
webmaster@iseehistory.com
เมื่อราวเดือนมิถุนายน 2552 มีแฟนเว็บไซต์ iseehistory.com แห่งนี้ ได้ตั้งกระทู้แนะนำภาพยนตร์เรื่อง Brother's War หรือในชื่อไทยว่า "ยุทธการสกัดแผนการหลังม่านเหล็ก" โดยให้ความเห็นไว้ว่า "ดูแล้วทำให้คิดไปว่าใครควรจะเป็นพันธมิตรกับใครดี ?" ครับ การแบ่งฝ่ายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ดูไม่ต่างจากการเมืองโดยทั่วไปที่ว่า "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร" อยู่ที่ว่าจังหวะไหนใครมีผลประโยชน์ร่วมกับใคร ก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ลัทธิคอมมิวนิสต์เป็นสิ่งที่หลายๆ ประเทศเกลียดกลัวอยู่ไม่น้อย หากไม่เกิดลัทธิฟาสซิสม์นาซีในยุโรปแล้วจะเป็นอย่างไร หรือถ้านาซีไปร่วมมือกับคอมมิวนิสต์จะเป็นอย่างไร แต่ประวัติศาสตร์ก็ไม่มีคำว่า "ถ้า" ครับ การแบ่งฝ่ายในสงครามโลกก็เป็นไปดังที่เราทราบดี แต่เมื่อสถานการณ์ทำให้อังกฤษและอเมริกาอยู่ฝ่ายเดียวกับรัสเซียแล้ว ความเป็นพันธมิตรที่ดูเหมือนเหนียวแน่น ก็มีการปีนเกลียวแฝงอยู่บ้าง ดังที่ภาพยนตร์เรื่อง Brother's War ที่พึ่งเริ่มฉายในปี 2009/พ.ศ.2552 ได้นำเสนอไว้


ฉากการรบอันดุเดือดในตอนต้น

พันตรีแอนดรูว์ เพียร์แมน (ขวา) ร่วมสังเกตการณ์การรบระหว่างรัสเซียกับเยอรมัน คนกลางคือผู้การเพทรอฟ
ภาพยนตร์เปิดฉากขึ้นมาด้วยการให้ชายชราผู้หนึ่งรำลึกความหลังอยู่ในป่าที่สวยงามแห่งหนึ่ง เขานึกย้อนไปในตอนปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวเขาคือร้อยเอก Klaus Mueller ผบ.ร้อยของทหารเยอรมันที่กำลังตั้งรับการบุกของรัสเซียที่ชายแดนเยอรมัน-โปแลนด์อย่างดุเดือด ทางฝ่ายรัสเซียที่มั่นหมายจะทำการรบอย่างแตกหักแต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนั้น มีนายทหารอังกฤษผู้หนึ่ง นามว่า พันตรี Andrew Pearman (ในบทภาษาไทยเลื่อนยศให้เป็นนายพลซะงั้น) ร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้วย และหวังจะได้ดูแผนการรบของสหายรัสเซียเพื่อเสนอแนะความเห็นบ้าง แต่ทางรัสเซียดูไม่ค่อยเต็มใจนัก ทางฝ่ายเยอรมัน ได้มีคนจากหน่วยเกสตาโปมาถามหาผู้กองมึลเลอร์ ในจังหวะที่เขาออกไปตรวจเยี่ยมทหารอีกด้าน โดยลูกน้องที่รับหน้าไม่ยอมปริปากบอกอะไร

พวกเกสตาโปมาถามหาผู้กองมึลเลอร์

สังหารหมู่คณะรัฐบาลโปแลนด์
และแล้วทางฝ่ายรัสเซียโดยผู้การเหี่ยว เอ๊ย! นายพันเอก Petrov ได้แอบงุบงิบพาพลเรือนจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็คือคณะรัฐบาลของโปแลนด์ไปสังหารหมู่ในป่า แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของผู้พันแอนดรูว์ผู้อยากรู้อยากเห็น และผู้กองมึลเลอร์ที่บังเอิญไปพบเหตุการณ์ขณะลาดตระเวณหาข่าว และแล้วทั้งมึลเลอร์และแอนดรูว์ต่างฝ่ายต่างก็ไม่พ้นมือของผู้การเพทรอฟไปได้ ถูกจับมาขังคุกไว้ด้วยกัน ทหารรัสเซียได้แสดงความโหดเหี้ยมกับเชลยเยอรมันอย่างมาก โดยเฉพาะกับมึลเลอร์ซึ่งถูกจับหลังจากที่พึ่งสังหารเจ้าเกสตาโปที่พยายามตามล่าเขา ทำให้ผู้การเพทรอฟสงสัยในสถานะของมึลเลอร์ และข่มขู่เขาด้วยการยิงทิ้งเชลยเยอรมันคนอื่นต่อหน้าต่อตา แต่พระเอกของเราก็ไม่ยอมบอกอะไร


ผู้การเพทรอฟพยายามเค้นความลับจากผู้กองมึลเลอร์อย่างโหดเหี้ยม

ผู้กองมึลเลอร์กับผู้พันแอนดรูว์ระหว่างการหลบหนี
โอกาสก็มาถึงเมื่อทางรัสเซียได้นำมึลเลอร์กับแอนดรูว์ขึ้นรถเพื่อย้ายที่คุมขังในเวลากลางคืน แต่ทั้งสองช่วยกันฆ่าผู้คุมบนรถแล้วร่วมกันหลบหนีการตามล่าของทหารรัสเซียขึ้นไปบนเขา ตอนแรกแอนดรูว์ไม่ค่อยไว้ใจมึลเลอร์ด้วยความสงสัยว่าทำไมรัสเซียจึงไม่ฆ่าเขาเหมือนทหารเยอรมันคนอื่น มึลเลอร์จึงบอกความจริงว่าตนเคยเป็นสมาชิกของกลุ่ม FreeMason ที่ถูกพวกนาซีตามล่ามาตั้งแต่ก่อนสงครามเช่นเดียวกับพวกยิวและกลุ่มต่อต้านนาซีอื่นๆ แอนดรูว์จึงได้อธิบายเหตุการณ์สังหารหมู่คณะรัฐบาลโปแลนด์ให้มึลเลอร์ฟัง และบอกว่าเขาต้องนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปรายงานต่อกองบัญชาการสัมพันธมิตร มึลเลอร์กับแอนดรูว์ได้ร่วมมือกันสังหารบรรดาทหารรัสเซียที่ตามล่ารวมถึงอีตาเหี่ยวเพทรอฟที่ถูกยิงล้มแน่นิ่งไปไม่ผิดกับบรรดาลูกน้อง มึลเลอร์กับแอนดรูว์พากันหนีไปจนพบกับนางพยาบาลชาวโปแลนด์ชื่อ Anna และช่วยเธอให้รอดพ้นจากพวกทหารหื่นกลุ่มหนึ่ง ทั้งสองจำต้องพาเธอเดินทางต่อไปด้วยกันเนื่องจากแอนนาเองก็ไม่มีที่จะไป

แอนนาพยายามห้ามหน่วยเอสเอสทำร้ายทหารบาดเจ็บ

พบทหารที่ถูกแขวนคอด้วยข้อหาทรยศ
ทั้งสามเดินทางมาจนถึงที่ตั้งหน่วยของผู้กองมึลเลอร์ ซึ่งมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เคลาส์ มึลเลอร์ กับแอนดรูว์ต้องการจะรีบเดินทาง แต่แอนนาได้ขออาสาช่วยปฐมพยาบาลและขอให้มึลเลอร์กับแอนดรูว์นำทหารบาดเจ็บเหล่านั้นไปยังหน่วยแพทย์ที่ใกล้ที่สุดก่อนที่รัสเซียจะมาถึง ณ ที่นั้น ต้องพบกับเจ้าพวกเอสเอสที่มาคอยจับผิดหาว่าทหารบาดเจ็บไม่ยอมต่อสู้ศัตรู แล้วมาพบว่าแอนดรูว์มีท่าทีน่าสงสัยด้วย ผู้กองมึลเลอร์จึงต้องไล่มันไป แล้วพาแอนดรูว์กับแอนนาเดินทางผ่านสภาพความหดหู่ต่างๆ ในปลายสงครามไปจนได้เจอกับทหารอเมริกันหน่วยหนึ่งเข้า ยังไม่ทันจะได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ขณะที่แอนดรูว์โผล่จากที่กำบังเพื่อติดต่อกับทหารหน่วยนั้น เรื่องก็หักมุมอย่างเหลือเชื่อเมื่ออีตาผู้การเพทรอฟที่อุตส่ารอดตายมาได้ก็ไม่บอก โผล่พรวดมาได้ก็เอาปืนสไนเปอร์ยิงคุณแอนดรูว์ถึงแก่ความตาย ทหารอเมริกันเห็นว่าเป็นรัสเซียจึงไม่กล้าทำอะไร ตาผู้การจึงเดินกลับไปหน้าตาเฉย มึลเลอร์กับแอนนาถูกนำตัวไปยังกองบัญชาการทหารอเมริกัน มึลเลอร์ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับนายทหารที่กองบัญชาการสัมพันธมิตรฟังตามที่แอนดรูว์สั่งเสียไว้ แต่เมื่อเขาคล้อยหลังไป ความพยายามของเขากับแอนดรูว์ก็เปล่าประโยชน์เมื่อบรรดานายทหารที่รับทราบเรื่องราวเห็นว่าแม้จะได้สัญญากับโปแลนด์ไว้ แต่สัมพันธมิตรได้ทำศึกมามาก และยังจะต้องทำศึกกับญี่ปุ่นอีก การรบกับรัสเซียคงเป็นทางเลือกสุดท้าย จึงตัดสินใจที่จะ "เหบียบ" เรื่องนี้ไว้

แอนดรูว์พยายามติดต่อกับทหารอเมริกันก่อนพบจุดจบแบบพลิกล็อค

ผู้กองเคลาส์ มึลเลอร์ ให้การต่อ บก.ทหารสหรัฐฯ
ประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
การสังหารคณะรัฐบาลโปแลนด์ เป็นประเด็นแรกที่ผมเกิดความสงสัยว่ารัสเซียได้สังหารคณะรัฐบาลโปแลนด์ชุดไหนหรือไม่อย่างไร? ถึงได้เป็นความลับที่ต้องตามเก็บผู้พันแอนดรูว์อย่างเอาเป็นเอาตาย เท่าที่พยายามตรวจสอบดูแล้ว พบว่าคณะรัฐบาลชุดแพ้สงครามกับเยอรมันในตอนต้นนั้น ได้ไปลี้ภัยเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นอยู่ที่อังกฤษจนตลอดสงคราม ไม่ได้กลับไปที่โปแลนด์เลย จนกระทั่งหลายปีผ่านไปเมื่อรัสเซียหมดอำนาจในโปแลนด์ และรัฐบาลชุดนี้ก็เปลี่ยนผู้นำไปหลายคนแล้วนั่นแหละ จึงได้กลับประเทศ ถ้างั้นกลุ่มคนที่ถูกสังหารเป็นรัฐบาลชุดไหนกันล่ะ ต้องเดาแล้วละครับว่าคงจะเป็นรัฐบาลชุดที่มีอยู่ในระหว่างการยึดครองโปแลนด์ของนาซีเยอรมัน ถ้าอย่างนั้นแม้รัสเซียจะยังมีความผิดที่ต้องปกปิดฐานกระทำการตามอำเภอใจ ก็มีเหตุผลกล้อมแกล้มได้น่ะซีครับว่าคนกลุ่มนี้เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดทำงานให้กับนาซี หรือนี่จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฝ่ายสัมพันธมิตรไม่กล้าแตกคอกับรัสเซีย ประเด็นที่ผมยังค้นไม่เจอคือรัสเซียได้ลงมือเช่นนั้นจริงหรือไม่ และมีผู้พบเห็นจนนำไปบอกกับทางสัมพันธมิตรจริงๆ แต่ไม่เกิดผลอะไรดังที่ปรากฏในเรื่องหรือไม่ บังเอิญว่าขณะที่เขียนนี้ยังไม่มีบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในวิกิพีเดีย และเว็บไซต์ทางการของภาพยนตร์ก็ไม่กล่าวถึงประเด็นนี้เลย

(บน) นาฬิกาพกที่มีตราสัญญลักษณ์ของ FreeMason
(ล่าง) สัญญลักษณ์ที่สักอยู่ที่แขนของผู้กองมึลเลอร์

กลุ่มฟรีเมสัน (Freemasonry) เมื่อผมเสิร์ชพบเว็บทางการของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ www.brotherswar.info และพบเมนูหัวข้อ The Real History ก็หลงดีใจว่าคงจะได้ความจริงเกี่ยวกับการสังหารรัฐบาลโปแลนด์ดังกล่าวข้างต้น แต่แล้วหัวข้อดังกล่าวกลับพูดถึง "The FREEMASONS during the war" เอาล่ะซี ถึงจะเรียนประวัติศาสตร์มาพอตัว แบบไม่มากแต่ก็ไม่น้อย ก็พึ่งเคยได้ยินชื่อกลุ่มฟรีเมสันเอาก็หนนี้เอง ทั้งที่ความจริงเป็นกลุ่มองค์กรหรือกลุ่มอุดมการณ์ที่มีมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เลยนู่นครับ แต่ไฉนไม่ "ดัง" พอหรือมีคนสำคัญๆ ปรากฏในตำราที่เคยอ่านบ้าง อุดมการณ์ของคนกลุ่มนี้เน้นในเรื่องของความเป็นพี่น้องกันของมวลมนุษย์ อิสรภาพ ความเสมอภาค อะไรประมาณนั้นครับ ในเยอรมันเมื่อนาซีครองอำนาจ การรวมกลุ่มกันในรูปแบบหรืออุดมการณ์อื่นนอกจากนาซีไม่ว่า สังคมนิยมแบบใด รวมถึงกลุ่มฟรีเมสันกลายเป็นกลุ่มนอกกฎหมายไปหมด ชาวฟรีเมสันจึงต้องหลบไปอยู่ "ใต้ดิน" และกระจัดกระจายกันไป มีเพียงเครื่องหมายรูปวงเวียนกับไม้บรรทัดและดอก Forget Me Not เป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน รอวันเวลาที่จะกลับมารวมตัวกันใหม่ มีบ้างที่ต้องไปเป็นทหารในกองทัพ ก็ยังไม่วายถูกไล่ล่าดังเช่นพระเอกของเราในเรื่องนี้แหละครับ และชื่อเรื่อง Brother's War นี้ คำว่า Brother ก็คงหมายถึงตัวร้อยเอกเคล้าส์ มึลเลอร์ผู้เป็นฟรีเมสันที่ยึดถืออุดมการณ์ภราดรภาพร่วมกันนั่นเองครับ รายละเอียดเกี่ยวกับฟรีเมสันดูได้ที่ http://www.brotherswar.info/the_real_history.htm และ http://en.wikipedia.org/wiki/Freemasonry ครับ

รถถัง Jagdpanzer Hetzer ดารารับเชิญที่สร้างสีสันในช่วงแรก
อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ เป็นอีกเรื่องที่มีการนำอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหมือนจริงของยุคนั้นมาเข้าฉาก ในส่วนอาวุธใหญ่ๆ นั้นได้แก่รถถัง T-34 ของฝ่ายรัสเซีย และ Jagdpanzer Hetzer ของฝ่ายเยอรมัน รายหลังนี้รูปร่างลักษณะของมันนี้ช่างสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์ช่วงแรกๆ ได้อย่างมาก รองลงมามีเจ้ารถตรวจการณ์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก Schwimmwagen เข้ามาแล่นยิงปืนกลโชว์ฟอร์มกับเขาในตอนต้นช่วงสั้นๆ ทางฝ่ายรัสเซียนั้นกลับเอาเจ้ารถจี๊พอเมริกันมาใช้รับส่งคุณผู้พันแอนดรูว์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นรถที่ได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตร แต่รัสเซียเขามีรถตรวจการณ์ของเขาเองคือ Gaz67b นะครับ ถ้าหามาเข้าฉากแทนจะดูสมจริงกว่า ด้านอาวุธทหารราบนั้นเกือบจะไม่มีที่ติ การที่ทหารเยอรมันบางคนจะเอาปืนกลมือ PPsH ของรัสเซียมาใช้นั้นดูจะเป็นเรื่องปกติ อาจจะเนื่องจากทางเยอรมันเริ่มขาดแคลนอาวุธและกระสุน ด้านพระเอกเราคือ ผู้กองเคลาส์ มึลเลอร์ นั้นมีสะดุดนิดตรงที่ตอนแรกใช้ Mp44 ของเยอรมันเอง พอสักแป๊บก็เปลี่ยนเป็น PPsH แบบไม่ต้องขออนุญาตคนดูเลย แต่ก็เป็นไปได้ดังที่กล่าว ที่ชอบกลมากๆ คือตอนสังหารคณะรัฐบาลโปแลนด์ที่สหายรัสเซียเราเล่นเอาปืนกล MG42 ของเยอรมันที่ติดแมกกาซีนกลมมายิงเฉยเลย ถ้าเป็นปืนกลหนัก Maxim หรือปืนกลเบา DP จะดูสมจริงกว่าครับ

รู้นะว่าใช้ตัวช่วย ฉากรถยิงจรวด Katyusha ในตอนต้นที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์กราฟิก Brother's War เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ได้นำคอมพิวเตอร์กราฟิกมาใช้อย่างมาก ตั้งแต่ต้นเรื่องที่มีเครื่องบินสู้กัน กับรถจรวด Katyusha ออกมายิงโชว์ ฉากเดินทางโดยรถบรรทุก ฉากการโจมตีทางอากาศ ซึ่งก็ต้องเห็นใจว่าเดี๋ยวนี้จะหาของจริงสมัยนั้นมาเข้าฉากยากเต็มที แต่ในเรื่องนี้ค่อนข้างจะเห็นชัดเลยว่าภาพเหมือนในเกมคอมพิวเตอร์ ผิดกับหนังบางเรื่องที่ทำได้เนียนจนไม่บอกก็ไม่รู้เลย
ภาพลักษณ์ของแต่ละฝ่ายในสงคราม ภาพลักษ์ทางด้านอังกฤษที่มีผู้พันแอนดรูว์ เพียร์แมน เพียงคนเดียว คงต้องข้ามไปเลย ทางฝ่ายอเมริกันซึ่งดูเหมือนจะเป็นความหวังของทางฝ่ายพระเอกที่นำความลับมาบอกนั้น ลงท้ายก็ไม่กล้าทำอะไรกับรัสเซียด้วยเหตุผลที่พอจะฟังได้บ้าง ทางฝ่ายรัสเซียนั้น กลายเป็นผู้ร้ายไปแบบเต็มตัว ไม่ว่าการฆ่าคณะรัฐบาลโปแลนด์อย่างโหดเหี้ยม การกักขังทารุณเชลย และติดตามฆ่าปิดปากคนอย่างไม่ลดละ และข่มขู่กระทั่งพวกเดียวกันเพียงเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ จะเหลือความเป็นคนอยู่หน่อยก็ตอนที่ทหารที่เฝ้ารถจี๊พคุยกันเรื่องที่คนหนึ่่งอยากจะกลับไปทำธุระที่บ้าน ทางฝ่ายเยอรมันนั้นได้รับคะแนนสงสารไปอย่างเต็มๆ โดยเฉพาะทหารประจำการธรรมดา (Wehrmacht Heer) ที่พยายามต่อต้านข้าศึกอย่างสุดฤทธิ์ ทั้งที่กำลังขาดแคลนทุกๆ อย่าง ยามรบก็ช่วยซึ่งกันและกัน ยามพักก็ปลอบขวัญกันและกันอย่างน่าเห็นใจ แต่ก็ยังมีด้านร้ายให้เห็น อย่างเช่นที่เจ้าเกสตาโปมาตามหาผู้กองมึลเลอร์ หรือที่เจ้าพวกเอสเอสมาตั้งศาลเตี้ยเอากับทหารที่ตนคิดว่าขี้ขลาดไม่กล้าสู้ข้าศึก คล้ายๆ กับที่ปรากฏในตอนท้ายเรื่อง Der Untergang หรือ Downfall
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเรื่องข้อเท็จจริงของการสังหารคณะรัฐบาลโปแลนด์ และตัวละครหลักๆ มีตัวจริงหรือไม่ ในชั้นต้นคงต้องจัดให้ Brother's War เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ไปก่อน ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่รัสเซียเข้าเป็นพันธมิตรกับอังกฤษและอเมริกาโดยมิได้มีจุดประสงค์เพียงการแก้แค้นให้กับประชาชนนับล้านที่ถูกนาซีสังหารเท่านั้น แต่ยังหวังที่จะยึดครองยุโรปด้วย ภายหลังสงครามก็ได้เห็นชัดว่ายุโรปตะวันออกได้ไปอยู่ใต้อาณัติของรัสเซียกันหมดก่อให้เกิดภาวะ "สงครามเย็น" อยู่หลายปี และอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนออกมา คือ สภาพของเยอรมันยามใกล้แพ้สงครามที่ยังดูสง่างามน่าเห็นใจ อย่างน้อยก็ในมุมมองของทหารผู้มาจากสามัญชนธรรมดาที่ไม่ได้คลั่่งไคล้ลัทธินาซีครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อันชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : Brother's War
ชื่อภาษาไทย : ยุทธการสกัดแผนการหลังม่านเหล็ก
ผู้กำกำกับ : Jerry Buteyn
ผู้เขียนบท : Warren Lewis, Tino Struckmann, Jerry Buteyn and Hugh Daly
ผู้แสดง :
- Tino Struckmann ... Capt. Klaus Mueller
- Michael Berryman ... Col. Petrov
- Olivier Gruner ... Anton
- Hayley Carr ... Anna
- Hugh Daly ... Maj. Andrew Pearman
- Jack Dimich ... NKVD Officer
- Adam Leadbeater ... Lt. Ivanov
- Tye Olson ... Emil
- Steve Holm ... Friedrich
- Dylan Kenin ... Gestapo Officer
- Boris Kievsky ... Sergie
- Time Winters ... Zindrowski
ควรอ่านเพิ่มเติม
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ภาพยนตร์ตัวอย่าง (Trailer) จาก www.youtube.com
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์