซึ่งถ้าท่านที่สนใจใคร่รู้ถึงประวัติของเครื่องบินลำหนึ่งจากจำนวนร่วม 250,000 เครื่องที่ผ่านสมรภูมินรกของสงครามโลกครั้งที่ 2 มากว่า 60 ปีแล้วให้ละเอียดมากกว่านี้ สามารถหาอ่านได้จากเว็บลิงค์ท้ายเรื่องนี้ และยังสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้อีกจากหลาย ๆ ที่ครับผม
![](http://www.iseehistory.com/images/1177767890/DennisAndBelle.jpg)
เดนนิสกับ Belle ในคืนวันก่อนออกบินเที่ยวสุดท้าย
อีกประมาณไม่ถึง 2 เดือน ก็จะครบรอบปีที่ 63 ของการยกพลขึ้นบกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อปลดปล่อยยุโรปจากการเหยียบย่ำโดยรองเท้าบู๊ทของทหารเยอรมัน ผมเลยค้นหนังสงครามโลกมานั่งดูอยู่เสมอ ๆ ครับ และ Memphis Belle ก็เป็นหนัง วีซีดี อีกเรื่องหนึ่งที่ผมหยิบมาดู ซึ่งคาดว่า ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนหนังสงคราม คงไม่พลาดที่จะได้ชมหนังเรื่องนี้มาแล้วกันนะครับ แต่ถ้าท่านใดพลาด หรือลืม ๆ ไปแล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ก็นั่งอ่านกันเล่น ๆ ฆ่าเวลา ดับความร้อนของเดือนเมษายนกันนะครับ
Memphis Belle คือชื่อของเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ 4 เครื่องยนต์ พลประจำเครื่อง 10 คน ปืนป้องกันตัว 10 กระบอก ที่นักการทหารในยุคนั้นเชื่อกันว่า เครื่องบินแบบนี้ ถ้าบินตามรูปขบวนที่กำหนด สามารถที่จะใช้ปืนทั้ง 10 กระบอกในตำแหน่งที่ติดตั้งยิงต่าง ๆ กัน จะสามารถประสานการยิงเป็นฉากเพื่อต่อต้านการโจมตีของเครื่องบินขับไล่ข้าศึกได้อย่างแน่นอน ชื่อของเครื่องบินแบบนี้คือ B 17 Flying Fortress ครับผม
จากบทในหนังที่สร้างเมื่อปี 1990 (พ.ศ.2533) นะครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ที่ฐานบินของกองพลบินที่ 8 ซึ่งเป็นกองพลบินที่มีนักบินอาสาสมัครประจำการอยู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1943 (พ.ศ.2486) เมื่อฝูงบินกลับจากภารกิจในการโจมตีเยอรมันนี ทางกองบังคับการ ได้รับคำสั่งให้เตรียมตัวทำการออกบินทิ้งระเบิดร่วมกับฝูงบินอื่นที่ เบรเมน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องบินของเยอรมัน โดยจะมีขบวนบินที่มีจำนวนเครื่องบินถึง 350 เครื่อง เพื่อทำการกดดันข้าศึกไม่ให้มีเวลาโงหัวขึ้นมาทำการรบได้อย่างสมบูรณ์ Memphis Belle ได้รับภารกิจนี้แม้ว่านักบินและลูกเรือจะเหนื่อยล้ามากแล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีความหวังที่จะบินกลับบ้านเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ให้กองทัพ หลังจากการบินเที่ยวต่อไป ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 25 ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินสุดท้ายในสมรภูมิของพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงหวังกันว่า ทางกองบัญชาการ น่าจะส่งพวกเขาบินไปในที่ที่น่าจะปลอดภัยที่สุด แต่ คำสั่งที่ออกมา พวกเขาต้องบินไปปฏิบัติภารกิจเหนือฟ้า เบรเมน ที่มีทั้งเครื่องบินขับไล่และปืน ปตอ.อีกร่วม 500 กระบอกรอคอยอยู่
![](http://www.iseehistory.com/images/1177767890/ClayDannyBoy.jpg)
เคลย์ ขณะร้องเพลง Danny Boy ให้เพื่อนๆ ฟัง
คืนวันที่ 16 มีการเลี้ยงสังสรรค์เพื่อผ่อนคลายความเครียด ในหนัง เราจะเห็นลูกเรือของ Memphis Belle ทั้ง 10 คนมีปฏิกริยาที่แตกต่างกันไป บางคนเฉย ๆ บางคนกลัวจนต้องใช้เหล้าดับอารมณ์ บ้างก็หาเครื่องรางนำโชคตามความเชื่อของตนเองติดตัวไว้ และคืนนี้เอง ที่มีการประกาศว่า Memphis Belle จะได้กลับบ้าน โดยผู้การ บรู๊ซ นายทหารจากฝ่ายประชาสัมพันธ์เป็นผู้ไปกล่าวบนเวทีของงานเลี้ยง และชวนให้มีการไชโยให้แก่ Memphis Belle และลูกเรือทั้ง 10 คน ปรากฏว่าผู้การ บรู๊ซ หน้าแตก เพราะไปขัดกับเรื่องความเชื่อของนักบินเข้า ดีว่าได้ เคลย์ พลปืนท้ายของ Memphis Belle ขึ้นไปช่วยขัดตาทัพด้วยการร้องเพลงให้เพื่อน ๆ ฟัง….ด้วยเพลง….Danny Boy
เช้าวันที่ 17 พฤษภาคม หลังฟังบรรยายสรุป เครื่องบินทุกลำพร้อมออกเดินทาง นักบินและลูกเรือพร้อมรบ ยกเว้น ฟิลล์ ต้นหนของ Memphis Belle ที่เมาค้างจากเมื่อคืน และยังมีความปอดกระเส่าต่อเที่ยวบินเที่ยวนี้ ด้วยเขาหวังว่า เขาจะต้องปลอดภัยกว่านี้ ถ้าไม่ไปปฏิบัติภารกิจตามที่หน่วยเหนือกำหนดมา
![](http://www.iseehistory.com/images/1177767890/CrewOfBelle.jpg)
ซ้าย ลูกเรือของ Belle ในภาพยนตร์ เทียบกับขวา ลูกเรือตัวจริงก่อนออกบิน
กว่าจะได้ออกบินเนื่องจากฟ้าปิด ลูกเรือต่างก็พักผ่อนคอยเวลาอยู่ใกล้ ๆ เครื่องของตน ลูกเรือของ Memphis Belle ก็เช่นเดียวกัน เดนนิส นักบินที่ 1 ผู้มีความสุขุมเยือกเย็น นั่งอ่านหนังสือ ลุค นักบินที่ 2 อดีตไลฟ์การ์ด ผู้คึกคะนองพยายามขอร้อง เคลย์ พลปืนกลคู่ป้อมท้ายให้เปิดโอกาสให้เค้าได้แอบมายิงเครื่องเยอรมันบ้าง ฟิล ต้นหนผู้ปอดแหกนอนพักผ่อนเนื่องจากเมาค้าง วาล อดีตนักศึกษาแพทย์ที่เรียนแค่ 2 อาทิตย์ทำหน้าที่พนักงานทิ้งระเบิดพักผ่อนอยู่ในกลุ่ม สำหรับ 2 คนนี่ ทำหน้าที่พลปืนหน้าซ้ายและหน้าขวาด้วย ส่วนลูกเรืออื่น ๆ ได้แก่ แดนนี่ พนักงานวิทยุ เวอร์จิน พลปืนกลคู่ป้อมบน แรสคัล พลปืนกลคู่ป้อมล่างใต้ลำตัว ยูยีน และ แจ๊ค พลปืนข้างลำตัวด้านซ้ายและด้านขวาตามลำดับ ต่างก็เล่นหัวหยอกเย้ากันอย่างมีความสุข
พอฟ้าเปิด เครื่องทุกเครื่องในฝูง ต่างออกเดินทางเพื่อไปยังจุดนัดพบเพื่อสนธิกำลังกับฝูงอื่นเหนือฟ้าเยอรมัน ก่อนถึงเป้าหมาย เครื่องชื่อ Windy City ซึ่งเป็นผู้นำฝูงถูกยิงตก โดยมีเครื่องที่ชื่อ C – cup (ตั้งชื่อได้น่ารักดีนะครับ….นึกภาพออกเลยว่า…ขนาดไหน…) รับหน้าที่นำฝูงแทน แต่แล้ว C – cup ก็ต้องออกจากการสู้รบเช่นกัน เพราะถูกยิงที่ส่วนหัวได้รับความเสียหายมาก และไม่ทราบว่าใคร ระหว่างนำร่องกับพนักงานทิ้งระเบิดที่หลุดออกมาจากหัวเครื่องโดยปราศจากร่มชูชีพ ผมเดาว่า…น่าจะเป็นส่วนทิ้งระเบิดมากกว่านะครับ เพราะอยู่ที่ตำแหน่งส่วนหัวมากกว่าใครเค้า และยังมีเครื่องที่น่าสงสาร คือ Mother & Country ซึ่งเป็นเครื่องที่บินโดยลูกเรือใหม่ทั้งทีมต้องตกด้วย เนื่องจากถูกเครื่องบินขับไล่เยอรมันที่ถูก ลุค เป็นผู้ยิงพุ่งเข้าชนจนขาดกลาง
![](http://www.iseehistory.com/images/1177767890/CCupAndMotherCountry.jpg)
ชะตากรรมของ C-cup (ซ้าย) และ Mother & Country (ขวา)
Memphis Belle ต้องทำหน้าที่นำฝูงแทน และ แดนนี่ นักบินที่ 1 ได้สั่งให้ทุกคนติดร่มชูชีพและใส่เสื้อเกราะด้วยเพื่อความปลอดภัย แรสคัล บ่นว่าป้อมปืนล่างใต้ลำตัวที่เค้าประจำอยู่แคบมากเกินกว่าที่ติดร่มชูชีพได้ เดนนิส จึงให้ใส่เข็มขัดนิรภัยแทน ซึ่งทำให้ แรสคัล รอดตายจากการหล่นจากเครื่องที่ระยะสูงร่วม 30,000 ฟุตไปได้ เมื่อป้อมปืนของเค้าถูกยิงจนหลุดออก ซึ่งฉากนี้ เป็นฉากที่หวาดเสียวฉากหนึ่งในหนังครับ รวมทั้งฉากขำ ๆ ที่ ฟิล ต้นหนผู้ปอดแหก นอกจากจะติดร่ม ใส่เสื้อเกราะเหมือนคนอื่น ๆ แล้ว ผู้หมวด ฟิล ยังใส่หมวกเหล็กไว้อีกต่างหาก…แกกลัวตายมากเลยครับ
เหนือเป้าหมายที่ต้องการทำลาย ฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหนาและกลุ่มควันจากการระเบิดของกระสุน ปตอ. รวมทั้งการขัดขวางจากฝูงลุฟวัฟเฟท์ วาล (Luftwaffe) ยังไม่สามารถที่จะจับภาพเป้าหมายที่ต้องการได้ เครื่องถูกโจมตีอย่างหนัก ซึ่งก็มีฉากขำ ๆ ให้ได้หัวเราะกันอีก เมื่อสะเก็ดกระสุนพุ่งเข้ามาในห้องนักบินและเจาะกระติกที่ แดนนิส ใช้ใส่ซุปมะเขือเทศแตกกระจายไปทั่ว…..นักบินทั้งสองต่างพากันตกใจว่าอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจนเลือดเต็มตัว จนกระทั่ง เวอร์จิน เจอกระติกที่แตกเข้า ถึงได้รู้ว่า…แค่น้ำซุปเท่านั้น
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะต้องนำฝูงเข้าทิ้งระเบิดให้ตรงเป้าหมายมากที่สุด โดยไม่พลาดไปโดนโรงเรียน โรงพยาบาล และ ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง เดนนิส นำฝูงบินทั้งหมดบินวนเวียนอยู่เหนือเป้าหมายที่ได้จากการคำนวน เพื่อให้ วาล พยายามจับเป้าได้ชัดเจนที่สุดท่ามกลางการคัดค้านของ ลุค และ ฟิล ที่ต้องการให้ทิ้งระเบิดลงไปซะ เพื่อจะได้รีบกลับฐานกันอย่างปลอดภัย และในที่สุดหลังจากบินวนกันอยู่อีกรอบ ผู้กำกับก็สั่งให้ฟ้าเปิด วาล เห็นเป้าหมายอย่างชัดเจนจากกล้องเล็งของเขา ระเบิดถูกทิ้งลงไป ทุกลำบินกลับฐานด้วยความบอบช้ำมากบ้างน้อยบ้าง Belle เองก็โดนเข้าไปหลายขนานครับ แจ๊ค บาดเจ็บเล็กน้อยแต่ยังประจำปืนได้ แดนนี่ ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เพื่อน ๆ คาดว่าจะไม่รอด วาล เสนอให้ทิ้งเค้าลงไปพร้อมร่มเพื่อให้เยอรมันจับตัวไปรักษา แต่ทุกคนไม่ยินยอม ต้องการที่จะเค้ากลับบ้านพร้อม ๆ กันให้ได้ ส่วนตัวเครื่องเองก็ได้เกิดไฟไหม้เครื่องยนต์ข้างนึง ลุค ได้เสนอความคิดในการดับไฟแทนการใช้เครื่องดับไฟอัตโนมัติที่เสียหายด้วยการดำดิ่งลง ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ Belle บินกลับฐานด้วยความกระปรกกระเปลี้ย แถมก่อนที่จะลงจอด Landing Gear หรือชุดฐานล้อก็ไม่ยอมทำงานอีกข้างหนึ่ง ต้องใช้ระบบมือหมุนมาช่วยกางฐานล้อเพื่อลงจอดได้ในนาทีสุดท้าย ทุกคน…ปลอดภัย
![](http://www.iseehistory.com/images/1177767890/CompareLastScene.jpg)
ซ้าย รถพยาบาลวิ่งกันวุ่นหลังจาก Belle ลงจอด เพราะแดนนี่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนภาพขวา ลูกเรือของ Belle หลังจบเที่ยวบินสุดท้าย ปลอดภัยดีทุกคน
ข้างบนนี้ จากในหนังนะครับ ก็มีแต่งเติมให้สนุกสนานกัน เพราะจากที่ผมค้น ๆ ดูจากอินเตอร์เน็ต เที่ยวบินสุดท้ายของ Belle ทุกคนปลอดภัย ยังลงมายืนยิ้มแต้ชักรูปกันข้าง ๆ เครื่องเลย สถานที่ที่ออกปฏิบัติภารกิจเที่ยวสุดท้ายก็ไม่ตรงกัน ชื่อนักบินก็ไม่ตรงกัน อีตา David Puttnam ผู้สร้างคงไม่อยากไปก้าวก่ายชื่อจริง ๆ ของนักบินชุดนี้เข้า เพราะจากที่ผมเจอมา บางเว็บไซท์ให้ได้ถึงรายละเอียดของเที่ยวบินทั้ง 25 เที่ยวของ Belle และลูกเรือของ Memphis Belle ชุดสุดท้าย บางท่านเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2003 หรือ 2006 นี่เองครับ ผมจำไม่ได้แล้ว ซึ่งอย่างไรก็ตาม ขอสดุดีต่อดวงวิญญาณอันกล้าหาญของพวกท่านทุกคนไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
หนังเดินเรื่องเรียบ ๆ ดีครับ ได้รู้จักพื้นฐานเดิมของทุกคนก่อนมาเป็นลูกเรือของ Belle ได้รู้จักนิสัยใจคอของแต่ละคนในระหว่างเข้าทำการรบ ฉากรบออกจะธรรมดา ๆ ไปนิด วิวสวย…ฟ้าใส มีนิดหน่อย เพลงประกอบเพราะดีครับ ทั้ง Danny Boy และ Amazing Grace ซึ่งก็เช่นเคย ไม่สามารถที่จะนำมาลงให้ท่านที่สนใจและต้องการดาวน์โหลดได้ที่นี่เนื่องจากปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ท่านใดสนใจเมล์มาคุยกันนะครับ จัดให้เป็นการส่วนตัวครับผม
![](http://www.iseehistory.com/images/1177767890/BelleInMuseum02.jpg)
Memphis Belle ลำจริงตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์
หมายเหตุจาก Webmaster
จากบทความในวิกิพีเดีย เขาบอกว่าเหตุการณ์ในหนังเขาเอาจากเรื่องจริงในเที่ยวบินอื่นๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อยมาปะติดปะต่อเหมารวมกันครับ
ในประวัติศาสตร์จริง การใช้ฝูงบินทิ้งระเบิดที่มีป้อมปืนป้องกันตนเองโดยไม่ใช้เครื่องบินขับไล่คุ้มกันนี่มันเวิร์กแค่ไหน? ดูจากภาพยนตร์แล้วหวาดเสียวจริงๆ จำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยดูหนังทีวีเรื่อง Baa Baa Black Sheep ซึ่งเกี่ยวกับฝูงบินขับไล่ในสมรภูมิแปซิฟิก มีตอนหนึ่งอ้างว่าพอมีการใช้ป้อมบินเหล่านี้ล้วนๆ แล้วไม่สามารถป้องกันตัวเอง กว่าพระเอกจะบินไปช่วยได้โดยเครื่องบินญี่ปุ่นสอยไปหลายลำ เท็จจริงอย่างไรคงต้องค้นกันต่อไปครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : Memphis Belle
ชื่อภาษาไทย : เมมฟิส เบลล์ ป้อมบินเย้ยฟ้า
ผู้สร้าง : David Puttnam and Catherine Wyler
ผู้กำกำกับ : Michael Caton-Jones
ผู้เขียนบท : Monte Merrick
ผู้แสดง : Matthew Modine ; Tate Donovan ; D.B. Sweeney ; Billy Zane ;
Harry Connick. Jr. ; John Lithgow ฯลฯ
ควรอ่านเพิ่มเติม
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์