![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict01.jpg)
ปัจจุบันนี้ เมื่อพูดถึง ประเทศเกาหลี หลายคนอาจนึกถึงอะไรหลายอย่าง เช่น โสม กิมจิ แดจังกึม เนื้อย่างเกาหลี หรือกระแสดาราวัยรุ่นเกาหลีที่เข้ามาแทนกระแสดาราญี่ปุ่นหรือฮ่องกง
แต่ใน ประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะด้านการทหารนั้น เกาหลี คือ มิตรประเทศที่กองทัพไทยได้เคยส่งกำลังไปช่วยเหลือในนามกองทัพสหประชาชาติ ซึ่งนอกจากจะสร้างวีรกรรมสำคัญไว้มากแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่ผู้ชายไกลบ้านจะแอบไปมีอะไรกับสาวที่นั่นบ้าง จนเกิดเป็นภายนตร์นิยายรัก ที่ บริษัทไฟว์สตาร์ โดยผู้กำกับ แจ๊สสยาม สร้างเรื่อง "อารีดัง" เมื่อ พ.ศ.2523 มีการเดินทางไปถ่ายทำถึงประเทศเกาหลีใต้ นักแสดงฝ่ายเกาหลีตั้งแต่นางเอกยันไพร่พลตัวประกอบก็ได้ใช้คนเกาหลีจริงๆ ด้วย
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict02.jpg)
เรียกว่าคนรุ่นปู่เขาไปทำศึกรบศึกรักที่นั่นมาก่อนเมื่อหลายปีมาแล้วจนเป็นทั้งประวัติศาสตร์ทั้งนิยายรัก คนรุ่นหลานพึ่งจะมาเห่อเกาหลีกันเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง
พื้นเพทางประวัติศาสตร์คร่าวๆ คือ เกาหลี นั้นได้เคยตกอยู่ในความครอบครองของญี่ปุ่น หลังจากสงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1904 (พ.ศ.2446 ตามปฏิทินเก่าของไทยยุคนั้นที่เริ่มปีใหม่ในเดือนเมษายน) จนกระทั่งปลายสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่ออเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกที่ฮิโรชิมา รัสเซียก็ฉวยโอกาสประกาศสงครามกับญี่ปุ่นแล้วส่งกองทัพเข้าสู่ตอนเหนือของเกาหลี แล้วต่อมาเกิดเป็นข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ที่จะแบ่งเขตอิทธิพลในคาบสมุทรเกาหลีกันที่เส้นขนาน (Latitude) 38 องศาเหนือ ทำให้ดินแดนนี้ถูกแบ่งแยกเป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือ เกาหลีเหนือ และ สาธารณรัฐเกาหลี หรือ เกาหลีใต้
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict03.jpg)
เริ่มเรื่องด้วยฉากการรบทางอากาศระดับน้องๆ Battle of Britain เลยทีเดียว
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict04.jpg)
วันร้ายคืนร้ายก็มาถึง เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 25 มิถุนายน 1950 (พ.ศ. 2493) กองทัพเกาหลีเหนือ ได้เคลื่อนกำลังผ่านเส้นขนานที่ 38 ลงมายังเกาหลีใต้โดยที่เกาหลีใต้ไม่ทันรู้ตัว คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ได้เปิดประชุมเป็นการฉุกเฉิน เมื่อ 25 มิถุนายน 1950 เวลา 14.00 น. ที่นครนิวยอร์ค ได้ประณามการกระทำของเกาหลีเหนือ และมีมติให้เกาหลีเหนือถอนกำลังกลับไปอยู่เหนือเส้นขนานที่ 38 และต่อมา ได้ลงมติฉบับที่ 2 เมื่อวันที่ 27 เดือนเดียวกัน ให้ประเทศต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ส่งทหารไปช่วยเกาหลีใต้ต้านทานการรุกรานของเกาหลีเหนือ ซึ่งประเทศไทยก็ได้ร่วมส่งกำลังไปรบกับเขาด้วย จำนวนหลายผลัดด้วยกัน รายละเอียดขอให้ตามไปอ่านที่ลิงค์ต่างๆ ข้างท้ายนะครับ
ส่วนชื่อ "อารีดัง" นั้น มีการอธิบายที่สับสนปนเป ทั้งชื่อเพลง ชื่อสาวเกาหลีที่เป็นแฟนทหารไทย และชื่อสถานที่ ที่แน่ๆ คือเป็นชื่อทำนองเพลงพื้นเมืองหรือเพลงประจำชาติของเกาหลี แบบเดียวกับเพลงฉ่อยเพลงอีแซวของไทย คือไม่ใช่ชื่อเพลงใดเพลงหนึ่ง และที่จริงชื่อที่ถูกของเขา คือ "อารีรัง" แต่คนไทยมาฟังเพี้ยนเป็น "อารีดัง" เรื่องที่จะเป็นชื่อคนนั้นน่าจะจำกันมาผิดๆ เอง ส่วนจะเป็นชื่อสถานที่ที่ไหนด้วยหรือไม่นั้นก็ไม่น่าจะใช่ แต่ยังไม่มีข้อมูลจะฟันธงครับ
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict05.jpg)
เรื่องย่อของ ภาพยนตร์ "อารีดัง" มีอยู่ว่า ในระหว่างสงครามเกาหลีปี 2496 หน่วยทหารไทยของ ร.อ. พงษ์พันธ์ เทวาพิทักษ์ ได้ทำการรบอย่างห้าวหาญ แต่แล้วในคืนวันหนึ่ง หน่วยของผู้กองพงษ์พันธ์ที่พึ่งซุ่มโจมตีข้าศึกได้รับชัยชนะถูกข้าศึกที่รอดตายตามมาซุ่มยิงด้วยปืนกลจนตายเกือบหมด เหลือแต่ผู้กองพงษ์พันธ์ซึ่งถูกยิงบาดเจ็บ และร้อยโทโชติ พลอยแสง ที่ได้นำผู้กองพงษ์พันธ์มารักษาตัวที่หมู่บ้าน โทนัมดวง ตำบลอารีดัง ซึ่งเป็นที่อยู่ของ โอบุนริ นางเอกของเรา และแน่นอนว่าผู้กองพงษ์พันธ์ได้มาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านของ โอบุริ โดยเธอเป็นผู้พยาบาลจนเกิดความรักต่อกัน และแต่งงานกันทั้งๆ สงคราม แม้ว่าร.อ.ชู วาน ฮอง (ซึ่งพงษ์พันธ์คิดว่าเป็นคนรักของโอบุนริ แต่เธอบอกว่าเป็นแค่พี่ ) จะไม่ค่อยเห็นด้วยนัก ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกาคม ค.ศ. 1953 สงครามได้สงบลง พระเอกของเราได้กลับเมืองไทยโดยไม่สามารถนำครอบครัวโอบุนริกลับมาด้วย (ถ้าเป็นสมัยนี้ สายการบินโลว์คอสต์ อาจเป็นคำตอบได้) จึงได้แต่สัญญาว่าจะกลับมารับภายใน 3 เดือน เอาเข้าจริงๆ ผู้กองเจอปัญหาติดงานราชการอยู่เรื่อย ไม่มีจังหวะจะไปหาลูกเมียได้ จน 3 ปีผ่านไป พงษ์พันธ์ตัดสินใจออกจากราชการ และเดินทางไปรับโอบุนริ แต่ก็ยังเจออุปสรรคอีกเป็นชุด ไม่ว่าคุณแม่ประสบอุบัติเหตุ พาครูลีลานุชไปเที่ยวร้านอาหารเกาหลีก็โดน ชู วาน ฮอง ถ่ายรูปส่งไปให้โอบุนริ เมื่อแม่และครูลีลานุชรู้ความจริงแอบไปมีเมียที่เกาหลีก็เกิดปัญหาแง่งอนกันนิดหน่อย พอมาถึงเกาหลีได้ก็มาเจอจังหวะกำลังมีพายุอีก โดยเฉพาะหมู่บ้านของนางเอกเรา ซึ่งเธอกำลังเสียใจเพราะภาพถ่ายที่ได้รับจาก ชู วาน ฮอง แล้วหลบไปเก็บตัวตามลำพังในบ้านที่เชิงเขา ไม่ยอมหนีหิมะที่กำลังถล่ม พ่อตาเห็นลูกเขยพึ่งจะโผล่หน้ามาก็ต้อนรับด้วยปืนซะสองนัด กว่าจะไปถึงบ้านที่โอบุนริอยู่ได้ ก็พอดีเธอโดนหิมะถล่มตายไปแล้ว
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict06.jpg)
ฉาก ทหารไทย ซุ่มโจมตีข้าศึกที่ริมแม่น้ำ
เนื้อเรื่องทั้งหมดที่ว่ามานี้มีความจริงอยู่กี่เปอร์เซนต์ เรื่องทหารไทยจะไปได้เมียที่เกาหลีน่าจะมีอยู่หลายราย แต่ชื่อตัวละครที่มีการระบุถึงทั้งยศ ชื่อ นามสกุล กันเลยนั้น จะมีตัวตนอยู่จริงหรือสมมติชื่อขึ้นมาแทนตัวจริง หรือเพียงแค่เอาพล็อตเรื่องความรักต่างแดนที่ต้องพลัดพรากกันมาสวมกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ณ เวลานี้ผมยังไม่มีข้อมูลจะฟันธง แต่พอจะมีข้อสังเกตส่วนตัวดังนี้
ประเด็นคนเกาหลีพูดภาษาไทย ผู้สร้างได้กรุณากำหนดให้ตัวละครฝ่ายเกาหลี 3 คนใช้ภาษาไทยสื่อสารกับตัวละครฝ่ายไทยได้ อันช่วยลดความยุ่งยากทั้งของผู้สร้างและผู้ชมในเรื่องซับไตเติ้ลไปพอสมควร โดยเหตุผลในการพูดภาษาไทยได้ของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป คือ
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict07.jpg)
การละเล่นของชาวเกาหลี
- โอบุนรินางเอกของเรานั้นพระเอกเป็นผู้สอนให้ ทำให้นางเอกเกาหลีของเราดูน่ารักึ้นมากในสายตาผู้ชมไทย แต่หากจะคิดลึกกันสักหน่อยแล้ว พระเอกของเราผู้เข้าไปอยู่ในสังคมและวัฒนธรรมของเขาต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายหาโอกาสเรียนภาษาเกาหลีเพื่อสื่อสารกับคนพื้นเมือง การให้พระเอกเป็นผู้สอนภาษาไทยแก่นางเอกอาจเป็นมุมมองที่ดูจะชาตินิยมไปสักนิด เอาเถอะ เมื่อพระเอกเราอยากสอน นางเอกเต็มใจเรียนก็ไม่อยากขัดใจ แต่อุปกรณ์ที่พระเอกจะใช้สอนได้ก็คงมีเพียงสมุดกับดินสอ กับระยะเวลาตามเรื่องที่น่าจะมีเวลาสอนกันไม่กี่เดือน แต่นางเอกสามารถพูดได้จนเหมือนอยู่เมืองไทยมาเป็นปี ออกจะเหลือเชื่ออยู่
- นายลี ล่ามที่มากับทหารไทย ดูเหมือนความเป็นล่ามจะเป็นเหตุผลง่ายๆ ว่าทำไมเขาถึงพูดไทยได้ แต่ลองคิดเล่นๆ แต่ลึกๆ คนเกาหลีในปี 2493 จะมีใครเคยเดินทางมาเมืองไทยหรือจะสนใจเรียนภาษาไทยก่อนเกิดสงครามด้วยเหตุอันใด? ความเป็นไปได้ที่พอมีอยู่บ้างคืออาจได้เรียนจากหน่วยทหารไทยตั้งแต่สงครามเริ่มในปี 2490 ซึ่งในเรื่องไม่ได้กล่าวถึง
- ร.อ. ชู วาน ฮอง คนที่ในเรื่องยังคลุมเครือว่าตกลงเป็นคนรักเก่าของนางเอกหรือเป็นแค่พี่อย่างที่เธอบอก มองโลกในแง่ดีไว้ก่อนก็ได้ว่า "นางเอก" คงไม่โกหก ทีนี้มาในเรื่องความสามารถในการพูดภาษาไทย ดูทีแรกก็งงมากว่าทำไมพูดภาษาไทยได้ ต้องย้อนกลับไปดูที่ฉากหนึ่งที่พระเอกนึกถึงความหลังว่าเคยพอกับทหารอากาศคนนี้มาก่อนที่อาคารที่ติดป้ายว่า "Thai Liaison Group UNC" (Liaison ตามดิคชันนารีให้ความหมายหนึ่งไว้ว่า "นายทหารติดต่อระหว่างสองกองทัพที่ร่วมมือกัน") จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่พอกล้อมแกล้มได้ว่า เขาอาจจะเรียนภาษาไทยจากหน่วยทหารไทยเพื่อการประสานงานแบบเดียวกับนายลีผู้เป็นล่าม แต่ถ้านายทหารคนนี้แกจะพูดภาษาอังกฤษกับพระเอกเราจะดูสมจริงกว่า
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict08.jpg)
พิธีแต่งงานระหว่างร้อยเอกพงษ์พันธ์กับโอบุนริตามแบบเกาหลี
หมู่บ้านของนางเอกอยู่ที่ไหน อันนี้ไม่ได้หมายความในแง่ว่าอยู่ตรงไหนในแผนที่ แต่มีประเด็นที่ยิ่งคิดลึกยิ่งรู้สึกไม่สมจริงเช่นกัน การที่ผู้หมวดโชติ พลอยแสง แบกผู้กองพงศ์พันธ์มาจนถึงหมู่บ้านดังกล่าวได้ มันคล้ายกับว่าหมู่บ้านนั้นอยู่ไม่ห่างจากแนวหน้ามากนัก หากอยู่ไกลแนวหน้ามากๆ กว่าจะแบกมาถึงพระเอกน่าจะตายเสียก่อน เมื่อมาถึงหมู่บ้าน การที่ไม่สามารถส่งพระเอกไปโรงพยาบาลได้ การที่แพทย์ทหารบอกว่าพระเอกบาดเจ็บมาก และปล่อยให้อยู่ในหมู่บ้านต่อไป เหมือนกับว่าหมู่บ้านห่างไกลจากค่ายทหารหรือห่างจากเมืองมาก แต่การปล่อยให้ทหารบาดเจ็บอยู่ในความดูแลของพลเรือนเป็นเวลาค่อนข้างนาน แทนที่พอค่อยยังชั่วแล้วจะมารับกลับ ดูไม่ค่อยน่าเชื่อนัก และพอพระเอกเริ่มเดินกับไม้ค้ำยันได้บ้าง ร.อ. ชู วาน ฮอง ก็ได้มาขอนัดพระเอกไปพบเพื่อเคลียร์เรื่องนางเอกกันที่ "วังจักรพรรดิ์" ซึ่งน่าจะอยู่ในตัวเมือง แล้วจู่ๆ พระเอกจะแอบหลบนางเอกเดินทางไปตามนัดโดยนางเอกไม่รู้ได้อย่างไร? ดูคล้ายผู้สร้างอยากจะโชว์สถานที่สวยงามของเกาหลีเกินไป ทั้งที่ยังมีโอกาสต่อมาในฉากที่นางเอกพาพระเอกมาเที่ยว
ในตอนที่ ร.อ. ชู วาน ฮอง มาโผล่ในงานครบรอบร้านอาหารของนายลีในเมืองไทย จนสามารถถ่ายรูปพระเอกกับครูลีลานุชในงานได้ แล้วเอารูปกลับไปให้นางเอกดูที่เกาหลีนั้น มันคล้ายกับว่านายคนนี้แกสามารถแว่บไปแว่บมาระหว่างไทยกับเกาหลีได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งน่าจะมีทางออกในการทำให้อะไรมันเนียนกว่านี้สักหน่อย เช่นอาจจะให้ส่งรูปที่ว่าไปทางไปรษณีย์
![](http://www.iseehistory.com/images/1172423495/ArirangPict09.jpg)
การเต้นรำแบบเกาหลีเพื่อฉลองพิธีแต่งงาน
อีกเรื่องที่ต้องบ่นหน่อย แต่ไม่ใช่ความผิดของผู้สร้าง คือ VCD ที่จัดจำหน่ายโดย โซล่าร์มาเก็ตติ้ง นั้น ภาพไม่ค่อยชัด เหมือนใช้ต้นฉบับที่เป็นวีดีโอเทป VHS ปัญหาอาจจะเนื่องมาจากว่าสมัยก่อนภาพยนตร์ไทยต้องไปล้างฟิล์มที่แล็บฮ่องกง แล้วฟิล์มต้นฉบับที่เป็นมาสเตอร์ก็ไปค้างอยู่ที่นั่น ไม่สามารถนำมาเป็นต้นฉบับในการจัดทำ VCD ได้ ทางหอภาพยนตร์และมูลนิธิหนังไทยเคยมีโครงการที่จะนำฟิล์มภาพยนตร์เหล่านี้กลับมา ไม่ทราบว่าปัจจุบันได้มีความคืบหน้าไปอย่างไรแล้ว
จุดเด่นของเรื่องนี้ประการแรกได้แก่การยกกองไปถ่ายทำในสถานที่ที่สวยงามในเกาหลีหลายแห่ง ทั้งป่าเขาที่เป็นสนามรบ หมู่บ้านนางเอก และวัดวังที่ตัวละครได้ไปเที่ยวกัน ความสามารถสร้างฉากรบที่ใหญ่โตได้โดยมีตัวประกอบไพร่พลทั้งคนไทยและเกาหลีตลอดจนยุทโธปกรณ์ต่างๆ เข้าฉากได้ ไหนจะฉากการรบทางอากาศตอนต้นเรื่องอีกต่างหาก แม้จะไม่ได้รบกันสมจริงมากนัก แต่ความใหญ่โตของฉากก็พอเทียบหนังฮอลลีวู้ดบางเรื่องได้ ฉากที่แสดงวัฒนธรรมเกาหลีในพิธีแต่งงานของพระเอกนางเอก และที่สำคัญคือเพลงประกอบภาพยนตร์ทั้งภาษาไทยและเกาหลีที่ไพเราะหลายเพลงด้วยกัน
ในแง่การให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง "อารีดัง" อาจจะยังมีข้อกังขาที่ต้องตรวจสอบอีกมาก ในแง่ประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์ไทยแล้ว จะอ่อนก็แต่เรื่องความสมจริงในเนื้อเรื่องบ้าง แต่ในด้านการสร้างถือว่าทำได้ดีแล้วสำหรับยุคนั้น (พ.ศ.2523) และเพลงประกอบเป็นจุดเด่นที่สุดครับ
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาไทย : อารีดัง
ผู้กำกับ : แจ๊สสยาม
ผู้อำนวยการสร้าง : เกียรติ เอี่ยมพึ่งพร
ผู้เขียนบท : บทประพันธ์ของ พลาย มะลิวัลย์, แจ๊สสยาม บทภาพยนตร์โดย อนันต์ ชลวนิช
ผู้แสดง :
- จตุพล ภูอภิรมย์ เป็น ร.อ.พงษ์พันธ์ เทวาพิทักษ์
- วาสนา สิทธิเวช เป็น ลีลานุช น้อยนิด
- มิส.ชอง ซุน-มี เป็น โอบุน-ริ
- มิน วู เป็น ร.อ. ชู วาน-ฮอง
- ไกรลาศ เกรียงไกร เป็น ร.ท.โชติ พลอยแสง
- คาง เค-ซิก เป็น โอ ชอง-แฮง
ควรอ่านเพิ่มเติม
เนื้อเพลงประกอบภาพยนตร์
ฟังเพลงประกอบภาพยนตร์ได้ที่เว็บ "บ้านเพลงเก่า" http://music.oldsonghome.com/album_song.php?album_id=325 หรือชมคลิปเพลงประกอบภาพยนตร์จาก YouTube ข้างล่าง ประกอบด้วยเพลง "อารีดัง" หรือ "อารีรัง", "รักคุณเข้าแล้ว", "เสียงครวญจากเกาหลี" และ "เสียงครวญจากทหารไทย"
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
เรียนเชิญสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นที่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บ (ต้องสมัครและ Login ก่อน) ผู้ชมทั่วไปหรือสมาชิกที่ต้องการโพสต์รูป เชิญร่วมแสดงความเห็นได้ที่เว็บบอร์ด "คุยกันหลังฉาก" ในกระทู้ที่มีอยู่แล้ว หรือ สร้างกระทู้ใหม่ (คลิกที่นี่) ครับ
หากเป็นสมาชิก Facebook แสดงความเห็นได้ในฟอร์มข้างล่างนี้ครับ
ทางเว็บไม่มีนโยบายนำภาพยนตร์ฉบับ เต็มมาให้ดูออนไลน์หรือให้ดาวน์โหลดเนื่องจากเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ มีพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ภาพยนตร์